เสด็จอา ข้าเป็นหวางเฟยของท่าน

บทที่ 12 หญิงงามที่สุดยอด (จบ)



บทที่ 12 หญิงงามที่สุดยอด (จบ)

“ข้า ผู้หญิงนั้นชอบปากไม่ตรงกับใจ แม้จะเป็นสามีภรรยากัน ไม่ได้ แต่ขาก็ยังคงหวังว่าคุณหนูตระกูลซูจะมีชีวิตที่ดี

ปากไม่ตรงกับใจบ้าเจ้าน่ะสิ

เขาลืมไปหรือเปล่า ตอนนั้นใครกันแน่ที่ดูถูกนาง ทำให้นาง ต้องชนเสาตาย แค้นนี้ นางยังไม่ได้ชำระให้กับซูหรูซื่อตัวจริง เลย

ซือหม่าผู้ต่ำทราม อดไม่ได้ที่จะเหลือกตาในใจ สำหรับชื่อ หม่าผู้ต่ำทรามคนนี้ นางไร้คำพูดแล้วจริงๆ ยังจะกล้ายกยอปอ ปั้นตัวเองอีก

หากไม่ต้องตกอยู่ในสถานะตอนนี้ นางคงจะด่าออกไปแล้ว

จากนั้นก็เดินหน้าเข้าไปตบเจ้าซือหม่าผู้ต่ำทรามอีกหลายที

แม้นางจะหยิ่งยโส แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ต้องดู สถานที่ด้วย

คำด่าทั้งหมดที่มีในปากจึงต้องกลืนกลับไป “เช่นนั้นอ๋องสี่ วางใจได้ หม่อมฉันสิบกว่าปีมานี้ ไม่เคยรู้สึกสบายดีเท่านี้มา ก่อน”

นางยิ้มดุจดอกไม้ คิ้วและดวงตาก็แฝงรอยยิ้ม เพราะรอยยิ้มนี้ ทำให้ใบหน้าน่าเกลียดนั้น แต่งแต้มจนสวยงามอยู่หลายส่วน
สีหน้าอ๋องสีเปลี่ยนไป แม้ว่าในคำพูดของซูหรูซื่อจะไม่มีอะไร ไม่เหมาะสม แต่เห็นได้ชัดว่าเหมือนตบลงบนหน้าเขาแรงๆหนึ่ง ฝ่ามือ

“ข้าดูท่าทีของคุณหนูซูแล้ว ก็แน่ใจได้ว่าไม่ได้พูดเท็จ ซือหม่า ยวนที่นั่งเงียบมาตลอด ยิ้มเบาๆและพูดขึ้น

เขาพูดขึ้นกะทันหัน ทำให้คนหลายร้อยรู้สึกแปลกใจ แม้แต่ ซือหม่าหง ก็มองเขาอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง

อุ้ย อบอุ่นอ่อนโยนราวกับหยก เซียนตกสวรรค์อย่างในฮ่องก

เกิดความสนใจขึ้นมาแล้ว

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็วางใจแล้ว”ซือหม่าซิ่นลูบคาง พูดออก ไปอย่างไม่จริงจัง

แม้แต่เสด็จอาเก้ายังเปิดปากช่วยนางพูด หญิงน่าเกลียดคนนี้

เป็นบ้าอะไรกันแน่

“แต่ไหนแต่ไรมาหม่อมฉันไม่เคยเป็นคนปากไม่ตรงกับใจ เป็นอ๋องฉันที่ดูออก ที่หม่อมฉันพูดล้วนมาจากใจจริงอย่างที่อ๋อง ฉันเห็น แต่ไหนแต่ไรหม่อมฉันก็ถือได้วางเป็น หากไม่ใช่ของของ ข้า จะไม่บังคับเด็ดขาด แต่หากแน่ใจว่าเป็นของข้า ก็ไม่ปล่อย มือเด็ดขาด”

ใบหน้าของซูหรูชื่อประดับด้วยยิ้มสวย สายตาวิบวับมองไป ยังซือหม่ายวน ราวกับในวาจายังมีคำพูด

ซือหม่ายวนสังเกตเห็นว่าในสายตาที่จดจ้องนั้น มีแววตื่นเต้นอยู่หลายส่วน และแฝงแววไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่บ้าง กระแอม เบาๆ เอ่ยเสียงเบาว่า “คุณหนูสามแห่งตระกูลซูช่างใจกว้าง จริงๆ”

“อ๋องฉันช่างสง่างามยิ่งนัก “ซูหรูชื่อหน้าไม่แดง ใจไม่เต้น ยอมรับค่าชมของซือหม่ายวนอย่างไม่เกรงใจ พร้อมกันก็ไม่ลืมที่ จะชมเชยเขาหนึ่งคำ

คำนี้สำหรับซูหรูชื่อแล้วมันธรรมดามากแต่กลับทำให้คน หลายร้อยบังเกิดเสียง ฟูดังขึ้นพร้อมกันหนึ่งเสียง

หญิงคนนี้ ช่างกล้าหาญยิ่งนัก

กล้ามากเกินไปแล้ว

จุ๊จุ๊ ควรบอกว่าหน้าไม่อาย หรือว่า หรือว่า หรือว่าอะไรดี

มีคำไหน ที่สามารถเปรียบเทียบหญิงคนนี้ได้

ต่อหน้าสามีเก่า ต่อหน้าฮ่องเต้ ต่อหน้าคนอีกหลายร้อย ภาย ใต้ผู้คนในโถงใหญ่ พูดเช่นนี้กับชายคนหนึ่ง

ในขณะที่ผู้คนต่างคิดว่าอ๋องฉันคงต้องขวยเขินหรืออับอาย หรือ โมโหอยู่นั้น ชายคนนั้นก็เพียงแค่ยิ้มอ่อนๆ ราวกับสบาย อารมณ์หนักหนา เอ่ยเบาๆว่า “ขอบคุณ”

“ข้าเพียงแต่พูดความจริงเท่านั้น “ซูหรูชื่อยังคงพูดต่อด้วย สีหน้าและรอยยิ้มที่ไม่เปลี่ยน
นางรู้สึกด้วยใจจริงว่า นี่มันมีปัญหาอะไร มีใครบอกนางได้บ้าง นี่มันผิดตรงไหน

“อืม”สายตามีแวว

ซือหม่ายวนพยักหน้าเบาๆ รอยยิ้มไม่ลดลง

ที่จริงครึ่งประโยคหลัง ถึงจะเป็นสิ่งที่เขาอยากพูด ไม่พูดไม่ได้ ซูหรูชื่อคนนี้ สายตาไม่ธรรมดา

ไม่รู้ว่าทำไม ความรู้สึกที่ถูกนางชมเชย ถึงได้สวยงามเช่นนี้

ซือหม่ายวนรู้สึกแปลกใจ ทำเอาองค์รัชทายาทซือหม่าหย และซือหม่านอดไม่ได้ที่เหลือบมองอยู่หลายที่

เสด็จอาเก้าวันนี้ มีปัญหา

หนึ่งชั่วยามต่อมา เป็นเวลาที่ผู้คนสามารถชมดอกไม้ได้ตาม

อัธยาศัย

ในอุทยาน ดอกไม้นานาชนิดบานสะพรั่ง สีสันสวยงามไปหมด ช่างเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามทำให้สบายตาสบายใจหลายส่วน

นอกจากคุณหนูสามแห่งตระกูลซูที่ยังนั่งอยู่กับที่

“ท่านแม่ ข้าล่ะโมโหจริงๆ ที่จริงวันนี้คิดว่าจะทำให้นาง อับอาย แต่สุดท้ายกลับถูกเล่นเข้าให้ ซูหรูเสวกำหมัดไว้แน่น

วันนี้นางสวมชุดกระโปรงผ้าไหมสีม่วงอ่อน ทำให้ดูผอมลงไม่น้อย ใบหน้าที่เดิมที่ขาวซีดผ่านการตกแต่งอย่างประณีต ดูแล้ว มีน้ำมีนวลอย่างมาก

** นางสารเลวคนนี้ ได้ใจไปไม่นานหรอก” ใบหน้าสวยงาม ของอู๋ชื่อ เคลือบด้วยแววอำมหิตชั้นหนึ่ง มีหรือจะไม่รู้ว่าแมลง ดูดเลือดที่ทำร้ายลูกสาวของนาง เป็นฝีมือของหญิงน่าเกลียดคน นี้ เดิมยังคิดว่า จะสามารถอยู่ในงานชมดอกไม้ในวันนี้ ทำให้ นางได้อับอายอย่างสาหัส แต่สุดท้าย

“หึ หากวันนี้ไม่ได้ชำระแค้น ชื่อก็ข้าซูหรูเย็นก็ให้เขียนกลับหัว ได้เลย”ซูหรูเย็นเอ่ยขึ้นอย่างชั่วร้าย ระหว่างที่พูดก็หยิบกาเหล้า บนโต๊ะขึ้นมา กินเหล้าลงจนเต็มแก้ว จากนั้นก็เทเกลือและพริกผง สำหรับปรุงอาหารลงไป จากนั้นก็หัวเราะและคนเหล้า

“ลูก นี่มัน………ถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ แม้ว่าลูกสาวจะ อารมณ์ไม่ดี ก็ไม่ควรดื่มเหล้าเช่นนี้

“ท่านแม่ พี่รอง พวกท่านว่า หากว่าเหล้าแก้วนี้สาดไปที่หน้า ของนาง ตาจะบอดหรือไม่ ”

ใบหน้าของซูหรูเย็นฉายแววอำมหิตและโหดร้าย โดยที่ไม่เข้า กับอายุของนางเลย นางเหมือนจะสามารถเห็นภาพได้ว่า หญิง สาวคนนี้จะโหดร้ายขนาดไหน

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้…..ซูหรูเสบู่เข้าใจแล้ว หัวเราะขึ้นมา

“ลูกสาวแม่ฉลาดมาก “อู๋ชื่อหัวเราะขึ้น หากวันนี้ไม่จัดการสั่ง สอนนางซะบ้าง นางคงไม่มีทางคลายความโมโหนี้ได้
“ไป” ใบหน้าของซูหรูเย็น เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มหวานอย่างเป็น มิตรขึ้นมากะทันหัน ยกเหล้าที่ทำขึ้นโดยเฉพาะแก้วนั้น เดินไป ยังหญิงสาวที่สวมชุดนางในสีแดงดอกท้อที่นั่งอยู่หน้ากระถาง ดอกไม้กระถางหนึ่ง

ซือหม่ายวนเวียส คอยเข็นรถเข็นอยู่ด้านหลัง ไปยังทิศทาง ของซูหรู อ

มองเห็นแต่ไกลว่า หรูชื่อกำลังมองกระถางดอกไม้ตรงหน้า ของนางที่ไม่ได้น่าดึงดูดใจนักอย่างสงบและตั้งใจ สายตาแฝง รอยยิ้มขึ้นอีกครั้ง คิดไม่ถึงว่านางจะมีด้านที่เงียบสงบเช่นนี้ เหมือนกัน

“อ๋องฉัน คนอื่นก็แค่ชมท่านว่าหล่อเหลา ทำไมยังยิ้มอยู่ได้ เว่ยสวีที่อยู่ด้านหลังรู้สึกว่าทำไมเจ้านายของตนถึงได้ไร้เดียงสา นัก ปกติเป็นคนหยิ่งทะนงคนหนึ่ง ทำไมแค่ถูกหญิงสาวชม หนึ่ง ก็ได้ใจยิ่งนัก

“หืม”ซือหม่ายวนขมวดคิ้ว ปากบางเม้มสนิท เห็นได้ชัดว่าไม่ ชอบใจเป็นอย่างมาก

เจ้าจะรู้อะไร สามารถทำให้ผู้หญิงเช่นนี้ชมเชยได้ ย่อมเป็น เรื่องที่มีความสุขมาก

ซือหม่ายวนยังไม่ทันเข้าใกล้ ก็มองเห็นสามแม่ลูกตระกูลซู ยกแก้วเหล้าไว้ เดินไปทางซูหรูชื่อ

เขายกฝ่ามือขึ้น ให้สัญญาณเว่ยสวีหยุดก่อน
เขาถือว่าอยู่ห่างไม่ไกลนัก ย่อมได้ยินสิ่งที่พวกนางพูดคุยกัน “พี่สาม มาอย่างเร่งรีบเช่นนี้ น่าจะกระหายแล้วกระมัง

“มา น้องสาม ดื่มน้ำแก้กระหายสักหน่อย

“หรูชื่อ วันนี้ต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยแม่รองพูด

ทั้งสามคนนี้ แต่ละคนยิ้มได้อย่างสดใสงดงามมาก

ซูหรูชื่อมองตาปริบๆ ไม่ได้ยื่นมือออกไปรับ

เกรงว่าตอนนี้แม้แต่เด็กสามขวบก็คงจะรู้ว่าน้ำแก้วนี้ต้องมี ปัญหาแน่ๆ หากดื่มเข้าไปจริงๆ เช่นนั้นก็คงต้องโง่เง่าไปแล้ว

ซูหรูชื่อคาดไม่ถึงว่า พวกนางไม่ได้ต้องการให้นางดื่ม แต่ว่า ตอนที่ซูหรู อยื่นมือออกไปรับ ชื่ออุทานอุ้ยตายหนึ่งเสียง

ชื่อเข่าอ่อนกะทันหัน ร่างอ่อนยวบ ล้มลงบนร่างของซูหรูเส

ซูหรูเสบู่ถูกการกระทำของชื่อที่ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยล้มลง จึงพุ่งชน

ไปตามแรงไปยังทิศของซูหรูเย็น

ซูหรูเย็นถูกพุ่งชน จากนั้นก็แน่นอนว่าต้องสาด ของเหลวที่ทำ ขึ้น โดยเฉพาะ ในแก้วไปยังใบหน้าของซูหรูชื่อ

ไม่ขาดเลยสักหยด สาดเข้าเต็มๆหน้าของนาง

“อุ๊ยตาย พี่สาม ขอโทษขอโทษ “จากนั้น เป็นเสียงของซูหรู เย็นที่เอาแต่กล่าวขอโทษไม่หยุด

“หรูชื่อ หรูชื่อเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง “น้ำเสียงของอู่ซื่อเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ แต่ในแววตากลับมีแววได้ใจ ซูหรูเสวก้าว ไปข้างหน้า ทำที่เป็นผลักซูหรูชื่อลงกับพื้นอย่างไม่ตั้งใจ จากนั้น พร้อมกันกับที่ประคองนางขึ้นมา ก็หยิกเข้าที่เอวของนางอย่าง แรง

ซือหม่ายวนมองฉากนี้ตาไม่กะพริบ ตื่นตระหนกจนเกือบจะลุก ขึ้นยืน

เขาเห็นได้ชัดเจน ชัดเจนว่าแม่ลูกพวกนั้นกำกับเองแสดงเอง ทั้งเพ ซูหรูเย็นคนนั้น เห็นได้ชัดว่าจงใจสาดเหล้าไปยังซูหรูชื่อ เหล้าแก้วนั้น มีปัญหาหรือไม่

ซื้อหมายวนไม่ทันได้สังเกตว่าตนเองในตอนนี้หัวใจกำลังจะ เต้นออกมาอยู่ข้างนอกแล้ว เขาตื่นตระหนกจนเกือบจะเข็นรถ เข็นของตัวเองออกไป

เว่ยส สังเกตเห็น รีบเข็นซือหม่ายวนไปยังทิศที่ซูหรูชื่ออยู่ ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้คนต่างก็สนใจขึ้นมาทันที

“เกิดอะไรขึ้น”

ผู้คนต่างมุงเข้าไปยังทิศที่ซูหรูชื่ออยู่

ซูหรูซื่อตอนนี้ ปิดดวงตาที่แสบร้อยอย่างสนิท ของเหลวนั้น มี กลิ่นของเหล้ากับพริกผงและยังมีรสชาติเข้มข้นของเกลือด้วย

น่าตายนัก

นางไม่ได้มีการป้องกันเลย
ทำไมใบหน้าของนางก็มีความรู้สึกเผ็ดร้อนด้วย ราวกับว่า มีบางอย่างกำลังหลุดลอกออกไป หรือว่า ผิวหนังบนใบหน้าของนางจะถูกกัดกร่อนไปแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ