เสด็จอา ข้าเป็นหวางเฟยของท่าน

บทที่ 2 หย่าร้างกับสามีด้วยความเย่อหยิ่ง



บทที่ 2 หย่าร้างกับสามีด้วยความเย่อหยิ่ง

ชายที่อยู่ตรงหน้านางสวมชุดสีน้ำเงินทั้งร่าง ชายแขนเสื้อถูกปัก ลายดอกท้อ เขาสวมรองเท้าบูตสีดำ รูปร่างสูงสง่า

หน้าตาของเขาหล่อเหลาอย่างยิ่ง ผิวพรรณเมื่อเทียบกับหญิง สาวแล้วยังดูละเอียดกว่าหลายส่วน ดวงตาดอกท้อดึงดูดใจผู้คน อย่างยิ่ง ปลายหางตาที่สูงยิ่งส่งเสริมให้เขามีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น

ชายหนุ่มคนนี้ แค่มองก็รู้ได้แล้วว่าเป็นผู้ชายเจ้าเสน่ห์ประเภท ไหน

มุมปากของซูหรูชื่อยกขึ้นเกิดเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน

“สตรีอัปลักษณ์ เจ้าหัวเราะอะไร!” ซือหม่าซิ่นมองรอยยิ้ม แปลกๆ ของซูหรูชื่อ ในใจก็ลนลานจนต้องเอ่ยถาม

ไม่รู้ว่าทำไมเช่นกัน แต่รอยยิ้มของนางกลับทำให้คนรู้สึก หนาวเหน็บขึ้นมาภายในใจ

“หม่อมฉันหัวเราะอะไร? หรือว่าท่านอ๋องไม่ทราบ?” ซูหรูชื่อ เหล่มองชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าพี่สี่ เห็นชายคนนี้คงจะเป็น “สามี” ของนาง ในเมื่อเป็นชายาของอ๋อง อย่างนั้นที่ตนเรียกตัว เองว่าหม่อมฉัน ก็คงจะไม่ผิด

ซูหรูชื่อที่ตายไป ข้าจะเป็นคนทวงความยุติธรรมให้นางเอง ซูหรูชื่อหัวเราะเยาะ จากนั้นจึงเดินไปหาขันทีตัวน้อยที่ยังคงยืนอยู่ด้านหนึ่งอย่างงุนงง และคว้าหนังสือในมือเขา

นางคิด นี่คงจะเป็นหนังสือหย่าผายลมนั่น

มา

นางใช้หางตากวาดดูเนื้อหาด้านในหนังสือ จากนั้นจึงแค่นยิ้ม อย่างดูถูกเหยียดหยาม

กฎเจ็ดข้อในการหย่า…ผู้หญิงโบราณ ช่างน่าสงสารเสียจริงๆ

“สตรีอัปลักษณ์ เจ้า เจ้าคิดจะทำอะไร?” ซือหม่าซิ่นก้าวถอย หลัง ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ สตรีอัปลักษณ์ผู้นี้จึงได้คลั่งขึ้นมา ราวกับว่า เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จนทำให้เขารู้สึกแปลกคล้ายกับไม่รู้จัก นางสักนิด

ใบหน้าที่อัปลักษณ์เป็นใครของซูหรูชื่อปรากฏรอยยิ้มเยาะ ท่ามกลางความงุนงงนั้นนางกลับแฝงไปด้วยความสง่างามหลาย ส่วน

“ท่านอ๋อง หม่อมฉันอยากจะเตือนพระองค์สักหน่อย ประการ แรก สามปีไร้ผู้สืบทายาทหาใช่ปัญหาของหม่อมฉันไม่ แต่เป็น ปัญหาของท่านอ๋อง ประการที่สองอาการป่วยยิ่งถือเป็นเรื่องไร้ สาระอย่างยิ่ง หน้าตาอัปลักษณ์จะนับว่าเป็นโรคน่ารังเกียจได้ อย่างไร? หนังสือของท่านอ๋อง ไม่ทราบว่าไปศึกษาจากที่ใด มา?”

ซูหรูชื่อกำหนังสือในมือ ดวงตามองไปที่ซือหม่าซิ่นอย่างที่ม แทง ทุกประโยค ล้วนทำเขาร้อนตัวขึ้นมา

ประการที่สาม….ท่านอ๋องบอกว่าหม่อมฉันทำร้ายชายาของพระองค์ ไม่ทราบว่าหลักฐานอยู่ที่ใด?

ซูหรูชื่อค่อยๆ เคลื่อนเข้าใกล้ซือหม่านอย่างดุดัน ในใจ กลอกตาไปรอบหนึ่ง เจ้าคนขี้ขลาดตาขาวคนนี้ไม่ใช่ผู้ชายจริงๆ ตอนนี้นางหน้าตาอัปลักษณ์เป็นใคร แต่รังสีอันดุดันน่าเกรง

ยามของนางกลับไม่ได้รับผลกระทบไปด้วยสักนิด

ชายหนุ่มชุดขาวที่นั่งอยู่ไกลออกไปด้านหนึ่ง มุมปากยกยิ้มขึ้น นัยน์ตาของเขาแฝงด้วยรอยยิ้มที่มองไม่เห็น

“อ๋องฉัน?” ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังชายชุดขาวมองไปที่พระ ตำหนักที่จู่ๆ ก็แปรเปลี่ยนเป็นวุ่นวายในพริบตา และถามขึ้นเบา

แน่นอนว่า ความหมายของเขาคือการถามว่าชายชุดขาว ต้องการจากไปหรือไม่

ชายชุดขาวเหลือบมองไปที่สตรีอัปลักษณ์นางนั้น ดวงตา เฉยชาของเขาแฝงความสนใจบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบาย จากนั้นจึงพยักหน้าเบาๆ

ชายที่อยู่ข้างหลังรับคำสั่ง จากนั้นจึงเข็นรถเข็นของชายชุด ขาวและเดินออกจากตำหนักไปอย่างช้าๆ

“ซูหรูซื่อ นี่เจ้ากล้าสงสัยในตัวข้างั้นหรือ?” ซือหม่าซิ่นสะบัด แขนเสื้อ เขาถูกท่าทางคุกคามของซูหรูชื่อบีบคั้นจนโมโหขึ้นมา

เขาเป็นถึงท่านอ๋องสี่ของประเทศหยุนหยิ่ง แต่กลับถูกสตรี อัปลักษณ์นางหนึ่งสอบสวน! ท่ามกลางพี่น้องมากมายขนาดนี้เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน!

“ไม่ ข้าไม่ได้สอบสวนท่าน” ซูหรูชื่อเผยสีหน้าเจ้าเล่ห์ รอยยิ้ม บนใบหน้าอัปลักษณ์นั้นให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปอย่างยิ่ง

ยิ่งไปกว่านั้น นางไม่ได้เรียกตัวเองว่าหม่อมฉันอีกต่อไป แต่ จู่ๆ กลับเปลี่ยนเอ่ยแทนตัวเองว่า ข้า

นางยกมือขึ้น ท่ามกลางความตื่นตะลึงของผู้คน นางค่อยๆอีก หนังสือหย่า แม้ว่าใบหน้าของนางจะอัปลักษณ์เป็นผู้ใดจะเทียบ แต่มือทั้งสองข้างนั้นกลับแตกต่างออกไปมันขาวละเอียด บอบบางดูดีอย่างยิ่ง

ปากของซูหรูชื่อเต็มไปด้วยรอยยิ้มเย่อหยิ่ง หนังสือหย่าร้าง ในมือนางค่อยๆ สลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

นางหัวเราะเยาะ โดยไร้ท่าทางบอกเหตุใดๆ จู่ๆ นางก็เหวี่ยง

หนังสือในมือของนางใส่หน้าอ๋องสีแห่งประเทศหยุนหญิงทันที!

ทุกคนล้วนโกลาหลขึ้น

ชายชุดขาวที่เดินไปถึงประตู ดวงตาของเขาเข้มขึ้นและส่ง สัญญาณบอกให้คนข้างหลังหยุด

สายตาเย็นชาของเขามองไปที่ซูหรูชื่อ สตรีอัปลักษณ์ในชุด แดง เวลานี้สีหน้าของนางเต็มไปด้วยประกายความเย่อหยิ่ง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความยโส มุมปากยิ้มเยาะ ล้วนทำให้คน รู้สึก…..ใจสั่นด้วยความดึงดูด

“อ๋องฉัน… ” ชายที่อยู่เบื้องหลังเอ่ยเตือน สำหรับการกระทำของเขาในวันนี้ ดูช่างน่างงงวยอย่างยิ่ง

ในสายตาของท่านอ๋องเก้า แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีเงาของ หญิงสาวนาง ใดปรากฏขึ้น แต่วันนี้ เขากลับมองสตรีอัปลักษณ์ นางนั้นอยู่หลายครั้ง….หรือว่า งานอดิเรกของท่านอ๋อง…

เมื่อพิจารณาถึงเรื่องนี้ ชายในชุดคลุมเขียวก็ถึงกับเหงื่อตก รสนิยมของท่านอ๋อง ช่าง….เอ่อ พิเศษเกินใคร!

ชายในชุดขาวมองอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อย เขาเก็บ สายตากลับมาจากซูหรูชื่อและเอ่ยอย่างเย็นชา “ไปเถอะ”

ชายเสื้อเขียวแตะจมูกของตน จากนั้นก็รีบเข็นเขาออกไปทันที

“ซู ซูหรูชื่อ! เจ้า!”

แม้แต่ซือหม่าซิ่นที่ขึ้นชื่อว่าอ่อนโยนและเป็นมิตรกับสตรีมา โดยตลอดยังอดไม่ได้ที่จะเกรี้ยวกราดใส่สตรีตรงหน้า

เขาปัดหนังสือออกจากใบหน้า เส้นเลือดบนหน้าผากนูนขึ้น จากความโกรธ เขากัดฟันแน่นและจ้องไปที่ซูหรูชื่อ

แต่ฝ่ายหลังกลับไม่สนใจใยดีเขา นางเดินไปที่โต๊ะธูป และ หยิบปากกาขึ้นเขียนไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่

“พี่! สตรีอัปลักษณ์นางโอหังเกินไปแล้ว!” ชายในชุดคลุม เขียวตะลึงอยู่นานจึงค่อยได้สติกลับมา จากนั้นจึงรีบกระโดดเข้า ไปหาซือหม่าซิ่น และพูดจาเติมเชื้อไฟทันที

ใจรักสวยรักงามของทุกคนล้วนมีอยู่ แม้กระทั่งซือหม่าซิ่นเองก็ไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้นสำหรับสตรีอัปลักษณ์อย่างหรูชื่อแล้ว เขาไม่มีความรู้สึกดีด้วยเลยแม้แต่น้อย

ดังนั้น เขาจึงอดไม่ได้ที่จะรีบเร่งเร้าให้พี่สี่ของตนหย่าขาดกับ

สตรีนางนี้ซะ ดวงตาของเขาจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน “พี่สี่ ทำไมจู่ๆ สตรีนางนี้ถึงได้เปลี่ยนไป? “หญิงสาวหน้าตา

น่ารัก ในชุดสีชมพูถามอย่างสงสัย

“น้องสิบ สตรีผู้นี้เคยทำตัวปกติหรือไง?” หญิงสาวอีกคนมอง ไปที่ด้านหลังของซูหรูชื่อด้วยความรังเกียจ

ในขณะที่กลุ่มชายหญิงกำลังซุบซิบนินทา ซูหรูชื่อก็วางปากกา ลงเรียบร้อย และเดินไปหาซือหม่าซิ่น

“ซูหรูชื่อ เจ้าจะมาไม้ไหนกันแน่อีก?” ซือหม่าซิ่นสะบัดมือไขว้ หลัง และถลึงตาใส่ซูหรูชื่อด้วยท่าทางไม่พอใจอย่างยิ่ง

“อ๋องสี่ โปรดระลึกเอาไว้ คนที่หย่าท่าน ก็คือข้า!” มุมปาก ของซูหรูชื่อยกยิ้ม และโยนหนังสือหย่าร้างที่ยังไม่ทันแห้งสนิทดี ใส่ซือหม่าซิ่น

ทุกคนเกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง

ข่าวดีอย่างยิ่ง!

ซูหรูชื่อเป็นคนขอหย่า! จุ๊จุ๊ ช่างเป็นเรื่องราวที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งคนที่ถูกหย่ายังเป็นถึงท่านอ๋องสี่แห่งประเทศหยุนหนึ่ง ชายรูปงามที่ได้ชื่อว่าเป็นบุรุษที่ฆ่าสตรีให้ตกอยู่ในเงื้อมมือ
จุ๊จุ๊จุ๊ ในขณะนี้ ผู้คนต่างอยู่ในอารมณ์ตื่นเต้นที่ได้เห็นละคร ฉากเด็กฉากนี้ แน่นอนว่า ซือหม่าซิ่นผู้ถูกเขวี้ยงหนังสืออย่าใส่ หน้าอีกครั้งกำลังมีสีหน้าเหี้ยมเกรียมอย่างยิ่ง

เขาครามอย่างโกรธเกรี้ยว หนังสือหย่าที่อยู่บนหน้าถูกมือ ของชื่อหม่าเฉันคว้าลงมาอย่างรวดเร็ว

“น้องหก!” ซือหม่าซิ่นขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ และเอื้อม มือไปหามัน

ก่อนที่จะคว้ามาได้ กลับถูกซือหม่าเฉินอ่านมันออกมาเสียงดัง “หนังสือหย่า! ข้าซูหรูชื่อวันนี้ขอหย่าร้างกับท่านอ๋องสี่ เนื่องจาก ชายหนุ่มผู้นี้หน้าตางดงามเป็นหญิงสาว – ฮ่าฮ่าฮ่า!” เมื่อซื้อ หม่าเฉินได้เห็นเหตุผลเช่นนี้ เขาก็เกือบจะหัวเราะออกมา

เขาหัวเราะและเอ่ยต่อ “ดังนั้น ซูหรูชื่อจึงตัดสินใจหย่า! อีกทั้ง ยังขอสาบานว่า จากนี้ไปเป็นตายไม่ติดต่อ นับแต่นี้ต่างคนต่าง อยู่ ไม่ข้องเกี่ยวกันอีกต่อไป!

ซือหม่าเฉินยังคงอ่านหนังสือหย่าต่อไป ยิ่งอ่านก็ยิ่งตะลึง ยิ่ง อ่านเสียงของเขาก็ยิ่งดังขึ้น

ทุกคำในหนังสือหย่าร้าง ในเวลานี้ ล้วนทำให้ทุกคนตื่นตะลึง ตาค้าง!

ทุกครั้งที่เขาอ่านประโยคขึ้น สีหน้าของซือหม่าซิ่นก็ยิ่งคล้ำขึ้น เรื่อยๆ

ในขณะนี้ เหล่าองค์หญิงองค์ชายคนอื่นๆ รวมถึงบรรดาชายาและนางสนม ล้วนมีสีหน้าแตกต่างกันออกไป บางคนฝืนยิ้ม บางคนประหลาดใจ มีบางคนที่พยักหน้าชื่นชม

ส่วนบางคนก็ส่ายหัวด้วยความตะลึง… สรุปคือ ซือหม่าซิ่นรู้สึกได้อย่างลึกซึ้งว่าเขาเสียหน้าครั้งใหญ่ เข้าแล้ว!

ซือหม่านรีบคว้าหนังสือหย่าในมือของซือหม่าเฉิน ลม หายใจแตกพล่าน และเตรียมตัวจะเข้าไปหาสตรีสมควรตายผู้

นั้น

แต่เพียงชั่วครู่ เขากลับพบว่านางหายตัวไปแล้ว

ตำแหน่งที่ซูหรูชื่อยืนอยู่เมื่อครู่เหลือเพียงความว่างเปล่า ส่วน คนกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ซือหม่านกัดฟันค่าราม “ซูหรูชื่อ! ข้าจะไม่มีวันให้อภัยเจ้า

จวนเฉิงเสี้ยง

แดดร่มลมตก ท่ามกลางสวนอันว่างเปล่าและเงียบสงัด ลม ร้อนที่พัดผ่าน ส่งผลให้ดอกไม้และต้นไม้ปลิวไสวน้อยๆ จนทำให้ ผู้คนรู้สึกได้แม้กระทั่งเสียงลม

ที่กลางสวน บนพื้นที่เต็มไปด้วยกรวดหิน มีสตรีในชุดแดง หน้าตาสุดอัปลักษณ์นางหนึ่งกำลังคุกเข่าอยู่

ผมของนางดำขลับราวกับน้ำตก ความอ่อนนุ่มงดงามนั้นกลับช่างขัดกับใบหน้าของนาง ผมยาวประเอวของนางไร้ซึ่งการตก แต่งใดๆ

นางมีใบหน้าที่อัปลักษณ์ราวกับรากษส


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ