เสน่หาเมียนอกหัวใจ

บทที่14 ทําใจ



บทที่14 ทําใจ

เช้าวันใหม่บัวตองตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดศีรษะ เธอพยายามยันตัวลุก ขึ้นนั่งจนสำเร็จ กำลังจะก้าวลงจากเตียงเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น เธอจึง พาตัวเองเดินไปเปิดประตูห้อง

“ตื่นแล้วเหรอบัว เป็นยังไงบ้าง” ป้าเอ่ยถามขึ้น

“ยังปวดหัวอยู่เลยค่ะ ”

“ไหนดูหน่อยซิ มีไข้ไหม” ป้าณีใช้มือยังหน้าผากบัวตอง

“ตัวยังร้อนอยู่เลย เมื่อคืนหนูไม่ได้ทานยาเหรอ”

“บัวทานแค่เม็ดเดียวค่ะ แล้วก็หลับไปเลย”

“ไม่น่าล่ะ ไข้ถึงยังไม่ลด ”

“วันนี้บัวคงไปทำงานไม่ไหว ฝากบอกพี่วินให้หน่อยนะคะ”

“ได้จะไปหาหมอหน่อยไหม เดี๋ยวป้าบอกคุณวินให้

“อย่าไปรบกวนพี่เขาเลยค่ะ บัวไม่ได้เป็นอะไรมาก พักสักวันก็คงจะหาย

คะ”

“งั้นเดี๋ยวป้ายกข้าวต้มขึ้นมาให้ ทานเสร็จแล้วจะได้ทานยา จะได้หายไว

ไว”

“ขอบคุณค่ะ” บัวตองยิ้มรับด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว

วันที่กำลังนั่งทานมื้อเช้าอยู่ที่โต๊ะเพียงลำพังพอได้ยินคำพูดที่บัวตอง ฝากมาบอกจากป้าเขาก็ชะงักนิ่งไปชั่วครู่ แต่ยังคงสีหน้าเรียบเฉย ตักอาหารเข้าปากทั้งๆ ที่กลืนไม่ค่อย จะลง ซึ่งต้นเหตุนั้นมาจากษาไม่ใช่ใครอื่นเลย เขาจะให้เวลาเธอได้คิดสัก หน่อยและหวังว่าเธอจะคิดได้และเปลี่ยนใจว่าคนที่รักเธอมากที่สุดมีแต่เขา คนเดียวเท่านั้น

“คุณวินจะไม่พาทั่วไปหาหมอหน่อยเหรอคะ” ป้าเอ่ยถามขึ้น

“เจ้าตัวเขาไม่อยากจะไปไม่ใช่เหรอครับ”

“ใช่ค่ะ แต่ถ้าคุณวินไปคุย บัวอาจจะยอมไปก็ได้ค่ะ”

“เดี๋ยวผมไปดูเอง” วินพูดพลางลุกขึ้นยืนเดินตรงไปชั้นบนทันที

เสียงเคาะประตูห้องทำให้ร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงรีบลุกลงจากเตียง ไปเปิดประตู พอเธอเห็นว่าเป็นใครเธอก็เกิดอาการนิ่งชะงักตกใจไปชั่วครู่ เพราะไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มจะสนใจเธอ ส่วนวันพอเห็นใบหน้าที่เคยสดใส ซีดเซียวลงก็นิ่งไป

“เธอเป็นอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นโดยไม่ยอมมองหน้าหญิงสาว

“ไม่สบายนิดหน่อยค่ะ บัวขอพักหนึ่งวันนะคะ”

“ถ้าจะไปหาหมอก็ไปเองก็แล้วกันนะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ บัวไม่ได้เป็นอะไรมาก”

“งั้นก็รีบทานข้าวทานยาพักผ่อนซะ อย่าทำตัวเป็นภาระให้คนอื่นต้อง เดือดร้อนเพราะเธอ โดยเฉพาะแม่ฉัน”
“ค่ะ บัวจะดูแลตัวเองให้หายก่อนที่คุณแม่จะกลับมา

“ดี แล้วอย่าปากพล่อยไปบอกคุณแม่เรื่องเมื่อคืนก่อนล่ะ ”

“ค่ะ บัวจะไม่บอกใคร” ก้มหน้ารับคําวยความเจียมตัว

“แต่ถ้าจะหาคนผิด ฉันว่าเธอนั้นแหละที่เป็นคนผิดที่ทำให้มันเกิดขึ้น

“พี่วิน” บัวตองมองหน้าชายหนุ่มด้วยความน้อยใจ

“ถ้าเธอไม่เข้าไปยุ่งกับฉันตอนนั้น เรื่องก็คงไม่เกิด เธอก็เห็นว่าฉันเมา

“ที่บัวเข้าไปช่วยดูแลพี่ ก็เพราะบัวเป็นห่วงกลัวที่จะนอนอยู่ตรงหน้าห้อง ทั้งคืน แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องนั้นขึ้นเลยนะคะ”

“หึ ถ้าเธอไม่เสนอ ฉันก็คงจะไม่สนองหรอกจริงไหม” วินหัวเราะเยาะใน

ล่าคอ

“บัวเปล่านะคะ ”

“เธอจะบอกว่าฉันเป็นฝ่ายเริ่มงั้น เท่าที่ฉันจำได้นะ คืนนั้นในหัวสมอง

ของฉันมันมีแต่ภาพษาเท่านั้น ส่วนเธอฉันจำไม่ได้เลยสักนิด

“พี่วิน” บัวตองมองหน้าชายหนุ่มน้ำตาคลอเบ้า

“หรือไม่จริง”

“ค่ะ บัวเป็นคนผิดเอง ที่เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับพี่จนเกิดเรื่องน่าอับอายแบบ นี้ ” บัวตองเอ่ยเสียงสั่นเครือจุกในอก
“รู้ตัวก็ดี จะได้อยู่ในที่ที่ควรจะอยู่ ถ้าไม่อย่างนั้นคนที่จะเสียหายคือเธอ ไม่ใช่ฉัน

“ค่ะ บัวรู้ว่าพี่รักคุณมามากและไม่มีใครมาแทนที่ได้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ระหว่างเราคืนนั้น บัวมันก็เป็นแค่ตัวแทนของคุณษาเท่านั้น” พูดพลาง น้ำตาเอ่อไหลอาบแก้มอย่างห้ามไม่อยู่

“ใช่ ไม่ว่าผู้หญิงหน้าไหนก็ไม่มีทางมาแทนษาได้หรอก ” พูดพลางหัน

หน้าหนีไม่อยากจะเห็นน้ำตาของหญิงสาวตรงหน้า

“ค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว บัวขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ” หมุนตัวหันหลังให้ ชายหนุ่มทั้งน้ำตา

“อย่าร้องไห้ให้เปลืองน้ำตาเลย ถึงเธอร้องไห้ตายฉันก็ไม่มีทางรับผิด ชอบเธอหรอก” พูดพลางวันก็เดินจากไป

บัวตองทรุดตัวล้มลงบนเตียงพร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นปล่อยน้ำตา ไหลอาบแก้มด้วยความเจ็บปวดในใจ คำพูดของชายหนุ่มที่เปล่งออกมา จากปากเขามันช่างกรีดหัวใจของเธอเหลือเกิน เธอไม่คิดเลยว่าความหวัง ดีของเธอที่มีต่อเขามันจะเป็นความผิด แต่ไม่ว่าเธอหรือเขาที่ผิดเรื่องที่เกิด ขึ้นจะต้องเป็นความลับต่อไป เพื่อไม่ให้ใครต้องเสียใจหรือผิดหวังในตัว เธอและเขา

หลังจากที่บัวตองจัดการธุระส่วนตัวเสร็จเธอก็มานั่งทานข้าวต้มร้อนๆ จากนั้นก็ทานยาตามแล้วนอนพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายฟื้นไข้เร็วๆ ส่วนวัน ออกไปทำงานที่บริษัทแต่เขากลับไม่สมาธิที่จะทำอะไรทั้งนั้น ได้แต่นั่งหัว ฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ในห้อง สักพักนพพลก็เดินเข้ามาในห้อง
“แกเป็นอะไร ทำไมถึงทำหน้าเครียดขนาด นวะ” นพพลเอ่ยถามขึ้น

“แกว่าฉันไม่ดีตรงไหนวะ”

“ทําไม แกเกิดไม่มั่นใจอะไรขึ้นมาอีกวะ”

“ฉันมันไม่ดีพอ ให้มารักและฝากชีวิตได้เลยเหรอวะ”

“แกพูดอย่างกับว่า แกกำลังมีปัญหากับษา” นพพลแสร้งถาม

“ใชษาเขาบอกเลิกฉัน”

“อะไรนะ! แกอย่ามาล้อกันเล่นน่า

“เรื่องแบบนี้ใครเขาล้อเล่นกันวะ มาเขามีผู้ชายคนใหม่น่ะ ฉันอยากจะรู้ จริงๆ ว่ามันเป็นใคร”

“ถ้าแกรู้แล้ว แกจะทำยังไงวะ” นพพลถามหยั่งเชิง

“ฉันก็จะหักคอมันให้ตายคามือยังไงล่ะว่ะ โทษฐานที่มันแย่งคนรักของ

ฉันไป”

นพพลได้ยินอย่างนั้นก็นิ่งเงียบไป

“ฉันทำอะไรผิดวะ ทั้งๆ ที่ฉันซื่อสัตย์และรักเดียวมาตลอด แต่สิ่ง ตอบแทนที่ได้มามันคือความเจ็บปวด” วินเอ่ยทั้งน้ำตาคลอเบ้า

“แล้วถ้าเกิดมาเขาขอกลับมาคืนดีกับแก แกจะให้อภัยษาไหมวะ” นพพลถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ฉันรักษา ไม่ว่าจะยังไงฉันก็ให้อภัยเขาได้เสมอ ถึงใครจะว่าฉันหน้ามืด ตามัวเพราะความรักฉันก็ยอม”
“ฉันนับถือในความรักของแกจริงๆ วะ ขอให้แก่โชคดีก็แล้วกันนะ ฉัน เป็นกำลังใจให้” นพพลตบไหลวนเบาๆ

“ขอบใจวะ”

ณ คอนโดใจกลางเมืองนพพลยืนหันหลังให้มา ระหว่างที่กำลังพูดคุย กันเรื่องบิดาของเธอนพพลยีนน้ำตาคลอเบ้าด้วยความรู้สึกผิดและละอาย ในใจ เขายอมรับว่ารักหญิงสาวมากแต่เขากลับช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย ยิ่ง

นึกถึงหน้าเพื่อนสนิทที่ตัดพ้อตัวเองเมื่อตอนกลางวันเขาก็ยิ่งรู้สึกผิดในใจ

“นพคุณเป็นอะไรหรือเปล่า” ษาเอ่ยถามขึ้น

“เปล่า ผมแค่รู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับษา”

“คุณพูดอะไร ษาไม่เข้าใจ

“ผมช่วยอะไรษาไม่ได้เลย ผมมันกระจอก” นพพลขยี้หัวตนเองแรงๆ

“อย่าว่าตัวเอง แบบนั้นสิคะ ษารักคุณนะ” ร่างบางเดินเข้าไปสวมกอด ชายหนุ่มทางด้านหลัง

“คุณกลับไปหาไอ้วินเถอะนะ พ่อของคุณจะได้ปลอดภัย”

“ไม่ค่ะ ษาจะอยู่กับคุณ” มาส่ายหน้า

“แต่ผมมันไม่มีอะไรเลยนะ เพื่อครอบครัวของษา กลับไปคืนดีกับไอ้วิน ชะนะ”

“ถ้าษากลับไป ษาจะต้องแต่งงานกับวิน คุณยอมได้เหรอ”

“ได้สิ ถ้ามันจะทําให้ษาและพ่อปลอดภัย”
” ในเมื่อมันมีทางนี้ทางเดียว มาก็จะเลือกทางนี้ค่ะ”

“ไอ้วินมันคงจะดีใจมาก ถ้าษากลับไป

“ษาจะแต่งงานแค่ปีเดียวค่ะ หลังจากนั้นมาจะขอหย่า ถึงตอนนั้นคุณยัง จะรอษาอยู่ไหม”

“โธ่ ษา ษาไม่จําเป็นต้องหย่านะ อยู่ใช้ชีวิตครอบครัวกับไอ้วันมันเถอะ”

“นพ ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้คะ คุณไม่รักษาแล้วเหรอ”

“รักสิ เพราะรักผมถึงอยากจะให้มาอยู่กับคนที่คู่ควรกับษา ผมไม่อยาก จะเห็นแก่ตัวและทำร้ายไอ้วนมันอีกแล้ว”

“แล้วมาล่ะ มารักคุณ ทำไมคุณถึงไม่แคร์ความรู้สึกของษาบ้าง ” ร่าง บางพูดพลางน้ำตาไหลอาบแก้ม

“ผมแคร์ความรู้สึกของมาเสมอนะ แต่อนาคตของมาสำคัญกว่า ทำเพื่อ

ตัวเองเถอะอย่าห่วงผมเลย”

“รับปากษาสิ ว่าจะรอ ขอแค่นั้นมาก็มีกำลังใจมากแล้ว รับปากสิคะนพ”

“ได้สิ ผมจะรอคุณนะ” สวมกอดร่างบางเอาไว้แน่น

“ษาสัญญานะ อีกไม่นานษาจะกลับมาหาคุณ แล้วสร้างครอบครัวที่ อบอุ่นด้วยกัน” ร่างบางกอดรัดร่างหนาเอาไว้แน่น

วันต่อมาบัวตองกลับไปทำงานที่บริษัทตามปกติ ซึ่งวันนี้เธอได้ทำหน้าที่ แทนเลขาหน้าห้องท่านประธานหนุ่ม ร่างบางยกถาดกาแฟกับน้ำเปล่าเดิน เข้าไปในห้อง ไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มที่กำลังก้มหน้าเซ็นต์เอกสารอยู่ มือบางค่อยๆ ยกวาง แก้วกาแฟกับแก้วน้ำเปล่าลงอย่างเบามือ

“หายดีแล้วใช่ไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นทำลายความเงียบ

“ค่ะ” ตั้งแต่ออกจากบ้านนั่งรถคันเดียวกับชายหนุ่มตรงหน้า เขาเพิ่งจะ เอ่ยปากคุยกับเธอเป็นครั้งแรกของวัน

“ดี จะได้ทํางาน ให้คุ้มค่ากับค่าเล่าเรียนที่เสียไป

“ค่ะ บัวจะทํางานให้เต็มที่ ตามความสามารถของตัวเอง”

“ออกไป ได้แล้วไป

“ค่ะ” รับค่าแล้วหมุนตัวเดินออกไป

บัวตองนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานพยายามจดจ่อสมาธิกับงานตรงหน้าให้ได้ มากที่สุด แต่ก็อดคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย เธอเหมือนตัวเองกำลังทำ ผิดร้ายแรง และกำลังปกปิดความผิดของตนเองอยู่ เธออดที่จะละอายแก่ ใจไม่ได้จริงๆ

หลายวันต่อมา

วินนั่งรอมาอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่งด้วยความตื่นเต้น นาโทรหาเขา พร้อมกับนัดให้มาเจอกันที่ร้านแห่งนี้ เธอบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเขา ชายหนุ่มดีใจมากที่เธอติดต่อหาเขา ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเธอหายไปจากชีวิต ของเขาตั้งหลายวัน วันนั่งรอสักพักษาก็เดินเข้ามาหาเขาที่โต๊ะด้วยสีหน้า ยิ้มแย้ม

“รอนานไหมคะ” ถามพลางนั่งลงตรงข้ามชายหนุ่ม
“สําหรับมา จะนานแค่ไหนผมก็รอได้เสมอ”

“แหม ปากหวานจังเลยนะคะ”

“ผมดีใจมากเลย ที่เราได้คุยกันสักที” ยื่นมือหนาไปจับมือบางไว้ “ษาก็ดีใจค่ะ ที่คุณไม่โกรธไม่เกลียดษา” ส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม

“ที่มานัดผมมา เพราะจะกลับมาหาผมใช่ไหม”

“ค่ะ เรากลับมาเป็นเหมือนนะคะ”

“แล้วผู้ชายคนนั้นล่ะ นายอกเลิกมันแล้วใช่ไหม”

“ค่ะ ษาบอกเลิกเขาแล้ว และจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก

“ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าษาพร้อมจะใช้คู่ชีวิตกับผมแล้วใช่ไหม”

“ค่ะ มาพร้อมแล้ว”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นวินก็หยิบกล่องกำมะหยี่ออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับ เปิดกล่องหยิบแหวนเพชรน้ำงามออกมา มาเห็นแหวนเพชรน้ำงามก็รู้สึก ผิดและเกลียดตัวเอง แหวนมูลค่าสูงขนาดนั้นไม่คู่ควรกับเธอแม้สักนิด ยิ่ง ชายหนุ่มทำดีกับเธอเท่าไหร่เธอก็ยิ่งรู้สึกสมเพชตนเอง ถ้าชายหนุ่มรู้เรื่อง ที่เธอกลับมาหาเขาก็เพราะเงิน ชายหนุ่มคงจะเสียใจมากและเกลียดเธอ อย่างแน่นอนที่จุดประสงค์ของการแต่งงานไม่ได้เกิดจากความรัก

“แต่งงานกับผมนะษา” วินพูดพลางยื่นมือไปจับมือข้างซ้ายของเธอขึ้นมา
“ค่ะ ษาจะแต่งงานกับคุณ” ส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม

“ผมดีใจนะ ที่คุณเลือกผมไม่ใช่คนอื่น” สวมแหวนเข้านิ้วนางข้างซ้าย

ให้เธอช้าๆ พร้อมรอยยิ้มกว้าง

“ษาก็ดีใจค่ะ ที่จะได้แต่งงานกับคุณ”

“รักและอยู่กับผมตลอดไปนะษา” จรดริมฝีปากหนาลงบนหลังมือบาง

“ค่ะ ษาจะอยู่กับคุณตลอดไป”

ทั้งสองคนยืนสวมกอดกันกลมอีกคนยิ้มกว้างมีความสุข แต่อีกคนกลับ ยิ้มไม่ออกเพราะรู้ตัวเองว่ากำลังทำร้ายคนในอ้อมแขนอยู่ แต่เธอไม่มีทาง เลือกที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว แต่เธอจะพยายามทำดีกับชายหนุ่มให้ได้มาก ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้มันจะชดเชยกันไม่ได้เลยก็ตาม

ณ บ้านไกรณรงค์ภายในห้องรับประทานอาหาร บัวตองกับแม่บ้าน กำลังช่วยกันยกอาหารมาจัดวางลงบนโต๊ะเหมือนเช่นเคย ระหว่างนั้น เนตรนภาก็เดินวินกับมาเข้ามา บัวตองเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกจุกในอกขึ้น มาจึงรีบปลีกตัวเข้าไปในครัวทันที

เมื่อเนตรนภาเห็นว่าวินกับษานั่งลงเรียบร้อยแล้ว เธอจึงให้แม่บ้านรัก ข้าวใส่จานให้คนทั้งคู่ แต่ก็ไม่ลืมสอดส่องสายตามองหาบัวตอง ที่ยังไม่มา นั่งร่วมโต๊ะด้วย เนตรนภาจึงหันไปทางป้ากับป้าศรี

“บัวล่ะ อยู่ไหนทำไมไม่มานั่งทานด้วยกัน”

“เมื่อกี้เห็นเข้าไปดำน้ำพริกอยู่ค่ะ”

“จะทำอะไรอีก ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง ไปเรียกมาสิ”
“ค่ะ” ป้าศรีรีบเร่งเข้าไปในครัว

บัวตองออกมาจากในครัวพร้อมกับถือถ้วยน้ำพริกปลาทูออกมาด้วย ตอนแรกเธอตั้งใจว่าจะทานอยู่ในครัว แต่เธอไม่อยากจะเสียมารยาทจึง ออกมานั่งร่วมโต๊ะแต่โดยดี เนตรนภาเห็นบัวตองเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทาน ไม่ยอมมองหน้าคนที่ร่วมโต๊ะด้วยเลยก็อดที่จะสงสัยไม่ได้

“บัวเป็นอะไรหรือเปล่าลูก ไม่สบายอีกหรือเปล่า” เนตรนภาถามด้วย ความเป็นห่วง เพราะเธอเพิ่งจะรู้ว่าบัวตองป่วยเมื่อตอนกลับมาจากปฏิบัติ ธรรมเมื่อวันก่อนนี้เอง

“เปล่าค่ะ บัวไม่ได้เป็นอะไร ”

“งั้นก็ทานเยอะๆ นะลูก”

“ค่ะ” รับคําแล้วก้มหน้าลง

“คุณแม่ครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะบอกครับ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น

“เรื่องอะไรเหรอลูก”

“ผมกับษา จะแต่งงานกันครับ”

“จริงเหรอลูก แม่ดีใจจังลูก” เนตรนภายิ้มกว้าง

“คุณแม่ช่วยหาฤกษ์แต่ง ให้เร็วที่สุดเลยนะครับ ผมใจร้อน” วินหันไป มองหน้าษาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“ได้เลยลูก เดี๋ยวแม่จัดให้” เนตรนภาหัวเราะขบขันกับท่าทางของ ลูกชาย

“ษา ต้องขอบคุณ คุณแม่มากนะคะ ที่เมตตาษา” พนมมือไหว้อย่างนอบน้อม
“จ้ะ เราจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เตรียมตัวมีหลานให้แม่อุ้มด้วย

ล่ะ”

“ค่ะ” รับค่าไปส่งๆ

“คุณแม่สบายใจได้เลยนะครับ รออุ้มหลานได้เลย” วินส่งยิ้มให้มารดา

“จ๊ะ แม่ตื่นเต้นจังเลย” เนตรนภายิ้มไม่ยอมหุบ

“บัวจ๊ะ นั่นน้ำพริกปลาทูฝีมือบัวใช่ไหมจ๊ะ ฉันขอชิมหน่อยสิ” มารีบ เปลี่ยนเรื่องคุย

“อ๋อ ได้ค่ะ” บัวตองรีบยกถ้วยน้ำพริกไปวางลงตรงหน้าษาทันที

บัวตองนั่งมองมาทานน้ำพริกฝีมือของเธออย่างเอร็ดอร่อย แต่ชายหนุ่ม ที่เคยชอบกลับไม่ยอมแตะต้องมันเลยสักนิด แต่มันก็ไม่เท่าที่ชายหนุ่มเห็น เธอเป็นแค่ธาตุอากาศไม่มีตัวตน แค่หางตาชายหนุ่มยังไม่แม้แต่จะแลมา ทางเธอเลยด้วยซ้ำ เขาทำอย่างกับเธอไปทำอะไรผิดต่อเขาหนักหนา

“วินไม่ทานเหรอคะ คุณชอบไม่ใช่เหรอ” ษาเอ่ยถามชายหนุ่มที่นั่งข้าง

กาย

“ไม่อะ ผมไม่ชอบแล้ว”

บัวตองได้ยินอย่างนั้นก็วางซ้อนลงพร้อมกับดื่มน้ำตาม จากนั้นก็ขอตัว ลุกเดินออกไป ร่างบางทรุดนั่งลงบนเตียงด้วยอาการเหม่อลอยใจไม่อยู่กับ เนื้อกับตัว ในที่สุดชายหนุ่มที่ทำให้เธอหวั่นไหวและได้ครอบครองความ สาวของเธอในคืนนั้น ก็กำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ชายหนุ่มรักที่สุด ส่วนเธอนั้นได้แค่ทำใจและปกปิดความลับไว้กับตัวตลอด นี่ คือสิ่งที่เธอสมควรจะทำได้แล้วในเวลานี้

ดรีดๆๆ เสียงโทรศัพท์เครื่องบางที่วางอยู่บนเตียงสั่นขึ้น บัวตองจึงยื่น

มือไปหยิบขึ้นมารับสาย

“ฮัลโหลปาย ว่าไง” เสียงใสกรอก ใส่ปลายสาย

“บัวเธอสบายดีนะ”

“อืม ฉันสบาย”

“ฉันมีข่าวจะมาบอกเธอน่ะ ”

“ข่าวอะไรเหรอ” บัวตองขมวดคิ้วเข้าหากัน

“งานหมั้นฉันถูกยกเลิกแล้วนะ”

“อะไรนะ! จริงเหรอ” บัวตองตกใจ

“จริงสิ ฉันจะโกหกเธอทําไมล่ะ”

“แล้วเพราะอะไรเหรอ งานถึงถูกยกเลิก” บัวตองถามพลางนึกถึงนัก เพื่อนหนุ่ม

“ฉันว่าเธอคุยกับนัทจะดีกว่านะ” พูดจบปายก็ยื่นมือถือให้นัทที่นั่งอยู่ ข้างๆ ให้คุยแทน

“ฮัลโหลบัว” นัทกรอกเสียงใส่ปลายสาย

“นัทอยู่กับปายเหรอ”

“อืม ใช่ ตอนนี้เรากับปายกำลังคบกันอยู่นะ

“ไม่น่าล่ะ งานหมั้นถึงได้ถูกยกเลิก ว่าแต่นัทตามตื้อยังไงเหรอ”

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่แสดงความจริงใจให้เห็นก็เท่านั้นเอง”

“เราดีใจด้วยนะ ที่นัทรู้ใจตัวเองสักที ขอให้คบกันไปนานๆ นะ

“ขอบใจนะบัว เพราะบัวด้วยแหละที่ทำให้เรารู้ใจตัวเอง” “อืม ขอเราคุยกับชายอีกสักหน่อยสิ”

“ได้สิ รอเดี๋ยวนะ” นัทส่งยื่นโทรศัพท์มือถือให้ปายที่นั่งอยู่ข้างๆ พร้อม กับฉวยโอกาสหอมแก้มเนียมฟอดหนึ่ง

“ฮัลโหลบัว” ปายกรอกเสียงใส่ปลายสายด้วยใบหน้าแดงก่ำ

“ฉันดีใจด้วยนะ ที่เธอสมหวังในความรักสักที”

“ขอบใจนะบัว ฉันไม่คิดว่าจะมีวันนี้เหมือนกัน”

“จะแต่งงานเมื่อไหร่ ก็อย่าลืมบอกฉันด้วยนะ ฉันจะไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว ให้เธอ”

“เรื่องนั้น คงจะอีกนานเลยแหละ คบกันไปเรื่อยๆ ก่อน เราสองคนยังไม่

รีบน่ะ”

“จ้ะ เธอมีความสุขฉันก็ดีใจแล้ว”

“แล้วเธอล่ะบัว เป็นยังไงบ้าง

“ฉันเหรอ ก็เรื่อยๆแหละ วันนี้พี่วินเขาพาคุณษามาทานข้าวที่บ้าน พร้อม กับข่าวดีด้วยล่ะ” บัวตองเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
“ข่าวดีอะไรเหรอบัว”

“พี่วินกับคุณษาจะแต่งงานกันแล้ว ปาย” บัวตองพยายามกลั้นน้ำตาเอา

ไว้

“จริงเหรอ ฉันดีใจกับพี่วินด้วยนะ เธออย่าลืมเอาการ์ดแต่งงานมาให้ ฉันด้วยล่ะ ไว้ฉันจะไปร่วมงาน

“อืม ได้สิ”

“งั้นแค่นี้ก่อนนะ นัทเขาสะกิดฉันอีกแล้วล่ะ”

“จ้ะ ไว้คุยกันใหม่นะ” หลังจากที่เพื่อนวางสายไปบัวตองก็ปล่อยน้ำตา ไหลอาบแก้มทั้งสองข้างไปเงียบๆ ภายในห้องเพียงลำพังเพราะอารมณ์ที่ อ่อนไหว

หลายวันต่อมาบัวตองนั่งร่วมวงสนทนาเรื่องงานแต่งงานระหว่างวิ นกับษา โดยมีผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายกำลังคุยกันอย่างเป็นทางการ โดยได้ ฤกษ์แต่งในอีกห้าเดือนข้างหน้า ประพันธ์ดีใจมากที่ทุกอย่างจะเป็นไปตาม ที่เขาต้องการ จนปิดอาการดีใจไว้ไม่อยู่ออกมาทางสีหน้าที่ยิ้มแย้มไม่หุบ จนเนตรนภากับวินอดที่จะยิ้มตามไปด้วยไม่ได้

ระหว่างที่ทุกคนกำลังคุยกันบัวตองก็หันไปมองหน้าในแวบหนึ่งแล้วก้ม หน้าลงในทันที วันเห็นท่าทางของบัวตองที่เอาแต่ก้มหน้าก็อดที่จะตำหนิ ในใจไม่ได้ ผู้ใหญ่กำลังคุยกันอยู่ แต่เธอกลับไม่ตั้งใจฟังเลย สงสัยเขาจะ ต้องตักเตือนเธอสักหน่อยแล้วชายหนุ่มคิดในใจ

หลังจากที่คุยกันเสร็จบัวตองก็ปลีกตัวไปนั่งตรงสวนหลังบ้านเงียบๆ เพียงลำพัง เธอพยายามไม่คิดถึงเรื่องคืนนั้นแต่มันก็ทำไม่ได้ แต่เธอก็ พยายามย้ำเตือนตัวเองให้ลืมมันไปให้ได้ เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรที่ จะคิดถึงมันอีกต่อไปแล้ว

“หัดมีมารยาทบ้างนะ เวลาผู้ใหญ่เขาคุยกัน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทางด้าน

หลังหญิงสาว

“พี่” บัวตองรีบลุกขึ้นแล้วหันไปทางชายหนุ่ม

“ที่ฉันพูดไม่ได้ยินหรือไง”

“ค่ะ บัวได้ยินค่ะ”

“อีกไม่กี่เดือนฉันก็จะแต่งงานกับษาแล้ว เรื่องคืนนั้นอย่าให้ใครรู้เรื่อง เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแม้แต่ที่ซุกหัวนอนเธอก็จะไม่มีจำไว้ ”

“ค่ะ บัวจะไม่บอกใครเด็ดขาด แต่บัวขอถามอะไรพี่หน่อยได้ไหมคะ”

“อะไร”

“คืนนั้นพี่จำบัวไม่ได้จริงๆ เหรอคะ พี่เห็นบัวเป็นคุณษา หรือว่าพี่เห็น เป็นบัวกันแน่”

“หึ เธอก็รู้ว่าฉันเมา อะไรโดนใจให้เธอถามฉันแบบนี้เหรอ” วินหัวเราะ เยาะในลำคอ

“เพราะจูบ ในคืนนั้น คืนที่เลี้ยงฉลองเรียนจบของบัวไงล่ะคะ บัวถึงได้

กล้าถามพี่”

“มันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบ เธอจะเอามาใส่ใจทำไม เธอลืมไปแล้วเหรอ ว่า เธออยู่ในฐานะอะไร”

“ค่ะ บัวไม่ลืมว่าบัวเป็นน้องสาวพี่

“จำไว้นะว่าฉันไม่เคยคิดอะไรกับเธอเลย แล้วอย่าคิดเอาเรื่องคืนนั้นมาทําลายความรักระหว่างฉันกับมาเด็ดขาด เก็บมันไว้กับเธอ ไปจนวันตายเลยยิ่งดี จำไว้ด้วย” พูดจบวินก็เดินออกไป

บัวตองทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมกับหัวใจที่อ่อนล้า รู้ทั้งรู้ว่าชายหนุ่ม ไม่เคยรักไม่เคยสนใจเพราะเขามีคนรักอยู่แล้ว ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าทุกอย่าง ที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะความเมา แต่ทำไมเธอถึงต้องเสียใจขนาดนี้ด้วย ตั้งแต่ที่เธอพลาดมีอะไรกับชายหนุ่มในคืนนั้น เขาก็เปลี่ยนไปมากเลยเขา ทําเหมือนเธอเป็นธาตุอากาศไม่มีตัวตนสำหรับเขาไปเลย แม้แต่น้ำพริก ฝีมือเธอที่เขาเคยชอบเขาก็เป็นหน้าไม่สนใจมันอีกเลย พอคิดมาถึงนี้เธอ คงจะได้แต่ทําใจและยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นเท่านั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ