เศรษฐีอันดับหนึ่ง

บทที่ 20 ดูถูกเหยียดหยาม



บทที่ 20 ดูถูกเหยียดหยาม

บทที่ 20 ดูถูกเหยียดหยาม

น้ำเสียงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ขัดจังหวะทุกคนที่กำลังพูดคุย

โดยทันที

อลินดาเหลือบมองไปที่ประตูอย่างดูถูก เดาดูว่าบริกรคนไหนที่ เข้ามาเรียกเขา

เพลงพิณไม่สนใจอลินดาและจำรัสทั้งสองคนไปโดยปริยาย หัน ไปทางประตูพร้อมพูดว่า “ใช่อยู่ที่นี่ เชิญเข้ามา ! ”

ชายในเสื้อเชิ้ตสีดำเดินเข้ามา เมื่อเดินเข้ามาในห้องเห็นคนเยอะ แยะก็ตกตะลึงเล็กน้อยครู่หนึ่ง แต่เพียงแวบเดียวน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ ของเขาก็ดังขึ้น “ไม่ทราบว่าท่านไหนคือคุณจักรชัย? ”

“ฉันเอง ! ”

“หาเขาทําไม?”

เสียงของทั้งสองดังขึ้นพร้อมกัน น้ำเสียงของอลินดากลบจักร ชัยไปโดยสิ้นเชิง ชายที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำนั้นขมวดคิ้ว มองไปที่อลิน คาเบาๆ
“รบกวนทุกท่านแล้ว ฉันแซ่หยวนเป็นผู้จัดการที่นี้”

เมื่ออลินดาได้ยินคำว่าผู้จัดการ อดทนรอไม่ไหวที่จะตัดบทเขา กั้นระหว่างจักรชัยและคนที่เรียกตัวเองว่าผู้จัดการนั้นอย่างหยิ่ง ผยอง

“แท้จริงแล้วคุณก็คือผู้จัดการของที่นี่ ฉันมองดูว่าที่นี่ก็ระดับดี น่ะ ดังนั้นจึงมาทานที่นี่ แต่ว่าไม่คิดว่าพวกคุณจะปล่อยโจรให้เข้า มาที่นี่ รู้หรือเปล่าว่าของบนตัวของพวกฉันนั้นมีค่ามากมายขนาด ไหน? ถ้าหากว่าโดนขโมยแล้วล่ะก็ พวกคุณจะชดใช้ไหวไหม ?”

เมื่อผู้จัดการได้ยินคำที่เธอพูด สายตาก็นิ่งเงียบ ชาเลืองมองดู คนในห้อง ถ้าหากพูดว่าในนี้มีโจรแล้วล่ะก็ ในตรงนั้นก็มีเพียงแค่ จักรชัยที่มีโอกาสเป็นไปได้ที่สุด ในบรรดาทุกคนที่สวมใส่เสื้อผ้า ธรรมดาที่สุดก็คือเขาแล้วแหละ

แต่ว่า ผู้จัดการคนนี้ก็เป็นคนที่มีประสบการณ์คนหนึ่ง แม้ว่า สายตาของเขานั้นจะกวาดมองไปที่จักรชัยโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ กลับว่าไม่ได้มองบนตัวเขานานขนาดนั้น ท้ายที่สุดแล้วเขาเองก็ พอรู้ในหลักการที่ว่าไม่สามารถดูคนได้จากภายนอก

“ในเมื่อคุณผู้หญิงท่านนี้พูดว่าในนี้มีขโมย งั้นก็กรุณาคอรเฟิร์ม ให้สักหน่อย ผมก็จะได้เรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยของที่ นี่ขึ้นมา ถ้าหากเป็นจริงแล้วล่ะก็ ค่าใช้จ่ายในวันนี้ของพวกคุณฟรีหมดทุกอย่าง และยังสามารถเพลิดเพลินกับ โอกาสของวีไอพีได้ถึงสิบครั้ง

เมื่อได้ยินคําพูดที่ผู้จัดการพูดแล้ว อลินดาและจํารัสทั้งสองคน นั้นก็ค่อนข้างที่จะตื่นเต้น เดินเข้าไปหาจักรชัยอย่างไม่ลังเล จับที่ เสื้อของเขาดึงไปข้างหน้า

แต่ว่าจักรชัยผู้ชายทั้งแท่งอย่างนี้จะเป็นไปได้ยังไงที่ถูกเธอดึง ก็ดึงไปได้

อลินดาจับอยู่ตั้งนาน พบว่าตอนนี้นั้นเธอจับจักรชัยไม่ขยับแล้ว นี้ถ้าหากก่อนหน้านี้ล่ะก็ เธอเกี่ยวด้วยนิ้วมือไปได้ตามสบาย จักร ชัยก็จะเดินตามต้อยๆมา ผลักออกจากตัวของเธอด้วยความโกรธ อย่างมาก

หลังจากที่จักรชัยรอให้เธอปล่อยมือแล้วนั้น เมื่อกี้ที่โดนเธอ ลากมาก็คบๆแล้ว ทำเหมือนรู้สึกว่าสกปรกอย่างมากยังไงอย่าง นั้น

“ก็คนนี้ไง คุณยังดูไม่ออกอีกเหรอ? ก็เขาที่ทั้งตัวเหมือนผ้าขี้ริ้ว เช่นนี้ เหมือนกับคนที่จะยืนอยู่ที่นี่เหรอ ?

อลินดาที่เมื่อตะกี้เพิ่งจะโดนจักรชัยทำให้โกรธจนเจ็บไปทั้งปอด ที่พูดออกมาในครั้งนี้ก็ไม่แม้แต่จะเกรงใจสักนิด
ผู้จัดการฟังคำพูดของอลินดาแล้วนั้น ค่อนข้างที่จะลังเล แท้จริง แล้วจุดประสงค์ที่เขาเข้ามานี้นั้นคือมาตามหาผู้ชายที่ชื่อจักรชัย แต่ในตอนนั้นที่อยู่ภายในห้องมีเพียงแค่สองคนเท่านั้น หนึ่งใน นั้นที่เขาค่อนข้างที่จะคุ้นตา อย่างน้อยก็เคยเจอมาแล้วกี่ครั้ง แต่ ก็ไม่ได้จดจำชื่อ แต่ว่าเขารู้อย่างแน่ชัดว่าคนๆนั้นไม่ได้ชื่อจักรชัย

ความเป็นไปได้หนึ่งเดียวนั้นก็คือผู้ชายคนที่ถูกระบุว่าเป็นขโมย

คิดมาถึงตรงนี้ ผู้จัดการก็ไม่ได้เรียกพนักงานรักษาความ ปลอดภัยเข้ามา แถมยังมองไปทางจักรชัย

“ขอสอบคุณผู้ชายหน่อยเมื่อตะกี้ที่คุณผู้หญิงท่านนี้พูดนั้นเป็น เรื่องจริงไหมครับ?”

จักรชัยไม่ยกเปลืองตาขึ้น ส่ายหัวไปมา

ผู้จัดการคนนั้นมองไปทางจักรชัยที่ปฏิเสธ หันหน้ากลับไปมอง ที่อลินดา

“งั้นขอถามคุณผู้หญิงสักหน่อย คุณมีหลักฐานอะไรมีแสดงว่า คุณผู้ชายท่านนี้เป็นขโมยครับ?”
อลินดาน่าเสียงที่เยือกเย็น มองที่จักรชัย แต่คำพูดกลับพูดไปที่ ผู้จัดการที่อยู่อีกด้านหนึ่ง : “เจ้าของ ร้านนาฬิกาปาเต๊ะ ฟิลลิปสูญ เสียสร้อยข้อมือไทเทเนียมที่ดีที่สุดชิ้นหนึ่งของโลก และสร้อย ข้อมือนี้ก็ปรากฏขึ้นที่ชายตรงหน้าคุณพอดี เขาบอกว่าเขา อมา คุณคิดว่าเป็นไปได้ไหม?

เมื่อพูดคําพูดนี้จบ ผู้จัดการคนนั้นก็ตกตะลึงแล้ว ตกตะลึงจน แม้แต่สิ่งที่เคยได้ยินอะไรมาในสถานที่แบบนี้ก็ไม่ทำให้คนรู้สึก ประหลาดใจ ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าคริสตัลไทเทเนียมเป็นคริสตัลที่มีค่า และหายากที่สุดในโลกไปโดยปริยาย

เมื่ออลินดาพูดจบก็หยิบสร้อยข้อมือที่ตกแตกออกมาจากกระเป๋า ของตัวเอง

“พูดขึ้นแล้ว ฉันก็เตรียมที่จะโทรศัพท์หาเจ้าของร้านนาฬิกา ปาเต๊ะ ฟิลลิปเพื่อจัดการเรื่องนี้พอดี แต่ทว่าวันนี้ พวกเรามา เคลียร์บัญชีเรื่องนี้ให้ชัดเจนไปเลยที่นี่”

เพลงพิณอยากจะโมโหตั้งนานแล้ว แต่ว่าโดนจักรชัยจับไว้ ตลอด ในตอนนั้นที่ได้ยินคำพูดของอลินดา สุดท้ายแล้วก็อดไม่ ได้แล้ว แม้ว่าเขาและจักรชัยจะรู้จักกันมาไม่นาน

คนนี้นอกจากจะน่ารําคาญเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายเหมือนกับ ที่ผู้หญิงคนนี้พูดขนาดนั้น วันนี้เป็นเพราะเธอเองที่ลากจักรชัยขึ้น มาดื่มเหล้า แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะทำเรื่องราวให้กลายเป็นแบบนี้

“ปากหมาๆอย่างคุณหุบปากไปซะดีดีจะได้ไหม คุณก็เคยเป็น แฟนเก่าของเขาแล้ว วันวันยังจะมาทำสร้างเรื่องมากมายตาม หลังคนอื่นเขาอีก ถ้าไม่รู้นี่คิดว่าลืมเขาไม่ลงแล้วซะอีก? ไม่รู้ว่า ท่าน ที่อยู่ข้างๆคุณจะคิดอย่างไร? แฟนสาวจัดงานวันเกิด เชิญ อดีตแฟนเก่ามา ใจกว้างพอใช้ได้ ไม่กลัวว่าจะแอบมีกิ๊กเหรอ!”

เพลงพิณถูกทำให้โกรธอย่างมากถึงจะสามารถพูดคำพูดเหล่านี้ ออกมาได้ เพียงแค่คำพูดที่เธอพูดออกมา ทั้งสองคนที่อยู่ฝั่งตรง ข้ามก็เปลี่ยนสีหน้าไปพร้อมกัน

ตอนที่จํารัสได้ฟังว่าอลินดาจะทําให้จักรชัยเกิดความอัปยศอดสู ดังนั้นจึงได้เรียกให้เขามาเข้าร่วมงานวันเกิดด้วย กลับคิดไม่ถึงว่า ชั้นนี้ นอกจากพวกคนในบ้านแล้วนั้น รู้ว่าพวกเขาต้องการที่จะให้ จักรชัยอัปยศอดสู แต่ว่าคนอื่นๆอาจจะไม่รู้

อลินดาเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นครั้งแรกที่คิดถึงเรื่องนี้ รีบเข้าไปจับ แขนของจํารัสอธิบายให้เขาฟัง

จํารัสใบหน้าที่สําคล้ำเพียงประเดี๋ยวเดียวก็สามารถหยดน้ำหมึก ออกมาแล้ว จักรชัยอยู่ด้านหลังของเพลงพิณ อดไม่ได้ที่จะยิ้ม ออกมา คิดไม่ถึงว่าเด็กผู้หญิงคนนี้จะฉลาดเสียจริง
“คุณหยุดพูดใส่ร้ายฉันที่นั่นสักที ฉันดูคุณแล้วน่าจะตกหลุมรัก จักรชัยผู้ชายที่ธรรมดาจนๆนี้เสียจริงแล้ว ทำไมช่วยเหลือเขาทุก อย่างล่ะ? ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้เขาถูกจับส่งไปสถานีตำรวจ คุณ ยังจะรื้อฟื้นขึ้นมาอีก ตอนนี้ก็อยู่ที่นี่ ใช้จ่ายเงินที่ผู้ชายคนอื่นให้ คุณมาเลี้ยงเธอ คุณทำไมช่างยอดเยี่ยมขนาดนั้นล่ะ?”

ผู้จัดการคนนั้นมองดูทั้งสองคนยิ่งพูดยิ่งเกินกว่าเหตุ มีความ รู้สึกว่าจะต่อสู้กันขึ้นมาได้ตลอดเวลา เพียงได้แค่ทำเสียงไอออก มาอยู่ข้างๆ

“คุณผู้ชายท่านนี้ เมื่อกี้เธอเรียกคุณว่าจักรชัย ใช่ไหมครับ? เรื่อง

นี้..……..เฮ้อ?”

จักรชัย !

ผู้จัดการคนนั้นก็มีปฏิกิริยากลับมาในทันใด เรื่องที่เขามาที่นี่ เพื่อที่จะมาหาจักรชัย จู่ๆได้ยินถึงชื่อนี้แล้วก็ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไร กลับมา แต่ว่าพูดจากปากของตัวเองแล้วหนึ่งครั้งสายตาของเขา ก็จ้องมองไปยังผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า

“ขอถามหน่อยคุณใช่คุณจักรชัยไหม?”

จักรชัยพยักหน้า ตอนแรกเขาอยากที่จะถามผู้จัดการคนนี้ว่ามา หาเขาทำไม แต่ก็มักจะโดนอลินดาตัดบท ดังนั้นจึงลืมเรื่องที่จะถามไปเลย ตอนนี้เมื่อเห็นว่าผู้จัดการเริ่มที่จะกล่าวถึง เรื่องนี้แล้ว ถึงจะคิดขึ้นมาได้

“นี่เป็นของขวัญที่ท่านประธานภูผาของพวกเราให้ผมมาส่งให้ คุณ เป็นVIPตลอดชีพของไนท์คลับพวกเรา แต่ทั้งหมดนั้นที่จะ นำไปใช้ได้ต้องเป็นสถานที่ที่อยู่ภายใต้ชื่อของไนท์คลับพวกเรา กฎการเก็บเงินจะคิดเพียง70%ในการเรียกเก็บ

“นี้คุณตาบอดแล้วเหรอ? จะเป็นเขาไปได้ยังไงล่ะ? น้ำเสียงขอ งอลินดาที่แหลมคมก็ตัดบทขึ้นอีกครั้งระหว่างที่พวกเขาพูดคุย กัน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ