Chapter 7 : สู้ตาย! ฉันไม่ยอมแพ้นายหรอกนะ!
เมื่อเห็นว่าการแหกปากไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นแถม ฉันยังเหนื่อยเปล่าอีกต่างหา จึงเปลี่ยนแผนมาเล่นงาน แผ่นหลังเขาแทนโดยงับหลังเขาไปเต็มคำ
“Shit!!”
ไบรอันสบ ดังลั่น ระยะทางร้อยเมตรสำหรับเขาตอนนี้ คงจะเหมือนร้อยกิโลเมตรได้มั้ง
ร่างสูงไม่ยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวอีกต่อไป ไบรอันหยิกต้นขาฉันคืนจนฉันสะดุ้งด้วยความเจ็บ
“อ๊ากกก!! ฉันเจ็บนะ”ฉันโวยวายสองมือก็ทุบหลังเขาไม่ หยุด
ไบรอันไม่สนใจแม้แต่จะต่อปากต่อคำกับฉัน เขา พรวดๆไม่หยุด เส้นชัยอยู่ไม่ไกลแล้ว…
ไม่นะ…ฉันจะแพ้เขาตั้งแต่เกมแรกแบบนี้ไม่ได้นะ มัน เป็นลางงงงง [ ] เสียงเฮดังสนั่นเมื่อไบรอันแบกฉันเข้า เส้นชัยได้เป็นคู่แรก…
“หยุดดิ้นได้แล้ว”ไบรอันสั่งพลางยืนหอบถึงเขาไม่สั่งฉัน ก็ไม่ดิ้นต่อหรอกเพราะราชินีไม่มีสิทธิ์ขัดขืนถ้าทหารพาวิ่งเข้าเส้นชัยแล้ว” เธอแพ้แน่เมลล์ ห
“ถึงนายจะพาฉันเข้าเส้นชัยมาเป็นคู่แรก แต่ก็ใช่ว่าทีมสี ฟ้าจะชนะซะหน่อย ระวังหัวเราะทีหลังดังกว่านะ”ฉันเถียง ทั้งที่อยู่ในสภาพหัวขี้ดินก้นชี้ฟ้าขาห้อยต่องแต่งๆอยู่ อย่างนั้น
“เธอก็คอยดูก็แล้วกัน”
ไบรอันพูดแค่นั้นเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันต่อ ฉันย่นจมูก ใส่หลังเขาอย่างหมั่นไส่ในความมั่นใจของเขา
ไม่นาน พวกเหล่าทหารก็พาราชินีเข้าเส้นชัยได้อย่าง ทุลักทุเลท่ามกลางเสียงหัวเราะของผู้ชม สถานการณ์ ตอนนี้เหมือนว่าทีมสีชมพูจะตามทีมสีฟ้าอยู่สองคู่
อาจเป็นเพราะความเกรงใจในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องจึงทำให้ ทีมสีชมพูผู้ชายไม่กล้าทำรุนแรงกับรุ่นพี่ผู้หญิง ส่วนรุ่น พี่ผู้ชายก็สภาพบุรุษพอที่จะไม่ใช้ความเป็นรุ่นพี่บังคับ รุ่นน้องผู้หญิงและด้วยความที่พวกเธอเกรงใจพวกเขานี่ แหละจังไม่กล้าพยศกับรุ่นพี่มากนัก คงจะมีแค่ฉันนี่ล่ะมั้ง ที่กล้าหือกับรุ่นพี่
ฉันเริ่มเห็นความแพ้กวักมือเรียกอยู่ไกลๆแล้วล่ะ T^T จะว่าก็ว่าเถอะ ตอนนี้ฉันเริ่มเวียนหัวแล้วอ่ะ อยู่แบบนี้นานๆ เลือดลงหัวพอดี
“นี่นาย ปล่อยฉันลงได้มั้ย ฉันกระตุกชายเสื้อไบรอัน
ก
“ปล่อยได้ไง เธอไม่ได้ยินกติการีไง”
“นายเปลี่ยนทำให้ฉันหน่อยสิ ฉันเวียนหัวอ่ะ”
คำพูดของฉันหากใครได้ฟังคงจะคิดว่ามันคงดูล่อแหลม แต่จะให้ฉันพูดยังไงล่ะ ตอนนี้สมองฉันมันซื้อไปหมด แล้ว@^@
“เธอนี่มันเรื่องมากจริงๆเลยว่ะ”ไบรอันบ่นเสียงห้วนจัด เขาคงจะรำคาญฉันน่าดู
ถึงจะบ่นแต่ไบรอันก็ยอมเปลี่ยนท่าให้ฉันแต่โดยดี ตอน นี้ร่างทั้งร่างของฉันเลยตกมาอยู่ในอ้อมแขนเขาแทน
[::Brian’s Part::]
“ขอบใจ”
ผมกับมองร่างบางในอ้อมแขนที่ตอนนี้เธอหน้าแดงก่ำ เพราะห้อยหัวอยู่นาน ผมลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย.
ดวงตากลมโตของเมลล์ตวัดขึ้นมาสบตากับผม เธอคง รู้สึกตัวว่าถูกผมมองอยู่ ซึ่งผมก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเผลอ มองเธอนานแค่ไหน
ไม่อยากจะบอกเลยว่ายัยนี่ตัวนิ่มมาก ยิ่งมองเธอใกล้ๆ ผมไม่ปฏิเสธเลยว่าเธอ…ช่างเถอะ!
“เธอนี่มันตัวหนักชะมัด”ผมแสร้งทำเสียงดุก่อนจะ กระชับอ้อมแขนอุ้มเมลล์ให้ถนัดขึ้น ความจริงเธอก็ไม่ได้ หนักอะไรหรอก ตัวเล็กแค่นี้จะหนักสักแค่ไหนกันเชียว
“นายนี่เป็นผู้ชายที่ขี้บ่นจริงๆ ชิ!”เมลล์พูดแค่นั้นเธอก็ เลิกสนใจผมแล้วหันกลับไปสนใจเกมตรงหน้าที่ตอนนี้ กำลังดำเนินไปอย่างเมามันส์
ผมพยายามเลิกสนใจเธอแต่เสียงหัวเราะใสๆของเมลล์ มันช่างดึงสายตาผมให้ก้มลงไปมองเธอบ่อยเหลือเกิน
ยัยเด็กบ้านมีบางอย่างที่ทำให้ผมละสายตาไปจากเธอ ได้ไม่เกินสองนาที…
[::End:Brian’s Part::]
สามชั่วโมงผ่านไป…
สารพัดเกมที่พี่ปีสองกับพี่ปีสามขุดขึ้นมาให้พวกเราเล่น นั้นสนุกมากจนฉันลืมความตื่นเต้นที่มีก่อนหน้านี้ไปเสีย สนิทเลย ตอนนี้เรากำลังจะเริ่มเกมที่หกกันแล้วล่ะ
เกมแรกเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากๆ ทีมสีชมพูแบก ราชินีวิ่งเข้าเส้นชัยช้ากว่าทีมสีฟ้าเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น เพราะฉะนั้นพี่ปีสี่จึงชนะไปในเกมแรก เกมต่อๆ มาไม่ว่า จะเป็นดอร์จบอลลูกโป่งน้ำที่เล่นเอาฉันเปียกไปทั้งตัวเอา เป็นว่าเกมที่คนทั่วๆไปเขาไม่ค่อยจะเล่นกันพวกพี่แกก็จัด มาให้เล่นหมด สรุปคะแนนตอนนี้ที่กำลังโชว์อยู่บนสกอร์ บอร์ดคือสามต่อสองซึ่งทีมสีชมพูตามอยู่
ถ้าฉันไม่ได้คิดไปเองที่ไบรอันจับตามองฉันตลอด เขา ก็คงจะจริงจังกับเกมมากจริงๆ เขาไม่ปล่อยโอกาสเล่น งานฉันให้หลุดลอยไปเลยสักครั้ง ดูอย่างเกมดอร์จบอล ลูกโป่งน้ำนี่สิ เขาคอยแต่จะปาลูกโป่งใส่ฉันตลอดแถม ยังปาแม่นอีกต่างหาก ที่ฉันเปียกก็เพราะเขานั่นแหละ( -)*เกมนี้ทีมสีฟ้าชนะไป
การแข่งขันเกมต่างๆที่ผ่านมาทำให้เราสนิทกันภายใน ทีมและนอกทีมมากขึ้น ฉันได้เพื่อนใหม่เยอะเลยล่ะอย่างที่สายฟ้าเคยบอกไว้ว่าเขาลงเกมที่หกและตอนนี้ เขาก็มายืนอยู่ข้างๆฉันได้สักพักแล้ว เขาเป็นคนพูดเก่ง จริงๆ คุยจ้อไม่หยุดเลยตั้งแต่ออกจากห้องพักนักกีฬา จนมาถึงกลางสนามเพื่อเตรียมแข่งจนกระทั่งพิธีกรเริ่ม อธิบายถึงกติกาของเกมเขาถึงจะหยุดพูด
“เอาล่ะครับตอนนี้เราก็มาถึงเกมที่หกกันแล้วเป็นเกม สุดท้ายก่อนที่เราจะพักเบรกหนึ่งชั่วโมงเพื่อทานอาหาร กลางวันกันนะครับ”
“ค่ะ เกมที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้างคะคุณเติ้ล”
“สนุกมากครับคุณโมเม ผมนี่ยืนหัวเราะน้ำตาเล็ดเลยล่ะ ครับ ถือว่าวันนี้เป็นวันที่มีความสุขอีกวันหนึ่งของผมเลย ล่ะครับ เอาเป็นว่าเรามาอธิบายถึงกติกาเกมนี้กันดีกว่านะ ครับคุณโมเม
“เกมนี้มีชื่อว่า กิน กิน กิน อย่าให้เหลือ”พิธีกรทั้งสอง คนพูดพร้อมกันถ้าในเวลาปกติฉันคงจะดีใจที่เกมนี้เกี่ยว กับการกินซึ่งฉันชอบมากๆแต่จากประสบการณ์ที่เล่น หลายเกมผ่านมาแล้วสอนให้ฉันอย่าไว้ใจทางอย่างวางใจ เกม-..-*
“ผู้แข่งขันคงจะเห็นโต๊ะที่ตั้งเรียงรายอยู่ตรงหน้ากันแล้ว ใช่มั้ยคะ”พี่โมเมเริ่มอธิบายต่อ โต๊ะที่เธอว่าตั้งอยู่ไม่ไกล จากที่พวกเรายืนอยู่มากนักมันมีทั้งหมดสองแถวซึ่งก็คงจะเป็นทีมละแถวโต๊ะที่ถูกยกมาต่อกันยาวประมาณ ห้าสิบเมตรได้มั้ง บนโต๊ะนั้นจะมีจํานอาหารและมีฝา ครอบปิดไว้อยู่ “บนโต๊ะทั้งสองแถวนี้จะมีจานอาหารพอดี กับจำนวนผู้เล่นของแต่ละทีมนะคะ กติกาคือให้ผู้เล่นเข้า แถวต่อกันเป็นรถไฟขบวนยาว เมื่อคนแรกหรือก็คือหัว รถไฟกินของที่เราให้มาหมด ย้ำนะคะว่าต้องหมดให้ไป ต่อท้ายท้ายขบวน แล้วคนถัดไปก็รีบจัดการอาหารใน จานต่อไป เป็นอย่างนี้จนถึงคนสุดท้ายนะคะ ทีมไหนกิน หมดก่อนทีมนั้นก็ชนะค่ะ”
“ว้าว ผมว่าเกมนี้เป็นเกมที่ง่ายที่สุดเลยล่ะมั้งครับคุณ โมเม
“ฮ่าๆๆ มันก็ไม่เสมอไปนะคะคุณเติ้ล แต่ถ้าเป็นดิฉัน ดิฉันจะเลือกอยู่ข้างหน้าๆนะ”
คำพูดของพี่โมเมเหมือนบอกใบ้อะไรบางอย่าง
“เอาเป็นว่าเราอย่าเสียเวลากันดีกว่าครับ เรามาเริ่มเกม กันดีกว่าครับ ผู้เข้าแข่งขันพร้อม เริ่ม!!”
ปรี๊ดดดดด!
พอสิ้นเสียงลูกหวีดเท่านั้นแหละ ฉันก็ถูกสายฟ้าลากไป ต่อแถวทันทีฉันเป็นคนที่ห้าสายฟ้าเป็นคนที่หกของแถว เกมเริ่มแล้วคนแรกจึงเปิดฝาครอบจานออก เสียงฮือฮาของเพื่อนๆที่อยู่หัวแถวก็ดังขึ้น จากคำบอกปากต่อ ปากฉันจับคำได้ว่าสิ่งที่อยู่ในจานเป็นขนมโก๋ก้อนหนึ่ง แต่ ก้อนใหญ่มาก!
เสียงเชียร์จากทุกสารทิศดังขึ้นไม่ขาดสาย และนั่นก็ เป็นสิ่งกดดันชั้นดีให้คนที่ได้ขนมโก๋ต้องรีบยัดเข้าปากไป แล้วเคี้ยวให้โดยเร็ว ฉันมองไปทางทีมคู่แข่ง ทีมนั้นก็ได้ ขนมโก๋เหมือนกัน ฉันคิดว่าของที่อยู่ในจานคงจะเหมือน กันทั้งสองทีม
ไบรอันยืนอยู่เป็นคนที่แปดของแถว สีหน้าเขายังคงนิ่ง เหมือนทุกครั้งที่ฉันเห็น เมื่อเห็นว่าฉันมองเขาอยู่รอยยิ้ม กวนๆก็ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาอย่างท้าทาย ฉันย่น จมูกใส่เขาก่อนจะหันมาสนใจทีมตัวเองต่อ
ผ่านไปหลายนาทีเพื่อนร่วมทีมคนแรกก็ยังยัดขนมโก๋ เข้าปากไม่หมดก้อน ฉันล่ะสงสารเขามากเลย ดีหน่อยที่ คนคิดเกมไม่ใจดำถึงขนาดไม่เอาน้ำให้
ในที่สุดเพื่อนในทีมก็สามารถกลืนขนมโก๋คำสุดท้าย ลงคอไปได้สําเร็จ เขาอ้าปากให้กรรมการตรวจเสร็จก็วิ่ง ไปต่อแถวหลังสุด ฉันหันไปมองทีมคู่แข่งอย่างประเมิน สถานการณ์ ดูเหมือนว่าทีมนั้นจะช้ากว่าทีมฉัน
คนที่สองเปิดฝาครอบจานออก สิ่งที่วางอยู่บนจานคือ แอปเปิ้ลลูกโตสองลูก ไม่รอช้าเพื่อนคนนั้นก็รีบจัดการแอปเปิ้ลตรงหน้าทันทีนับว่าเพื่อนผู้หญิงคนนี้กินเร็วใช้ได้ เธอกลิ่นแอปเปิ้ลคำสุดท้ายลงคอแล้วหันไปอ้าปากให้ กรรมการตรวจเมื่อผ่านแล้วจึงวิ่งไปต่อแถวหลังสุด
แถวฉันฝนขึ้นมาแล้ว คนที่สามเปิดฝาครอบงานออก มันเป็นกล้วยหอมสามลูกวางอยู่
แสดงว่าคนที่อยู่ตรงหน้าฉันก็ต้องได้กินสิ่งที่อยู่ในจาน นั้นสี่ขึ้นสินะ ของฉันก็ต้องเป็นห้าของที่อยู่บนจานจะเพิ่ม ขึ้นตามลำดับ สินะที่พิธีกรไปให้ว่าคนแรกๆจะสบาย ที่สุด
หวังว่าจานของฉันคงจะได้อะไรที่กินคล่องคอนะ T^T
เพื่อนคนที่สามวิ่งไปต่อแถวข้างหลังแล้ว สิ่งที่คนที่ยืน อยู่ข้างหน้าฉันได้คือปาท่องโก๋ชิ้นใหญ่สี่ชิ้น ทีมคู่แข่ง ก็ตามมาอย่างติดๆ
“หวังว่าเธอคงจะได้อะไรที่ไม่พิสดารนะเมลล์’สายฟ้า อวยพรเสียงร่าเริง แต่หน้าเขานี่ซีดไปแล้ว
“หวังว่านายก็เช่นเดียวกันนะ”
สองนาทีผ่านไป…
เพื่อนคนที่อยู่ก่อนหน้าฉันวิ่งไปต่อแถวข้างหลังแล้ว ฉัน จึงเอื้อมมือไปเปิดฝาครอบจานออกอย่างไม่รีรอแต่ในใจ ก็แอบหวั่น
สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือ…พริกหยวกลูกโตห้าลูก
โอ้แม่เจ้า!! O[]O
“อะไรกันเนี่ย”ฉันโพล่งออกมาทันทีที่เห็นสิ่งที่นอนให้ท่า เชิญชวนให้กินอยู่บนจาน
“ไม่หมูซะแล้ว ฉันคิดไม่ออกจริงๆว่าถึงคราวฉันจะเป็น อะไร”สายฟ้าคร่ำครวญอยู่ข้างหลังฉันเสียงของเขากังวล จนฉันยังฟังออก
ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะหยิบพริกเม็ดแรกขึ้นมา กลั้นใจกัดไปหนึ่งคำ…
ฉันบอกรึยังว่าฉันไม่ชอบรสเผ็ด T หยวกจะไม่เผ็ดมาก แต่มันก็เผ็ดอยู่ดีนะ _Tถึงแม้ว่าพริก
ขณะนั้นเองที่ฉันเหลือบไปเห็นทีมคู่แข่งคนที่ห้ากำลัง เปิดฝาครอบจานออก
ฉันจะช้าไม่ได้แล้ว!!!
คิดได้แบบนั้นฉันก็กลั้นหายใจแล้วกันพริกเม็ดนั้นไป อย่างรวดเร็ว แม้ใจฉันอยากจะโยนพริกที่เหลือทิ้งแต่ฉัน ก็หาไม่ได้ สิ่งที่ฉันทำได้อย่างเดียวคือต้องกันมันซะและ ทีมคู่แข่งก็เป็นแรงกดดันชั้นดีจริงๆ
“สู่เขาๆ เหลืออีกสองลูกเอง”สายฟ้าส่งเสียงเชียร์ใน ตอนที่ฉันกำลังกินพริกลูกที่สาม
โคตรเผ็ด!!
เสียงเชียร์จากเพื่อนร่วมทีมและกองเชียร์บวกกับแรง กดดันจากทีมคู่แข่งทำให้ฉันฝืนกลืนพริกคำสุดท้ายลงคอ ไปได้อย่างยากลำบาก น้ำหูน้ำตานี่อย่าได้เอ่ยถึง มันไหล ออกมาอย่างที่ฉันเองก็ห้ามไม่อยู่เหมือนกัน
ฉันวิ่งไปต่อท้ายแถวทันทีเมื่อกรรมการพยักหน้าว่าฉัน ผ่านแล้ว ต่อไปก็เป็นสายฟ้าสินะ ขอให้นายปลอดภัยนะ สายฟ้า
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ