แผนร้ายปวดใจ เล่ห์รักนายเพลย์บอย

ตอนที่ 14 จับเธอไปไว้บนเตียง



ตอนที่ 14 จับเธอไปไว้บนเตียง

ซูฉิงเม้มริมฝีปาก มือก็เลือกหยิบเสื้อที่อยู่บนสุดขึ้นมา และลุกขึ้น เดินไปห้องน้ำ เมื่อก่อนเสื้อผ้าสําหรับเธอแล้วขอแค่ตัวที่ใส่ สบายก็พอแล้ว ทั้งรูปแบบและสีสันล้วนไม่ได้ใส่ใจเลือกนัก

โดยเนื้อแท้แล้ว ตั้งแต่เด็กเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เลือก เดิมที มักได้เสื้อผ้าที่ตัวเล็กแล้วของพี่สาวที่เป็นครอบครัวของคุณลุง เสมอ เสื้อผ้าที่ใส่ไม่ได้ก็จะเอามาให้เธอใส่ต่อ บางตัวที่พี่สาวไม่ ชอบใส่แล้ว หรือบ้างก็เป็นตัวที่มีคราบหมึกเปื้อนก็จะโยนมันมา ให้เธอ

เธอแทบจะไม่เคยได้สวมใส่เสื้อผ้าใหม่ๆ เลย มีเพียงครั้งแรก และครั้งเดียวเท่านั้น ในตอนวันเกิดอายุสิบหกปีของเธอ คุณยาย ซื้อกระโปรงตัวใหม่ให้เธอ แต่ทว่าเมื่อโดนป้ากับพี่สาวรู้เข้า พี่ สาวก็ร้องไห้ไปหลายวัน สุดท้ายก็ต้องฉีกกระโปรงทิ้งเพื่อให้ เรื่องนี้จบลง

หลังจากนั้น เธอก็แอบกอดกระโปรงตัวนั้นร้องไห้ตลอดทั้งคืน ตั้งแต่นั้นมา เธอก็ไม่กล้าที่จะสวมใส่เสื้อผ้าที่ดูดีอีกเลย เธอกลัว ที่จะทำให้คุณยายกับคุณลุงต้องลำบากใจ กลัวที่จะได้ยินเสียง ทะเลาะของคุณป้า กลัวที่จะเห็นพี่สาวของเธอร้องไห้ได้แต่ หัวเราะเยาะตัวเองที่เป็นแบบนี้ในภายหลัง

กระทั่งหลังจากที่เธอเรียนมัธยมปลาย เริ่มทำงานไปด้วยเรียน ไปด้วย และไม่เคยใช้เงินของที่บ้านแม้แต่นิดเดียว แม้กระทั่งซื้อเสื้อผ้าก็ยังเลือกตัวที่เรียบที่สุด เพราะกลัวว่าจะทำให้ที่บ้านเกิด ความขัดแย้งขึ้นมาอีก

หลังออกมาจากห้องน้ำ ซูจึงใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมที่เปียกชื้น และก้มมองเสื้อผ้าที่ตัวเองสวมใส่อยู่ ชุดเดรสสีขาวล้วน เป็น สไตล์แบบไม่เปิดเผยผิวหนัง ชุดเดรสแบบปิดทุกอย่าง) เนื้อ สัมผัสก็สวมใส่สบาย

ไม่น่าเชื่อว่าน่ารำคาญอย่างเดียวจึงเช้า จะตาถึงเลือกเสื้อผ้า ได้ดี และยังขนาดพอดีตัวเธอเลยด้วย มันเหมือนกับถูกตัดมา เพื่อเธอ โดยเฉพาะ เขารู้ขนาดรูปร่างของเธอได้เป็นอย่างดี

เมื่อส่องกระจกดูเธอก็ต้องย่นจมูก ซูจึงตัดสินใจว่าจะต้อง ทำให้ผมที่เปียกชื้นของตัวเองแห้งให้เร็วขึ้น เธอยังจำข้อตกลง เมื่อคืนระหว่างเธอกับเชียวจึงเช้าได้ เช้าวันนี้จะต้องไปส่งเธอ กลับเมือง เธอไม่อยากจะอยู่ที่นี่นานขึ้นแม้แต่เพียงนาทีเดียว

ขณะที่หาเครื่องเป่าผมไปทั่วห้อง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นหนึ่ง ครั้ง

ทันใดนั้นซูฉิงก็ต้องประหลาดใจ อดคิดไม่ได้ว่าเมื่อคืน ง มิงเข้ามาภายในห้องได้อย่างไร ราวกับว่าภาพนั้นก็ยังอยู่ตรง หน้า ทำให้มือทั้งคู่ของเธอรู้สึกเกร็ง เธอหยิบแจกันที่วางอยู่บน โต๊ะขึ้นมา ถือเอาไว้ระดับอก ดวงตาทั้งคู่จับจ้องไปที่ทิศทางของ ประตู

ถ้าหากด้านนอกประตูคือเชียวจึงเท้า เขาจะต้องใช้คีย์การ์ด เปิดเข้ามาแล้ว การที่ต้องมาเคาะประตูแบบจะต้องไม่ใช่เขาอย่างแน่นอน เพราะว่าบทเรื่องของสังหมิงก่อน ดังครั้งเธอระมัดระวังก็ทำเหมือนคนในห้อง

เสียงเคาะดังไม่ครั้ง คนอยู่ด้านนอกเริ่มร้อนใจ เสียง คุยดังขึ้นเธอแน่ใจไหมว่าคุณชายเชียวอยู่ใน

อืม ฉัน กับเห็นกับตาเลยคุณชายเข้าไปในห้องนี้” ผู้หญิงอยู่ ด้านนอกของประตูพูดอย่างมั่นใจ

“ทำไมคุณชายเชียวถึงตกขนาดนี้ ถึงอยู่ในห้องพักจะพังแบบผู้หญิงที่ร้อนใจเป็นเปิดปากแรงเคาะประตูยิ่งเพิ่มขึ้นอีก

คนอยู่ด้านนอกประตูเป็นผู้หญิง ? !

เมื่อได้ยินบทฉิงผ่อนระวังลง วางดอกไม้ในมือลงบนโต๊ะ โดยพยายามไม่ให้เกิด เสียง

เคาะตั้งนานแล้ว ทำไมมาเปิดประตูล่ะ!” หญิง สาวหยุดจะเคาะประตู แล้วเริ่มบ่นด้วยความไม่พอใจ

“ถ้าอย่างฉันไปหาพนักงานแล้วขอคีย์การ์ดห้องน่ากว่า

“ทําไมรีบบอก รีบไปเร็ว!
คิ้วเรียวสวยของซูฉิงค่อยๆ เลิกขึ้น ดูแล้วถ้าหากสองคนนี้ไม่ ได้เข้ามาดูในห้องเองด้วยตัวเอง ก็คงจะดึงดันอยู่ต่อแน่ แล้ว แบบนี้กำหนดการก็จะยิ่งล่าช้าออกไป กลัวว่าพอกลับถึงเมืองก็ ดงมีด ไปแล้ว

เธอกัดริมฝีปากอีกครั้ง จ้องไปที่นาฬิกาบนฝาผนัง จากนั้นก็ หยิบโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะ แล้วพุ่งเข้าไปในห้องน้ำ ค้นหา หมายเลขโทรศัพท์ของเซียวจึงเท้า หมายเลขนี้โดนเขาบังคับให้ เมมไว้ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในรถวันนั้น ไม่เคยกดโทรไปเลย ไม่คาด คิดว่าวันนี้จะถึงเวลาที่ต้องพึ่งมันแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ