เศรษฐีอันดับหนึ่ง

บทที่ 15 รูดบัตร



บทที่ 15 รูดบัตร

บทที่ 15 รูดบัตร

จักรชัยพยักหน้า เดิม ไม่อยากซื้อรถ แต่ว่าเขาไม่ควรให้น้ ทิพย์มารับตลอดแบบนี้

โดยเฉพาะเวลาที่พวกผู้ชายหลายๆคนไปบางทีก็ไม่ค่อยเหมาะ สม เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ไป ทำอะไรก็ไม่สะดวก

ซื้อรถก่อนจะดีกว่า อย่างไรก็ตามชลธิชาอยากมีรถสักคัน อย่างไรก็ตามสามารถให้เขาขับก่อน ออกไปข้างนอกทีละหลายๆ คนก็สะดวกดี

ชลธิชาไม่มีอะไรจะพูด ในเมื่อจักร ยตัดสินใจแล้ว ถ้ามีอะไรที่ พวกเขาช่วยได้จะต้องพยายามสุดความสามารถแน่นอน หลาย คนช่วยกัน อย่างไรก็ตามวันนี้บริษัทไม่มีอะไรทำ หลังจากอาหาร กลางวันก็จะไป

ตรงไปยังตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุด สำคัญคือที่นั่นมี รถยนต์ทุกชนิด ตัวเลือกเยอะ ราคาก็ไม่แพงเกินจริง

“อยากได้รถใหญ่หรือรถเล็ก?”

ยืนอยู่หน้าประตู ชลธิชาถามจักรชัยหนึ่งประโยค เรื่องรถรุ่นไหนจะต้องดูว่าเขาอยากใช้งานแบบไหน ถ้าเป็นรถครอบครัว SUVก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว พื้นที่กว้าง ออกเดินทางกันทั้ง ครอบครัวก็สะดวก จักรชัยไม่ได้คิดเยอะขนาดนั้น เขาก็ไม่ค่อย เข้าใจเท่าไหร่ ก็แค่อยากให้ชลธิชาพาเขาไปดูรถที่รู้สึกว่าดีก็พอ

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป จากราคา150,000ถึง800,000กว่าๆแทบจะ ดูหมดไปแล้วรอบหนึ่ง ไม่มีสักคันที่จักรชัยถูกใจ มีคนสองสาม คนนั่งยองๆอยู่ริมถนน

“จักรชัย ตกลงคณอยากซื้อรถแบบไหน ถึงยังไงก็วิ่งบนพื้น จะ แตกต่างกันสักเท่าไหร่”

แน่นอนต้องมีความแตกต่าง บางคันก็เชยจริงๆ ไม่เหมือนกับที วัยรุ่นขับกัน บางคันก็ดูหรูหราเกินไป เหมือนกับBMW Audiแบบ นี้มีเต็มท้องถนนไปหมด

เมื่อเขามองไปที่Volkswagen จู่ๆในสมองก็คิดถึงประโยคที่ช่วง นี้นิยมใช้กันเป็นพิเศษ : “ไม่กลัว BMW และ Land Rover แต่ กลัวอักษรที่อยู่ข้างล่างชื่อ ! ”

คิดไปพลาง เดินไปที่Volkswagenไปพลาง ชลธิชาและอีก หลายคนก็เลยรีบตามเขาไปกลัวตามไม่ทัน

“รถVolkswagenนี้ก็ไม่เลว ประสิทธิภาพก็ดี ไปดูสักหน่อย”
เข้าไปปุ๊บ จักรชัยเห็นรถที่โดดเด่นที่สุดจอดอยู่ที่ประตู -Phaeton

รูปลักษณ์ที่หรูหรา ทันใดนั้นพอดูแล้วก็รู้สึกพอใจ ถ้าจอดไว้ที่มี รถมากๆจะต้องเป็นจุดสังเกตุได้แน่ ถือได้ว่าค่อนข้างหรู แต่ว่ารถ คันนี้ดูภายนอกแล้วไม่ได้เรียบง่ายเลย

“สวัสดี ใครสามารถอธิบายรถคันนี้ได้บ้าง ! ”

จักรชัยและเพื่อนๆเข้ามานานแล้ว แต่กลับไม่มีพนักงานขายเข้า มาแนะนำรถในนี้เลย เขาจึงขวางคนที่เดินผ่านมาคนหนึ่ง

ใครจะรู้ว่าผู้หญิงคนหนึ่งสีหน้าดูเหมือนรำคาญ เหลือบมองพวก เขา แล้วชี้ไปที่รถที่อยู่ข้างใน

“ฉันขายเฉพาะ Phaeton พวกคุณอยากซื้อรถเข้าไปข้างในหา คนขายคนอื่นเองเถอะ ฉันจะบอกพวกคุณให้ รถที่สามารถวาง ขายที่นี่ได้ ไม่ใช่ราคาที่พวกคุณจะรวมเงินกันซื้อได้ ทางที่ดีก็รอ ลดราคาหรือไม่ก็ช่วงโปรโมชั่นค่อยมาเถอะ ! ”

หลังจากพูดเสร็จเขาก็เดินไปด้านข้างอย่างกระฉับกระเฉง ใน ขณะนี้มีผู้หญิงอีกคนเดินเข้ามาสวมใส่เสื้อผ้าที่ดูดี แค่ดูเนื้อผ้าก็รู้ แล้วว่าแพง ส่งเสียงรองเท้าส้นสูงสีขาวอย่างคมชัด
ยกศีรษะขึ้นเล็กน้อย คอเหมือนหงส์ ประกอบกับเสื้อชุดนั้น ออ ร่าของร่างกายเปล่งประกายออกมาอย่างเต็มที่

“สวัสดีคณผู้หญิง ต้องการรถแบบไหนคะ ฉันสามารถแนะนําให้ คุณได้

พนักงานขายเห็นผู้หญิงคนนั้นก็รู้ว่าเป็นคนร่ำรวย ทันใดนั้นคำ พูดก็กลายเป็นความอ่อนน้อมถ่อมตน พุ่งไปอยู่หน้าเธออย่าง ตั้งใจ

“เมื่อกี้เธอไม่ใช่บอกว่าขายแค่ Phaetonหรอกเหรอ เปลี่ยน สีหน้าได้เร็วจริง

ดารินพูดมาประโยคหนึ่งอย่างดูถูก แต่ว่าบางครั้งก็รู้สึกถึง ประโยชน์ของคนมีเงิน คิดดูว่าพวกเขาเข้ามานานแล้ว ไม่มีใครมา ถามว่ามาที่นี่ทำไมสักคน ไม่ใช่เพราะพวกเขาสวมเสื้อผ้าธรรมดา ไม่เหมือนคนที่จะซื้อรถได้

ในสายตาพวกเขาอาจยังคิดว่า เมื่อพวกเขาจะจ่ายเงินก็คงลังเล เป็นเวลานาน ไม่แน่อาจจะไม่จ่ายเงิน ถึงเวลานั้นก็สิ้นเปลืองเวลา

“รอค มีเงินแล้ว ก็ได้บริการที่ดีแล้ว ! ” พนัส ยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วพูดออกมาประโยคหนึ่ง
“รถคันนี้พวกเราจองก่อน” จักรชัยไม่สนใจการต่อปากต่อคำของ พวกเขา ขมวดคิ้วแล้วมองไปดู ผู้หญิงที่มาทีหลังคนนั้น แค่พูด กับฝ่ายขาย ใครจะรู้ว่าพนักงานขายยังไม่ได้พูด ผู้หญิงคนนั้นก็ เอ่ยปากพูดก่อน

“รู้ว่านี้เป็นรถอะไรไหม? ไม่พูดถึงอย่างอื่น เฉพาะเบาะนั่งข้างใน ก็เป็นหนังแท้แล้ว คุณยังคิดจะเอารถคันนี้ ถามเงินในกระเป๋าตัว เองก่อนเถอะ เบาะหนึ่งจะซื้อได้หรือเปล่า”

ชลธิชาและคนอื่นๆที่ยืนอยู่ข้างหลังก็ตกใจคำพูดของจักรชัย จนผู้หญิงคนนั้นพูดจบ เขาถึงมีปฏิกิริยาขึ้นมา รีบไปข้างหน้าดึง จักรชัยเอาไว้

“พี่ใหญ่ของฉัน นี่มันรถอะไรอ่ะ นี้ไม่ใช่รถที่คนธรรมดาอย่างเรา ซื้อได้ คุณอย่าเข้าไปร่วมสนุกเลย พวกเราออกไปก่อนเถอะ สูบ บุหรี่ให้ใจเย็นสักหน่อย ฉันค่อยพาพี่ไปดูรถคันอื่น

พนักงานขายผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ด้านข้างมองอย่างไม่พอใจเล็ก น้อย และเกลี้ยกล่อมจักรชัยอย่างรวดเร็ว

“น้องชาย เรื่องใหญ่อย่างการซื้อรถไม่ใช่คุณสามารถตัดสินได้ ยังไงครั้งหน้าค่อยมาพร้อมกับพ่อแม่เถอะ !”

ผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างฟังคำพูดของพนักงานขายพูดกับจักรชัยแบบนี้ เห็นได้ชัดว่ามีประโยชน์มาก ท่าทางยั่วยุมองไปที่จักร ชัย จากนั้นฟังคําอธิบายของพนักงานขายต่อไป

สําหรับกลุ่มของพวกเขา ถูกปล่อยให้เป็นอากาศมานานแล้ว มี หลายคนที่รู้สึกเสียใจเล็กน้อย ไม่พูดอะไรตามจักรชัยไปที่โซน พักผ่อน

ทันทีที่ฉันนั่งลงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ยังอายุไม่มากก็เข้ามา เครื่องแบบสีดำ เห็นได้ชัดว่าเป็นพนักงานขายของที่นี่

“สวัสดีค่ะ พวกท่านต้องการซื้อรถใช่ไหมคะ? เสียงหวานๆ เทียบ กับผู้หญิงคนเมื่อกี้แล้วดีมาก จักรชัยเดิมทีที่มีอารมณ์หงุดหงิดก็ดี ขึ้นมาเยอะ ชี้ไปที่รถคันที่ดูเมื่อกี้

“คันนั้น เต็มจำนวน รูดบัตร

เจ็ดค่า แต่ทําให้คนรอบข้างตกตะลึง แม้แต่คนไม่กี่คนที่เดินผ่าน ไปมา ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองเมื่อได้ยินเสียงนี้

ชลธิชาและคนอื่นๆก็ยิ่งมึนงง ครอบครัวจักรชัยตอนนี้ร่ำรวย ขนาดไหน คุณสามารถซื้อ Phaeton ได้โดยไม่ต้องคิด

พนักงานขายก็มึนงงสักครู่ แต่ก็มีปฏิกิริยาขึ้นอย่างรวดเร็ว ชี้ไป ที่ Phaetonอีกครั้ง และจักรชัยก็คอนเฟิร์มอีกครั้ง
“คุณผู้ชาย แน่ใจนะว่าเป็น Phaeton?”

จักรชัยพยักหน้าอีกครั้ง จากนั้นก็หยิบบัตรในกระเป๋าเงินของตัว เองออกมา วางไว้บนโต๊ะ

รูดบัตรเสร็จ เมื่อส่งใบเสร็จไปยังมือของจักรชัย สายตาของ พนักงานขายมีอาการเฉื่อยเล็กน้อย วันนี้เธอทำงานวันแรก เพราะว่ายังไม่คุ้นเคยกับลักษณะงาน ดังนั้นได้แค่เสิร์ฟน้ำ และ แนะนำให้กับลูกค้าที่มาดูก่อนซื้อรถเหล่านั้น กลับคิดไม่ถึง เสิร์ฟ น้ำไม่กี่แก้วผ่านไป ก็ขายรถที่แพงที่สุดในร้านได้

อีกทั้งยังใช้เวลาเพียงไม่ถึงสิบนาทีในการติดต่อเพื่อชำระเงิน ผู้ จัดการร้านรู้สึกไม่น่าเชื่อเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่ามีคนซื้อ Phaeton เมื่อเขาเห็นว่าเงินจำนวนหนึ่งเขาก็ตื่นเต้นและวิ่งออกจาก สำนักงานทันที

“สวัสดีค่ะ ใช่จักรชัยไหม ฉันเป็นผู้จัดการร้านนี้ คุณเตรียมจะขับ ออกไปตอนนี้ หรือว่าสักครู่จะให้พวกเราส่งคนขับไปส่งคุณ?” “จะ ขับไปวันนี้”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ