ติดรักคุณอาสาม

บทที่ 19 ยอมฟังคุณทุกอย่าง



บทที่ 19 ยอมฟังคุณทุกอย่าง

บทที่ 19 ยอมฟังคุณทุกอย่าง

หินเฉินพูดว่า “ถ้าผมเอาหุ้นจากในมือของเซิ่งกั๋วอันได้สำเร็จ หล่ะก็ ค่อยเอาเงินรวบรวมซื้อหุ้นจากคนอื่นอีกทีละนิด แล้วก็ได้ เป็นถึงรองประธาน มันจะได้มั่นคงไม่ใช่หรือไง อีกหน่อย ถ้า อยากจะบริหารบริษัท Bosonเองตามใจชอบก็ไม่ได้แปลว่าจะทํา ไม่ได้นิ ? หรือว่าคุณไม่อยากเห็นวันนั้นมาถึงหรอ?”

“ฉันอยากเห็นอยู่แล้วสิคะ!” สวี่โน่หย่าพูด แต่สีหน้ายังคงบึ้ง ไม่มีความสุข แต่พอคิดว่าคุณจะต้องไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ฉันก็ไม่สบายใจ คุณควรจะเป็นของฉัน

“เป็นของคุณ เป็นของคุณ” ลู่หันเฉินจูบไปที่มือเธอ ให้คำรับรอง ว่า “ที่ต้องแต่งงานกับเธอก็เป็นแต่พิธี รอตอนที่ผมได้หุ้นส่วนมา แล้ว ผมก็จะรีบหาเหตุผลอย่าเลย หลังจากนั้นก็ค่อยแต่งงานกับ คุณต่อ คุณดูสิ แหวนเพชรที่คุณใส่อยู่นี้ ผมเป็นคนซื้อให้เองกับ มือเลยนะ คุณยังไม่เชื่อใจผมอีกหรอ?”

คำพูดพวกนี้ทำให้สวีโน่หย่าดีใจไม่น้อย เธอมองไปที่แหวนวง นี้ รู้สึกดีใจ แล้วพูดว่า “งั้นคุณก็อย่าปล่อยให้ฉันต้องรอนานนะคะ ไม่อย่างนั้นฉันก็จะร้งแกลูกชายของคุณ เชอะ!”

“ครับๆ ยอมฟังคณทุกอย่าง”
หลังต้นกระถาง มีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องพวกเขาอยู่ แต่ทั้ง สองคนกลับไม่รู้ตัวเลย

หลังจากรอให้สองคนนั้นคุยก๊กกิ๊กกันเสร็จ ผู้ชายที่ใส่หมวกไว้ ก็หันหน้าไป ในมือที่จับเครื่องอัดเสียงที่ยังเปิดค้างไว้ เขาล้วง โทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า โทรออกไปให้สายหนึ่ง

“เข้าใจแล้ว ส่งที่อยู่มา

ด้านหน้าของหน้าต่างบานกว้าง เงาผู้ชายร่างหนึ่งที่ยืนถือ โทรศัพท์ เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความแค้น มองออกไปทาง ทิวทัศน์ที่อยู่นอกหน้าต่าง สีหน้ามืดหม่น

หลายวันมานี้ที่นักสืบส่งข้อมูลข่าวสารมาให้ ชื่นสิงนี้ เหมือน กับตบหน้าเขางๆไปทีหนึ่ง ทำให้เขาสงสัยว่าทำไมตอนนั้นตัว เองถึงยอมไปอยู่ต่างประเทศ นั้นมันเพื่ออะไรกัน!

เขาทุ่มสุดชีวิตเพื่อที่อยากจะได้ผู้หญิงที่เธอไม่มีวันได้ ทุ่มสุด ชีวิตเพื่อที่จะให้เธอเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุด แต่เธอกลับถูก คนที่เธอรักทรยศ และมันก็ทำเพราะเพื่อที่จะได้หุ้นส่วนของบ้าน เธอก็เท่านั้น

มีไฟโกรธที่ประทุอยู่ในใจของเขา ทำให้เขาโกรธ โมโหจน ใจเย็นลงไม่ได้ กำโทรศัพท์ไว้แน่น น้ำตาคลอเบ้า สภาพเขาตอน นั้นดูน่ากลัวมาก
“เก๊าะ เก๊าะ เก๊าะ!” เสียงเคาะประตูดังขึ้น ตามด้วยผู้ช่วยสังที่เดิน เข้ามา หอบเอกสารมาชุดหนึ่ง “ท่านประธานครับ อีกหนึ่งชั่วโมง ก็ถึงเวลาที่จะต้องประชุมกับบริษัทที่แคนาดาแล้วนะครับ เอกสาร ผมเตรียมไว้ให้หมดแล้วครับ”

“แจ้งพวกเขาไปว่า การประชุมครั้งนี้ขอเลื่อนไปก่อน” ลู่ชื่นสิง หันหลังกำลังจะกลับเข้าออฟฟิศไปเอากุญแจรถ ทันใดนั้นก็คิด ได้ว่ารถกำลังเอาไปซ่อมที่ศูนย์ “แล้วโทรเรียกคนขับรถมารับผม ด้วย”

“…”ผู้ช่วยสั่งสีหน้าตะลึง

จะต้องรู้ว่าลู่ซื่นสิงเป็นคนที่เห็นงานสำคัญกว่าทุกอย่าง ตั้งแต่ มารับช่วงงานต่อที่แคนาดาตลอด5ปีนี้ เขาไม่เคยสายเลยสักครั้ง

นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย

ลู่หันเฉินกำลังซุบซิบคุยกับสวีโน่หย่าอยู่ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียง คนอื่นเรียกชื่อตัวเอง

พอเงยหน้าก็เห็นลู่ซีนสิงเดินเข้ามาจากหน้าประตูร้านอาหาร สีหน้าเขาเปลี่ยนทันที รถสีดำจอดไว้ที่หน้าร้านอาหาร คนขับรถก็ นั่งอยู่ภายในรถนั้น
“อาชาย…สาม”

ลู่หันเฉินกระแอมให้เสียงชัดขึ้น น้ำเสียงดูแข็งๆ อๆ เขาไม่ แน่ใจว่าพฤติกรรมของเขากับสโน่หย่าเมื่อกี้นี้ ลู่ชื่นสิงได้เห็น หรือเปล่า

ลู่ นสิงพยักหน้า เดินเข้ามายืนไว้ ยักคิ้ว “บังเอิญเนาะ พวกนาย ก็มากินข้าวกันทีนี่หรอ?”

หลังจากนั้นก็เอียงหัว หันไปเห็นสวีโน่หย่า “คนนี้คือ?”

สวีโน่หย่ารีบยืนขึ้น ยื่นมือออกไป ยิ้มหวานแล้วพูดว่า “คุณอาคือ อาชายสามของหินเฉินใช่ไหมคะ? สวัสดีค่ะ ชื่อสวีโน่หย่า เป็น เพื่อนรักของหวั่นซิงค่ะ วันนี้ออกมากินข้าวกับพวกเขาสองคนค่ะ”

“พอดีเลย ผมก็มาคนเดียว งั้นก็ขอร่วมโต๊ะด้วยคนละกันนะ” นสิงมองข้ามสวีโน่หย่าไป ไม่สนใจเธอ นั่งลงไปข้างๆของลู่หัน เฉิน แล้วยังพูดล้อเล่นกับลู่หันเฉินว่า “คงจะไม่รังเกียจเนาะถ้าอา พอมานั่งด้วย?”

คนก็นั่งลงไปแล้ว ลู่หันเฉินจะกล้าพูดอะไรอีกหล่ะ ตอบกลับไป ว่า “อาชายนี่ก็พูดเกินไปครับ ผมอยากจะให้นั่งด้วยอยู่แล้วครับ แต่ว่าอามานั่งตรงข้ามนี้ไหมครับ ที่นี่เป็นที่นั่งของหวั่นซิง”
ล่นลงพูด เสียงนิ่งๆว่า “อาไม่ชอบนั่งใกล้ผู้หญิง นั่งตรงนี้ แหละ”

ล่นสิงทําอย่างนี้ทำให้สวี่โน่หย่ารู้สึกโมโหเล็กน้อย แต่พอได้ เห็นแววตาสะกิดของลู่หินเฉิน เธอก็ได้แต่เบ้ปาก เอามือเก็บกลับ เข้าไป แล้วนั่งลงไปอย่างหงุดหงิด

อีกไม่นาน เหิ่งหวั่นซิงก็กลับมาแล้ว

ตอนที่เห็นลู่ นสิง หัวใจของเธอก็เต้นตุบๆบ หัวใจวุ่นวายอย่าง ไม่มีสาเหตุ เพราะกลัวว่า นลิงจะเล่าเรื่องที่เธอไปนอนบ้านเขา ให้ลู่หันเฉินฟัง

พอคิดไปสักพัก ลู่ชื่นสิงเหมือนจะไม่ใช่คนอย่างนั้น?

ลู่หันเฉินพูด “หวั่นซิง อาชายสามก็บังเอิญมากินข้าวร้านนี้พอดี มาคนเดียว ก็มารวมโต๊ะกับพวกเรานี่เลย หวั่นซิง คุณไปนั่งข้างๆ โน่หย่าสิ”

เพิ่งหวั่นซิงขมวดคิ้ว

ทําไมถึงรู้สึกว่าลู่หันเฉินเรียกชื่อ “โน่หย่า” ถึงเรียกได้หวาน ขนาดนั้น เหมือนอย่างกับเรียกเป็นประจำเลย?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ