เสน่หาเมียนอกหัวใจ

บทที่1 ถูกชะตา



บทที่1 ถูกชะตา

เอี๊ยด!!! เสียงรถตู้บ้านโกรณรงค์เบรกกะทันหันเพราะมีคนเดินข้ามถนน ตัดหน้ารถ ร่างบอบบางของสาวน้อยอายุยี่สิบปีล้มลงไปกองกับพื้นด้วย ความตกใจ ด้วยความรีบร้อนจะข้ามถนนทำให้เธอไม่ทันมองรถที่ขับมา จึงทำให้เธอเกือบจะถูกรถชนเข้าเต็มๆ โชคดีที่คนขับรถเบรกไว้ทัน

สองแม่ลูกที่นั่งมาในรถตู้ต่างก็พากันตกอกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงรีบลงมาจากรถเข้าไปดูคนเจ็บ พอเนตรนภาเห็นเด็กสาวน้อยนั่งกองอยู่ ที่พื้นก็รีบเดินเข้าดูบาดแผลตามร่างกายทันที

“เป็นยังไงบ้างหนู” เนตรนภาถามด้วยความเป็นห่วง

“หนูไม่เป็นไรค่ะ หนูขอโทษนะคะ ที่ข้ามถนนไม่ดูรถเลย” บัวตองพนม มือไหว้ขอโทษพร้อมกับลุกขึ้นยืนด้วยความลำบาก

“ไม่เป็นอะไรได้ยังไง ทำไมยืนแบบนั้น เจ็บขาอยู่ใช่ไหม แล้วแผล

ถลอกตามแขนอีก” เนตรนภาส่ายหน้า

“นิดหน่อยค่ะ แต่หนูไม่ได้เป็นอะไร”

“งั้น ให้ฉันรับผิดชอบด้วยการไปส่งหนูที่บ้านก็แล้วกัน”

“อย่าเสียเวลาเลยค่ะ หนูกลับเองได้”

“แม่ครับ ถ้ายัยเด็กนี่ไม่อยากให้เราช่วย เราก็กลับกันเถอะ อีกอย่างไม่ เห็นจะเป็นอะไรมากเลย” วินวัยสามสิบปีเอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจเด็ก สาว

“ได้ยังไงกันลูก รถเราเกือบจะชนหนูเขานะ”

“เราไม่ได้ตั้งใจที่จะชนสักหน่อย ใครใช้ให้ไม่ดูตาม้าตาเรือเดินข้าม ถนนมาตัดหน้ารถเองทำไม
“ก็ขาหนูเขาเจ็บลูกจะไม่ช่วยหน่อยเลยเหรอ”

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูขอตัวนะคะ” เดินกะเผลกออกไปช้าๆ

“เดี๋ยวก่อนสิหนู ให้ฉันไปส่งที่บ้านนะ” เนตรนภาเดินเข้าไปประคองบัว

ดองไว้

“อย่าเลยค่ะ บ้านหนูไม่น่าไปหรอกค่ะ”บัวตองส่ายหน้า

“ตกลงจะให้ไปส่งดีๆ หรือจะให้จับโยนขึ้นรถเลือกเอา” วันเริ่มจะ หงุดหงิดรำคาญเพราะแทนที่จะได้กลับบ้านไวๆ แต่กลับต้องมาเสียเวลา กับเด็กบ้าที่ไหนก็ไม่รู้

“ไป เข้าไปในรถกันเถอะ” เนตรนภาพยุงบัวตองตรงหน้าประตูรถ

“ค่ะ” บัวตองยอมขึ้นรถแต่โดยดี

ไม่นานรถตู้ก็แล่นไปจอดตรงหน้าบ้านไม้ชั้นเดียวตามที่บัวตองบอกทาง บัวตองจึงรีบไหว้ขอบคุณเนตรนภาและวินแล้วลงจากรถตรงเข้าไปในบ้าน โดยมีเนตรนภาเดินตามหลังไปติดๆ วันจึงจำใจเดินตามมารดาไปด้วย พอ เนตรนภาเห็นตากับยายที่กำลังนั่งรอหลานสาวอยู่ในบ้านก็อดที่จะเวทนา ไม่ได้ เพราะทั้งคู่กำลังนั่งช่วยกันสานตะกร้าอยู่แถมบ้านก็เก่าและทรุด

โทรมมากแล้วพอสมควร

“คุณตามหนูมาทำไมคะ” บัวตองหันไปถามเนตรนภา

“ฉันยังไม่รู้จักชื่อหนูเลย หนูชื่ออะไรจ้ะ”

“หนูชื่อบัวตองค่ะ”

“ฉันชื่อเนตรนภานะจ๊ะหนู” เนตรนภาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ

“ค่ะ”

“แล้วอยู่กันกี่คนล่ะ”
“อยู่กันสามคนค่ะ มีหนูและตากับยาย

“นั้นใครเหรอลูก” ยายใจถามขึ้น

“คือทั่วไปเดินตัดหน้ารถคุณเขาจะยาย คุณเขาก็เลยมาส่ง” บัวตองบอก ไปตามความจริง

“ตายแล้ว! แล้วบัวเป็นยังไงบ้างลูก”

“บัวไม่เป็นอะไรจ้ะ ยายไม่ต้องห่วงหรอก แค่ข้อแพลงนิดเดียวเอง”

“ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว ยายตกใจหมดเลย”

“ดูท่าทางหนูจะลำบากน่าดูเลยนะ มีอะไรให้ช่วยก็บอกฉันได้นะ นี่จะ นามบัตรของฉัน” เนตรนภา นนามบัตรไปให้บัวตอง

“ขอบคุณค่ะ” บัวตองรับมาถือไว้ด้วยความงงงวย เธอแอบแปลกใจที่ คนไม่เคยรู้จักกันเลยจะมาเห็นใจกัน

“ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ไว้ใจฉันได้ ฉันแค่รู้สึกถูกชะตากับหนูก็เลยอยาก

จะช่วยแค่นั้นเองจ้ะ” เนตรนภาพูดไปด้วยความสัตย์จริง

“ขอบคุณนะคะ ที่เอ็นดูหนู ถ้าจะกรุณามีงานให้หนูทำไหมคะ พอดีหนู อยากทํางานคะ” บัวตองตัดสินใจพูดออกไปตรงๆ เพราะเธอยังหางานทำ

ไม่ได้เลย

“แล้วหนูเรียนจบหรือยังจ๊ะ ยังเด็กอยู่เลยน่าจะเรียนหนังสือมากกว่านะ” เนตรนภาสงสัย

“หนูเรียนจบแค่ ม.6 เองค่ะ ”

“แล้วทำไมไม่เรียนต่อล่ะ หนูจะทำงานทำไม

“หนูไม่มีเงินเรียนต่อหรอกค่ะ หนูก็เลยจะช่วยทำงานแบ่งเบาภาระตา กับยาย” บัวตองบอกเล่าด้วยน้ำตาคลอเบ้า
“ได้สิจ้ะ หนูเอาเบอร์โทรศัพท์ของหนูมาให้ฉันสิ เดี๋ยวฉันจะติดต่อกลับ มาหาหนูเอง” พูดพลางมองหน้าสาวน้อยด้วยความเวทนา

“ขอบคุณนะคะ ที่เมตตาหนู” บัวตองยิ้มกว้างดีใจ

รอยยิ้มของบัวตองที่แสดงความดีใจออกมาอย่างเปิดเผยมันทำให้วัน ไม่อาจที่จะละสายตาออกมาจากริมฝีปากบางนั้นได้ รอยยิ้มที่สดใสบริสุทธิ์ มันทำให้เขาเกิดอาการกระตุกตรงที่หัวใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขา เจอผู้หญิงคนไหนก็ไม่เคยที่จะมีอาการอย่างนี้มาก่อนเลย วินสลัดความคิด ทิ้งแล้วหันหน้าหนีไปทางอื่น

ส่วนบัวตองพอบอกเบอร์โทรศัพท์ของเธอให้เนตรนภาแล้ว เธอก็เดินไป ส่งที่รถโดยไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าวินด้วยซ้ำ เพราะวันแสดงท่าที่ไม่ พอใจเธอตั้งแต่ที่เธอเดินข้ามาถนนมาตัดหน้ารถของเขาแล้ว บัวตอง ยกมือไหว้ทั้งสองแม่ลูกด้วยความนอบน้อม มันยิ่งทำให้เนตรนภาเมตตา เอ็นดูเธอ

“ไว้ฉันจะโทรมาหาหนูนะ” เนตรนภาส่งยิ้มให้

“ค่ะ” บัวตองยิ้มรับ

“ออกรถเลย เสียเวลา” วินตะโกนบอกคนขับรถเสียงดัง “ครับ คุณวิน” คนขับรถรับคำ

บัวตองหน้าเลื่อนลงมองตามรถตู้คันหรูด้วยความตื้นตันใจ ที่อยู่ๆ เธอ ก็ได้เจอกับเนตรนภาที่เมตตาและเอ็นดูเธอเข้ามาโดยบังเอิญเพราะเธอ กําลังต้องการความช่วยเหลืออยู่พอดี ก่อนที่เธอจะเจอกับเนตรนภา เธอพึ่ง จะโดนเจ้าของร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าลวนลามภายในร้าน เธอจึงรีบวิ่ง ออกมาจากร้านด้วยความตกใจ ด้วยความเร่งรีบจะข้ามถนนเธอจึงไม่ทัน ได้มองรถเลยเกือบจะถูกรถของเนตรนภาชนเข้าอย่างจังแต่โชคดีที่รถ เบรกเอาไว้ทันเธอจึงไม่ได้เป็นอะไร
ระหว่างทางกลับบ้านไกรณรงค์เนตรนภา ชวนวินลูกชายคนเดียวคุย กันถึงเรื่องบัวตองเด็กสาวที่พึ่งเจอ เนตรนภาไม่รู้ว่าจะหางานอะไรให้เด็ก สาวดีก็เลยต้องขอความเห็นของลูกชายสักหน่อยถึงวินจะไม่ค่อยเต็มใจ ก็ตาม

“แม่ไม่รู้ว่าจะให้หนูบัวเขาทำงานอะไรดี วันว่าไงลูก

“ผมไม่รู้ครับ แม่จะอะไรกับเด็กนั้นนักหนา เด็กนั้นเกือบจะทำให้รถของ เราเกือบจะชน โชคดีนะที่เบรกทัน” ในสายหัวด้วยความขุ่นเคืองใจ

“หนูบัวเขาไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย ลูกอย่าคิดมากเลยนะ อีกอย่างหนูบัว เขาออกจะน่ารัก แม่อยากได้เป็นลูกสาวจังเลย”

“โธ่ คุณแม่ครับ เรายังไม่รู้หัวนอนปลายเท้าของเด็กนั้นเลย แต่อย่าไป ให้ความสนใจมากนักเลย”

“แม่ก็แค่เอ็นดู งั้นแม่จะให้หนูบัวเขามาทำงานที่บ้านเราเลยดีไหม” “ไม่ได้ครับ เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจัดการเองก็แล้วกัน” วินเริ่มจะโมโหที่

มารดาตัวเองจะเอาเด็กที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามาในบ้าน เขาจึงตัดปัญหาจะจัดให้

เอง

“จ้ะ แม่ฝากด้วยก็แล้วกัน”

“ครับ”

ทางด้านบัวตองกำลังเอายาหม่องนวดทาบริเวณข้อเท้าของตัวเองไป เบาๆพร้อมกับนึกถึงเนตรรภากับวินที่มาส่งเธอถึงที่บ้านแถมยังใจดีจะหา งานให้เธอทําอีก เธอได้แต่หวังว่าจะได้งานทำเร็วๆ เพื่อแบ่งเบาภาระของ ตากับยายสักที ตั้งแต่จําความได้เธอก็มีแต่ตากับยายเท่านั้นที่เลี้ยงดูเธอ จนโตมาถึงทุกวันนี้ ส่วนพ่อกับแม่ของเธอท่านเสียไปด้วยอุบัติเหตุทาง รถยนต์ตั้งแต่เธอเด็กๆ แล้ว ไม่ว่าจะยังไงเธอก็จะตอบแทนบุญคุณตากับ ยายที่ท่านเลี้ยงดูเธอมาให้ถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้
ร่างลุกเดินตรงเข้าครัวจากที่ทายาที่ข้อเท้าเสร็จ เพื่อ ทำกับข้าวตายายซึ่งเป็นหน้าที่ของที่ทำประจำ ระหว่างกำลัง ก้มหน้าทำกับข้าวใบหน้าอันหล่อเหลาของกินลอยเข้าในห้วงความของอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบเธอเอามากเลย เธอรู้ตัวว่าเป็น

หลังจากบัวตองทำกับข้าวเสร็จก็ไปอาบน้ำทันที พอเสร็จมานั่งทาน ข้าวกับตาและยายเหมือนเช่นทุกวัน และพูดคุยกันถึงเรื่องที่พึ่งผ่าน

“บัวแน่ใจนะลูก จะทำงานคุณเนตรนภาถาม”ค่ะ หนูแน่ใจคุณเนตรเขาดูใจดีเลยนะคะ เขาไม่หลอกหนูหรอก

“แล้วงานขายเครื่องใช้ไฟฟ้าล่ะ บัวลาออกแล้วเหรอลูก” ตาแสงถาม

ด้วยความสงสัย

ค่ะ ลาออกแล้วพูดออกมาไม่เต็มปาก

“ทำไมล่ะ” ตาแสงถาม

“คือ บัว

งั้นก็ตามใจแล้วกันลูกตาแสงเอ่ยขึ้น

“จ้ะ ตาบัวตองยิ้มรับ ไม่บอกว่าเธอถูกเจ้าของร้านลวนลาม เพราะไม่อยากจะให้ท่านเป็นห่วงและไม่สบายใจไปมากกว่าแล้ว เธอ จะต้องเข้มแข็งและผ่านเรื่องอย่างที่เข้ามาในชีวิตด้วยตัวเองให้บัว ตองมุ่งมั่นในใจ

ด้าน นกำลังคิดไม่ตกว่าจะให้บัวตองไปทำงานอะไรที่ไหนเพราะในบ้าน เขาไม่ทางเข้ามาอย่างแน่นอนอีกอย่างยังไม่ครุ่นคิดอยู่ในห้องนอนของตัวเอง ใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กสาวมันทำให้เขา อดที่จะนึกถึงไม่ได้ ถ้าจะให้เปรียญก็เหมือนดอกไม้แรกแย้มที่กำลังเบ่ง บานรอให้ผีเสื้อเข้ามาดอมดมความสวยงามและดูดกินเกสรดอกไม้ พอ ความคิดมาหยุดตรงนี้วินก็รีบสลัดทิ้งทันที

“นแกเป็นบ้าอะไรวะ!” เสียงทุ้มต่อว่าตัวเอง

วินนั่งคิดไปคิดมาจนนึกออกว่าจะให้บัวตองไปทำงานที่ไหน เขาหวังว่า เธอจะทำได้ก็แล้วกัน เพราะงานที่ว่าเป็นงานบริการและอยู่ บนดอยสูง พอสมควร วันหยุดนึกถึงเด็กสาวแล้วตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระล้าง ร่างกายตัวเองทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ