Chapter 19 : ขึ้นคอยกันเถอะ
เกิดมาสิบแปดปีฉันเพิ่งเคยสัมผัสคำว่า ‘ทางวิบาก ก็วัน นี้แหละ…
ตลอดเส้นทางขึ้นหมู่บ้านทั้งคดเคี้ยว เป็นหลุมเป็น บ่อ ถนนที่ใช้สัญจรไม่มีแม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว ที่ลาดยาง เป็นทางดินแดงหมดชนิดที่ว่ารองเท้ากับขา กางเกงเปื้อนฝุ่นสีแดงกันทุกคน ข้างถนนทางซ้ายมือจะ เป็นป่าสลับกับเหวลึก ส่วนทางด้านขวาจะเป็นป่าตลอด ทางสุดลูกหูลูกตา ดังนั้นทุกคนจึงเดินชิดถนนทางฝั่งขวา มือและคอยมองวิวทางซ้ายมือ ทิวทัศน์ที่เห็นเรียกได้ว่า ไม่เลวเลยล่ะ
สายฟ้ากำลังเดินอยู่ข้างๆ ฉันพูดน้อยลงเพราะต้องเก็บ แรงไว้เดิน =_= ซึ่งฉันก็เห็นด้วยเป็นอันมาก แต่เหมือน คนที่ไม่ได้คิดถึงข้อนี้ก็ยังพูดไม่หยุด ฉันเลยหนีพรวดๆ เพราะรำคาญเสียงพูดของยัยพี่โรส แต่ยิ่งหนีก็ดูเหมือน ว่าเธอจะเดินเข้ามาใกล้ๆเรื่อยๆ
ถ้าฉันเดาไม่ผิดหรือไม่งั้นฉันก็คงจะคิดไปเองที่ไบรอัน ไม่ยอมปล่อยให้ฉันเดินหนีไปไกลเขาในระยะห้าเมตร แน่นอนว่าเขาอยู่ไหนยัยพี่โรสก็ต้องติดสอยห้อยตามไป ด้วยเหมือนทุกที ถึงฉันจะรำคาญยัยพี่โรสแค่ไหนและ พยายามจะเดินหนีเพียงใดก็ไม่อาจเดินหนีไปได้ไกลเกิน ห้าเมตรยังไงล่ะ (-_-);
อ้อ ยุ้ยพี่โรสลากกระเป๋าเดินทางติดตัวมาด้วยใบหนึ่ง ล่ะ ฉันแอบได้ยินที่เธอคุยกับไบรอันว่าในนั้นมีรองเท้าแบ รนด์เนมราคาแพงหลายคู่เลย สาเหตุที่เธอไม่ยอมให้ใคร เอากระเป๋าใบนี้ใส่ไปในรถกระบะที่ผู้ใหญ่บ้านเอามาขน สัมภาระของทุกคนไปด้วยก็เพราะกลัวรองเท้าที่อยู่ข้าง ในจะเสียหาย
ไบรอันกับยัยพี่โรสเป็นแฟนกันประสาอะไรก็ไม่รู้สิ ไม่ ค่อยเหมือนคู่รักอย่างชาวบ้านชาวช่องเขาหรอก (-_-); เท่าที่ฉันพอจะดูออกก็คือยัยพี่โรสรักไบรอันมาก แต่เขา นี่สิติดจะรำคาญเธอมากกว่า ถ้าจะคิดว่าไม่ใช่แฟนกันแต่ ทำไมเขาถึงไม่ปฏิเสธตอนที่โรสบอกว่าเขาคือแฟนของ อกันนะ
แล้วฉันจะคิดเรื่องนี้เพื่ออะไรกันเนี่ย! พวกเขาจะเป็น อะไรกันก็เรื่องของเขาสิ
พี่น้ำว้ากับพี่คอปเตอร์ก็ทะเลาะกันรุ้งๆจิ้งๆ อยู่ไม่ไกล จากฉันเท่าไหร่เพราะเรื่องที่มีคนมองพี่น้ำว้า คนขี้หึง อย่างพี่คอปเตอร์ก็เลยของขึ้นนิดหน่อย ผู้ชายอารมณ์ดี เจ้าเสน่ห์อย่างพี่ดีแซมก็เดินไปทักสาวคนโน้นนิด คนนี้ หน่อยตามประสาคนเจ้าชู้ พี่มะลิกับเพื่อนก็เดินนำหน้า ฉันไปไกลแล้ว
“ไบรอันคะ โรสขอพักหน่อยนะ โรสปวดเท้า ปวดขา ปวดตัวไปหมดแล้วเนี่ย เหนื่อยมากด้วยอ่ะ ทางบ้าอะไร ชันแล้วก็ทุระกันดานเป็นบ้า”เสียงแหลมๆแสบแก้วหูบ่นตามหลังมาไม่ไกล
เทอะ! จะไม่ให้ปวดเท้าได้ไงในเมื่อเจ้เล่นใส่ส้นสูงสี่นิ้ว เดินขึ้นเขาแบบนี้ นี่ก็ผ่านมาเป็นชั่วโมงแล้วด้วย
“ผมบอกคุณแล้วไงว่าให้เปลี่ยนรองเท้า บางทีถ้าคุณ หยุดพูดซะบ้างคุณอาจจะไม่ต้องเหนื่อยแบบนี้
“เอ๊ะ! ไบรอันว่าโรสเหรอ นี่โรสอุตส่าห์ยอมลำบากตาม คุณมาที่นี่เพื่อจะมาดูแลคุณนะ”
“ผมขอร้องให้คุณมาเหรอ”
“ทำไมคุณพูดแบบนี้กับโรสล่ะคะไบรอัน”ยัยพี่โรสพูด ด้วยน้ำเสียงน้อยใจ
ได้ฟังสองคนนี้คุยกันไม่รู้ฉันจะสงสารหรือสะใจเธอดี
“เหนื่อยรึเปล่า ^^”ร่างสูงข้างกายหันมาถามฉันด้วย ความเป็นห่วง
“นิดหน่อย นายล่ะ?”
“ไม่เท่าไหร่ แต่ก็สนุกดี”
“เนาะ วิวก็สวยด้วย อากาศก็เย็นค่อนข้างสบาย” ว่าแล้ว ฉันก็สูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอด
“ถ้าเหนื่อยเมื่อไหร่ก็บอกนะ ยินดีให้บริการขี่หลัง ฟรี สายฟ้าบอกพร้อมกับยักคิ้วให้อย่างกวนๆ
“งั้นขี่ไปจนถึงหมู่บ้านได้มั้ยล่ะ”ฉันหันไปพูดกลั้วหัวเราะ กับเขา
“สลับกันขี่หลังก็น่าจะดีนะ ฮ่าๆๆ”
จบประโยคนั้นของสายฟ้าเราก็หัวเราะคิกคักกันใหญ่ ไม่รู้ทำไมสินะ ผ่านไปไม่กี่วันฉันกับเขาก็เริ่มสนิทกันมาก ขึ้น
“นี่พวกเธอสองคนหัวเราะอะไรกันยะ หัวเราะเยาะฉันรึ ไงกัน ( /// เดี๋ยวเขาก็ได้ยินหรอกว่าหัวใจฉันเต้นแรง แค่ไหนที่เขาทำแบบนี้…
ในที่สุดเราก็เดินมาถึงหมู่บ้านแล้ว…
หมู่บ้านแห่งนี้อยู่บนเขาจริงๆ เพราะมองไปทางไหนก็ เห็นแต่ภูเขาลูกอื่นๆไกลสุดลูกหูลูกตา บรรยากาศดีมากๆเลยล่ะ เป็นสบายมากจริงๆ บ้านของชาวบ้านที่นี่ สร้างจากไม้ทั้งหลัง หลังคาเป็นใบไม้แห้ง ตัวบ้านยกถุน สูงจากพื้นนิดหน่อยไว้เก็บท่อนไม้ท่อนฟืน ต้นไม้น้อย ใหญ่ของแต่ละบ้านสร้างความร่มรื่นให้แต่ละบ้านน่าอยู่ มากขึ้นไปอีก
ชาวบ้านต่างก็มายืนต้อนรับชาวค่ายอยู่ที่หน้าบ้านของ ตนเอง เด็กตัวเล็กๆ หลายคนที่กำลังวิ่งเล่นกันอยู่ก็หยุด ดูพวกเรา คนที่นี่น่าจะปลูกพืชผัก ทำสวนเป็นอาชีพหลัก แล้วที่บ้านก็เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่และเลี้ยงหมาไว้เฝ้าบ้าน
ฉันมองดูรอบๆอย่างสนใจ คนที่นี่คุณภาพชีวิตค่อนข้าง ต่ำเหมือนที่พี่มดดำพูดจริงๆ เด็กๆหน้าตามอมแมม สวม เสื้อผ้าเก่าๆ แล้วฉันก็คิดว่าอาหารการกินของคนที่นี่ก็คง ไม่ค่อยสะอาด หรือถูกหลักอนามัยเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าฉัน กระแดะหรืออะไรหรอกนะ ฉันเป็นห่วงว่าถ้าเป็นอย่างที่ ฉันคิด การทานอาหารที่ไม่สะอาดมันก็เป็นอันตรายต่อ สุขภาพได้
หลายครั้งที่ฉันหันหลังไปมองสายฟ้าเพราะเป็นห่วง ก็ เห็นเขาเดินมากับยัยพี่โรสเงียบๆ แน่นอนว่าคนอย่าง เธอไม่ปล่อยให้เท้าเปล่าสัมผัสพื้นนานๆ ตอนนี้ยัยนั่น เลยเปิดกระเป๋าแล้วเอารองเท้าคู่ใหม่ออกมาใส่ มันเป็น รองเท้าส้นเตี้ยเข้ากับเธอดี ล่าสุดที่ฉันหันกลับไปมอง เพื่อนก็พบว่าสายฟ้ากำลังช่วยยัยพี่โรสลากกระเป๋าด้วย แหละ หรือไม่ก็ถูกบังคับรึเปล่าก็ไม่รู้สิ อันนี้ฉันก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆคือสายฟ้าหน้าหงิกมากเลยล่ะ
“ห่วงมันมากรึไง ไบรอันกระแทกเสียงใส่จนฉันสะดุ้ง มือ หนาถึงมือฉันเข้าหาอย่างรวดเร็ว
ตลอดทางที่เดินมาด้วยกันเราไม่ได้คุยอะไรกันเลย ฉัน ก็คิดว่าเขาอารมณ์ดีขึ้นแล้ว นี่อะไร อารมณ์ขมุกขมัวยิ่ง กว่าเดิมอีก
“ก็ต้องห่วงสิ นั่นเพื่อนฉันนะ”
“แล้วไง”ร่างสูงชักสีหน้าใส่
“นี่ นายโกรธอะไรสายฟ้าเหรอ ทำไมถึงได้แต่มองเขา เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อขนาดนั้น”ฉันถามออกไปเพราะ ความสงสัยมันล้นอก
“ถามทำไม”ไบรอันถามกลับ ใบหน้าหล่อเหลาหันไป มองทางอื่น
“ฉันแค่อยากรู้”
ไบรอันเงียบไปสักพัก เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะ ตอบคำถามของฉันเหมือนกับว่าเขาพยายามระบายความ รู้สึกที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมา
“ฉันแค่ไม่ชอบขี้หน้ามัน
“แล้วทำไมนายถึงไม่ชอบขี้หน้าเขาด้วยล่ะ
“เธอนี่จะขี้สงสัยไปไหน ไม่ต้องถามอะไรมาก อยู่นี่ แหละ เดี๋ยวจะเริ่มพิธีเปิดแล้ว
บอกแค่นั้น ไบรอันก็ปล่อยมือฉันให้เป็นอิสระ แล้วเขาก็ เดินหนีไปรวมตัวกับคณะผู้ดูแลค่ายเฉยเลย ทิ้งให้ฉันยืน
อยู่กับความสงสัยคนเดียวกลางสนามหน้าโรงเรียน
อีตาบ้าน ฉันตามอารมณ์เขาไม่ทันเลยจริงๆ ให้ตายเถอะ!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ