เสน่หาเมียนอกหัวใจ

บทที่9 เผลอไป (จูบแรก)



บทที่9 เผลอไป (จูบแรก)

วันต่อมา

ทันทีที่บัวตองรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับปายเมื่อคืนเธอก็ตกใจ โชคดีที่นัทไป ช่วยไว้ได้ทันก่อนที่ปายจะโดนทำร้ายร่างกาย แต่เธอก็อดแปลกใจไม่ได้ ว่านัทรู้ได้ยังไงว่าปายจะไปที่นั้น เธอจึงหันไปจ้องหน้านัทด้วยความสงสัย

“บัวมีอะไรหรือเปล่า” นัทเอ่ยถามขึ้น

“เปล่า เราแค่สงสัยว่านัทรู้ได้ยังไงว่าปายอยู่ที่ผับนั่น แถมยังไปช่วยไว้ ใ ทันอีก”

“มันก็แค่เรื่องบังเอิญน่ะ”

“แน่ใจ” บัวตองเอียงหน้าถาม

“อืม แน่ใจสิ”

“ช่างเถอะ ว่าแต่นัทกับป้ายหยุดทะเลาะและคุยดีๆ กันได้แล้วใช่ไหม”

“อืม”

“นัทว่าปายเป็นยังไงบ้าง”

“หมายความว่ายังไง

“เราเห็นว่าทุกครั้งที่เกิดเรื่องขึ้นกับปายนัทก็จะเป็นคนไปช่วยเหลือ ตลอดเลย นัทเคยมีความรู้สึกชอบปายบ้างหรือเปล่า”

“อย่าถามอะไรที่มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย บัวก็รู้ดีว่าเราขอบบัว”

“บัวเคยถามบ่ายนะ ว่าเคยแอบชอบใครไหม ปายบอกว่าเคยแอบชอบ ผู้ชายคนหนึ่งอยู่ แต่เขาไปชอบผู้หญิงอีกคน ปายเขาก็เลยพยายามตัดใจ อยู่ แต่ไม่รู้นะว่าจะทำได้ไหม”

“แล้วบัวมาบอกเราทำไม

“น่าเสียดายนะ ที่ผู้ชายคนนั้นยังไม่รู้ตัว” บัวตองจ้องหน้านท

“ไร้สาระน่า “นัทรีบหันหน้าหนีหลบสายตาบัว

“คุยอะไรกันอยู่เหรอ เอาน้ำมะม่วงปั่นของนัท แล้วก็น้ำแตงโมปั่น ของบัว ” ปายเดินเข้ามาที่โต๊ะพร้อมกับวางน้ำผลไม้ปั่นลงตรงหน้าเพื่อน ทั้งสองคน

“รักกันแล้วใช่ไหม ถึงได้ซื้อน้ำปั่นมาให้เขาได้นะ” บัวตองเอ่ยแซวปาย พร้อมกับมองหน้าปายกับนัทสลับกันไปมา

“จะบ้าเหรอบัว นัทเขาเป็นเพื่อนฉัน ฉันจะซื้อน้ำมาฝากก็ไม่เห็นแปลก

อะไรเลย อีกอย่างนัทก็เป็นคนช่วยฉันเมื่อคืน แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ”

“จ้ะ ดีกันแล้ว ก็อย่าทะเลาะกันอีกล่ะ”

“ไม่หรอก นัทเขารับปากฉันแล้ว” ปายมองหน้านัทพร้อมกับส่งยิ้มให้

“จริงเหรอนัท”

“อืม” นัทรับคําในลำคอ

“ดีจังเลย อีกหน่อยก็คงจะสมหวังกันแล้วล่ะ” บัวตองยิ้มกว้าง
“อะไรนะ!” นัทกับชายถามบัวตองพร้อมๆ กัน

“แหม ใจตรงกันขนาดนี้ รักกันเลยไหมล่ะ” บัวตองหัวเราะขบขันมองนัท กับปายไปมา

“บัวเธอพูดอะไรของเธอ” ปายขมวดคิ้วเข้าหากัน “นั้นสิ อย่าคิดในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้เลย ขอตัวนะ” พูดจบนัทก็ลุกเดิน

ออกไปหน้าตาเฉย

ปายได้แต่มองตามหลังชายหนุ่มด้วยความรู้สึกสิ้นหวังในใจเท่านั้น

ช่วงเย็นหลังเลิกเรียนทันทีที่บัวตองกลับถึงบ้าน เธอก็ตรงเข้าไปในครัว ลงมือท่าน้ำพริกปลาทูของโปรดของวินไว้รอ จนถึงเวลามื้ออาหารก็ไม่มี วี่แววว่าวินจะกลับมาสักที บัวตองกับเนตรนภาจึงนั่งทานด้วยกันเพียงสอง คน ส่วนวันนั้นเขาไม่ได้โทรมาบอกที่บ้านเลยว่าจะกลับกี่โมง

หลังทานมื้อเย็นเสร็จบัวตองก็กลับขึ้นห้องด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยวทรุดตัว นั่งลงบนเตียงพร้อมกับถือโทรศัพท์ไว้ในมือด้วยความลังเลในใจว่าเธอจะ โทรหาชายหนุ่มที่เธอรอเก้อดีไหม แต่สุดท้ายเธอก็แพ้ให้ความรู้สึกภายใน ใจมากกว่า จึงตัดสินใจโทรหาชายหนุ่มรอสายสักพักปลายสายก็รับ

“ฮัลโหล เธอโทรมามีอะไรหรือเปล่า” เสียงทุ้มกรอกผ่านสาย

“พี่สะดวกคุยไหมคะ” บัวถามด้วยความเกรงใจ

“อืม มีธุระอะไร ก็พูดมาสิ”

“เอ่อ พี่จะกลับบ้านกี่โมงคะ พอดีบัวทำน้ำพริกปลาทูไว้ให้พี่นะคะ
“วันนี้พี่ไม่กลับนะ จะค้างที่คอนโดสักคืน “แล้วน้ำพริกล่ะคะ บัวตั้งใจทําให้พี่เลยนะคะ” บัวตองถามเสียงอ่อน

“เอาเก็บไว้ก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะกลับไปทาน

“ใครโทรมาเหรอคะ” มาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพใส่ชุดคลุม อาบน้ำ

“บัวโทรมานะ” วินตอบกลับหญิงคนรัก โดยที่ยังถือสายอยู่

บัวตองได้ยินเสียงหญิงสาวคนรักของชายหนุ่มลอดเข้ามาในสาย ชะงักนิ่งไปชั่วครู่ด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ในเมื่อทั้งสองคนรักกันจะ อยู่ด้วยกันก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรเลย แต่ตัวเธอเองนั้นแหละที่คิดอะไรไป ไกล

“พี่อยู่กับคุณมาเหรอคะ”

“อืม ใช่ ถ้าเธอไม่มีอะไรแล้วฉันขอวางสายก่อนนะ”

“ค่ะ” รับคำเสียงแผ่วเบา

สี่ปีต่อมา

ณ บ้านไกรณรงค์ตรงบริเวณรอบสระว่ายน้ำถูกตกแต่งไปด้วย แสงไฟ

ระยิบระยับและลูกโป่งหลากสีสันช่วยให้บรรยากาศงานเลี้ยงฉลองเล็กๆ

ให้กับความสำเร็จของบัวตองให้มีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น ทุกคนใน

บ้านต่างก็หามุมนั่งทานเครื่องดื่มและอาหารกันตามอัธยาศัย เพราะจัด

เลี้ยงกันแค่คนในครอบครัวเท่านั้น จะมีก็แต่นพพลและปายกับนัทเท่านั้นที่

เป็นคนนอก ส่วนมาเธอก็เป็นเหมือนกับคนในครอบครัวไปแล้วถึงจะยังไม่ได้เข้าพิธีกับวินตามประเพณีก็ตาม

ภายในห้องรับแขกบัวตองกำลังนั่งแกะของขวัญที่เนตรนภามอบให้เธอ ด้วยความตื่นเต้น พอแกะออกได้สำเร็จเธอก็หยิบสิ่งที่อยู่ในกล่องออกมา ด้วยความตื้นตันใจ มือบางจับสร้อยเพชรเส้นเล็กเพ่งมองด้วยรอยยิ้ม กว้าง

“สวยมากเลยค่ะ”

“แม่ดีใจนะที่บัวชอบ ของขวัญจากแม่สําหรับคนเก่งจ๊ะ” เนตรนภาลูบ ศรีษะบัวตองเบาๆ มองด้วยสายตาที่อ่อนโยน เธอดีใจที่บัวตองเรียนจบ แถมยังสวยขึ้นทุกวัน

“ขอบคุณนะคะ บัวรักแม่ที่สุดเลยค่ะ” บัวตองสวมกอดเนตรนภาไว้แน่น ยิ้มมีความสุข

“แม่ก็รักบัวมากจ๊ะ มาแม่ใส่ให้” เนตรนภาหยิบสร้อยสวมใส่ที่คอให้บัว

ตองทันที

“เป็นไงคะ สวยเหมาะกับบัวไหมคะ” บัวตองถามพลางจับสร้อยที่สวม

อยู่ที่คอของตนเองด้วยความไม่มั่นใจ

“เหมาะและสวยมากที่สุดเลยลูก แม่เป็นคนเลือกเองกับมือ ยังไงก็ เหมาะและคู่ควรกับลูกสาวแม่อยู่แล้วจ๊ะ” เนตรนภาพูดให้ความมั่นใจ พร้อมกับส่งยิ้มให้

“ขอบคุณนะคะ ที่รักและเอ็นดูบัวมาตลอดหลายปีจนบัวมีวันนี้” บัวตอง เอ่ยเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอเมื่อนึกถึงตากับยาย

“หนูต้องเข้มแข็งนะลูก ต่อไปจะได้เป็นเสาหลักให้ตากับยายนะรู้ไหม”

“ค่ะ บัวจะตั้งใจทํางานเพื่อตากับยายจะได้สุขสบาย”
“มันต้องอย่างนี้ลูกสาวแม่ ออกไปดื่มฉลองความสำเร็จของตนเองกับ เพื่อนๆ ข้างนอกเถอะลูก เดี๋ยวเพื่อนจะรอนาน

“ค่ะ คุณแม่” บัวตองยิ้มทั้งน้ำตา

เนตรนภาเห็นอย่างนั้นก็ปาดเช็ตน้ำตาให้กับบัวตองอย่างอ่อนโยน จาก นั้นบัวตองก็เดินตรงไปยังริมสระว่ายน้ำเข้าไปนั่งลงร่วมโต๊ะกับชายและนัท ที่นั่งรออยู่ ทันทีที่บัวตองเข้ามานั่งร่วมโต๊ะนัทก็มองเธอไม่วางตาเพราะวัน นี้เธอแต่งตัวสวยเป็นพิเศษด้วยชุดเดรสสีฟ้าอ่อนเปิดไหล่สั้นเพียงหัวเข่า ยิ่งปล่อยผมดำขลับยาวสยายถึงกลางหลังก็ยิ่งชวนให้น่าหลงใหล

“นัทมองเราแบบนั้นอีกแล้วนะ” บัวตองถามออกไปตรงๆ

“ก็วันนี้บัวสวยเป็นพิเศษนี้”

“นายชมแต่บัว ไม่เห็นจะชมฉันบ้างเลย” ปายบนหน้างอ

“นั้น วันนี้ปายก็สวยไม่แพ้เราหรอกนะ”

“หึ ก็งั้นๆ แหละ” นัทหัวเราะขบขัน

“เป็นเพื่อนกันมาก็ตั้งหลายปี ฉันไม่เคยสวยในสายตาของนายเลยนั้น สิ” ปายก้มลงสำรวจชุดของตนเอง วันนี้เธอใส่เดรสสั้นสายเดี่ยวสีน้ำตาล ช่วยขับผิวของเธอให้ขาวผ่องขึ้น

“เธออย่ามาพูดเรื่องไร้สาระให้เสียบรรยากาศเลยน่า” นัทส่ายหน้า “ก็ได้ ฉันขอตัวไปเติมหน้าทาปากในห้องน้ำก่อนนะ” ปายรีบลุกออกไป ด้วยใบหน้างอ
“นัทเราถามจริงๆ เถอะ ปายไม่เคยอยู่ในสายตาของนัทเลยเหรอ” บัว ตองเปิดประเด็นขึ้น

“เอาอีกแล้วนะบัว อย่าพยายามจับคู่เรากับปายเลย

“นี่มันก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว นัทดูไม่ออกจริงๆ เหรอ ว่าปายเขาแอบ ชอบนัทอยู่”

“ชอบแล้วยังไง”

“นัทรู้มาตลอดเลยเหรอ!” บัวตองตกใจตาโต

“อืม” นัทพยักหน้ารับ

“รู้แล้วทำไมยังทำเฉยอยู่อีกล่ะ ระวังปายจะถูกผู้ชายคนอื่นตัดหน้าไป นะ”

“นัทได้ยินอย่างนั้นก็ชะงักนิ่งไปชั่วครู่ พร้อมกับนึกถึงหนุ่มๆ ที่

เข้าหาปายตลอดเวลาหลายปีมานี้

“บัวว่าที่ปายไม่ยอมคบกับผู้ชายคนไหนที่เข้ามาจีบ เพราะว่ารอนัทอยู่

แน่ๆ เลย ว่าไหม”

“บัว ดื่มอันนี้เป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ” ปายเดินเข้าไปที่โต๊ะพร้อมกับถือ เครื่องดื่มสองแก้วที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ยื่นไปให้บัวหนึ่งแก้ว

“ได้” บัวยื่นมือไปรับแก้วเครื่องจากมือปายแล้วยกขึ้นมาดื่ม

“เป็นไงอร่อยไหม” ปายถามพร้อมกับยิ้มกว้าง

“นี้มันเหล้านนา ปายเธอแกล้งฉันเหรอ” บัวตองพูดพลางทำหน้าบิด เบี้ยวให้กับรสชาติที่ไม่ถูกปาก
“ฮ่าๆ ฉันว่ารสชาติมันก็ไม่ได้อยู่นะ” ปายหัวเราะขบขันพร้อมกับกระดูก แก้วเครื่องดื่มลงคอจนหมดรวดเดียว

“ปายเธออย่าดื่มเยอะนะ เดี๋ยวก็เมาหรอก”

“ไม่หรอกน่า นิดๆ หน่อยๆ เอง”

“ตามใจ เธอมากับนัทนี้ งั้นก็ให้นัทรับผิดชอบก็แล้วกัน” บัวหันมามอง หน้า ท

“ถ้าไม่อยากให้ฉันไปเกะกะรถของนาย ฉันกลับเองก็ได้ ไม่รบกวนนาย หรอก” ปายเอ๋ยทีเล่นทีจริง

“หึ” นัทยกยิ้มมุมปาก

วันที่นั่งร่วมโต๊ะกับษาและนพพลถัดไปไม่ห่างมากนักก็เหลือบมองบัว ตองอยู่เป็นระยะ เพื่อจะหาโอกาสมอบของขวัญที่เขาเตรียมเอาไว้ให้เธอ แต่มาคิดดูๆแล้วให้หลังจากที่ทุกคนกลับไปจะดีกว่า เพราะเหลือเขาแค่คน เดียวที่ยังไม่ได้ให้เธอ

“นพ เดี๋ยวฉันฝากษากลับกับแกด้วยนะ” วินเอ่ยขึ้น

“อืม ได้สิ” นพรับคำพร้อมกับส่งสายตาเป็นประกายให้กับษาที่นั่งยิ้ม อยู่ข้ามกันกับเขา

“ว่าแต่วิน จะให้บัวไปเริ่มงานที่บริษัทเมื่อไหร่คะ”ษาเอ่ยถามขึ้น

“ก็เร็วๆ นี้แหละ ” พูดพลางกระดูกแก้วเครื่องลงคอ

“ษาดีใจด้วยนะคะ ที่กินได้น้องสาวที่เก่งและเป็นเด็กดีแบบนี้ คุณแม่คง ภูมิใจน่าดู”

“ครับ ขอบใจนะ” วินยิ้มรับ
“ษากับนให้ของขวัญบัวไปแล้วเมื่อตอนหัวค่ำ ไม่รู้ว่าบัวจะชอบหรือ เปล่า”

“ไม่ต้องกลัวหรอก ใครให้อะไรเด็กน้อยก็ชอบทุกอย่างนั้นแหละ วัน

หัวเราะขบขัน

“ไม่เด็กแล้วนะคะ อายุยี่สิบสี่ เป็นสาวเต็มตัวแล้วนะคะ” ษายิ้มหัวเราะ ตาม เพราะวันจะชอบเล่าเรื่องของบัวให้เธอฟังอยู่ตลอด

“ฉันว่าแกให้บัวเขามาทำงานกับฉัน ก็ดีนะ” นพพลพูดขัดวินกับมาด้วย ความไม่พอใจ

“ฉันขอคิดดูก่อนก็แล้วกันนะ” วินมองหน้านพพลด้วยความแปลกใจ เพราะสายตาที่เพื่อนมองมาเหมือนกำลังไม่พอใจอะไรเขาสักอย่าง

“อืม ตามใจนายเถอะ” นพพลพูดพลางกระดูกแก้วเหล้าลงคอ

มาเห็นท่าทางของนพพลแสดงสีหน้าไม่พอใจใน ก็เกิดความไม่สบาย ขึ้นมา เพราะเธอไม่อยากจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ทั้งสองคนทะเลาะหรือขุ่น เคืองกันในเวลานี้ แต่ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ เธอคงจะต้องทำใจถ้าหากคนทั้ง คู่จะต้องแตกหักกันเพราะเธอ ยิ่งคิดก็ยิ่งเกลียดและสมเพชตัวเองเหลือเกิน

เวลาล่วงเลยไปจนถึงห้าทุ่มทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ โดยที่วินฝากษา กลับกับนพพล ส่วนนัทกับปายกลับด้วยกัน บัวตองยืนมองรถของนัทแล่น ออกไปจนลับสายตา จากนั้นเธอก็เดินกลับเข้าไปในบ้านระหว่างที่กำลังจะ แทรกตัวเข้าไปข้างในห้องนอนเสียงทุ้มที่คุ้นเคยก็เอ่ยขึ้นทางด้านหลัง

“สร้อยทีคอสวยดี ”
“ค่ะ”บัวตองหันมายิ้มรับ

“ใครให้เหรอ”

“คุณแม่ให้เป็นของขวัญคะ สวยไหมคะ

“สวยสิ สวยมากเลย” วันจ้องมองใบหน้าเนียนไม่วางตา

“ขอบคุณค่ะ” บัวส่งยิ้มให้วิน

“ฉันขอเข้าไปข้างในหน่อยได้ไหม”

“เอ่อ มันจะดีเหรอคะ”

“พอดี ฉันมีของจะให้เธอนะ” พูดพลางเดินเข้าไปในห้องทันที

บัวตองเห็นอย่างนั้นก็ปิดประตูลงเดินไปหยุดตรงหน้าชายหนุ่ม วินจึงยื่น กล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินที่ซ่อนไว้ข้างหลังไปตรงหน้าของเธอ

“รับไปสิ ของขวัญจากฉัน”

“ขอบคุณค่ะ” ยื่นมือไปรับกล่องมาถือไว้พร้อมกับเปิดกล่องออก ทันทีที่ บัวตองเห็นสร้อยข้อมือเพชรเส้นขนาดเล็กข้างในเธอก็เบิกตาโตเป็น ประกายด้วยรอยยิ้มกว้างหันไปมองหน้าวิน

“เป็นยังไง ชอบไหม”

“ชอบค่ะ สวยมากๆ เลย”

“มาฉันใส่ให้” วันหยิบสร้อยออกมาจากกล่องแล้วสวมใส่ข้อมือด้าน

ซ้ายให้บัวตองช้าๆ

ระหว่างที่วินก้มหน้าใส่สร้อยข้อมือให้บัวตอง เธอก็แอบลอบมองใบหน้าอันหล่อเหล่านั้นด้วยหัวใจพองโต ยิ่งชายหนุ่มเข้า มาใกล้เธอมากเท่าไหร่หัวใจก็ยิ่งเต้นแรงเพราะความตื่นเต้น พอใส่เสร็จ วินก็เงยหน้าขึ้นจึงทำให้สบสายตาเข้ากับบัวตองที่มองเขาอยู่ก่อนแล้วเข้า จ๋งๆ

สายตาของคนทั้งคู่ต่างก็มองสบสายตากันด้วยความรู้สึกหลากหลาย สับสนในหัวใจ ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ทั้งสองคนยังคง รักษาระยะห่างอยู่ในสถานะพี่น้องกันด้วยดีมาตลอด ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะ ไม่เคยแทนตนเองว่าพี่กับเธอเลยก็ตาม

มือหนาค่อยๆ ยื่นไปแตะริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่ออย่างช้าๆ ด้วยความ หลงใหล ซึ่งเธอก็ยืนนิ่งไม่ขัดขืนหรือปฏิเสธสัมผัสจากมือหนาใดๆ มีแค่ ความเขินอายหน้าแดงก่ำเท่านั้น ในค่อยๆ ยื่นใบหน้าสากเข้าไปใกล้ๆ ใบหน้าเนียนจนใกล้กันแค่ลมหายใจ ไม่กี่อึดใจริมฝีปากหนาก็ประกบจูบ ริมฝีบางระเรื่อนั้นอย่างนุ่มนวล ทันทีที่ริมฝีปากหนาแตะดูดเม้มริมฝีปาก บางบัวตองก็เบิกตาโตด้วยความตกใจ

“อื้อ….พี่ทําอะไรคะ” บัวตองรีบผละออกจากร่างหน้าด้วยความตกใจ

“โทษที ฉันลืมตัวไปหน่อย” วินพูดพลางหันหน้าหนีไปอีกทาง

“ขอบคุณสําหรับของขวัญนะคะ ดึกแล้วพออกไปเถอะคะ บัวง่วงนอน แล้ว”

“ฉันขอโทษด้วยก็แล้วกันนะ ที่ฉันทำแบบนั้นกับเธอ อย่าให้คุณแม่รู้ เรื่องนี้เด็ดขาดเธอคงเข้าใจนะ”

“ค่ะ บัวเข้าใจ”
คล้อยหลังวินออกไปบัวตองก็ทรุดตัวนั่งลงบนเตียงพร้อมกับยกมือขึ้น มาแตะริมฝีปากของตนเองที่เพิ่งจะถูกจูบดูดเม้มไปหมาดๆ ด้วยใบหน้าที่ ร้อนผ่าวไม่เป็นตัวของตนเอง เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่ดินทำกับเธอเมื่อกว่ามัน เป็นอารมณ์ชั่ววูบหรือเพราะอะไร แต่ความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้นั้นก็คือ ชายหนุ่มมีคนรักแล้วซึ่งหมั้นกันมานานหลายปี

หลังจากบัวตองผลัดเปลี่ยนชุดนอนเธอก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง แต่กลับ

นอนไม่หลับเพราะอดนึกถึงจูบแรกจูบนั้นจากชายหนุ่มไม่ได้จริงๆ เพราะ

เธอไม่เคยถูกผู้ชายคนไหนสัมผัสแตะต้องเธอเลยมาก่อน อีกด้านหนึ่ง

ภายในห้องข้างเคียงกันบนเตียงกว้างวันนอนลืมตาอยู่ในความมืดในหัวก็

มีแต่ภาพริมฝีปากบางระเรื่อของบัวตองที่เขาเพิ่งจะได้ลิ้มรสเมื่ออยู่แต่ใน

หัว เขารู้ว่าตนเองทำผิดที่เผลอไปทำอะไรแบบนั้นกับเธอ ทั้งๆ ที่ตนเองก็มี

คนรักอยู่แล้ว หลังจากนี้ไปเขาจะไม่ทำแบบนั้นอีกเด็ดขาดวินพยายามหัก

ห้ามใจตนเองจนสงบลง

นัทแล่นรถมาจอดสนิทอยู่ตรงหน้าบ้านของปาย ปายที่อยู่ในอากา รมึนๆ เล็กน้อยจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ก็หันไปมองนัทที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยแวว ตาที่เศร้าหมอง ตลอดทางที่เขาและเธอนั่งรถมาด้วยกัน ชายหนุ่มไม่แม้แต่ คิดที่จะพูดคุยกับเธอเลยสักคำ ภายในรถจึงปกคลุมไปด้วยความเงียบ

“ฉันว่าเธอรีบลงไปเถอะ” นัทเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ

“ฉันขอถามอะไรนายหน่อยได้ไหม”

“อืม ได้สิ”

“นายยังรักยังชอบบัวอยู่เหรอ”
“ใช่ ยิ่งตอนนี้บัวเรียนจบแล้ว ฉันก็ยิ่งมีหวังมากขึ้น” นัทเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นายไม่คิดว่าบัวมีคนที่รักอยู่ในใจแล้วเหรอ”

“ไม่ ถ้ามี บัวเขาก็ต้องบอกพวกเราแล้ว ”

“ไม่ว่าใครก็เปลี่ยนใจนายจากบัวไม่ได้เลยสินะ”

“ใช่ เธอพูดถูกแล้ว”

“แม้แต่ฉันก็ไม่มีสิทธิ์เลยใช่ไหม” ปายเอ่ยเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอเบ้า

“ฉันรู้นะว่าเธอคิดยังไงกับฉัน ตัดใจซะเถอะ” นัทเอ่ยเสียงราบเรียบ

“ในเมื่อนายไม่เคยคิดอะไรกับฉัน แล้วที่ผ่านมาที่นายคอยช่วยเหลือฉัน ล่ะ มันหมายความว่ายังไง

“ฉันก็แค่ช่วยในฐานะที่เธอเป็นเพื่อนของบัวก็แค่นั้น”

“ฉันเข้าใจแล้ว ต่อไปฉันคงจะไม่มีเวลามาเจอนายกับบัวเหมือนที่ผ่าน มาอีกแล้วนะ” ปายยิ้มมุมปาก

“ทำไมล่ะ” นัทขมวดคิ้วเข้าหากัน

“ไม่มีอะไรหรอก” ปายเล่นเสียงเศร้าสร้อย

“เธอหมายถึงต่างคนก็ต่างทำงาน ใช่ไหม ถึงไม่มีเวลาให้กัน

“อืม คงจะเป็นอย่างนั้นแหละ ฉันเข้าบ้านก่อนล่ะ”

“รีบไปเถอะ ดึกมากแล้ว” เอ่ยด้วยความเป็นห่วง
บ่ายก้าวลงจากรถแล้วปิดประตูและไม่ลืมหันไปมองหน้านัทด้วยใบหน้า เศร้าหมองน้ำตาคลอเบ้า นัทเห็นอย่างนั้นก็แอบตกใจเพราะสายตาที่มอง มาเหมือนกำลังตัดพ้อเขาอยู่ ชายหนุ่มจึงทำเป็นไม่สนใจรีบขับรถแล่นห่าง ออกไปจากหญิงสาวทันที พอรถแล่นลับสายตาไปปายก็ปล่อยน้ำตาที่กลั้น เอาไว้ไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองข้างแล้วเดินเข้าไปในบ้านอย่างคนสิ้นหวัง และยอมจำนน เพราะต่อไปจากนี้เธอกับนัทคงจะเป็นแค่เส้นขนานที่ไม่มี ทางมาบรรจบกันตลอดไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ