Chapter 15 : อดีตที่แสนปวดร้าว
[:: Brian’s Part::]
ระหว่างขับรถกลับบ้าน ในหัวผมมีแต่เรื่องของเมลล์…
ผมอยู่ใกล้เมลล์แล้วผมสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ยัยนั่น มีอะไรหลายๆอย่างที่ผมอยากจะค้นหา…
ไม่สิ! ผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน
ผมว่าบ้านเมลล์น่าอยู่ดีนะ บ้านเธอเป็นบ้านสองชั้นค่อน ข้างใหญ่เหมือนกัน ด้านนอกดูสะอาดร่มรื่นดี แถมยัง น่าอยู่มากๆ ไม่เหมือนกับบ้านผม หลังใหญ่ซะเปล่าแต่ เงียบเหงาอย่างกับบ้านผีสิง
ผมเป็นลูกคนเดียว คุณพ่อคุณแม่อยู่ที่อังกฤษกับ คุณปู่คุณย่ากันหมด เพราะคุณพ่อต้องไปประจำการที่ สำนักงานใหญ่ที่นั่นคุณแม่จึงไปอยู่ดูแล แล้วผมก็ไม่ใช่ พวกที่ชอบเรียกร้องความสนใจจากครอบครัวขนาด ทําตัวเกเรเรียกร้องความสนใจจากทางบ้านหรอกนะ ผม ว่าผมอยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว คุณพ่อกับคุณแม่ก็หมั่นโทรมาคุย กับผมเหมือนกัน
ทั้งบ้านมีกันอยู่แค่ 5 คนกับอีก 1 ตัว คือผม ป้าดีหัวหน้า แม่บ้าน กับแม่บ้านอีก 2 คนและลุงฉ่ำคนดูแลบ้านสามีป้า ดี ผมไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายในชีวิตมากเลยจ้างคนอยู่แค่นี้ อ๋อ แล้วก็มี ‘อเล็กซ์’ หมาของผมอีกตัว นึง
อเล็กซ์เป็นหมาพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ขนสีเทาสลับขาว มัน มีตาสีฟ้าเข้มอายุเกือบ 5 ปีแล้ว ผมเอามันกลับมาเลี้ยงที่ นี่ด้วยเพราะทิ้งมันไว้ที่อังกฤษไม่ได้ อีกอย่างเจ้าตัวนี้ก็มี คนให้ผมมา
ผมเลี้ยวรถเข้าไปจอดในโรงรถเมื่อขับมาถึงบ้าน แทบ จะในทันทีที่ผมดับเครื่อง เสียงมือถือที่ตั้งสั่นก็ดังขึ้น เพราะมีคนโทรเข้ามา
อืดดดดด~ อืดดดดด~
ผมล้วงมือถือของตัวเองจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ออกมา ดูก็ไม่เห็นว่าจะมีใครโทรเข้า แต่เสียงสั่นก็ดังไม่หยุด ผม มองไปรอบๆเพื่อหาที่มาของเสียงก็เหลือบไปเห็นมือถือ ของใครบางคนหล่นอยู่บนพื้นที่นั่งข้างคนขับ
รถคันนี้ผมเพิ่งไปขโมยที่บริษัทคุณพ่อมาขับเมื่อไม่นาน แล้วก็ยังไม่เคยมีใครเคยนั่งด้วยนอกจากผม แต่วันนี้…
ผมหยิบมือถือเครื่องนั้นมาดู’บ้าน’ คือชื่อที่โชว์หราอยู่ บนจอ ผมกดรับสายแต่ไม่ได้พูดอะไรเพื่อรอฟังเสียงจาก ปลายสาย เพราะผมรู้ว่าเจ้าของมือถือเครื่องนี้เป็นใคร
[ซัลโหล]
ฮัลโหล เอ่อ ขอโทษนะคะ พอดีฉันทำมือถือหาย ไม่ ทราบว่าคุณเป็นใครคะ
โฮัลโหล ได้ยินมั้ยคะ
ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงร้อนใจจนผมอดสงสารไม่ได้ จึงยอมกรอกเสียงลงไป
“ฉันเอง”ผมบอกเสียงเรียบ แล้วเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้
ตัว
โฉันไหนคะ เอ๊ะ! ไบรอัน
เมลล์โพล่งขึ้นเมื่อนึกได้ว่ากำลังคุยกับใคร เสียงยัยเด็ก บ้านตลกชะมัด
“ใช่ ฉันเอง”
แล้วมือถือฉันไปอยู่ที่นายได้ยังไงฮะ
เธอทำมันหล่นไว้ในรถฉัน
เย้อออ~ โล่งอกไปที ฉันนึกว่าจะทำหายซะอีก
“อยากได้คืนมั้ยล่ะ ผมถามเมื่อนึกบางอย่างออก
[ถามบ้าๆ ก็ต้องอยากได้คืนสิ
“ถ้าอยากได้มือถือคืน พรุ่งนี้ต้องให้ฉันไปรับที่บ้าน”
ไม่รู้เหมือนกันสินะว่าทำไมความคิดนี้ถึงแวบเข้ามาใน หัวผม ทั้งๆที่บ้านผมกับบ้านเธอไกลกันคนละโยชน์
(แต่นั่นมันมือถือฉันนะ นายควรจะคืนให้ฉันสิ ทำไมต้อง มีข้อต่อรองด้วย
“จะเอาไม่เอา ถ้าจะเอาคืนก็ให้ฉันไปรับพรุ่งนี้ แต่ถ้าไม่ เอาก็แค่นี้ละกัน”
[เฮ้ๆๆ เดี๋ยวสิๆ อย่าเพิ่งวางสายนะ]
“ว่าไงล่ะ”
ก็ได้ๆ แต่นายห้ามเล่นแง่นะ ต้องคืนให้ฉันจริงๆนะ]
“ฉันเป็นลูกผู้ชายพอ แล้วพรุ่งนี้ก็รีบๆเตรียมตัวหน่อยล่ะ ฉันไม่ชอบรอใครนานๆ
บอกได้แค่นั้นผมก็ตัดสายไปแล้วจ้องมือถือในมือ ก่อนที่ ผมจะถือวิสาสะคันมือถือยับตัวดีซะเลย
[End Brian’s Part::]
ก๊อกๆๆๆๆ~
“พี่แมกซ์ เมลล์ขอเข้าไปหน่อย”ฉันบอกเจ้าของห้องหลัง จากที่เคาะประตูขออนุญาต
“เชิญคร้าบผม ไม่ได้ล็อค”
เมื่อผู้เป็นเจ้าของห้องอนุญาตน้ำเสียงอารมณ์ดีฉันจึง เปิดประตูเข้าไป พี่แมกซ์อยู่ในชุดที่พร้อมจะออกไปโรง พยาบาลแล้ว เขาดูดีจริงๆในชุดแบบนี้
ฉันขึ้นไปนอนบนเตียงกว้างอย่างเคยชิน
“พี่แมกซ์จะออกไปทำงานแล้วเหรอ?”
ครับผม
“ว้า เมื่อไหร่เมลล์จะมีพี่สะใภ้กับเขาก็ไม่รู้สึ พี่แมกซ์กั เอาแต่ทำงานไม่ยอมมีแฟนสักที”ฉันแซวผู้เป็นพี่ทีเล่นที จริง
ไม่น่าเชื่อเนาะว่าอย่างพี่ชายฉันจะโสด พี่แมกซ์เคยพา แฟนมาที่บ้านตอนที่เขาเรียนอยู่ปีสอง เธอคนนั้นชื่อพี่อิง ฟ้า พี่อิงฟ้าเป็นคนสวย น่ารักมากๆ แต่ทั้งคู่ก็ต้องห่างๆกัน ไปเพราะพี่แมกซ์เรียนหนักขึ้นจนไม่มีเวลาว่างเลยน่ะสิ
“ไม่ต้องมาแซวพี่เลยเรา ไง มีเรื่องไม่สบายใจอีกล่ะสิ”พี่ แมกซ์พูดอย่างรู้ทันแล้วเดินมานั่งพิงหัวเตียง ฉันจึงกลิ้ง ไปนอนหนุนตักเขาอย่างที่เคยทำเป็นประจำ เวลามีเรื่อง ไม่สบายใจฉันก็จะมาหาเขานี่แหละ เพราะพี่ชายคนนี้มี คำปรึกษาดีๆให้กับฉันเสมอ”เรื่องนั้นใช่มั้ย…เรื่องพ่อของ เรา”
ฉันนิ่งไปเมื่อโดนคนเป็นพี่จี้ถูกจุด สุดท้ายฉันก็พยักหน้า ยอมรับออกมาในที่สุด
“มันผ่านมาห้าปีแล้วนะเมลล์ ตอนนี้พ่อก็ไปสบายแล้ว” แมก พูดเสียงอ่อนโยนเหมือนทุกครั้งที่ฉันทุกข์
“เมลล์รู้พี่แมกซ์ เมลล์จะไม่คิดมากเลยถ้าไม่ใช่ที่นั่น เมลล์อยากจะลงสมัครไปออกค่ายเป็นคนแรกๆด้วยซ้ำ แต่ทำไมต้องเป็นที่นั่นด้วย เสียงของฉันสั่นตามความ รู้สึกที่อัดอั้นมานาน น้ำตาอุ่นๆตื้นขึ้นมาคลอเต็มสอง หน่วยตา
“จังหวัดตากน่ะเหรอ”
ฉันไม่ตอบ มีเพียงน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นทางเท่านั้นที่ ช่วยยืนยันคําตอบได้เป็นอย่างดี
พ่อฉันประสบอุบัติเหตุตอนไปปฏิบัติหน้าที่ที่จังหวัดตาก ตอนนั้นมีรถบรรทุกซึ่งคนขับหลับในพุ่งมาชนกับรถตู้ของ คณะแพทย์อาสาที่กลับจากการไปปฏิบัติหน้าที่เข้าอย่าง จัง ทำให้รถทั้งสองพุ่งลงเหวข้างทาง…และเหตุการณ์ใน ครั้งนั้นก็ไม่มีผู้รอดชีวิตเลย
มันเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตฉัน วันเกิดฉัน เมื่อ 5 ปีที่แล้วคือวันที่ฉันได้เห็นหน้าพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ท่านจะไปปฏิบัติหน้าที่และประสบอุบัติเหตุจนเสีย ชีวิต
“เหตุการณ์ในวันนั้นมันไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก แต่ เมลล์ต้องเข้มแข็งนะ พ่อเราเป็นคนดีตอนนี้ท่านก็ไปใน
ฉันมองหน้าพี่ชายผ่านม่านน้ำตา มือเรียวยาวของเขา เอื้อมมาเช็ดน้ำตาให้ฉันอย่างเบามือ
ตอนที่เขาไปออกค่ายเมื่อปีที่แล้ว ฉันนอนไม่หลับทุก คืนเพราะเป็นห่วง ติดต่อก็ติดต่อไม่ได้เพราะที่นั่นไม่มี สัญญาณ ฉันกลัว…เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพ่อทำให้ฉัน กลัวว่าจะเกิดขึ้นกับเขา ถ้าเกิดฉันเสียพี่แมกซ์ไปจริงๆ ฉันกับแม่คงอยู่ไม่ได้
“เมลล์เชื่อพี่นะว่าหลังจากที่เมลล์ไปออกค่ายแล้ว เมลล์ จะได้อะไรกลับมาเยอะเลย เมลล์จะเข้าใจพ่อมากขึ้นว่า ทำไมท่านถึงอยากเป็นแพทย์อาสา เข้าใจว่าทำไมท่านถึง ยอมลำบากเดินทางไปที่ไกลๆทั้งๆที่พ่อสามารถเลือกที่ จะอยู่ทำงานสบายๆในเมืองก็ได้”
“ทุกอย่างมันไม่ได้เลวร้ายไปซะหมดหรอกถ้าตอนนี้พ่อ ยังอยู่พี่คงโดนพ่อตำหนิแน่ที่ดูแลน้องสาวคนเดียวได้ไม่ ดี ทำให้เมลล์ร้องไห้ขี้มูกโป่งแบบนี้”
รอยยิ้มอ่อนโยนของพี่ชายส่งผลให้หัวใจฉันอบอุ่นขึ้น มาอย่างน่าประหลาด…
เช้ามืดของวันต่อมา…
ฉันสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองอยู่หน้ากระจกหลัง จากจัดการอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนฉันเผลอ หลับไปตอนที่นอนคุยกับพี่แมกซ์ ตื่นมาอีกทีก็ไม่เห็นร่าง สูงคุ้นตาเพราะเขาคงออกไปทำงานแล้ว
ฉันเดินมาตรวจดูของที่วางไว้กลางห้องหอน พอแน่ใจ แล้วว่าฉันไม่ลืมอะไรจึงแบกสัมภาระทั้งหมดลงไปไว้ที่ ห้องรับแขก แล้วเดินเข้าไปช่วยแม่ยังห้องครัวซึ่งกำลังทำ อาหารเช้าให้ฉันอยู่
“มีอะไรให้เมลล์ช่วยมั้ยคะแม่?”
“ไม่มีอะไรแล้วจ้ะ แม่ทำเสร็จพอดี”แม่บอกขณะแพ็ค ข้าวใส่กล่องให้ฉันอย่างสวยงาม
“เอ่อ แม่คะ”
“มีอะไรลูก”แม่หันมามองหน้าฉันนิดหน่อยก่อนจะกลับ ไปสนใจงานตรงหน้าต่อ
“คือแม่ไม่ต้องไปส่งเมลล์แล้วนะ”
“หาไม่ละ0.0?”แม่หันมาจ้องหน้าฉันด้วยความแปลกใจ
“พอดีรุ่นพี่ที่มหา”ลัยจะมารับน่ะค่ะ”ฉันบอกแล้ว พยายามสังเกตสีหน้าแม่เพราะแม่นิ่งไปเลยที่ได้ยินฉัน บอกแบบนั้น
“แล้วรุ่นพี่ที่ว่านี่ผู้หญิงหรือผู้ชาย?”
“ผู้ชายค่ะ”
แม่ถึงกับนิ่ง เอาแต่จ้องหน้าฉัน แต่แล้วรอยยิ้มหยอกล้อ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยของคนเป็นแม่
“รุ่นพี่จริงๆน่ะเหรอ”
“จริงๆค่ะ”
“ถ้าไม่ใช่รุ่นพี่แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย อ้อ ไม่ต้อง กลัวว่าแม่จะเอาไปบอกพี่ชายเรานะ ตาแมกซ์น่ะหวงเรา ขนาดไหนขืนบอกไปแม่อดได้ลูกเขยพอดี”
“ลูกเขยอะไรกันคะแม่ก็พูดไปเรื่อย-O-”
แม่ไม่ได้พูดอะไรต่อเอาแต่หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียวอย่างขอบอกชอบใจ()*
เมื่อวานฉันรับปากกับไบรอันแล้วว่าจะให้เขามารับเพื่อ แลกกับมือถือของฉันที่อยู่กับเขา อ้อ เมื่อวานฉันโทรไป บอกลูกสาวแล้วนะ ยัยนั่นปนใหญ่เลยเพราะเป็นห่วงฉัน ฉันว่ายัยนั่นห่วงว่าฉันจะไปก่อเรื่องอีกมากกว่า =[]=;
ลูกตาวเคยพูดอยู่เหมือนกันว่าอยากไปออกค่าย แต่เธอ ไม่กล้าขอคุณพ่อกับคุณแม่น่ะนะ มหา’ลัยหยุดให้อาทิตย์ นึงแบบนี้ก็คงจะได้แต่นอนอยู่ที่บ้านล่ะมั้งยัยเพื่อนคนนั้น
ปิ๊งป่อง~ ปิ๊งป่อง~
ไบรอันคงมาถึงแล้ว…..
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ