เสน่หาเมียนอกหัวใจ

บทที่10 คนสําคัญ



บทที่10 คนสําคัญ

หนึ่งเดือนต่อมา

ณ บริษัทซาไทยจํากัด ภายในห้องทำงานส่วนตัวบัวตองกำลังนั่งเรียนรู้ งานต่างๆ อย่างตั้งใจเหมือนเช่นทุกวัน อยู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็สั่น ขึ้นเธอจึงรีบหยิบขึ้นมาพอเห็นว่าเป็นเบอร์ใครเธอจึงกดรับสายทันควัน ด้วยความดีใจ

“ฮัลโหลปาย”

“บัวเธอสบายดีนะ”

“อืม ฉันสบายดี แล้วเธอล่ะ หมู่นี้โทรไปไม่ค่อยจะรับสายเลยนะ”

“พอดีช่วงนี้ฉันยุ่งๆ อยู่อะ มีหลายเรื่องที่ต้องคิดและเรียนรู้”

“พ่อของเธอคงจะใช้งานเยอะสินะ”

“อืม ก็ไม่เชิงหรอก” ปายเอ่ยเสียงอ่อน

“ปายเธอเป็นอะไรหรือเปล่า”

“เปล่า ฉันมีข่าวดีจะบอกเธอนะ” ปายรีบปรับเปลี่ยนเสียงให้สดใสมี

ความสุขขึ้น

“ข่าวดีอะไรเหรอ” บัวตองตั้งใจฟังด้วยความอยากรู้

“ฉันกำลังจะหมั้นเดือนหน้าแล้วนะ”

“อะไรนะ ! ปายเธอพูดใหม่” บัวตองตกใจลุกขึ้นยืน
“เธอฟังไม่ผิดหรอก ฉันกำลังจะหมั้นจริงๆ ”

“กับใคร”

“พี่ทน ลูกชายเพื่อนพ่อฉันน่ะ”

“เธอรักเขาเหรอ เธอถึงได้ยอมหมั้น เธอถูกบังคับใช่ไหม”

“เปล่า ฉันเต็มใจหมั้นเอง ฉันเชื่อนะว่าพี่เขาจะรักและดูแลฉันได้ อีก อย่างฉันอยากจะทำให้คุณพ่อกับคุณแม่มีความสุข”

“แล้วนทล่ะ เธอรู้ไหมว่าทเขารู้แล้วว่าเธอแอบชอบอยู่

“ฉันรู้แล้วล่ะ

“แล้วนัทว่ายังไง”

“เขาบอกให้ฉันตัดใจ เพราะเขาไม่มีทางตัดใจจากเธอ และไม่มีใครมา แทนที่ได้”

“ฉันไม่คิดเลยนะ ว่านัทจะใจแข็งขนาดนี้” บัวตองส่ายหน้า

“เธอก็ไม่ต่างกันหรอกบัว ยอมรับรักจากนัทเขาเถอะ เขารักเธอมากนะ”

“ปายฉันขอโทษนะที่เป็นตัวปัญหาระหว่างเธอกับนัท แต่จะให้ฉันรับรัก จากนัทมันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ”

“เธออย่าโทษตัวเองสิว เรื่องของหัวใจไม่มีใครบังคับใครได้หรอกจริง ไหม”

“ขอบคุณนะปาย ที่เธอไม่เคยเห็นฉันเป็นศัตรูเลย” บัวตองเอ่ยเสียงสั่นเครือ

“เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับฉัน ฉันไม่มีทางมองเธออย่างนั้นเด็ดขาด เธออย่าลืมมางานหมั้นฉันล่ะ ”

“แล้วเธอบอกนัทเขาแล้วหรือยัง”

“ยังเลย ฝากเธอบอกด้วยก็แล้วกัน”

“ปายถ้าเธอไม่ได้รักเขา ก็อย่าหมั้นเลยนะ ถ้าเธอยังรักนัทเขาอยู่

“ถึงตอนนี้ความรักมันไม่สำคัญแล้วล่ะ ฉันไม่อยากจะวิ่งตามทั้งๆ ที่รู้ว่า มันเป็นไปไม่ได้ เธอคงเข้าใจนะ”

* ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้วมันย่อมดีเสมอ ไว้ฉันจะบอกนัทให้นะ”

“ขอบใจนะ ไว้ฉันจะโทรมาคอนเฟิร์มวันอีกที”

“จ้ะ” บัวตองรับคำ

หลังจากที่ปายวางสายจากบัวเธอก็ทรุดตัวนั่งลงบนเตียงด้วยความอ่อน ล้าภายในห้องนอน ถ้าหากนัทรู้ว่าเธอกำลังจะเข้าพิธีหมั้นหมายในอีกหนึ่ง เดือนข้างหน้า เขาคงจะไม่รู้สึกอะไรและคงจะยินดีกับเธอแค่นั้น เพราะไม่ ว่าจะยังไงชายหนุ่มก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจจากบัวมารักหรือสนใจเธอได้หรอก และเธอหวังว่าชายหนุ่มที่เธอกำลังจะเปิดใจหรือหมั้นหมายด้วยจะทำให้ เธอรักได้ในไม่ช้า

“ฮัลโหลนัท สะดวกคุยหรือเปล่า เรามีเรื่องสำคัญจะบอก” บัวตองกรอก เสียงใส่ปลายสายทันทีที่รับสาย

“สะดวกสิ บัวมีเรื่องอะไรเหรอ หรือว่าคิดถึงเรา”
“เราไม่ตลกนะ !”

“แหม แค่นี้ก็ต้องด้วย มีเรื่องอะไรก็ว่ามาเลยรอฟังอยู่

“ปายจะหมั้นเดือนหน้าแล้วนะ”

“อะไรนะ! บัวพูดใหม่สิ!” นัทตกใจถามเพื่อความแน่ใจ

“ปายกำลังจะหมั่นเดือนหน้า เพิ่งโทรมาบอกเราเมื่อกี้นี้เอง”

นัทได้ยินในสิ่งที่บัวตองพูดก็ชะงักนิ่งไปพูดอะไรไม่ออก เพราะไม่คิด ว่าเพื่อนสาวที่เคยแอบรักเขากำลังจะไปหมั้นหมายกับผู้ชายคนอื่นในอีก ไม่ช้า ชายหนุ่มพยายามควบคุมสติแล้วกลับมาสนใจคู่สนทนาต่อ

“นัทยังฟังเราอยู่หรือเปล่า”

“ฟังสิ เราฟังอยู่”

“นัทรู้ไหม ว่าปายกำลังจะหมั้นกับคนที่ตัวเองไม่ได้รัก

“คนจะหมั้นหมายกันมันต้องเกิดจากความรักอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” นัท ถามกลับ

“นัทก็รู้อยู่แก่ใจว่าปายรักใคร แล้วก็รักมานานแล้วด้วย ที่ตัดสินใจ หมั้นก็เพราะพ่อกับแม่แนะนำทั้งนั้น

“แล้วจะทำยังไงได้ ก็ในเมื่อปายตัดสินใจแล้ว”

“นัทรู้ไหมเพราะนัทไม่ยอมตัดใจจากเรา มันกำลังจะทำให้นัทเสียปายไป”
” นัทหน้าเปลี่ยนสีพูดไม่ออก

“ยังพอมีเวลานะ ที่นัทจะเอาปายกลับมา เลิกปากแข็งและยอมรับใจตัว เองสักทีเถอะ นัทอย่าคิดนะว่าบัวไม่รู้ว่าที่นัทไปตามห่วงตามช่วยเหลือ ปายทุกครั้งที่ผ่านมา จริงๆ แล้วนัทก็มีใจให้ปายอยู่

“บัวอย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลยน่า”

“ตามใจ นัทอยากจะปล่อยปายไปให้ผู้ชายคนอื่นครอบครองก็ตามใจ แค่นี้ก่อนนะเราต้องทำงานต่อ” พูดจบบัวตองก็วางสายด้วยอารมณ์ขุ่น เคือง

นัทนั่งแทบจะนั่งไม่ติดหลังจากที่รู้ข่าวว่าปายกำลังหมั้นหมายกับผู้ชาย คนอื่น เขารู้อยู่แก่ใจว่าบัวไม่มีทางเปิดใจให้เขาอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้น เธอคงจะรับความรู้สึกดีๆ ที่เขามีให้เธอตั้งนานแล้วแต่เขาจะลองดูอีกครั้ง แล้วกับปายละเขารู้สึกยังไงกันแน่ แต่ที่เขากำลังรู้สึกในตอนนี้เขาไม่อยาก จะให้เธอไปเป็นของใครทั้งนั้น และจะต้องไปฟังจากปากของเธอด้วยตัว เองว่าความจริงมันเป็นยังไงกันแน่ทำไมเธอถึงได้เปลี่ยนใจไปจากเขา

ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นพร้อมกับเลขาหน้าห้องของวันเดิน เข้ามา

“คุณวินรอทานข้าวอยู่ค่ะ”

“ค่ะ” บัวตองรับคำ

“คุณวินบอกว่าเร็วๆ หน่อยนะคะ เดี๋ยวคุณษาจะรอนาน”

“ค่ะ” รับค่าเสียงอ่อน

บัวตองเดินตรงไปยังห้องประธานบริษัทพร้อมกับเคาะประตูพอผลักประตูเข้าไปเธอก็เจอมากำลังนั่งอยู่บนตักของชายหนุ่ม เธอจึงรีบ หมุนตัวหันหลังให้คนทั้งคู่ทันทีด้วยความตกใจ ส่วนมาก็รีบผละลุกขึ้นจาก ตักของชายหนุ่มทันควัน

“ไปทานข้าวกันเถอะ ผมหิวแล้ว” วินพูดพลางเดินจับจูงแขนมาเดินผ่าน บัวตองออกไปจากห้อง

บัวตองเห็นอย่างนั้นก็เดินตามหลังคนทั้งคู่ไปห่างๆ ระหว่างที่เดินตาม เธอก็เอาแต่จ้องมองมือของทั้งสองคนที่จับจูงกันเดินไปข้างหน้าไม่ยอม ปล่อย เธอสัมผัสได้ว่าวินรักและเอาใจใส่มามากและดูจะมากกว่าฝ่ายหญิง เสียอีก เห็นแบบนี้แล้วเธอก็อดที่จะนึกถึงจูบแรกที่ดินเป็นคนมอบให้เธอ เลยไม่ได้จริงๆ เธอพยายามจะไม่นึกถึงแล้วแต่มันก็ทำไม่ได้จริงๆ เพราะ มันยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเธอไม่จางหาย

วินขับรถพาษากับบัวตองไปนั่งทานอาหารแห่งหนึ่งไม่ไกลจากบริษัท มากนัก อาหารบนโต๊ะเกือบทั้งหมดส่วนใหญ่จะเป็นเมนูที่ษาชอบทั้งนั้นซึ่ง ชายหนุ่มเป็นคนสั่งให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารตลบอบอวลไปด้วยความ รัก ด้วยคนทั้งคู่ต่างคนก็ต่างตักอาหารเอาใจกันและกันอยู่ตลอดเวลา เสมือนว่าไม่มีใครอยู่ร่วมโต๊ะด้วย

“บัวขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” บัวตองเอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืน

“จ๊ะ” ษาส่งยิ้มให้บัวตองด้วยความจริงใจ

“เอานี่ มาทานปลาหน่อยนะ” วินยังคงเอาใจหญิงสาวต่อ

“ขอบคุณค่ะ มาว่าเราจะหวานกันเกินไปแล้วนะคะ บัวคงจะเลี่ยนแล้วล่ะค่ะ”
“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย มันเป็นเรื่องปกติของคู่เราอยู่แล้ว”

“ษาว่าตูบัวจะแปลกๆ ไปนะคะ เงียบๆ ยังไงก็ไม่รู้ค่ะ

“ผมว่าก็ปกติดีนะ ปกติก็ไม่เห็นจะมีปากมีเสียงอะไรกับใครอยู่แล้ว”

“ก็จริงนะคะ สงสัยมาจะคิดมากไปเอง ว่าแต่ไม่มีหนุ่มๆ คนไหนมาขาย ขนมจีบให้บัวบ้างเลยเหรอคะ”

“น่าจะมีอยู่มั้ง” วันพูดพลางนึกถึงนัทเพื่อนสมัยเรียนของบัวที่กำลังตาม

ตอเธออยู่

“แหม น่ารักขนาดนี้ก็ต้องมีอยู่แล้วแหละค่ะ ”

“ครับ” ส่งยิ้มให้มาแต่ในใจกลับนึกถึงรสจูบที่เขาเคยได้สัมผัสจากบัว ตองในคืนนั้น

บัวตองเดินตรงกลับมาที่โต๊ะแต่ภาพความรักอันหวานชื่นของทั้งสองคน ก็ยังคงอยู่ ร่างบางจึงนั่งลงทานอาหารต่อจนอิ่มท้องโดยพยายามจะไม่ สนใจทั้งสองคน

“เอ่อ ขอโทษนะคะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้น

“มีอะไรจะบัว” มาถามกลับ

“ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไปบัวขอไปพักกลางวันกับเพื่อนๆ พนักงานคนอื่นนะคะ “บัวตองพูดพลางมองหน้าวัน

“ทําไมเหรอ อาหารไม่ถูกปากเธอหรือไง”

“เปล่าค่ะ บัวแค่อยากจะทานอะไรง่ายๆ แถวๆ บริษัทค่ะ ใกล้ดี ”
“ตามใจเธอก็แล้วกัน” วินเอ่ยเสียงราบเรียบ

“ขอบคุณค่ะ”

ช่วงเย็นหลังจากที่บัวตองเลิกงานเธอก็ตรงกลับบ้านพร้อมวิน พอเข้าไป ข้างในบ้านเธอก็เจอนัทมานั่งรอเธออยู่ในห้องรับแขกพร้อมกับช่อดอก กุหลาบสีแดงซ่อโต วินพอรู้ว่าหญิงสาวมีแขกจากแม่บ้านก็เดินตามหลังไป ติดๆ แต่พอเห็นว่าใครมาหาเธอถึงที่บ้านก็เกิดความไม่พอใจขึ้นมาเสีย อย่างนั้น แต่ก็เลือกที่จะเดินกลับขึ้นห้องตนเองไปเงียบๆ

“นัทมาหาเราทําไม คนที่นัทควรจะไปหาคือบ่ายนะไม่ใช่เรา

“เราแค่อยากจะลองอีกครั้ง แต่ถ้าไม่สำเร็จเราก็จะหยุด”

“นัทพูออะไร เราไม่เข้าใจ”

“บัวเป็นแฟนเรานะ ขอร้องล่ะเรารักบัว บัวเห็นใจเราหน่อยจะได้ไหม” นัทพูดพลางคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับยื่นดอกไม้ให้เธอ

“นัทลุกขึ้นเถอะ ทำแบบนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อ

กันก็พอ”

“บัวมีใครอยู่ในใจแล้วใช่ไหม” นัทถามพลางลุกขึ้นยืน

“ก็ไม่เชิงหรอก”

“พูดแบบนี้แสดงว่ามี”

“นัทอย่าสนใจเรื่องของเราเลย มันไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก”

“เอาล่ะ เราขอยอมแพ้ ขอให้บัวเจอคนที่บัวรักและรักบัว อย่างที่บัว ต้องการนะ” นัทส่งยิ้มให้หญิงสาว
“ขอบคุณนะ” บัวตองยิ้มรับ

“งั้นเราขอตัวกลับก่อนนะ ส่วนดอกไม้นี่เราให้ รับไปสิ

“รับก็ได้” รับช่อดอกไม้มาถือไว้พร้อมกับก้มหน้าลงสูดดมกลิ่น

คล้อยหลังนัทกลับไปบัวตองก็เดินตรงไปยังห้องนอนพร้อมถือช่อ ดอกไม้ไว้ในมือ กำลังจะเปิดประตูเข้าไปก็หันไปเห็นวันกำลังยืนจ้องมอง เธออยู่ใกล้ๆ ด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก บัวตองจึงหันไปทางชายหนุ่มด้วย อาการประหม่าทำตัวไม่ถูก

“เธอนี่มันเสน่ห์แรงจริงๆ มีหนุ่มๆมาตามซื้อถึงที่บ้าน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น ด้วยความไม่พอใจ

“ใช่ค่ะ นัทเขามาขอบัวเป็นแฟน แต่บัวปฏิเสธไปแล้ว”

“ฉันว่าไม่จริงมั้ง ดอกไม้คามือซะขนาดนี้”

“นัทเขาให้ในฐานะเพื่อน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ”

“ให้มันจริงเถอะ จะทำอะไรคิดถึงหน้าแม่ฉันด้วยก็แล้วกัน”

“ค่ะ บัวจะจําไว้” รับคําหนักแน่น

วันต่อมา

ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งนัทกำลังนั่งรอคนสำคัญที่เขานัดให้มาพบหลัง จากที่เขาโทรนัดหมายเมื่อหลายนาทีก่อนหน้านั้นอย่างใจจดใจจ่อ เธอ รับปากว่าจะมาพบเขาตามที่เขาต้องการ แต่เขานั่งรอนานเป็นครึ่งชั่วโมง แล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเธอจะมาเลย เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหมายจะกดโทรตามแต่เธอก็เดินเข้ามาพอดี

“มาแล้วเหรอ นั่งลงก่อนสิ” ทรีบลุกขึ้นขยับเก้าอี้ให้ชายนั่งลงด้วย ความดีใจ

“นายเป็นอะไร ทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย” ปายอดที่จะประหลาดใจกับ ท่าทางของชายหนุ่มไม่ได้

“เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไร” ส่งยิ้มให้หญิงสาว

“แล้วนายนัดกันมามีเรื่องอะไรกันแน่

“ฉันว่าเราสั่งอาหารกันก่อนดีกว่า ฉันหิวแล้ว”

“นายจะให้ฉันทานข้าวกับนายเหรอ”

“ใช่ ฉันอยากทานข้าวกับเธอนะ”

“ฉันว่านายมีเรื่องอะไรก็รีบๆ พูดมาเถอะ ฉันไม่ตลกกับนายหรอกนะ”

“ใครว่าตลกล่ะ นั่งทานข้าวเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ” นัทจ้องมองใบหน้า เนียนด้วยสายตามุ่งมั่น

“ทนายพยายามคะยั้นคะยอให้ฉันออกมาพบ แค่มานั่งทานข้าวกับนาย เนี่ยนะ ไหนบอกมีเรื่องสำคัญจะคุยกับฉันไม่ใช่เหรอ”

“ก็ได้ งั้นก็ทานข้าวคุยไปด้วยก็แล้วกัน โอเคไหม”

“อืม” ปายยอมทําตามที่ชายหนุ่มขอแต่โดยดี

ทั้งสองคนสั่งอาหารคนละอย่างสองอย่าง รอไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟที่ โต๊ะ ทั้งคู่จึงลงมือทานพร้อมกับลอบมองหน้ากันไปมาในจังหวะที่ต่างคน ต่างเผลอ จนปายเอ่ยขึ้นทําลายความเงียบ น

“นายมีเรื่องอะไรก็พูดมาเถอะ”

“เธอจะหมั้นจริงๆ เหรอ”

“ใช่ ฉันจะหมั้นเดือนหน้าแล้ว นายอย่าลืมไปร่วมงานนะ”

“เธอรักเขาเหรอ ถึงได้ตัดสินใจหมั้น”

“อืม ฉันรักเขา” ปายยิ้มมุมปาก

“รักหรือทําในสิ่งที่พ่อกับแม่ของเธอต้องการกันแน่”

“มันไม่เกี่ยวกับนาย ถ้าหมดธุระแล้วฉันขอตัว” ปายรีบลุกขึ้นยืนทันที

“เดี๋ยวก่อน เรายังคุยกันยังไม่จบเลยนะ” ทรีบลุกตาม

“นายจะคุยอะไรอีก ทางที่ดีเราสองคนอย่าเจอกันอีกเลยจะดีกว่า”

“เธอคิดดีแล้วเหรอ ที่จะหมั้นกับคนที่เธอไม่ได้รัก”

“ฉันจะรักหรือไม่รัก แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย”

“ใช่มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน แต่ในฐานะเพื่อนฉันอยากจะให้เธอมีความ สุข ไม่ใช่ต้องทนฝืนใจรักคนที่ไม่ได้รัก”

“นายอย่าทำเป็นรู้ดีไปหน่อยเลย หัวใจของฉัน ฉันดูแลเองได้ ไม่ต้องให้ นายมาบอกหรอก”

“จริงๆ ที่ฉันนัดเธอมาในวันนี้ ฉันแค่อยากจะมาได้ยินจากปากเธอเอง ว่าเธอได้ตัดใจจากฉันไปแล้ว ”

“นายจะพูดถึงมันอีกทำไม ในเมื่อตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันแค่ไปคน

“ถ้าตอนนี้ ฉันบอกว่าฉันอยาก

เธอคิดว่ายังไง” “ฉันไม่คิดอะไรทั้งนั้นแหละ เพราะฉันกำลังเริ่มต้นใหม่

“เธออยากจะไหม ว่านั้นใคร

“ไม่ฉันเสียเวลางานมามากแล้ว

นัทเห็นอย่างเห็นอย่างนั้นคิดจะเดินตามแต่สุดท้ายได้แต่นิ่งอยู่อย่างนั้นแต่ก็อดจะตำหนิตนเองในใจไม่ที่ขี้ขลาด เกินไป ถึงยังไงเขาก็จะหาทางให้ปายเปลี่ยนใจยกเลิก

ปายเดินเข้าไปทิ้งนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องงานในบริษัทของบิดาความสับสน เธอไม่เข้าใจในเมื่อนัทรู้เรื่องที่เธอจะหมั้นเธอไปเจอเลย แถมยังจาแปลกๆ กับเธออีก ท่าทางหนุ่มเมื่อได้เธอในร้านอาหารยังคงทำให้เธอคลางแคลงใจอยู่

ณ บริษัทชาไทยจํากัดบัวตองกำลังวิ่งแผนก ต่างตัวเอง ตำแหน่งงานของเธอยังแน่นอน งานหลักๆ ของเธอคือตาม ทุกคนมอบหมายศึกษาและอ่านเอกสารเกี่ยวกับการบริหารงานต่อ
“อ้าว บัวเที่ยงแล้ว ยังไม่พักทานข้าวอีกเหรอ” นพพลเอ่ยทักทายหญิง สาวที่หอบเอกสารเต็มมือ

“กำลังจะพักค่ะ” บัวส่งยิ้มให้นพพล

“แล้วนี่เอกสารอะไรเยอะแยะเลย

“เอกสารเก่าค่ะ บัวจะเอาไปอ่านศึกษาเพิ่มเติม “ขยันจริงๆ นะเรา ไอ้วินคงจะภูมิใจน่าดูที่มีน้องสาวขยันแบบนี้”

“ค่ะ” บัวตองยิ้มรับ

“ไปทานข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ”

“ค่ะ”

“ไปร้านไหนกันดี บัวอยากจะทานอะไรบอกได้เลยนะ”

“บัวทานอะไรก็ได้ค่ะ”

ระหว่างที่คนทั้งคู่กำลังยืนคุยกันอยู่วินก็ควงแขนษาเดินผ่านมาเห็น พอดี จึงเดินเข้าไปหาทั้งสองคน พอเข้าไปใกล้มาก็ส่งสายตาไม่พอใจไป ให้นพพลทันที แต่ชายหนุ่มกลับไม่ใส่ใจทำเฉยเมย ส่วนวินก็เอาแต่จ้อง ใบหน้าบัวตองที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ บนใบหน้า ส่งให้เธอน่า

รักสดใสมากยิ่งขึ้นจนเขาไม่อยากจะละสายตาจากเธอเลย

“ฉันกับษากำลังจะไปทานมื้อเที่ยง แกไปด้วยกันไหม” วินเอ่ยถามเพื่อน รัก

“แกพาษาไปเถอะ ฉันกับบัวจะไปทานด้วยกัน”

“ษาเพิ่งจะรู้นะคะ ว่านพสนิทกับบัว”
“ทำไมจะสนิทไม่ได้ล่ะ ก็บัวออกจะน่ารักขนาดนี้” นพพลหันไปมอง สบตากับบัวตอง

“ตามใจแกก็แล้วกัน ฉันกับษาไปล่ะ” วิน โอบเอวหญิงคนรักแล้วเดิน จากไป

ภายในร้านอาหารตามสั่งข้างทางร้านหนึ่งใกล้ๆ บริษัท บัวตองกับ นพพลสั่งก๋วยเตี๋ยวคนละชามทานไปเงียบๆ บัวตองแอบสงสัยในท่าทาง ของชายหนุ่มตรงหน้าเหมือนกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่างอยู่ ทั้งๆ ที่ก่อน หน้านั้นเขายังอารมณ์ดีอยู่เลย

” นพเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”

“เปล่า”

“พี่น่าจะไปทานข้าวกับพี่วินคุณษานะคะ ไม่ต้องมาทนนั่งร้อนแบบนี้ หรอกค่ะ”

“พี่ไม่มีปัญหากับอากาศหรือว่าอาหารหรอกนะ เพราะพี่ก็ไม่ได้ร่ำรวย

อะไรมากมาย”

“แล้วคิดยังไงถึงได้ชวนบัวมาทานข้าวด้วยคะ”

“พี่เห็นบัวไม่มีเพื่อนนะ ก็เลยอยากจะชวนมาทานเป็นเพื่อน

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ปกติบัวก็ทานกับพนักงานคนอื่นอยู่แล้ว”

“ว่าแต่ทําไมบัวถึงไม่ไปทานกับไอ้วินมันล่ะ”

“บัวไม่อยากไปเป็น ก.ค. พี่วินกับคุณษานะค่ะ ช่วงนี้เห็นหวานกันตลอดเลย”
นพพลได้ยินอย่างนั้นก็กำมือแน่นด้วยความขุ่นเคืองในใจ จากนั้นก็ลุก เดินออกจากร้านหน้าตาเฉย บัวตองพยายามเรียกตามหลังแต่ชายหนุ่ม กลับไม่สนใจ เธอจึงได้แค่มองด้วยความงงงวยเท่านั้น

ถึงเวลาเลิกงานบัวตองรีบเก็บข้าวของบนโต๊ะตรงไปนั่งรอปืนอยู่ตรง หน้าห้องประธานบริษัทเหมือนเช่นเคย รอสักพักชายหนุ่มก็เดินออกมาจาก ห้องเธอจึงรับลุกเดินตามชายหนุ่มไปติดๆ เข้าข้างในลิฟต์ ระหว่างที่อยู่ใน ลิฟต์บัวตองก็เลือกที่ยืนรักษาระยะห่างอยู่พอสมควร วันจึงไปเหลือบหันไป

มองหน้าเธอแวบหนึ่งด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย “ตอนกลางวันไปทานข้าวกับไอ้นพเป็นยังไงบ้าง” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น

“ก็ดีค่ะ”

“มันจีบเธอหรือเปล่า”

“เปล่าค่ะ”

“ไอ้นพมันก็เป็นคนดีคนหนึ่งนะ แถมยังโสดอยู่ด้วย ถ้าเธอจะชอบมัน ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ อย่างน้อยมันก็ยังดีกว่าเพื่อนของเธอ”

“บัวยังไม่อยากจะมีใครค่ะ อยากทำงานและดูแลคุณแม่มากกว่า”

“หึ ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน ไม่ใช่เที่ยวหว่านเสน่ห์ไปทั่วจนผู้ชาย ติดเป็นพวน” วินพูดจบก็เดินออกจากลิฟต์ไป

บัวตองเดินตามชายหนุ่มตรงไปที่รถ แต่ในหัวก็อดนึกถึงคำพูดของชายหนุ่มไม่ได้ เธอเข้าใจว่าชายหนุ่มเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะ ทำให้เนตรนภาผิดหวังที่อุตส่าห์อุปถัมภ์เลี้ยงดูเธอกลัวจะเสียคน นั่งรถมา เรื่อยๆ จนจะครึ่งทางแล้วแต่อยู่ๆ วันก็เลี้ยวรถจอดข้างทาง

“เธอลงไปโบกแท็กซี่กลับบ้านเองเลยก็แล้วกันนะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น

“ทําไมคะ!”บัวตองตกใจ

“ฉันมีนัดกับมาน่ะ ไม่อยากเข้าบ้านแล้วเสียเวลา”

“บัวตองได้ยินอย่างนั้นก็นิ่งไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ “เธอเป็นอะไร รีบลงไปสิ เสียเวลา!”

“ค่ะ” บัวตองรีบเปิดประตูลงจากรถทันควัน

ทันทีที่บัวตองลงจากรถรถคันหรูก็รีบเร่งเครื่องแล่นผ่านหน้าเธอไปด้วย ความรวดเร็ว บัวตองได้แต่ยืนนิ่งมองตามจนรถแล่นลับสายตาเธอไป เท่านั้น ร่างบางยืนรอสักพักก็มีแท็กซี่แล่นผ่านมาเธอจึงโบกพร้อมกับบอก จุดหมาย ระหว่างนั่งอยู่ในรถเธอก็อดที่จะน้อยใจไม่ได้ เธอรู้ตัวเองว่าอยู่ ในฐานะน้องสาวของวิน และษาเป็นหญิงสาวที่ชายหนุ่มรักมากที่สุด ไม่ แปลกหรอกที่เขาจะไม่แคร์ความรู้สึกของเธอเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ