เสด็จอา ข้าเป็นหวางเฟยของท่าน

บทที่ 6 เป็นผู้หญิงของเขา



บทที่ 6 เป็นผู้หญิงของเขา

ดวงตาของซูหรู อครีมลง นางที่แต่ไหนแต่ไม่ชอบยุ่งเรื่องของ คนอื่น กำลังจะลงมือแล้วเป็นครั้งแรก

ร่างสีแดงของนางราวกับวิญญาณ! เพียงพริบตา ทั้งร่างก็มา

อยู่ตรงหน้าของเอ้อหู

กำปั้นเล็กๆ นั้นกลับมีพละกำลังที่น่าทึ่ง

ซูหรูชื่อเสมือนเสือดาวที่แข็งแกร่ง เมื่อนางชกเข้าไปที่แก้ม ขวาของเอ้อหู ร่างเล็กกะทัดรัดกลับเอาชนะเอ้อหูที่โหดเหี้ยมจน ต้องถอยหลังไปหลายก้าว!

หมัดเดียวทำให้ทุกคนตื่นตะลึง!

ฝูงชนยังไม่ได้สติกลับมาและกำลังจ้องมองไปยังเงาร่างสีแดง เล็กที่ระเบิดพลังออกมา! มองดูเงาร่างที่หยิ่งผยองของนางอย่าง เหม่อลอย!

“บุรุษผู้นี้ ไม่ว่าเจ้าพวกน่าโง่ผู้ใดหน้าไหนก็ห้ามแตะ ดวงตาของซูหรูชื่อภายใต้ผ้าคลุมหน้า เต็มไปด้วยความหยิ่ง ยโส!

บุรุษผู้นี้ ไม่ว่าเจ้าพวกน่าโง่ผู้ใดหน้าไหนก็ห้ามแตะ บุรุษผู้นี้ ไม่ว่าผู้ใดหน้าไหนก็ห้ามแตะ

เขาเพิกเฉยต่อคำด่าทอไปโดยอัตโนมัติ! แค่คำพูดง่ายๆ ไม่กี่ค่าเหล่านี้ กลับค้างอยู่ในใจของเขาชั่วขณะ ราวกับหินก้อนเล็กๆ ที่ตกลงสู่แอ่งน้ำเกิดเป็นคลื่นกระเพื่อม

ชายในชุดขาวเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ และไม่เข้าใจการกระทำของซูหรูชื่อในตอนนี้อยู่บ้าง

นาง รู้จักศิลปะการต่อสู้ได้อย่างไรกัน? นี่ช่างแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

“กล้าทุบข้างั้นหรือ? รนหาที่ตาย?!” เอ้อหูได้สติกลับมา จาก นั้นเขาก็สบฤด่าอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยง ก่อนจะยกขนเสื้อขึ้น เตรียมเหวี่ยงกำปั้นเข้าใส่ซูหรูชื่อ

ชายร่างใหญ่คนอื่นๆ ในห้องเมื่อเห็นว่าพี่ใหญ่ใหญ่ลงมือ พวกมันที่เหลือก็กำหมัดขึ้นมาก เตรียมพร้อมจะพุ่งเข้าใส่หญิง สาวชุดแดง

ชายชุดขาวขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยของเขาเต็มไปด้วย

ความกังวล

เขากําหมัดแน่น หลุบตาลง พยายามระงับความคิดที่จะช่วย สตรีนางนี้

แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะได้รับบาดเจ็บ แต่นั่นก็ไม่มีผลอะไรกับ

เขา

เขา เขาไม่สามารถลงมือเพื่อสตรีนางเดียวได้ ชายร่างสูงใหญ่ห้าคนพุ่งเข้าใส่ซูหรูชื่อ
อีกพริบตา สตรีชุดแดงนั้นจะต้องถูกหมัดหลายสิบหมดต่อย จนต้องสํานึกเสียใจ!

ชายชุดขาวหลับตาลง เขาไม่ต้องการเห็นมัน ไม่รู้ว่าเหตุใด เช่นกัน ใจที่หลายปีผ่านมาสงบนิ่งราวกับสายน้ำ ในวินาทีนี้ กลับอดไม่ได้ที่จะหักห้ามใจลง

ในช่วงเวลาสำคัญนั้นเอง

ซูหรูชื่อที่ถูกล้อมด้วยชายร่างโตถึงห้าคนจู่ๆ กลับหายไปใน พริบตา!

เงาแดงนั้นหายไปแล้วประหนึ่งวิญญาณก็มิปาน

“อ๊าก!”

ชั่วพริบตา เอ้อหูก็ร้องเสียงหลง เอวด้านข้างมีความเจ็บปวด แผ่ซ่านขึ้นมา จนทำเอาชายร่างยักษ์อดร้องออกมาไม่ได้

ชายทั้งสี่คนที่เหลือหันไปมองข้างหลังเอ้อหูเขาเห็นเพียงแค่ ร่างสีแดงเก็บขาของตนกลับมา จากนั้นร่างเล็กๆ ที่ปราดเปรียว ราวกับเสือดาวก็กระโดดขึ้นจากนั้นจึงพุ่งเข้าโจมตีพวกเขาด้วย ความเร็วอันน่าทึ่ง!

พริบตาเท่านั้น ชายร่างใหญ่ห้าคนก็ถูกเหวี่ยงล้มลงกับพื้น อย่างแรง!

นัยน์ตาของชายชุดขาวสะท้อนความประหลาดใจ ก่อนจะ ค่อยๆ เปลี่ยนจากความงุนงงเป็นรอยยิ้ม
สตรีนางนี้ ไม่ใช่เล่นจริงๆ

“เจ้า เจ้าเจ้า! ” เอ้อหูเพิ่งจะลุกขึ้นมาได้ เขาตะลึงไปครึ่งชั่ว

จากนั้นจึงมองไปที่สตรีชุดแดงตรงหน้าด้วยความไม่อยากเชื่อ เขายังไม่อยากเชื่อว่าสตรีบอบบางนางนี้จะลงมือเร็วขนาดนี้ แต่ความเจ็บปวดที่เอวกลับชัดเจนอย่างยิ่ง จนทำให้เขาต้อง

เชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง

“ข้า? ทำไม?” สีหน้าของซูหรูชื่อภายใต้ผ้าคลุมอาบด้วย ความเย่อหยิ่งที่ทำให้คนมิอาจต่อต้านได้

เอ้อหูแค่นเสียงอย่างไม่ยอมแพ้ เป็นเพราะการใช้แรงที่มากไป ส่งผลต่อบาดแผลที่เอว เมื่อหาหมุนตัว ก็หาวิธีที่ดีเยี่ยมมาได้วิธี หนึ่ง

“ถ้าเจ้าแน่จริงก็มาสู้ตัวต่อตัวกับข้า!”

เขาไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายทั้งแท่งอย่างเขา จะแพ้ให้กับสาว น้อยนางนี้ เมื่อครู่เป็นเพราะเขาไม่ได้ระวังตัวให้ดีถึงได้เป็นเช่น นี้! แต่ตอนนี้ เขาต้องการอย่างเป็นธรรม

ซูหรูชื่อเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหัวเราะออกมาราวกับกำลัง ได้ยินเรื่องที่น่าตลกที่สุดในโลก

ศีรษะของนางเงยขึ้น หน้าอกกำลังสั่นสะท้านจากเสียงหัวเราะ เสียงหัวเราะที่ยโสโอหังของนาง กำลังบอกกับทุกคนอย่าง ชัดเจนว่าเอ้อหูถูกนางดูถูกอยู่

เสียงหัวเราะอันเย่อหยิ่งของนางกลับไม่ทำให้คนรู้สึกรังเกียจแต่มันให้ความรู้สึกว่านางมีคุณสมบัติที่จะหยิ่งผยองได้จริงๆ

เมื่อเอ้อหูกำลังจะเร่งต่อสู้ซูหรูชื่อก็หยุดยิ้มและตะโกนอย่าง กล้าหาญ

“ได้!” ภายใต้ผ้าคลุมดวงตาที่ไม่นับว่างดงามของนางเปล่ง ประกายขึ้นมา เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าเย้ายวนใจ

เอ้อหูได้ยินนางรับปาก ขาก็ตบอกตนเองอย่างคุยโว “เดี๋ยวจะ กล่าวหาว่าข้ารังแกผู้หญิง ข้าต่อให้เจ้าสามกระบวน

ซูหรูชื่อหัวเราะเยาะ นางเอ่ยออกมาสามคำอย่างเย็นชา “ไม่

จําเป็น ”

“แม่งเอ๊ย เจ้ากล้าถลึงตาใส่ข้า?” เอ้อหูเห็นท่าทางอวดดีของซู หรูชื่อ ทันใดนั้นความเกรี้ยวกราดก็พุ่งขึ้นทันที

เขาไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป และม้วนแขนเสื้อขึ้นและ

เตรียมเข้าโจมตีซูหรูชื่อ

จากร่างกายและมือของเขา เห็นได้ชัดว่าเอ้อหูเองก็เป็นผู้ฝึก ยุทธ์เช่นกัน ตอนนี้เขากำลังตกอยู่ในกระแสความเกรี้ยวกราด อย่างรุนแรงจนไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป และชูกำปั้นอันโหด เหี้ยมเข้าใส่หน้าของซูหรูชื่ออย่างไร้ความปรานี

แต่ซูหรูชื่อไม่เพียงแต่ไม่หลบหลีก แต่นางกลับมีท่าทาง อ้อยอิ่งราวกับสายลม

จากนั้นก็เห็นหมัดของเอ้อหูที่พุ่งลงไป
ชายชุดขาวก่าหมัดแน่น คิ้วขมวดขึ้นเป็นปม เขาทนไม่ได้ที่จะ มองมันอีกครั้ง

“อ๊าก!”

เสียงที่ดังขึ้นไม่ใช่เสียงกรีดร้องจากหญิงสาวร่างบาง แต่กลับ เป็นเสียงร้องลั่นของเอ้อ!

ชายชุดขาวเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นเพียงว่าสตรีชุดแดงหยุด ลงกับพื้นอย่างมั่นคงด้วยท่าทางสง่างาม ข้างๆ นาง ก็คือร่าง ของเอ้อหูที่กำลังล้มลงไปกับพื้นอย่างรุนแรง จนเป็นรอยแผล ขนาดใหญ่ที่หน้าผากตามด้วยเลือดที่ไหลอาบไปทั่ว

ซูหรูชื่อผู้นี้…

ชายชุดขาวยิ้มน้อยๆ รอยยิ้มนั้นแทบจะมองไม่เห็น เขาสาย หัวและถอนหายใจ เห็นเขาน่าจะกังวลเกินไปแล้ว สตรีที่องอาจ ขนาดนี้ ย่อมต้องมีความสามารถไม่ธรรมดา!

“พี่ใหญ่!”

“พี่ใหญ่ ท่านเป็นอะไรหรือไม่!

“อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยเห็นข้าเลือดตกยางออกแบบนี้ เจ้าแหก ตาดูว่าเป็นอะไรหรือไม่?

“พี่ใหญ่ ให้ตายสิ! เลือดออกไม่น้อยเลย! พี่ใหญ่ เลือดเยอะ อย่างยิ่ง! เร็วเข้า เร็ง รีบเอากระจกมาให้พี่ใหญ่

“แม่งเอ๊ย ข้ามีความรู้สึก กระจกบ้าอะไรของเจ้า!
“พี่ใหญ่ ท่านจะตายหรือไม่?”

“ตายบ้านเจ้าเถอะ…” เอ้อหู หมดแรง

ชายร่างใหญ่หลายคนรีบเข้าไปพยุงเอ้อหูที่ล้มลงอยู่ที่พื้นขึ้น มา จากนั้นจึงพูดจาไปมาเสียงดัง

“ไสหัวไป!” เอ้อหูผลักคนรอบข้างออกและเดินโซเซไปยังตรง หน้าหรูชื่อ ใบหน้าที่อาบไปด้วยเลือดทำให้การมองเห็นของ เขาพร่ามัว เขาใช้มือเช็ดมันออก และถลึงตาต้องออกไปด้วย ท่าทีโหดเหี้ยม

ขยะสภาพนี้แต่ไหนแต่ไรก็ล้วนถูกทอดทิ้ง เหตุการณ์เช่นนี้หา

ใช่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เหตุใดวันนี้จึงได้มีสตรีนางหนึ่งวิ่งเข้า มาปกป้องเจ้าขยะพิการนั่น? อีกทั้งยังเป็นยอดฝีมืออีกด้วย! เขาต้องถามให้ชัดเจน!

อันที่จริง คือต้องถามให้ชัดเจนว่าสตรีนางนี้เป็นผู้ใด! จะได้แก้

แค้นถูก!

“เจ้าเป็นใครกันแน่? ทำไมถึงได้ช่วยเจ้าคนพิการนี้! บอกข้า มา เจ้าเป็นคนของใคร?”

ใบหน้าของเอ้อหูที่เต็มไปด้วยเลือดไหลอาบแย่น่ากลัว อย่างยิ่ง หากเป็นสตรีธรรมดาทั่วไปถูกเขาจ้องมองในระยะ ใกล้ๆ ขนาดนี้ เกรงว่าคงต้องร้องไห้น้ำตานองแน่

เพียงแต่ซูหรูชื่อคือใครกัน? นางเป็นถึงหัวหน้าหน่วยตัวแทน แห่งศตวรรษที่ 21!
นางหัวเราะเยาะ สองมือกอดอก คางเชิดสูงด้วยท่าทางหยิ่ง ยโส นางเหลือบมองเอ้อหูจากนั้นจึงเดินเข้าไปหาชายชุดขาว อย่างอ้อยอิ่ง

ซูหรูชื่อเผยรอยยิ้มราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ แต่น่า เสียดายที่ผ้าคลุมปิดกั้นรอยยิ้มของนางเอาไว้

นางพยุงชายชุดขาวขึ้นมาอย่างอ่อนโยน ด้านหนึ่งก็เหลือบ มองไปที่เอ้อหู และเอ่ยปากเตือนอย่างนุ่มนวล “พี่เอ้อหู่ นี่คือ จุดจบของคนที่ลงมือกับผู้ชายของข้า จากนี้ไปหากมีผู้ใดกล้า ลงมือกับเขา ข้าจะไม่เมตตามันแน่!”

คำพูดของซูหรูชื่อถูกเอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวล แต่แววตาของ นางกลับเย็นชาราวกับหิมะในฤดูหนาว จนทำเอาผู้คนต้องรู้สึก หนาวยะเยือกทั้งกายและใจ

เอ้อหูอดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้ แต่เขากลับยังคงแสร้งทำตัวกล้า

หาญและเอ่ยถามต่อไป

“ผู้ชายที่ไม่? ไม่ เขาไม่….คนพิการแบบนี้จะมีสตรีได้ยังไง! เอ้อหูพูดออกมาได้แค่ครึ่ง จากนั้นก็กลืนค่าที่เหลือกลับเข้าไป เขาเปลี่ยนน้ำเสียงแล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างมั่วซั่ว

น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม อีกทั้งยังมี สีหน้าที่ซูหรูซื่อเห็นแล้วไม่สบอารมณ์ขึ้นมาที่สุด

นางเลิกคิ้ว ดวงตาเหลือบดูชายชุดขาว นางเคลื่อนมือไป ประคองเอวเขาเอาไว้อย่างสบายๆ จากนั้นจึงออกแรงดึงชาย หนุ่มเข้ามาไว้ในอ้อมอก
ราวกับนางพญาผู้สูงส่งก็มิปาน ดวงตาที่ดูธรรมดาคู่นั้นกำลัง เปล่งประกายและจ้องมองไปยังดวงตาของชายชุดขาว

ร่างกายของบุรุษผู้นี้เย็นเยียบอยู่บ้าง อีกทั้งยังแฝงไปด้วย กลิ่นของยา ถึงแม้เวลานี้จะตกอยู่ในสภาพทุลักทุเล แต่กลับยัง คงสง่างามและร้อนแรง

ชายหนุ่มท่าทางสงบนิ่งอย่างยิ่ง ไม่มีท่าทีต่อต้านแม้แต่น้อย มีเพียงแววตาของเขาที่เผยรอยยิ้มออกมาหลายส่วน

นาง คิดจะทําอะไร?

ดวงตาของซูหรูชื่อมองชายชุดขาวโดยไม่แม้แต่กะพริบ ริม ฝีปากแดงอันแสนมีเสน่ห์เอ่ยคำพูดที่ทั้งบ้าคลั่งและหยิ่งผยอง ออกมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ