บทที่ 18 แฟนสําคัญกว่าสิ
บทที่ 18 แฟนสําคัญกว่าสิ
ในเมื่อแต่ก่อนพวกเขาสามคนก็เคยกินข้าวด้วยกันอยู่หลายครั้ง แล้ว อีกอย่างเธอก็ไว้ใจหันเฉิน
สวี่โน่หย่าพยักหน้าตอบแอบดีใจ เดินเข้าไปจับมือเธอ “แค่พวก เธอไม่รังเกียจฉันก็พอแล้ว!”
หลายนาทีผ่านไป เพิ่งหวั่นซิงและสวีโน่หย่าก็ออกจากสถานีไป พร้อมกัน
จากที่ไกล เซิ่งหวั่นซิงก็เห็นรถที่จอดข้างทาง และลู่หันเฉินที่ ยืนพิงประตูรถอยู่
“หันเฉิน” เซิ่งหวั่นซิงตะโกนเรียกเขา
ไม่รู้ว่าเพิ่งหวั่นซิงคิดไปเองหรือเปล่า เธอเห็นลู่หันเฉินที่มองมา ทางตัวเอง เหมือนมีสีหน้ารู้สึกผิดวับผ่านไป เห็นได้ชัดว่าร่างกาย ของเขาแข็งทื่อไปสักพัก
“หันเฉิน ไม่ถือสาที่โน่หย่าไปกับเราใช่ไหม?”
“ไม่ถือสาอยู่แล้ว!”
“งั้นก็ดีเลย” เซิ่งหวั่นซิงยิ้มพยักหน้า แล้วนึกถึงพฤติกรรมที่ แปลกๆของเขาเมื่อกี้ “เมื่อกี้คุณเป็นอะไรหรือเปล่า เหมือนไม่ ค่อยสบาย?”
“เปล่าครับ พอดียืนนานเกินไปขาเลยชา” ลู่หันเฉินยิ้มอ่อนๆ ความเคยชินที่ลูบหัวเธอ เปิดประตูรถ “ขึ้นรถกัน
เพิ่งหวั่นซิงโน้มตัวเข้าไปในรถ ไม่ทันได้สังเกต ตอนที่สวีโน่ หย่าเดินไปอีกทาง ปลายนิ้วของเธอนั้นได้ไปสัมผัสกับหลังมือ ของลู่หันเฉิน ยิ้มให้เขาหนึ่งครั้ง หลังจากนั้นก็จับกระเป๋าเข้าไป ในรถ
10นาทีผ่านไป รถขับไปจอดอยู่ทางทิศตะวันตกตรงหน้าร้าน อาหาร
เพิ่งหวั่นซิงถือว่าเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ กำลังเดินเข้าประตู เถ้าแก่ก็รีบเดินออกมาทักทาย จัดที่นั่งมุมๆที่มีกระถางบังอยู่ให้ พวกเขา เพื่อจะไม่ถูกรบกวนได้ง่าย
“พวกคุณสั่งก่อนเลย เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อน” เพิ่งหวั่นซิง วางกระเป๋าลง ลุกขึ้นเดินไปทางห้องน้ำ
เซิ่งหวั่นซิงเพิ่งจะก้าวเท้าเดินออกไป สวีโน่หย่าที่แกล้งเปิดดู เมนูอาหารก็อดใจไม่ไหว เอียงตัวเข้าไปดึงเนคไทของลู่หันเฉิน เข้ามา แล้วจูบลงไปแรงๆ
“อย่าทํา!” ลู่หันเฉินก็ผลักสวีโน่หย่าออกไปอย่างรวดเร็ว มองไป รอบๆ พูดเสียงเบาๆว่า “ร้านนี้ หวั่นซิงเขามาเป็นประจำ มีแต่คน รู้จัก เดี๋ยวถ้ามีคนเห็นมันจะไม่ดี
“ก็ฉันคิดถึงคุณนี่หน่า
สวีโน่หย่าเม้มปากแดงๆของเธอ ร้องงอแง ขาที่อยู่ใต้โต๊ะยังคง เตะไปที่ขากางเกงของเขา “คุณก็รู้จักแต่หวั่นซิง หวั่นซิง ช่วงนี้ คุณก็ไม่มาสนใจฉันเลย หลายวันมานี้ ฉันเอาแต่อาเจียน กินไม่ดี นอนไม่หลับ ทํคุณหล่ะ ไม่เห็นใส่ใจฉันบ้างเลย!”
“โอ๋ๆ ทนอีกหน่อยนะ” ลู่หันเฉินกุมมือของเธอที่วางอยู่บนโต๊ะ พูดอย่างอ่อนโยนว่า “เดี๋ยวคนนี้ผมไปหาคุณนะ ไปอยู่เป็นเพื่อน กับคุณและลูก”
“ฉันอยากจะให้คุณจูบฉัน”
สวีโน่หย่าไม่ได้รอให้ลู่หันเฉินพูด เธอก็ลากเขาเข้ามาจูบ
ลู่หันเฉินก็ตามใจเธอสักหน่อย รอบนี้ไม่ได้ผลักออก แต่หยิบ เล่มเมนูขึ้นมาบังไว้แทน ทั้งสองคนจูบกันอยู่นานสองนานถึง ค่อยแยกออกจากกัน
จูบไปอยู่นานแสนนาน ร่างกายของลู่หินเฉินเริ่มเกิดอารมณ์ ข่วนจมูกของเธอเบาๆ “ยัยตัวแสบ คอยดูว่าคืนนี้ผมจะจัดการกับ คุณยังไง”
“คุณคิดว่าฉันกลัวหรอคะ?” สวีโน่หย่ายิ้มยั่ว แล้วก็ทําปากจู่ๆถาม ขึ้นว่า “อ้อ ใช่แล้ว เรื่องของคุณกับหวั่นซิงเมื่อไหร่จะจบกันหล่ะ คะ จะโยนเราสองแม่ลูกไว้ข้างนอกอย่างนี้ต่อไปไม่ได้แล้วมั้ง?”
“รออีกหน่อย” พอพูดถึงเรื่องนี้ลู่หันเฉินก็รู้สึกลำบากใจ พูดว่า “คุณปู่กับแม่ก็กำลังกดดันให้ผมรีบแต่งงานกับหวั่นซิง”
ตอนที่ได้ยิน สวีโน่หย่าสีหน้าเย็นๆ “คุณจะแต่งงานกับหวั่นซิง? แล้วฉันหล่ะ?”
“โอ๋ อย่าโมโหสิ” ลู่หันเฉินปลอบเธอแล้วพูดว่า “เรื่องงานยังไง ก็ต้องแต่งอยู่แล้ว คุณก็รู้ ว่าพ่อของเธอมีหุ้นในบริษัทBosonอยู่ ไม่น้อย อีกอย่างก็สัญญษไว้ว่า ถ้าผมแต่งงานกับหวั่นซิง หุ้นส่วน ส่วนนี้ก็จะกลายเป็นของผม
ตั้งแต่คุณปู่เกษียณไป หุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทBosonก็อยู่ในมือ ของลู่ นสิง ทํามาหลายปี ลู่หั่นเฉินก็เป็นได้แค่ผู้จัดการ หุ้นใน มือก็มีน้อยเหลือเกิน
รุ่นนี้ของบ้านลู่ ก็มีแต่เขานี่แหละที่เป็นเด็กที่สุด ไม่ว่าจะพูดยังไงบริษัท Bosonก็ควรที่จะเป็นของเขา แต่คุณปู่ก็ดันบอกว่าเขา มีประสบการณ์ยังไม่มากพอ ลู่ชื่นสิงก็ไม่ยอมขายหุ้นให้ ในใจ ของลู่หันเฉินก็เลยรู้สึกไม่มั่นคง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ