ตอนที่3 ตกลงกันว่าจะร่วมมือกัน
“เมื่อวานคืนหลังเธอลมไป ลู่หรงเซินกับยูนหมู่ เฉินเทเหล้าให้เธอ และสร้างอุตบัติเหตุนี้ขึ้นมา เป็นคน ของผมช่วยชีวิตของเธอไว้ และตอนนี้ทุกคนก็รู้ข่าวที่ เธอเสียไปแล้ว”
มีมือถือเครื่องหนึ่งส่งมาถึงหน้าหลินปิงชิง “ถ้า เธอไม่เชื่อก็เปิดมือถือดูข่าวหน่อยก็ได้ หรือว่าเปิด โทรทัศน์มาดูการรายงานก็ได้”
หลินปิงชิงไม่ได้รับมือถือ เธอหยิกหนังสือพิมพ์ อย่างหนัก
เธอไม่ต้องไปดู เพราะว่าคนที่อยู่ต่อหน้านั้น หน้าเหมือนกับคนที่เธอได้เห็นจากโทรทัศน์ไปหมด
ในฐานะที่เป็นลูกสาวตระกูลหลินหลินปิงชิง ไม่มีความเป็นไปได้ว่าไม่รู้จักกู้เป่ยเฉิง
กู้เป่ยเฉิงเป็นคนเดียวที่มีสิทธิจะสืบสมบัติของ ตระกูลลึกลับตระกูลกู้ ครอบครัวนี้อยู่ในรณรงค์ธุรกิจ มาเป็นหลายปี และความสามารถของกู้เป่ยเฉิงก็ให้ คนเกิดความกลัวอยู่ในใจมาก บรรดานักธุรกิจก็หวัง จะร่วมมือกับบริษัทตระกูลกู้
ไม่พูดถึงเลยว่าลู่หรงเขิน ไม่มีหน้าจะเชิญเป่ย เฉิงได้ว่ามาหลอกตนเอง และตนเองก็ไม่มีที่ที่น่า หลอกสำหรับกู้เป่ยเฉิง
เขาแค่ยื่นนิ้วออกไปก็สามารถให้บริษัทของ ตระกูลหลินหายไปได้
“ถ้าตอนนี้เธอใจเย็นไปแล้ว งั้นเราก็มาคุยหน่อยซิ ลู่หรงเซ็นได้ชำระสินทรัพย์ทั้งหมดของเธอ โดยลับ และกำาลังทําขั้นตอนการส่งมอบมรดกอยู่”
กู้เป่ยเฉิงเอ่ยปากอีกครั้ง หลินปิงชิงรู้สึกเจ็บใจ อย่างหนัก
ลู่หรงเซินคุณใจร้ายจริงๆ
เธอเงยหน้าไปมองกู้เป่ยเฉิงว่า “คุณอยากจะ
คุยกับฉันอะไร”
“เธอมีลูกของผมแล้ว เธอต้องกำเนิดลูกมา และ ผมจะช่วยเธอแย่งบริษัทกลับมา” กู้เป่ยเฉิง พูดอย่าง เรียบร้อยโดยฟังความรู้สึกใดๆไม่ออก
หลินปิงชิงรู้สึกแปลกใจแต่ว่าสงสัยมากกว่า
ต้องยอมว่ากู้เป่ยเฉิงพูดว่าจะช่วยเธอแย่ง
บริษัทกลับมานั้นทำให้เธอรู้สึกล่อลวงใจมาก แต่ว่า เธอทำไม่ได้ว่าจะกำเนิดลูกให้กับคนที่ตนไม่รู้จักคน หนึ่ง
ใช่เลย กู้เป่ยเฉิงเป็นคนอันดับที่หนึ่งที่เป็น มรดกของเธอ แต่ว่าเงื่อนไขก็คือเธอต้องตายไปก่อน และตอนนี้เธอยังมีชีวิตอยู่
ตอนนี้เธอก็จะโทรหาสื่อมวลชนแถลงข่าวว่า ตนเองยังมีชีวิตอยู่ แล้วก็จะแจ้งความต่อไปก็จะหย่า กับลู่หรงเซิน
หลินปิงชิงยืนขึ้นลงมาจากเตียงอยากจะจาก
ไปตอนนี้
กู้เป่ยเฉิงมองเธออย่างใจเย็นว่า “เธอคิดว่าเธอ กลับในตอนนี้จะหย่ากับลู่หรงเซินอย่างราบรื่นได้ ไหม”
“แม้ว่าจะหย่าไม่ได้ฉันก็มีเวลาแก้ข้อภาคทัณฑ์ ได้” หลินปิงชิงคิดให้ดีแล้วว่าเธอจะมอบสมบัติของ เธอทั้งหมดนั้นให้แก่มูลนิธิ
“เธอจะไม่เลือกร่วมมือกับผมก็ได้ แต่เธอ หาความยุติธรรมให้แก่พ่อแม่ของเธอที่เสียไปนั้นไม่ ได้”
หลินปิงชิงตัวแข็งไปอย่างกะทันหัน
*หมายความว่าอย่างไร”
“เธอคิดว่าพ่อแม่เธอเสียชีวิตไปนั้นเป็นเพราะ อุบัติเหตุจริงๆหรือ” กู้เป่ยเฉิงกลับถาม หลินปิงชิงรู้สึก ว่ามีความหนาวเย็นเกิดจากใจอย่างกะทันหัน
เธอจับแขนของกู้เป่ยเฉิงไว้อย่างใจร้อนว่า “คุณรู้อะไรบ้าง”
พ่อแม่ของหลินปิงชิงตายเพราะเกิดอุบัติเหตุ ทางรถ เหตุผลที่ตำรวจให้นั้นคือเป็นเพราะว่าเบรกล้ม เหลว แต่ว่ารถของพ่อแม่เธอนั้นไปซ่อมบำรุงอยู่เสมอ เกิดปัญหาแบบนั้นได้อย่างไร
เหตุการณ์ตายของพ่อแม่นั้น หลินปิงชิงก็เคย สงสัยอยู่แต่ว่าเธอไม่มีหลักฐานและก็ไม่มีคนที่น่า สงสัยด้วย
กู้เป่ยเฉิงมองมือของหลินปิงชิงแล้วขมวดคิ้ว ขึ้นมา และเอามือของหลินปิงชิงไปจากแขนตน เขา ไม่ชอบคนอื่นมาเตะต้องตัว
“ซากรถยนต์นั้นได้พบลายนิ้วมือที่ไม่ควร
ปรากฏขึ้น” กู้เป่ยเฉิงเอ่ยปาก
“เป็นของใครหรือ” หลินปิงชิงไล่ถาม
“ลู่หรงเซ็น”
เมื่อได้ยินสามคำนี้แล้วหลินปิงชิงก็ล้มลงบนพื้น
กู้เป่ยเฉิงมองเธอพูดว่า “เธอคิดว่าตอนนี้เธอ ควรกลับไปหรือ เขาฆ่าเธอครั้งที่หนึ่งได้ก็ฆ่าเธอครั้งที่ สองได้เหมือนกัน เธอไม่กลัวความตายก็ได้ แต่ว่า ฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่เธอนั้นจะไม่มีวันถูกลงโทษตาม กฎหมาย”
หลินปิงชิงสั่นตัวอย่างแรง ความแค้นที่หนักๆ นั้นใกล้จะจมเธอไปแล้ว
เธอเอ่ยปากพูดว่า “ฉันยอม”
***
ตอนเช้าตรู่ หลินปิงชิงนอนอยู่บนเตียงอยู่แต่ไม่ อยากนอน
ที่อยู่โรงพยาบาลวันนั้นเธอรับปากว่าจะร่วมมือ กับกู้เป่ยเฉิง หลังจากนั้นเธอก็ได้อยู่ที่วิลล่าที่กู้เป่ย เฉิงเตรียมไว้ให้
สิ่งของที่อยู่ที่นั่นนั้นได้เตรียมอยู่อย่าง เรียบร้อยและยังมีคนใช้ที่ดูแลเธออยู่ด้วยคน
แต่ว่าหลินปิงชิงไม่ค่อยสบายใจเท่าไรที่อยู่ที่ นั่นเพราะว่าในใจของเธอนั้นมีข้อสงสัยข้อหนึ่งอยู่
กู้เป่ยเฉิงเคยทำการทดสอบดีเอ็นเอ และเธอได้ มีลูกของก็กู้เป่ยเฉิงจริง แต่ว่านี่ไม่น่าใช่เหตุผลที่กู้ เป่ยเฉิงช่วยเธอได้
การที่กู้เป่ยเฉิงอยากได้ลูกคนหนึ่งนั้นเป็นเรื่อง ง่ายทีเดียวไม่ใช่หรือ
ถ้าเขายอมก็จะมีผู้หญิงหลายคนที่อยากจะมี ลูกกับเขา แต่ว่าทำไมเขาได้เลือกตนเอง
เธอเปิดคอมพิวเตอร์มาไปหาข้อมูลเกี่ยวกับกู้
เป่ยเฉิงอย่างอดใจไม่ไหว ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งที่หนึ่งที่เธอ ไปหา แต่ว่าสิ่งที่เธอหาได้ทุกครั้งนั้นก็เหมือนกันไป หมด
กู้เป่ยเฉิงอายุสามสิบปี เป็นคนเดียวที่สามารถ สืบสมบัติของตระกูลกู้
ร่วมมือกับคนแบบนี้หลินปิงชิง ก็ไม่รู้ว่าตนเอง จะได้ผลอะไร
และเธอก็ไปหาข่าวที่เกี่ยวกับตนและลู่หรงเซิ นกับยูนหยู่เฉินโดยอดใจไม่ไหวด้วย เธอได้เสียชีวิต ไปครึ่งเดือนแล้ว และมีข่าวที่เกี่ยวกับลู่หรงเซินเจ็บใจ ทุกข์ใจเป็นอย่างมากออกมามากมายด้วย
หลินปิงชิงดูแล้วแค่อยากยิ้มเยาะเย้ย เพราะว่า กู้เป่ยเฉิงบอกเธอแล้วว่าตอนนี้ลู่หรงเซินเบียดเบียน สมบัติของตระกูลหลินไปหมดแล้ว
ตอนเช้าแล้ว เธอหายใจเข้าลึกๆแล้วปิด คอมพิวเตอร์ไว้ลงไปชั้นข้างล่าง
เมื่อวานกู้เป่ยเฉิงบอกว่าวันนี้จะมาคุยเรื่องเกี่ยว กับการวางแผนระหว่างกัน และหลินปิงชิงต้องเตรียม ไว้ก่อน
ในโต๊ะอาหารหลินปิงชิงกับกู้เป่ยเฉิงกินข้าวอยู่ อย่างเงียบๆ
มองเห็นหลินปิงชิงวางตะเกียบลง กู้เป่ยเฉิง ขมวดคิ้วขึ้นมา
“กับข้าวไม่ถูกใจหรือ น้าฉินบอกว่าปกติเธอก็ กินน้อยมาก” เขามองดูหลินปิงชิง แค่เวลาครึ่งเดือนเอง เธอ
ผอมลงไปมากแล้ว “ไม่ใช่” หลินปิงชิงส่ายหัวแล้วพูดต่อว่า “ยังไม่
ค่อยหิว” กู้เป่ยเฉิงขมวดคิ้วขึ้นมา “ต้องดูแลตัวเองให้ดี
ความห่วงใยที่มาถึงอย่างกะทันหันนั้นทำให้ หลินปิงชิงหัวใจเต้นเร็วไปอย่างมาก แต่ว่าเธอรู้ดีแก่ใจ ว่าคนที่กู้เป่ยเฉิงเป็นห่วงนั้นเป็นลูกที่อยู่ในท้องของ เธอ แต่ไม่ใช่เธอ
“ฉันรู้แล้ว ฉันจะดูแลลูกให้ดี” กู้เป่ยเฉิงขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้พูดอะไร
เขาหันตัวเอาถุงกระดาษคราฟท์ที่อยู่ข้างโต๊ะ ให้หลินปิงชิง “ในนี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับฐานะใหม่ของ เธอ”
หลินปิงชิงเปิดถุงมาดู การรับรองเกี่ยวกับฐานะ ใหม่ของเธอนั้นสมบูรณ์เป็นอย่างดีและมีชื่อที่ว่าซวู่จิ้ง หยีเขียนอยู่บนนั้น
หลังจากวันที่เกิดอุบัตติเหตุเป็นต้นมา ในโลกนี้ ก็ไม่มีคนที่ชื่อหลินปิงชิงคนนี้แล้ว เธอต้องใช้ฐานะ ใหม่ไปแย่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของเธอกลับมา
กู้เป่ยเฉิงพูดอย่างใจเย็นว่า “ผมนัดหมอเสริม สวยให้เธอแล้ว ไปทำการเปลี่ยนแปลงหน้าตาหน่อยก็ จะไม่มีคนรู้จักเธอแล้ว”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ