เสด็จอา ข้าเป็นหวางเฟยของท่าน

บทที่ 9 ทำให้นางเสียหน้า



บทที่ 9 ทำให้นางเสียหน้า

กระท่อมเล็กๆ แห่งนี้ แม้กระทั่งการยังต้องไปยังพื้นหญ้าของ ภูเขาด้านหลัง

ช่างยากที่คนจะจินตนาการได้เลยว่า นี่จะเป็นที่อยู่อาศัยของ

คุณหนูสามของตระกูลชื่อที่โด่งดัง

แน่นอนว่า ตอนนี้สถานะของนางที่โด่งดังที่สุดก็คือ คน อัปลักษณ์ผู้หนึ่ง

ในเวลานี้ ซูหรูชื่อและหยินผิงสองนายบ่าวกำลังนั่งลงอยู่หน้า กระจกของกระท่อม และหันหน้ามองกัน

แค่ก พูด ให้ถูกต้องก็คือ ซูหรูชื่อกำลังมองดูคำเชิญที่ส่งมา

จากมือของหยินผิง

“คุณหนู เหตุใดจู่ๆ ฮูหยินรองจึงได้ส่งคำเชิญร่วมงานชม ดอกไม้มาให้กัน?”

หยินยิ่งขึ้นหน้าเล็กๆ และถามอย่างไม่เข้าใจ

หลายปีที่ผ่านมาของประเทศหยุนหยิ่ง ทุกๆ ปีวังหลวงมีการ จัดงานชมดอกไม้ขึ้น ในงาน ผู้มาร่วมชุมนุมต่างก็เป็นบรรดาเชื้อ พระวงศ์ เหล่าคุณหนูตระกูลขุนนางทั้งหลาย

แน่นอนว่าตระกูลซูของพวกเขาเองก็เข้าร่วมงานทุกปี แต่คุณ หนูกลับไม่เคยได้รับคำเชิญแต่อย่างใด
ก่อนที่คุณหนูจะแต่งงานกับท่านอ๋องสี่ ฮูหยินรองและบรรดา คุณหนูคนอื่นๆ ต่างก็รังเกียจหน้าตาอัปลักษณ์ของคุณหนู บอก ว่าหากพาคุณหนูไปรังแต่จะทำให้ผู้อื่นตกใจ และเพื่อไม่ให้ เป็นการเสียหน้าตระกูลซู พวกเขาจึงไม่เคยปล่อยให้นางเข้าร่วม

งาน หลังจากที่คุณหนูออกจากเรือน อ๋องสี่ยังไม่เคยพานางเข้าร่วม งาน ส่วนเหตุผล เป็นเช่นเดียวกับก่อนหน้า

แต่วันนี้ฮูหยินรองกลับให้คุณหนูเข้าร่วมงาน นับว่าแปลก ประหลาดอย่างยิ่ง

“ข้าว่า น่าจะเป็นเพราะเรื่องที่ข้าทำกับพี่สาวน้องสาวผู้แสนดี ของข้าละมั้ง” ซูหรูชื่อกำลังคิดถึงสีหน้าของซูหรูเสบู่และซูหรูเย็น นางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมาเผยฟันขาวสวยของตน

ฟันของนาง นับเป็นจุดเด่นของนางอย่างหนึ่งเช่นกัน

“ทำไมจู่ๆ พวกนางถึงทำดีขึ้นมา? จะว่าไปก็ประหลาดนัก เห็น ที่คุณหนูรองและคุณหนูสี่ จะต้องรู้เรื่องที่ท่านนำหนอนเลือดพวก นั้นไปวางบนไว้บนเตียงของพวกนางแน่ ไม่เช่นนั้นจะมาคิดบัญชี กับคุณหนูเช่นนี้ได้อย่างไร?

หยินผิงลูบศีรษะของตน ท่าทางไม่เข้าใจสักนิด เมื่อวานนี้นาง เห็น คุณหนูทั้งสองนางสีหน้าได้เลือด ซีดขาวอย่างยิ่ง

จุ๊จุ๊ กรรมตามสนองแท้ๆ

ฮาฮา!
“พวกนางคงเปลี่ยนความคิด ให้ข้าไปร่วมงานชมดอกไม้ ให้ ข้าแสดงความอัปลักษณ์ออกมา” ซูหรูชื่อไม่สะท้าน อีกทั้งยังไม่ สนใจเล่ห์เหลี่ยมเล็กๆ น้อยๆ ของสองสาว

เชกสเปียร์กล่าวไว้ว่า หากคนผู้หนึ่งหน้าด้าน ย่อมไม่ต้องกลัว ว่าจะเสียหน้า

(น้องสาว เชกสเปียร์พูดเช่นนั้นจริงหรือ?)

“อ่า!? คุณหนูท่านอย่าได้เข้าร่วมเชียว!” หยินยิงขมวดคิ้ว ใน สมองปรากฏภาพสตรีอัปลักษณ์ผู้หนึ่งกำลังถูกเหล่าสตรีรุมล้อม ทุบตี

แค่ แค่ก นางไม่ได้บอกว่าคุณหนูของตนอัปลักษณ์นะ! เปล่า เลยสักนิด!

“คงไม่พ้นคิดอยากให้ข้าขายหน้า จากนั้นก็ดูถูกข้าสักหน่อ ยละมั้ง” ซูหรูชื่อยักไหล่อย่างใจเย็น และหยิบหนังสือเชิญในมือ ของหยินผิงมา แล้วดูเวลา ถึงเวลายามซื่อ (9.00 น. ถึง 11.00

น) แล้วหรอ?

ซูหรูชื่อมองดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลายามเฉิน (7.00 น. ถึง 9.00 น) แล้ว

นางแค่นเสียง “คำเชิญช่างมาได้ถูกเวลาเสียจริง

พวกนางจะแสดงออกอย่างชัดเจนยิ่งกว่านี้ได้อีกสักหน่อยหรือ ไม่? อยากให้นางขายหน้าไม่ใช่หรือ จากจวนตระกูลซูไปยังวัง หลวงก็ต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วยามแล้ว อีกทั้งตอนนี้ก็เหลือเวลาเพียงหนึ่งชั่วยามเท่านั้น

แต่ว่า คิดจะอยากให้นางขายหน้า…. พวกเจ้ารอดูข้าเถอะ!

จู่ๆ ซูหรูชื่อก็นึกขึ้นมาได้ หากเชื้อพระวงศ์และขุนนางเข้าร่วม จํานวนมาก เช่นนั้น เช่นนั้นบุรุษนิสัยพิสดารผู้นั้น จะปรากฏตัว ขึ้นหรือไม่?

อย่างไร้สาเหตุ จู่ๆ ซูหรูชื่อก็ต้องการพบบุรุษผู้นั้นอีกครั้ง

“หา คุณหนู เหตุใดท่านจึงนิ่งเฉยได้เช่นนี้? “หยินผิงทนไม่ไหว จนต้องค้อน ใส่ซูหรูซื่อ แม้ว่านางจะมีภูมิคุ้มกันต่อความคิดของ คุณหนูบ้างแล้ว แต่นางก็ยังอ่อนใจอยู่ดี

มีใครที่ไหนกัน ที่กำลังจะไปให้คนดูถูกแต่กลับยังนิ่งได้อยู่ ขนาดนี้?

หลังจากที่คุณหนูถูกหย่า นางก็เปลี่ยนไปอย่างยิ่ง

ราวกับว่าเป็นคนละคน!

เพียงแต่ร่างกายเท่านั้นที่ยังเหมือนเดิม….

จนทำให้หยินผังรู้สึกว่าร่างกายของนางถูกสลับเปลี่ยนเป็น จิตวิญญาณใหม่ไปแล้ว!

(หยินผิงอันที่จริงนี่คือความจริง…)

“มาเถอะ หวีผมให้ข้าหน่อย” ซูหรูชื่อเพิกเฉยต่อความคิด เรื่อยเปื่อยของหยินผิง นางนั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง จากนั้นจึงไปที่ผมยาวสลวยของตน
เรื่องจุกจิกยุ่งยากพวกนี้ นางจนปัญญาจริงๆ

เมื่อหยินยิ่งได้ยิน นางก็รับคำ ก่อนจะเดินไปหวีผมให้นาง อย่างว่าง่าย

อืม ผมนี้ นับว่าเป็นจุดเด่นอันดับที่สองของร่างกายซูหรูชื่อ ซูหรูซ่อมองตัวเองในกระจก และมักจะรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง

เสมอ

ใบหน้าราวกับรากษสของนาง ช่างอัปลักษณ์จริงแท้

แม้ว่าใบหน้าของนางจะเป็นรูปแตง แต่คิ้วคู่นี้กลับบางจนไม่ น่าดู ดวงตาชั้นเดียวไร้จุดเด่น อีกทั้งที่มุมขวาของดวงตายังมี รอยปานแดงเด่นชัดปรากฏอยู่

ปานแดงใหญ่ชัดบนใบหน้านางราวกับจงเป็นผู้หญิงที่ดูน่า เกลียดหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน)

จมูกเล็กงดงามของนางกลับมีกระเนื้อและอีสุกอีใส แก้มยังน่า เกลียดเต็มไปด้วยจุดและรอยกระ คางของนางมีแผลเป็นจากน้ำ ร้อนลวกที่ทั้งเว้านูนน่าเกลียด

ผิวหน้าของนาง มีสีเหลืองขี้ผึ้ง ราวกับคนป่วยระยะสุดท้าย น่า เกลียดอย่างยิ่ง

สิ่งเดียวที่พอดูได้บนใบหน้านาง ก็คือริมฝีปากและฟันของนางปากเล็กของนางเป็นสีแดงสด แม้ไม่ได้ยิ้มแต่มุมปากก็ทำมุมโค้งขึ้นเล็กน้อยเกิดรูปงดงาม มีชีวิตชีวาอีกทั้งยังแฝงด้วยเสน่ห์ ฟันของนางทั้งขาวและเกลี้ยงเกลา เวลาฉีกยิ้มจึงน่ามองอย่างยิ่ง

น่าเสียดาย ที่ส่วนใหญ่แล้ว ซูหรูชื่อล้วนไม่ยิ้มแย้ม ดังนั้น

แวบแรกที่มองใบหน้านี้ จึงทำให้ผู้คนต้องตื่นตกใจ ซูหรูชื่อกลับรู้สึกชื่นชมอ๋องสี่ที่หย่านางไปผู้นั้นอยู่บ้าง หาก ต้องมองใบหน้านั้นทุกวัน ช่างสยองขวัญจริงๆ

“หยินผิง นับตั้งแต่ข้ายังเด็ก ก็เป็นเช่นนี้แล้วหรือ?” ซูหรูชื่อ ลบรอยแผลเป็นบนใบหน้าของนาง ถึงแม้ว่าสัมผัสนั้นจะเป็นของ จริงแน่ๆ แต่เหตุใดนางถึงรู้สึกว่า เทียบกับหญิงสาวที่เชี่ยวชาญ ในการปลอมตัวที่นางรู้จักในชาติก่อนแล้ว สัมผัสของมันกลับ คล้ายคลึงกันอย่างยิ่ง

นางเคยคาดเดามาก่อน หน้าตาของนางในตอนนี้ เพิ่งมาเป็น ในภายหลัง

มิฉะนั้นนางคงไม่สามารถอธิบายได้ว่า ว่าเหตุใดใบหน้านี้ถึง เป็นบุตรีของตระกูลซูได้ หากเป็นเรื่องจริง นางคงได้แต่เอ่ยว่า นี่ มันเป็นยืนกลายพันธุ์ชัดๆ!

รอยบนใบหน้าเหล่านี้ไม่ว่าจะล้างเท่าไหร่ก็ไม่จางไป แน่นอน ว่านางย่อมรู้ หากเป็นการปลอมแปลงใบหน้า ย่อมมิอาจล้าง ออกได้ง่ายๆ ด้วยน้ำเปล่า

หากเป็นสมัยใหม่ นางคงเอาพวกของเหลวเคมีชนิดพิเศษล้าง มันออกได้ แต่ในยุคโบราณเช่นนี้ นางไม่รู้จริงๆ ว่าทำอย่างไรจึง สามารถล้างมันออกได้
“ข้าก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น นับตั้งแต่ข้าเข้า ตระกูลซูมา คุณหนูก็เป็นเช่นนี้มาตลอด

หยินผิงส่ายหัว นางเองก็เข้ามาในตระกูลซูตอนอายุได้แปด ขวบ ตอนนั้นคุณหนูก็อายุสิบขวบแล้ว

ส่วนเรื่องที่ว่านางเป็นแบบนี้มาแต่เด็กหรือไม่ ตนไม่รู้มาก่อน

จริงๆ

“อืม” ซูหรูซื่อตอบรับเรียบๆ จากนั้นจึงเอนไปข้างหลังอย่าง ผ่อนคลาย ไม่สอบถามอะไรต่ออีก

อัปลักษณ์ก็อัปลักษณ์ส สตรีอย่างไรก็ถ่อมตนไว้ก่อนย่อมดี กว่า ถึงแม้ว่า รูปร่างหน้าตาจะเป็นอาวุธที่ดีที่สุดของสตรีก็ตาม

หยินผิงรวดเร็วอย่างยิ่ง นางเปลี่ยนผมยาวของซูหรูชื่อให้

กลายเป็นผมทรงเมฆาที่งดงาม

จอนผมที่ถูกปล่อยเอาไว้ยังไหล่ซ้ายของนาง ผมยาวสลวยถูก รวบรวมเอาไว้ด้านหน้า หน้าม้าที่ถูกออกแบบอย่างชาญฉลาด ปกปิดรอยแผลเป็นบนหน้าผากและหางตาของนางได้อย่างพอดี

มองจากระยะไกล ให้ความรู้สึกอ่อนหวานงดงามขึ้นมาหลาย

ส่วน

ซูหรูชื่อไม่ได้สนใจว่ามันจะเป็นอย่างไร จากนั้นนางก็ไม่ตก แต่งใดๆ เพิ่มเติม และเปลี่ยนเป็นชุดสีชมพูสะอาดตาและเดินนำ หยินผิงออกไป
“คุณหนู หากพวกเราไม่ไปให้เร็วกว่านี้ เกรงว่ารถมาของ หยืนคงไม่รอพวกเราแน่” หยินผิงมองท่าที่สบายๆ ของคุณหนู ของนาง จากนั้นจึงอดกังวลไม่ได้

“ข้าพนันกับเจ้าได้เลย ตอนนี้รถม้าของพวกนาง ไม่ได้รอเรา อยู่ตั้งนานแล้ว” พวกนางจะกล้าเสี่ยงที่จะไปสายเพียงเพราะพวก ตนได้อย่างไร?

“เช่นนั้นพวกเราจะทำอย่างไรเล่า? “หยินยิ่งเบิกตากว้างด้วย ความสยดสยอง

อย่างที่คาดคิด เมื่อสองนายบ่าวมาถึงหน้าประตูจวนตระกูล คนรับใช้ข้างนอกก็บอกว่าฮูหยินรองและคุณหนูทั้งสองได้ออก เดินทางไปนานแล้ว

“คุณหนู! เหตุใดพวกฮูหยินรองถึงได้น่ารังเกียจขนาดนี้! หยินผงชูกำปั้นเล็กๆ ขณะเอ่ยพูด สีหน้าของนางดูโกรธเกรี้ยว และค่าอีกฝ่ายอย่างเผ็ดร้อน

“ซูว” ซูหรูชื่อทำแค่เลิกคิ้วอย่างใจเย็น เชื่อเถอะ แม่ลูกสาม คนนั้น คงไม่มาหยุดพวกนางต่อแน่

ไม่อย่างนั้น จะทำให้นางต้องอับอายในงานชมดอกไม้ได้ อย่างไร?

ขณะที่ซูหรูชื่อเอ่ยขึ้น ก็มีคนรับใช้คนหนึ่ง เข้ามาพร้อมกับ เกี้ยวที่ลากด้วยวัวอันเก่าทรุดโทรม

“คุณหนูสาม ฮูหยินเอ่ยว่าคุณหนูสาวชักช้า พวกนางเกรงว่าไปสายจะมีความผิดจึงออกเดินทางไปก่อนแล้ว และสั่งให้ข้าใช้ เกวียนส่งคุณหนูเข้าวัง

คนขับเกวียนวัวมีอายุเพียงสิบหกหรือสิบเจ็ดปีเท่านั้น แต่ ท่าทางที่เขาแสดงออกต่อซูหรูชื่อกลับดูโอหังอย่างยิ่ง

ดูดู ดูสิ แม้กระทั่งคนรับใช้ ยังกล้าพูดจาเช่นนี้กับซูหรูชื่อ

“เจ้ารับเป็นใครกัน! ถึงกล้าพูดจาเช่นนี้กับคุณหนู! พวกเรา ไม่มีทางนั่งเกวียนเข้าวังแน่! มารดาเจ้าเถอะคิดจะทำให้พวกข้า ต้องอับอายหรือยังไง?” หยินผิงเองก็ได้รับอิทธิพลไปเช่นกัน นางเอ่ยแม่งเอ๊ยออกมาอย่างง่ายดาย อีกทั้งยังทำท่าราวกับแม่ แก่ มือสองข้างเท้าเอว และเลิกคิ้วขึ้น

ถ้าไม่ใช่เพราะซูหรูชื่อห้ามเอาไว้ นางคงจะพุ่งไปข้างหน้าสั่ง สอนคนรับใช้แน่

ซูหรูชื่อกำลังดึงข้อมือของหยินผิงเอาไว้ และมองไปยังเกวียน นั่นอย่างใจเย็น นางสายศีรษะ สาวน้อยผู้นี้ อารมณ์ต้องปรับปรุงจริงๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ