ฟาร์มร้อนอ้อนรัก

คุณอาขารักหนูหน่อย ตอนที่ 3



คุณอาขารักหนูหน่อย ตอนที่ 3

เด็กสาวอวบอัด ผิวขาวอมชมพู เชียงใบหน้าไร้เดียงสามอง เขาด้วยความสงสัยใคร่รู้ตลอดเวลา ทว่าความไร้เดียงสาของ หล่อนกลับกลายเป็นแรงยั่วเย้าให้เขาเพิ่มความใคร่ในตัวหล่อน เพิ่มขึ้นๆ

ทุกวีรกรรมที่หล่อนทำหากมองแบบโลกสวยวิ่งอยู่กลางทุ่ง หญ้าสะวันนาหรือทุ่งลาเวนเดอร์ ก็ต้องมองว่านั่นคือความไว้ เตียงสาของเด็กสาวที่กำลังก้าวผ่านจากวัยสาวน้อยไปเป็นสาว รุ่นเต็มตัว

ทว่าหากมองแบบสายตื่นจัดหนักก็มองว่านั่นน่ะอ่อยชัดๆ แล้วใครจะไปทนได้ เขาคนนึงแหละที่ทนไม่ได้ แล้วจากนี้ไปอีก ๒ เดือน กว่ามหาวิทยาลัยจะเปิดภาคเรียน เขาจะทนอยู่กับ หล่อนแบบมีระยะห่างตลอด ๒๔ ชั่วโมงได้ยังไง

เขามีเลือดเนื้อ แข็งไปทุกส่วน ไม่ใช่พระอิฐพระปูน รวมทั้ง หล่อนก็ไม่ใช่ภาพวาดหรือรูปปั้น แต่หล่อนสาวสวยเต่งตึงไปทั้ง ร่าง แม้พยายามห้ามใจว่านั่นคือลูกสาวของพี่เขย แต่เขาจะทน ได้สักกี่น้ำล่ะ…

ใช่… สักกี่น้ำ น้ำเดียวก็ยังไม่ได้ปลดปล่อย

“เอาไงล่ะไอ้เสือ นี่เครียดจนอยู่ไม่ติดบ้านเลยรึไง เป็นเอา มากนะเนี่ย” ไวทย์เหลือบมองปัถย์ที่เข้าเขาไม่เลิก ก่อนจะสาดเหล้าเข้า ปากหมดแก้วจากนั้นก็คว้าขวดมาเติมลงอีก

“เฮ้ยๆ ไม่พูดไม่จา แต่แตกไม่ยั้ง นี่เอ็งมีแผนอะไรเปล่าเนี่ย

“แผนอะไรวะ”

“อ้าว… ก็แผนทําเป็นเมาแล้วปล้ำสาวไง”

“เฮ้ย! ไอ้บ้าปัดย์ ข้าไม่คิดทำแบบนั้นหรอก”

“อ้อ… เอ็งมันชอบแบบรู้ตัว ไม่ชอบแบบเมาๆ

“ไอ้ห่าปัถย์ พี่บูรณ์ช่วยผมด้วย ไอ้บ้าปัตย์มันแกล้งผม

น้ำเสียงอ่อนใจพูดกับบูรณ์ แต่ที่เห็นคือบูรณ์ส่ายหน้ายักคิ้ว ให้ปักษ์แบบเห็นด้วยว่าเขาเป็นเอามากจริงๆ นั่นทำให้เขายิ่งท้อ เพราะแม้แต่บูรณ์ก็ไม่ช่วยเขาคิด

“แม้แต่พี่บูรณ์ก็เห็นด้วยกับมันเหรอ”

พี่ชายของเพื่อนทำเสียงขำขันเขาในลำคอ นั่นทำให้เขา สาดเหล้าเข้าสู่คออีกแก้ว

“พี่ไม่ได้เห็นด้วยกับเจ้าปัถย์ แต่เอ็งมีอะไรเอ็งก็พูดออกมา ไม่ใช่เรื่องที่เอ็งจะมานั่งเครียดนั่งกลุ้มอยู่แบบนี้ เสียเชิงหนุ่ม ใหญ่ใจสปอร์ตหมดวะ ว่าไง… สรุปว่าเอ็งอยากจะกินเด็กมันหรือ เปล่า”

ไวทย์ยังคงหน้าเครียด เหลือบมองพี่ชายเพื่อนนิดเดียวก่อน จะกระดกเหล้าไม่ยั้ง ผิดกับตอนที่ก้อร่อก้อตึกเจ๊แหม่มเป็นคนละ คน

“นี่เองคิดอยากกินเด็กมันจริงๆ ใช่มั้ย”

“โห… อย่างนี้ยังต้องถามอีกเหรอพี่บูรณ์ ดูมัน กระดูก เอาๆ แบบนี้ นี่คงกะเมาแล้วทำอะไรไม่ผิดมั้ง

ปัตย์ยิ้มส่ายหน้าไม่สนใจสายตาของไวทย์ที่มองมาอย่าง เอาเรื่อง ก่อนจะกดเล่นเพลงที่เลือกเอาไว้พร้อมกับหันไปบอก รณ์ “อย่าไปสนใจมันเลยพี่ มันอยากเมาก็ให้มันเมาไป เราร้อง เพลงกันดีกว่า เอ้า! เอาไปคนละตัว

ปัถย์ยืนไมโครโฟนอีกตัวให้บูรณ์ และวางอีกตัวไว้บนโต๊ะ ตรงหน้าไวทย์ แต่แค่อินโทรเพลงขึ้นไวทย์ก็หันมามองตาเขียว เพราะนั่นมันเพลง เด็กมันยั่ว ของพี่ยอดรัก สลักใจ

แน่นอนว่าบทเพลงนี้หนุ่มเต็มวัยใจกระล่อนอย่างพวกเขา ชอบมาก เพราะเป็นเพลงโปรดที่ต้องร้องทุกครั้งเมื่อมาเยือนที่นี่ แต่ตอนนี้ไม่อยากฟังว่ะ ไวทย์เอื้อมมือคว้ารีโมทกดปิดทันที

“เฮ้ย! อะไรวะไวทย์ ข้าจะร้องเพลง

“ไม่ให้ร้องโว้ย! เพลงอื่นมีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องมาร้อง

เพลงนี้ด้วย”

“ก็ข้าอยากร้องนี่หว่า ถามอะไรเองก็ไม่พูด ข้าขี้เกียจถาม ข้าก็ร้องเพลงน่ะสิ แล้วทำไมถึงร้องเพลงนี้ไม่ได้วะ เอ็งนั่นแหละ ตัวชอบเลย เด็กมันยั่วเลยหลวมตัวไปหน่อย อะอะอะ… นี่ หมายความว่า…” ปัถย์ที่ทำท่ายักไหล่และร้องเพลงโดยสร้างท่วงทํานองให้ตัว เอง สายตานกรู้นั่นทำให้เขาต้องเบือนหน้าหนีก่อนจะขวดเหล้าสู่ ล่าคออีกครั้ง

“ไอ้หมอ เอ็งหันมาเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องมาหลบตาเลย ว่าไง! เฮ้ย… สรุปนี่เอ็งหลงรักเด็กในสังกัดเข้าแล้วเหรอวะ

ไวทย์หน้ามุ่ยมากกว่าเดิม สาดเหล้าเข้าลำคอไม่ตอบ

คําถาม

“ไม่ตอบงันข้าร้องเพลงต่อ

“เฮ้ย! ไม่ได้นะ ห้ามร้อง

ปัถย์กดหยุดเพลง หันมองหน้าเพื่อนเขม็ง “เลือกเอาไวทย์ เอ็งจะเล่าหรือเอ็งจะให้ข้าร้องเพลง นี่พี่บูรณ์กินกับแกล้มจนจะ อิ่มอยู่แล้วเนี่ย ยังไม่ได้ร้องสักเพลง พอเองเข้ามาก็เอาแต่ทำ หน้าเง้า ไม่เห็นหน้าระรื่นเหมือนตอนคุยกะเจ๊แหม่มเมื่อกี้เลยว่ะ สรุปว่าเอ็งจะเล่าหรือไม่เล่า ถ้าไม่เล่าข้าไม่รอแล้วนะโว้ย! โตจน หมอ… จะหงอกหมดแล้ว ยังมาทำเล่นตัวเป็นเด็กไปได้ เล่ามา

“เออๆ เล่าก็ได้”

“พูดมาให้ไว พูดมาให้หมด ศิราณีมีหุ้นอย่างพี่จะไขความ รักให้เอ็งเอง”

ดวงตาคมปูนขั้นตวัดมองคนพูดเข้าที่นั่งพิงโซฟาพาดแขน ไว้กับพนักแบบสบายๆ ท่าทางเหมือนไม่ได้อยากรู้เรื่องของเขา เท่ากับปัถย์ แต่ความสุขุมนั้นต้องแก้ปัญหาให้เขาได้แน่ “ขอบคุณครับพี่บูรณ์”

“ขอบคุณขาด้วย ข้าเป็นเพื่อนนะเว้ย! และวันนี้ข้าก็เป็นคน

ชวนพี่บูรณ์มาด้วย”

“เออ…วะขอบใจ”

ไวทย์กระดกเหล้าเข้าปากอีกอีกใหญ่ เพื่อเรียกความกล้า ของตัวเองออกมา เดิมที่เขาไม่ใช่คนขี้อายแบบนี้หรอก เขากล้า พูดกล้าแสดงออกเสียด้วยซ้ำ แต่สำหรับเรื่องของหนูหน่อยนั่น ทำให้เขาไม่กล้า เขากลายเป็นคนหวาดหวั่นกับแรงยั่วเย้าที่หนู หน่อยกระทำทุกวัน แม้จะบอกตัวเองว่านั่นก็เป็นเรื่องปกติที่เด็ก สาวจะทำอย่างนั้น แต่พอเอาเข้าจริงเขาก็อดคิดไม่ได้หรอก ก็มัน น่าคิดมากมาย

ยิ่งได้ยินคนงานในฟาร์มพูดคุยกันว่าเขา เลี้ยงต้อย หนู หน่อยเอาไว้กินเอง หรือไม่เขากับหนูหน่อยคงแอบได้เสียเป็น เมียผัวกันเรียบร้อยแล้ว ไม่อย่างนั้นจะมีพ่อแม่ที่ไหนกล้าส่งลูกที่ เป็นสาวเต็มตัวให้มาอยู่กับเขาที่ฟาร์มสองต่อสองแบบนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ