เศรษฐีอันดับหนึ่ง

บทที่ 18 รุ่นที่ผลิตจำกัดจำนวน



บทที่ 18 รุ่นที่ผลิตจำกัดจำนวน

บทที่ 18 รุ่นที่ผลิตจํากัดจํานวน

จักรชัยก้าวเท้าเข้าไปในลิฟต์ของทางด้านซ้าย ผู้ชายในชุดสูท สีดำาก็ก้าวเท้าออกมาจากในลิฟต์ของทางด้านขวา ตอนที่บริกร ของไนท์คลับเห็นเขานั้น ต่างก็ตะโกนด้วยน้ำเสียงที่เคารพ “ท่าน ประธานภาสกร

ช่วงที่เปิดประตู ทุกคนต่างต้อนรับเรียกว่าท่านประธานภาสกร นั้นจักรชัยไม่สามารถที่จะเทียบเทียมได้เลย

“โอ้ ท่านประธานภาสกรมาแล้ว

จํารัสนั่งอยู่กับตรงข้ามกับประตูพอดี เมื่อภาสกรเข้ามา เขาก็ เป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืน รีบที่จะเดินเข้าไป คว้ามือของเขามาจับไว้ แสดงการต้อนรับอย่างอบอุ่นเห็นเป็นแม่ของตัวเองยังไงอย่าง

ประจวบเหมาะทอลินดาเพิ่งจะเดินมา จำรัสจึงรีบดึงเธอก้าวขึ้น

ไปข้างหน้า

“มัวแต่อึ้งอะไรอยู่ล่ะ นี้คือท่านประธานภาสกรที่ฉันเพิ่งจะพูดกับ
ท่านประธานภาสกร เป็นลูกชายของนักธุรกิจทางด้าน อสังหาริมทรัพย์ระดับพันล้าน ภาสกร

คุณพ่อของภาสกรแทบจะสร้างบ้านไปแล้วกว่าครึ่งหนึ่งของ เมือง สถานะและความมั่งคั่งนั้นใช่ว่าคนธรรมดาจะสามารถเทียบ เทียมได้ คุณลุงของจำรัสก็เป็นลูกน้องที่รับงานโครงการของพ่อ ภาสกร ไม่อย่างนั้นจะทำเงินได้มากมายขนาดนั้นได้ยังไงกัน

อลินดาเห็นคนแบบนี้แทบจะรอไม่ไหวที่จะกระโจนเข้าไปที่ เสื้อผ้า ขณะนั้นกลับว่าต้องแสร้งเอามือไปจับไว้ด้านหลังอย่าง เงียบๆแทน ตะโกนออกมาด้วยเสียงที่งามเฉิดฉาย “ท่านประธาน ภาสกร!”

ภาสกรยิ้มอยู่ครู่หนึ่ง เอาถุงที่อยู่ในมือส่งไป ทันใดนั้นก็ได้ยิน เสียงที่อุทานออกมาอย่างตกใจ

“MCM กระเป๋ารุ่นใหม่ที่ผลิตและจำหน่ายออกมาอย่างจำกัด จำนวน กี่หมื่นละคะเนี่ย~”

ยิ่งพูดถึงตอนหลัง น้ำเสียงของผู้หญิงนั้นก็ยิ่งเสแสร้ง จับมือ ของผู้ชายคนหนึ่ง เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการพูดให้เขาฟัง

“แค่ของขวัญเล็กๆน้อยๆ ไม่ได้มีมูลค่า สุขสันต์วันเกิดนะ มาช้า ไปแล้ว คงไม่ถือสาอะไรน่ะ
ตอนที่ภาสกรพูดประโยคนี้นั้นก็ไม่ได้สนใจอะไร พูดไปพลาง เดินเข้ามา

“ท่านประธานภาสกรยื่นมือออกไป ส่งมอบของขวัญให้กับพวก เราอีกหลายคนอย่างเบียดเสียด

อลินดาหยิบถุงนั้นอย่างตื่นเต้นจนแทบจะพูดไม่ออก ไม่มี

ปฏิกิริยาใดๆจนกระทั่งจำรัสลากเธอเข้ามา

“ขอบคุณท่านประธานภาสกร

ภาสกรเพิ่งจะนั่งได้ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็เห็นอะไรบางอย่างที่สอง ประกายอยู่บนพื้น เดินเข้าไปด้วยความสงสัย ใช้มือดึงเศษชิ้น ส่วนบนพื้นออกมา มันเป็นสร้อยข้อมือที่อลินดาเพิ่งจะทิ้งพอดี

“นี้คือ? สีหน้าของภาสกรค่อนข้างที่จะประหลาดใจ เงยหน้าขึ้น ไปมองกี่คนนั้นที่ยืนอยู่ด้านหลัง

“เป็นเพียงแค่ของที่เพื่อนร่วมงานให้ ไม่ระมัดระวังก็ตกแตกเสีย แล้ว แต่ว่าดูแล้วก็ไม่ได้มีค่าอะไร เขารู้สึกว่าน่าเบื่อก็เลยออกไป แล้ว”

เมื่อฟังคำพูดของอลินดา ภาสกรก็ดึงมุมปาก นครู่หนึ่งกลับไปเอาเศษชิ้นส่วนที่แตกบนพื้นนั้นขึ้นมาวางลงบนโต๊ะ

ของสิ่งนี้ไม่มีมูลค่า ?

“ท่านประธานภาสกร ถ้าหากว่าท่านชอบของสิ่งนี้ ฉันจะกลับไป ซื้อสักกี่เส้นส่งไปให้คุณโดยเฉพาะ อันนี้มันตกพื้นแล้ว คุณก็อย่า ไปสนใจเลย เกรงว่าจะเปื้อนมือของคุณ”

อลินดามองภาสกรอย่างไม่ค่อยเข้าใจไปซะหมด แต่ว่าเธอตอน นี้นั้นเรื่องที่น่าเสียใจที่สุดก็คือทำไมถึงลืมให้คนมากวาดขยะกอง นี้ได้ นี้ไม่ใช่ทำให้ภาสกรมองว่าเป็นเรื่องตลกเหรอ!

“สิ่งของนี้ไม่ได้มีมูลค่าเสียงจริงๆ เพราะว่านี้ไม่ใช่เงินก็สามารถ ซื้อได้!”

ภาสกรมองไปที่เศษชิ้นส่วนที่วางอยู่บนโต๊ะ เจ็บปวดไปครู่หนึ่ง แม้ว่าสิ่งของนี้ไม่ใช่เป็นของที่เขาซื้อ แต่ว่าเมื่อเห็นของที่ดีอย่าง นี้ถูกทำให้ตกจนแตกเป็นชิ้นๆ และยังถูกพูดว่าเป็นสิ่งของที่ไม่มี มูลค่าอีก เอ๋อไปชั่วครู่หนึ่ง

“รู้ว่าอะไรคือคริสตัลไทเทเนียมไหม?”

ภาสกรยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ใจ ถามพวกเขาออกไปหนึ่ง ประโยคอย่างง่ายๆ
“ฉันรู้ คริสตัลไทเทเนียมเป็นหนึ่งในคริสตัลที่มีค่าที่สุดในโลก ว่ากันว่าเป็นของที่ล้ำค่ามาโดยตลอด ยิ่งเม็ดใหญ่ยิ่งล้ำค่าและ มีชื่อเสียงเลื่องลือ ว่ากันว่าเม็ดที่ใหญ่เท่าหัวแม่โป้งมีมูลค่ากว่า สามพันล้าน”

ภาสกรมองที่ผู้ชายคนนั้นที่พูดแว่บหนึ่ง ก็นับว่ามีคนที่รู้ว่าอะไร คือคริสตัลไทเทเนียมแล้ว

ชี้ไปที่เศษตะกอนบนโต๊ะ ภาสกรก็สงบสติอารมณ์ของตัวเองอีก ครั้งหนึ่ง ค่อยๆเปิดปากออกอย่างช้าๆ เพียงแต่ว่าครั้งนี้เป็นการ พูดทิ่มแทงคนเหล่านี้สะมากกว่า

“ชิ้นนี้นั้นเป็นหนึ่งในเครื่องประดับคริสตัลไทเทเนียมสิบชิ้นที่ หมุนเวียนอยู่ในตลาด ณ ตอนนี้ เฉพาะผู้ที่มีบัตรแบล็คการ์ดจำกัด 10 ใบเท่านั้นในโลกจึงจะมีสิทธิ์ซื้อ สร้อยข้อมือเส้นนี้น่าจะเป็น เส้นที่เล็กที่สุดในตลาด ผู้ที่ซื้อรายสุดท้ายคือเจ้าของร้านนาฬิกา ปาเต๊ะ ฟิลลิป เพียงแค่ ….” ของชิ้นนี้เขาได้ขายทิ้งแล้วหรือเปล่า นั้นก็ไม่มีใครรู้

สายตาของอลินดา ที่มีความเชื่องช้ามองไปที่เศษชิ้นส่วนนั้น นี้ จะเป็นไปได้ไงล่ะ ?

แต่ว่าไม่มีใครสักคนที่นั่งอยู่ตรงนี้สงสัยในคำพูดของภาสกร อย่าพูดว่าซื้อของแบบนี้เลย แม้ว่าอยากจะรู้ถึงการมีอยู่จริงๆของ สิ่งของชนิดนี้ก็ต้องพิจารณาตัวเองด้วยว่ามีคุณสมบัติเพียงหรือเปล่า

แต่ว่าใครจะเชื่อล่ะ สิ่งของแบบนี้จะเอามาจากมือของผู้ชาย ธรรมดาจนๆได้

ถ้าหากเป็นภาสกร พวกเขาคงจะไม่สงสัยกันแม้แต่น้อย แต่ว่า ภาสกรจะเอาของแบบนี้ส่งมอบให้คนอื่นตามอำเภอใจเหรอ? ที่ มอบให้ยังจะเป็นแฟนเก่าที่เคยสวมเขาให้ตัวเองอีก

ช่วงเวลาหนึ่ง สายตาที่ซับซ้อนของคนเหล่านั้นมองไปที่อลินดา อย่างไม่ขยับสักนิด

“ตอนนี้สิ่งนี้ก็แตกจนเป็นตะกอน เกรงว่ามูลค่าจะสู้อเมทิสต์ชิ้น หนึ่งไม่ได้แล้ว”

ภาสกรสุดท้ายแล้วก็เงยหน้าขึ้นมา เคลื่อนไหวครู่หนึ่งหลังจาก ที่เมื่อกี้จ้องมองคริสตัลไทเทเนียมอย่างไม่ขยับแม้แต่น้อยอย่าง เจ็บปวด พุ่งเป้าสายตาไปที่อลินดา

“มองไม่ออกเหรอ เพื่อนพวกนั้นที่อยู่ข้างกายคุณยังเป็นเสือ ซ่อนมังกรเสียจริงๆสิ่งของแบบนี้มอบให้คุณแล้วสายตาก็ไม่กระ พริบแม้แต่น้อย ฉันว่าเหตุผลที่เขาไปนั้นก็คงจะไม่เรื่องธรรมดา หรอก !”
ภาสกรนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่เดินเข้าประตูมาพูดจาดีกับผู้หญิง คนนี้ที่อยู่ต่อหน้าผู้คนจํานวนมากมาย นอกจากหน้าตาและรูปร่าง ที่โอเคแล้วนั้น ยังจะมีตรงไหนที่มีคุณค่าพอที่จะมอบของขวัญที่ ดีๆให้สักชิ้น

สายตาที่ภาสกรมองไปที่อลินดานั้นยิ่งเพิ่มความอึดอัด คน ทั้งคนเหมือนกับปีศาจร้ายยังไงอย่างนั้น ทันใดนั้นก็ตะโกนขึ้นมา

“จักรชัย ก็เป็นผู้ชายธรรมดาจนๆที่มาจากชนบท จะมาซื้อสิ่งของ อย่างนี้ได้อย่างไรกัน เขาจะต้องขโมยมาอย่างแน่นอน ท่าน ประธานภาสกร ดูแล้วคุณนั้นก็ชอบสิ่งของนี้มากเลย ก็เป็นเพราะ ว่าจักรชัยจึงได้ทําลายของนี้แล้ว คุณรู้จักเจ้าของร้านนาฬิกา ปาเต๊ะ ฟิลลิปหรือเปล่า ฉันต้องการที่จะเอาเรื่องนี้บอกกับเขา ให้ จักรชัยชดใช้ทุกอย่างที่เขาทำไป

จักรชัย? ชื่อนี้ช่างไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยจริงๆ ดูแล้วว่าเรื่องนี้ นั้นคงจะมีเรื่องความลับซ่อนอยู่ ไม่แน่อาจจะเป็นเหมือนกับที่อลิน ดาพูดก็ได้ ก็คือเขาขโมยออกมา

แต่ว่าสามารถเอาของสิ่งนี้ขโมยออกมาจากในมือของเจ้าของ ร้านนาฬิกาปาเต๊ะ ฟิลลิปก็ไม่ใช่ว่าคนธรรมดาทั่วไปจะสามารถ ทําได้

“ได้ เดี๋ยวเอาให้คุณ แต่ว่าอย่าเอ่ยถึงชื่อของฉันน่ะ ฉันไม่ค่อยสนใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้”

เรื่องนี้ก็ได้ยุติลงแล้วชั่วคราว คนเหล่านั้นก็ได้พูดขึ้นมาถึงเรื่อง ที่ภาสกรไปต่างประเทศ

จักรชัยลงจากลิฟต์ กลับไม่ได้เดินตรงไปที่ลานจอกรถ แถมยัง สูบบุหรี่ก่อนสักมวน ปรับอารมณ์ของตัวเองก่อนครู่หนึ่ง ยกเท้า ขึ้นเตรียมที่จะไปหาชลธิชา ทันใดนั้นแขนก็โดนคนคว้าเอาไว้

“เพลงพิณ ? คุณทำอะไรเนี่ย?” จักรชัยประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่ว่าเพียงแป๊บเดียวก็กลับมาเป็นปกติ

“ฉันมาดูสักหน่อย คนที่โดนแฟนเก่าทำลายของขวัญอาการเป็น อย่างไรบ้าง อย่างนี้ฉันก็รู้แล้วว่าครั้งหน้าฉันควรจะทำอย่างไร”

จักรชัย”.…

ไม่อยากสนใจผู้หญิงที่โมโหอย่างไม่มีเหตุผลคนนี้ อยากเดิน ไปข้างหน้าต่อไป สรุปแล้วก็โดนคว้าไว้อีก เดิมทีแล้วนั้นอารมณ์ ของจักรชัยก็ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ อยากจะหันหน้าไปพูดสักสอง ประโยค เพลงพิณก็เปิดปากพูดแล้ว
“อารมณ์ของฉันก็ไม่ดี ถ้าหากไม่รีบร้อนอะไร ก็ไปดื่มชาด้วยกัน สักแก้ว วางใจเถอะ ฉันเลี้ยงเอง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ