เสน่หาเมียนอกหัวใจ

บทที่4 เหมือนฝัน



บทที่4 เหมือนฝัน

หลายวันต่อมา

ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งเนตรนภากำลังพาบัวตองเข้าไปยังร้าน ขายเสื้อผ้าร้านหนึ่ง พอเข้าไปถึงเด็กสาวก็กวาดสายตามองไปรอบๆ ร้าน ด้วยความตื่นตาตื่นใจกับเสื้อผ้าหลากสีสันที่เรียงรายกันอยู่ตรงหน้า เนตร นภาเห็นอย่างนั้นก็อดที่จะยิ้มออกมาให้กับท่าทางของเด็กสาว

เลือกได้ตามใจเลยนะลูก”

“น่าจะแพงมากนะคะ ไม่เหมาะกับบัวหรอกค่ะ”

“เหมาะสิจ๊ะ ไม่ต้องเกรงใจแม่หรอกลูก อยากจะได้ชุดไหนก็เลือกได้เลย เดี๋ยวแม่จะพาไปดูกระเป๋าและรองเท้าต่อ”

“แต่ว่าหนู…”

“ถ้าไม่ยอมเลือกเอง แม่จะให้พนักงานจัดการให้เองนะ”

“ก็ได้คะ” รีบเดินไปเลือกทันที

บัวตองเลือกหยิบเสื้อกับกางเกงอย่างละตัวไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเนตร นภาด้วยความเกรงใจ ยิ่งเธอเห็นราคาที่แพงกว่าราคาเสื้อผ้าในตลาดนัด หลายเท่าก็ยังไม่อยากแม้แต่จะจับต้องด้วย

“บัวเลือกได้แล้วค่ะ คุณแม่”

“อะไรกันหยิบมาแค่สองตัวเอง”

“แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ”

“แต่แม่ว่าไม่นะ ”

เนตรนภามองเด็กสาวด้วยรอยยิ้มเอ็นดูในความใสซื่อของเธอ จากนั้นก็เดินไปเลือกเสื้อผ้าให้เด็กสาวด้วยตนเอง บัวตองเห็นอย่างนั้นก็ได้แต่ยืน มองเท่านั้น เนตรนภาเลือกชุดหลากหลายชุดจนล้นมือพนักงานในร้านจึง ช่วยกันจัดพับใส่ถุงได้ประมาณสามสี่ใบจากนั้นเนตรนภาก็พาบัวตองไป ต่ออีกสองสามร้านแล้วพาเธอกลับบ้าน

บัวตองนั่งมองเสื้อผ้าข้าวของกระเป๋ารองเท้าที่เนตรนภาซื้อให้เธออยู่ใน ห้องนอนด้วยความตื้นตันดีใจ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ยี่ห้อ ดัง เธอไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่าจะมีโอกาสได้สัมผัสหรือใช้สิ่งของราคา แพงๆ พวกนี้ ร่างบางหยิบจับข้าวของตรงหน้าขึ้นมาสัมผัสเชยชมด้วยรอย ยิ้มกว้างมีความสุข

ณ บริษัทชาไทยจํากัด ภายในห้องทํางานประธานบริษัทวินกำลังก้ม หน้าเซ็นเอกสารบนโต๊ะทำงานอยู่ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นพร้อมกับ นพพลชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หน้าตาตีหัวหน้าฝ่ายการตลาดเดินตรงเข้ามา ไปนั่งลงตรงหน้าวินด้วยความคุ้นเคยเป็นกันเอง

“ว่าไงวะ ไอ้น” วินเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนสนิท “คืนนี้ไปดื่มกันสักหน่อยไหมวะ”นพยักคิ้วให้เพื่อน “เปล่า ฉันแค่อยากจะมีเพื่อนดื่มสักหน่อย”

“ทําไม แกอกหักเหรอถึงได้มาชวนฉันดื่ม”

“ก็ได้ ฉันจะไปกับแก”

“ว่าแต่เด็กที่แม่แกรับมาเลี้ยงเป็นยังไงบ้างวะ”

“ก็ดี ฉันพึ่งจะไปจัดการเรื่องเรียนต่อให้เมื่อวันก่อนนี้เอง” พูดพลาง นึกถึงใบหน้าหวานใสของบัวตอง

“แม่แกคงจะเหงาสินะ ถึงอยากจะมีลูกสาวสักคน”

“อืม ก็อย่างที่ฉันเคยบอกนั้นแหละ ในเมื่อมันเป็นความสุขของท่าน ฉันก็ไม่อยากจะขัดอะไร

“แล้วแกกับนาล่ะ เป็นไงบ้าง”

“ไม่ค่อยได้เจอกันเลยวะ สงสัยหมู่นี้เขาจะงานยุ่ง”

“แกคิดอย่างนั้นเหรอ”

“อืม ทำไมวะ” วินซะงักไปชั่วครู่

“เปล่า ฉันไปทำงานก่อนนะ” นพพลยกยิ้มมุมปากแล้วเดินออกไป

“อืม ไว้เจอกัน”

ช่วงเย็นภายในผับแห่งหนึ่งในกับนพกำลังนั่งดื่มกันไปเพลินๆ พร้อมกับ คุยเรื่องงานในบริษัทไปด้วย จนมาถึงเรื่องของนพพลที่วินอดที่จะถามเรื่อง ส่วนตัวของเพื่อนไม่ได้เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาเขายังไม่เคยเห็นนพพลควงผู้ หญิงคนไหนหรือมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยสักครั้ง

“ว่าแต่แกเถอะ เมื่อไหร่จะมีแฟนสักทีวะ”

“ก็อยากจะมีอยู่นะ แต่มันเป็นไปไม่ได้วะ”

“ทําไม อย่าบอกนะว่าแกแอบรักคนมีเจ้าของ”

“ก็ไม่เชิงหรอก ” นพพลหลบสายตาวิน

“ยังไงวะ แกมีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็บอกฉันได้นะโว้ย” วินตบไหล่

นพพล

“เปล่าไม่มีอะไร” นพพลกระดูกแก้วเหล้าลงคอรวดเดียวจนหมด

“มีเรื่องอะไรก็บอกฉันได้ตลอดเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”

“อืม” นพพลพยักหน้ารับ

เวลาล่วงเลยไปจนถึงเที่ยงคืนทั้งสองคนจึงพากันเดินออกมาตรงลานจอดรถ ระหว่างที่กำลังไปที่รถโทรศัพท์มือถือของนพพลก็สั่นอยู่ในกระเป๋า กางเกง ชายหนุ่มจึงหยิบขึ้นมาดูพอเห็นว่าเป็นชื่อยานพพลก็รีบกดปิดทันที

“ใครโทรมาหรือเปล่าวะ ทำไมแกไม่รับสาย” วันที่เดินตามหลังมาเอ่ย

ถามขึ้น

“ใครไม่รู้โทรมาเบอร์ไม่คุ้นเลย ฉันก็เลยตัดสายทิ้ง “งั้นเหรอ ขับรถกลับดีๆ ล่ะ ฉันไปก่อนนะ”

“เออ แกก็เหมือนกันกลับดีๆ ” นพพล โบกมือให้วันด้วยใบหน้า เคร่งเครียด จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรออกหามาทันที

หนึ่งเดือนต่อมา

ภายในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งบัวตองในชุดนักศึกษาปีหนึ่งกำลัง นั่งทานมื้อกลางวันร่วมโต๊ะกับเพื่อนร่วมคณะอีกสองคนในร้านอาหารของ มหาลัย ตั้งแต่ที่เธอก้าวเข้ามาอยู่ในรั้วมหาลัยแห่งนี้ก็มีเพื่อนทั้งสองคนนี้ แหละที่เข้ามาทักทายเธอในตอนที่เธอยังไม่มีเพื่อนแม้แต่คนเดียว ตั้งแต่ นั้นมาทั้งสามคนจึงเป็นเพื่อนสนิทกัน

“บัววันนี้พี่วินมารับไหม” ปายเพื่อนสาวเอ่ยถามขึ้น

“ไม่รู้สึ หมู่นี้พี่เขาเหมือนจะยุ่งๆ กับงาน

“งั้นเหรอ ได้กลับเองอีกตามเคยล่ะสิ”

อยู่

“อืม ฉันซินแล้วล่ะ” บัวตองยิ้มรับทุกครั้งที่ดินไม่ว่างเธอก็จะขึ้นรถเมล์ กลับเองจนชินไปแล้ว

“ให้ฉันไปส่งไหมบัว” นัทเพื่อนชายเอยยิ้มๆ

“ไม่เป็นไรฉันกลับเองได้ ขอบใจมากนะนัท”

“นั้นสิ ฉันว่าเธอให้นัทไปส่งเถอะ” ปายเอ่ยเสริมขึ้น
“ถ้าพี่วินเขาไม่มารับ ค่อยว่ากันอีกทีนะ”

“ก็ได้” นัท งดออก

“ได้เวลาเข้าเรียนแล้ว เรารีบไปกันเถอะ” ปายยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกา ตรงข้อมือ

“น้องบัวครับ พี่ซื้อขนมมาฝากครับ”หนุ่มรุ่นพี่ร่วมคณะหิ้วถุงขนมมายื่น

ให้เธอ

“คนเมื่อกี้เพิ่งจะไปเอง ตอนนี้มาอีกคนแล้วเหรอ” ปายกระซิบข้างหูบัว

ตอง

“รับไปเถอะนะครับ ไม่งั้นเสียน้ำใจพี่แย่เลย”

“ผมว่าไม่ได้หรอกครับ เราจะต้องรีบไปเรียนกันแล้ว” นัทเอ่ยขึ้นด้วย

ความไม่พอใจ

“อย่ามาเลือกน ไอ้หน้าอ่อน” รุ่นพี่จ้องหน้านัทอย่างเอาเรื่อง

“ก็ได้ค่ะ บัวจะรับไว้” บัวตองรีบเดินเข้าไปหยิบถุงในมือชายหนุ่มรุ่นพี่

มาถือเอาไว้ทันที เพราะกลัวเรื่องจะบานปลายไปกันใหญ่

“ขอบคุณครับ ไว้จะซื้อมาฝากใหม่นะ หรือว่าน้องบัวอยากจะทานอะไร เป็นพิเศษก็บอกได้เลยนะครับ จะได้ซื้อมาฝาก

“ขอบคุณนะคะ แต่บัวว่าไม่ต้องดีกว่าค่ะ บัวเกรงใจ”

“ไม่ต้องเกรงใจพี่หรอก สำหรับบัวแล้วพี่เต็มใจเสมอ”

“เอ่อ ถึงเวลาเรียนแล้ว บัวขอตัวก่อนนะจ้ะ”

“ครับ อย่าลืมคิดถึงพี่ด้วยนะ” ชายหนุ่มรุ่นพี่โบกมือให้หญิงสาวรุ่นน้อง พร้อมกับยิ้มกว้าง

ทั้งสามคนพากันไปเข้าไปในห้องเรียน ระหว่างที่อาจารย์กำลังสอนอยู่นัทก็คอยแอบมองใบหน้าหวานของบัวตองอยู่ตลอดเวลา ด้วยความ เผลอไผลชายหนุ่มแอบหวังลึกๆ ว่าหญิงสาวจะมีใจให้ตนเองบ้างและวัน ใดที่เขาสารภาพความในใจเธอจะยอมตกลงปลงใจเป็นแฟนกับเขา

การกระทำของชายหนุ่มต่างก็ตกอยู่ในสายตาของปายอยู่ตลอดเวลา เช่นกัน เธอพอจะดูออกว่าชายหนุ่มวัยเดียวกันกำลังใจให้กับเพื่อนสาว คนสนิทอยู่ แต่ดูเหมือนจะเป็นชายหนุ่มแค่ฝ่ายเดียวที่คิดเกินเลยเกินกว่า เพื่อน แต่ทำไมกันนะเธอถึงได้รู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่นักที่ชายหนุ่มมอง เพื่อนของเธอแบบนั้นเลย

ช่วงเย็นทั้งสามคนพากันมานั่งเล่นตรงม้าหินอ่อนด้านหน้ามหาลัยก่อนที่ จะแยกย้ายกันกลับบ้าน ปายกับนัทนั่งเป็นเพื่อนบัวตองระหว่างที่รอวันมา รับ ซึ่งชายหนุ่ม โทรมาบอกบัวตองก่อนหน้านั้น บัวตองดีใจที่เธอได้มี โอกาสได้เรียนและมีเพื่อนที่ดีซึ่งเป็นสิ่งที่เธอเคยวาดฝันเอาไว้และในที่สุด ความฝันนั้นก็เป็นจริง เธอต้องขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้เธอได้เจอกับเนตร นภาในวันนั้น เธอสัญญากับตัวเองตั้งแต่ที่ก้าวขาเข้ามาอยู่ในบ้านไกร ณรงค์เอาไว้ว่าเธอจะทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณของท่านทุกอย่าง ตามที่ท่านต้องการ

รอสักพักวินก็แล่นรถมาจอดตรงหน้ามหาลัยบัวตองจึงรีบเดินตรงไปที่ รถทันที โดยไม่ลืมที่จะโบกมือลาเพื่อนๆ พอบัวตองขึ้นรถไปปายกับนัท ต่างแยกย้ายกันกลับคนละทาง บัวตองขึ้นไปนั่งบนรถก็เจอวินกำลังคุย โทรศัพท์อยู่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มมีความสุข แต่เธอไม่ลืมที่จะพนมมือไหว้ ชายหนุ่มเหมือนเช่นเคย สักพักชายหนุ่มก็วางสายไปแล้วหันมาทางเ
“ขอบคุณค่ะ”

“แล้วตอนนี้มีเพื่อนที่คนแล้วล่ะ”

“สองคนค่ะ” บัวตองยิ้มมุมปาก

“ดีแล้วล่ะมีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน

“Az”

“แล้วมีใครมาจีบเธอบ้างไหม” วินถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“เอ่อ บัวไม่รู้ค่ะว่าจีบหรือเปล่า แต่รุ่นพี่ชอบซื้อขนมมาฝากและชอบมา ชวนคุยตั้งหลายคนเลยค่ะ” บัวตองตอบไปตามความจริงด้วยความใสซื่อ

“หึ นั้นแหละเขาเรียกว่าจีบ เธอนี่มันชื่อจริงๆ เลยนะ ถึงว่าแม่ฉันถึงได้ รักได้ขอบเธอมากขนาดนี้” ในหัวเราะขบขัน

“ก็บัวไม่เคยมีใครมาจีบนี่ค่ะ”

“ช่างเถอะ แต่ถ้าจะให้ดี เธอไม่ต้องรีบมีแฟนหรอกนะ เดี๋ยวจะเสียการ

เรียนเสียเปล่าๆ เธอก็รู้ว่าคุณแม่หวังในตัวเธอมาก

“ค่ะ บัวจะตั้งใจเรียนให้จบ” หญิงสาวรับคำด้วยความหนักแน่น “อืม อย่าทำให้แม่ฉันผิดหวังก็แล้วกัน”

“ค่ะ”

ใช้เวลาไม่นานรถก็แล่นเข้าไปตรงโรงรถจอดภายในบ้านไกรณรงค์ พอ ทั้งคู่เข้าไปข้างในบ้านต่างก็แยกย้ายกันไปทำธุระของตัวเองทันที โดยบัว ต้องเลือกที่จะเข้าไปช่วยแม่บ้านที่กำลังทำมื้อเย็นอยู่ในครัว เธอจึงถือ โอกาสแสดงฝีมือด้วยการทำน้ำพริกปลาทู โดยมีผักสดและผักลวกเป็นของ แกล้มข้างเคียง ซึ่งเธอก็ได้รับค่าชมจากป้ากับป้าศรีไม่ขาดปากว่าอร่อย นักหนา บัวตองจึงรับคำชมด้วยรอยยิ้มอันสดใสและค่าขอบคุณเป็นการตอบแทน

หลังจากที่เธอออกมาจากห้องครัวก็ตรงขึ้นไปยังห้องของตนเองเพื่อ จัดการทำธุระส่วนตัว จากนั้นก็ลงมาข้างล่างเพื่อทานมื้อเย็นด้วยกันอย่าง พร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนเช่นทุกวัน ทันทีที่เนตรนภากับวินตกน้ำพริกปลา ทานก็แอบแปลกใจเล็กน้อยเพราะเป็นรสชาติที่ไม่คุ้นเคยและไม่เคยทาน ที่ไหนมาก่อนเลย

“ณี ศรี ทำไมวันนี้น้ำพริกปลาทูรสชาติไม่เหมือนทุกครั้งเลยล่ะจ๊ะ” เนตร นภาหันไปเอ่ยถามแม่บ้านทั้งสองคน

“อ๋อ พอดีเราสองคนไม่ได้ทำค่ะวันนี้” เอ่ยยิ้มๆ

“แล้วใครทําเหรอครับ อร่อยถูกปากผมมากเลย” วินพูดพลางหยิบผัก ลวกจิ้มลงไปในถ้วยน้ำพริกแล้วเอาเข้าปาก

“นั้นสิจ๊ะ” เนตรนภาสงสัย

“เอ่อ คือบัวเป็นคนทำเองค่ะ” ส่งยิ้มให้เนตรรกากับวิน

“หนูเองเหรอ อร่อยมากเลยลูก” เนตรนภาเอ่ยชื่นชมบัวตอง

“ขอบคุณค่ะ” บัวตองยิ้มรับ “ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะทำอาหารอร่อยแบบนี้” วินเอ่ยขึ้น

“ปกติถ้าบัวอยู่ที่บ้าน บัวจะเป็นคนทำกับข้าวให้ตากับยายอยู่แล้วค่ะ ไว้ บัวจะทำเมนูอื่นให้คุณแม่กับพี่ทานอีกเรื่อยๆ นะคะ”

“อืม ก็ตามใจสิ” วินพยักหน้ารับหันไปสนใจอาหารตรงหน้าต่อ

“จ้ะ แม่จะรอทานนะ” เนตรนภายิ้มให้บัวตองด้วยความเอ็นดู

“ค่ะ”

ทั้งสามคนต่างก็ทานมื้อเย็นร่วมกันไปด้วยความเอร็ดอร่อย โดยเฉพาะวันที่ดูจะชอบน้ำพริกปลาทูฝีมือบัวตองเป็นพิเศษ ทั้งจิ้มทั้งตักใส่จานของ ตนเองไม่ยอมหยุดจนน้ำพริกในถ้วยพร่องลงเกือบจะหมดถ้วยด้วยฝีมือ ของชายหนุ่มเพียงคนเดียว เนตรนภาจึงหันไปมองหน้าบัวตองด้วยใบหน้า ที่เปื้อนยิ้ม เนตรนภาดีใจที่ลูกชายชอบในรสมือของเด็กสาวทั้งๆ ที่เป็น อาหารที่แสนจะธรรมดาพื้นๆ

หลังทานมื้อเย็นเสร็จบัวตองก็กลับขึ้นห้องไปทำรายงานต่อด้วยความ ตื้นตันในใจที่วันนี้เธอทำให้วันชื่นชมในตัวเธอได้ถึงไม่ค่อะไรออกมาจาก ปากของชายหนุ่ม แต่ดูจากที่ชายหนุ่มทานน้ำพริกฝีมือเธอแล้วมันก็แสดง ให้เห็นว่าชายหนุ่มชื่นชอบเป็นอย่างมาก จากที่เคยเอาแต่ตีหน้าเคร่งขรึม ใส่เธออยู่ตลอดที่ผ่านมา

ส่วนวินก็ตรงเข้าไปยังห้องทำงานเพื่อทำงานและทำสิ่งที่ต้องทำทุกวันก็ คือ โทรหาหญิงสาวคนที่เขารักมากที่สุดก็คือษา ที่ช่วงนี้เขาไม่ได้เจอเธอ เพราะเธอต้องทำงานที่บริษัทคุณพ่อของเธอ อีกทั้งเธอยังต้องบินไปต่าง ประเทศอยู่บ่อยๆ แต่ถึงเธอจะไม่ค่อยมีเวลาให้เขาแต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดที่จะ ระแวงสงสัยในตัวเธอเลยสักครั้ง เพราะเธอกับเขาต่างก็มีพันธะต่อกันและ สัญญาระหว่างสองครอบครัว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ