ตอนที่ 6 รถปอร์เช่
ตอนที่ 6 รถปอร์เช่
จำรัสก็ไม่คิดว่าเธอจะตะโกนออกมาในที่สาธารณะ เหวี่ยง สายตาอย่างไม่ชอบใจไปหาเธอทันที
“ในเมื่อรู้ว่าเขาก็เป็นแค่ขี้แพ้คนหนึ่ง ยังจะพูดอะไรกับเขาอีก ตะโกนลั่นที่นี่ เธอไม่อายแต่ฉันอายคนนะ!”
ทิ้งมือถือที่อยู่ในมือ แล้วก็ทิ้งอลินดาไว้ที่นั่น ส่วนตนเองเดิน ออกไปเลย
อลินดาจ้องเขม็งไปที่จักรชัยกับน้ำทิพย์อย่างร้ายกาจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็รีบตามไป
จักรชัยที่กำลังเตรียมตัวจะเดินออกไป ก็ได้ยินเสียงของอลินดา อยู่ไกลๆ
“จำรัส ฉันผิดไปแล้ว ต่อไปจะไม่ตะโกนอย่างนี้แล้ว เดี๋ยวกลับไป ที่โรงแรมเค้าจะชดเชยให้ตัวเองอย่างเต็มที่เลยนะ!”
เสียงบทสนทนาที่ลอยออกมาในเวลานี้ ทำให้จักรชัยต้องหันไป มองอีกครั้ง อันที่จริงก็เลิกกันไปแล้ว ถึงเขาจะโมโหอีก แต่ก็คง ไม่เดินตามไปด่าอย่างสาดเสียเทเสียหรอก
ถึงอย่างไร เขาก็ยังต้องขอบคุณจำรัสสักหน่อย ถ้าไม่ใช่เขาคน นี้ที่เป็นลูกคนรวยดึงดูดอลินดาเอาไว้ อีกทั้งยังรอไม่ไหวที่จะเลิก กับเขา กลัวว่าตอนนี้ก็ยังคงให้ผู้หญิงคนนี้เอาเปรียบอยู่จริงๆ
“ฉันอยากจะเดินเล่นข้างนอกคนเดียว แล้วถือโอกาสไปบริษัท สักหน่อย อันที่จริงยังไม่ได้ลาออก ก็ควรจะกลับไปขอลาพัก ก่อน!”
น้ำทิพย์อยากจะบอกว่าเรื่องแค่นี้โทรไปจัดการก็ได้ แต่เห็นจักร ชัยที่ค่อนข้างวุ่นวายใจ เธอจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
“อย่างนั้นฉันจะไปขับรถมา แล้วไปส่งคุณที่บริษัท หลังจากนั้น พวกเราค่อยกลับโรงพยาบาล! ถ้าคุณผู้หญิงรู้ว่าให้คุณอยู่ข้าง นอกคนเดียว ฉัน….…………..
“ได้ ฉันจะรอเธอตรงนี้!
จักรชัยรู้ว่าต่อไปน้ำทิพย์ก็คงจะพูดว่านี่เป็นงานของเธอ ในทาง กลับกันถึงอย่างไรก็ต้องกลับโรงพยาบาลอยู่แล้ว ให้เธอตามไป ด้วยก็คงดีกว่า
เห็นน้าทิพย์กําลังเดินออกไป จักรชัยจึงหยิบมือถือเครื่องใหม่ ขึ้นมากดเล่น ระหว่างนั้นก็มี รถแลนด์โรเวอร์คันหนึ่งมาจอดอยู่ ตรงหน้าของเขา
“อุ๊ย มีเงินซื้อมือถือ แต่ไม่มีเงินกลับบ้านกินข้าวแล้วสิ! นั่งรถ ของฉันไหมล่ะจะถือโอกาสไปส่งเลย
เสียงของจำรัสลอยออกมาจากในรถ จักรชัยก็ไม่เงยหน้า ทำ เหมือนไม่ได้ยินอย่างสิ้นเชิง จากนั้นก็ได้ยินอลินดาที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาพูดขึ้น: “ไปส่งเขา เดี๋ยวก็ต้องไปล้างรถอีก ช้าเลยนะกว่าพวก เราจะได้กลับกัน
ได้ยินคำพูดของอลินดา จักรชัยเพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมา
“ฉันรู้จักพวกคุณด้วยหรือ?”
บรรยากาศเงียบสงัดอย่างฉับพลัน ทำให้สองคนที่อยู่บนรถหน้า เขียวปั๊ด เหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงออกไปทันที
เห็นสองคนนั้นจากไปอย่างอับอายขายหน้า จักรชัยก็หัวเราะขึ้น มาอย่างไม่มีเสียง
รถของน้ำทิพย์ค่อยๆขับมาหยุดลงที่ด้านหน้าของจักรชัย เป็น รถปอร์เช่ คาเยนน์คันหนึ่ง
เห็นสาวน้อยที่หน้าตาสวยบริสุทธิ์มาพร้อมกับรถอย่างนี้ช่าง……สบายตาจริงๆ
“เมื่อครู่เห็นคุณกับคนบนรถคันข้างหน้าเหมือนจะรู้จักกัน” น้ำ ทิพย์ขับรถไปแล้วก็ถามไปด้วยเนื่องจากรถคันนั้นจอดลงตรงด้าน หน้าของจักรชัยพอดี เธอก็เลยไม่ได้มารบกวน และยังรอให้รถ คันนั้นไปก่อนเธอจึงค่อยขับมารับ
“ไม่รู้จัก แค่ถามทาง
จักรชัยพูดไปเรื่อยเปื่อย
ถึงใกล้ๆละแวกบริษัท เขาไม่ได้เข้าไปในบริษัททันที แต่กลับ ไปที่หอพักก่อน แค่เข้าไปก็เห็นเพื่อนร่วมห้องอีกสามคนของเขา นั่งอยู่ในนั้นด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ตอนที่เห็นเขาเข้ามา ก็ส่ง สายตาไปหา มีทั้งเสียใจ มีทั้งสับสน
“พวกพี่โดนไล่ออกแล้ว หรือว่าบริษัทล้มละลายแล้วล่ะ? ทําไม สีหน้าเป็นอย่างนี้กันหมด
จักรชัยเดินมาถึงข้างๆโต๊ะของตนเอง เขียนใบลา แต่เพื่อนร่วม ห้องสามคนของเขาก็พร้อมใจกัน ยกมือขึ้นมาวางไว้บนไหล่ของ เขา
“พวกเรามีเรื่องบางอย่างอยากจะบอกนาย นายต้องยืนหยัดเอาไว้ให้ได้นะ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ