เทพสงครามเป็นพ่อแม

บทที่14 กิ๋นซินเริ่มยอมรับในตัวฉินเฟิง



บทที่14 กิ๋นซินเริ่มยอมรับในตัวฉินเฟิง

บทที่14 อิ่นซินเริ่มยอมรับในตัวฉินเฟิง

“เฝิงกาง คุณพูดมาสิ ว่าผมฆ่าคุณเลยดีไหม? ”

ฉินเฟิงถามไปยังเฝิงกาง

“ท่านประธานครับ….ผมจะพูดความจริงทั้งหมด…….พูด ทั้งหมดเลยครับ…….อนหน้านี้พ่อบ้านฉินเอาเงินให้ผม สองล้าน…….บอกให้ผมจับตาดูท่านประธานไว้….ขอแค่ มีความเคลื่อนไหวอะไรแม้แต่น้อย……..ออกไปจากเมือง เจียงเฉิงแล้ว…….. รีบไปรายงานกับเขาทันที”

เฝิงกางตัวสั่นงันงก และยังล้วงบัตรเอทีเอ็มใบหนึ่งออก มา ยื่นให้กับฉินเฟิง แล้วก็พูดขึ้นมาว่า ……….นี่คือเงิน ที่รับมาก่อนหน้านี้ ทั้งหมดเป็นเงินสามร้อยสี่สิบแปด ล้าน ไม่มีตกหล่นแม้แต่น้อยเลยครับ ผมยังไม่ได้ใช้ ท่าน ประธานครับ ได้โปรดไว้ชีวิตผมเถอะครับ”

แต่ พอฉินเฟิงได้ยินสิ่งที่เฝิงกางพูดออกมานั้น เขากลับ หัวเราะด้วยเสียงเยือกเย็น “ที่แท้ พ่อของฉัน เก่งขนาดนี้ เชียวเหรอ กลัวว่าฉันจะออกจากเมืองเจียงเฉิง กลับไปฆ่า ถึงจิงตูงั้นหรอ ”

“เฝิงกาง ใช้เบอร์มือถือที่คุณใช้ติดต่อกับตาแก่นั้น โทร หาเขาเดี๋ยวนี้”
“ได้ครับ”

เฝิงกางไม่กล้าลังเลอีกต่อไป รีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาโทร ไปทันที หลังจากนั้นก็ยื่นให้กับฉินเฟิง

“ฮัลโหล เฝิงกาง เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นหรอห้ะ? ”

จากเสียงในโทรศัพท์ มีเสียงของฉุนเทียนเฉิงลอดออก มา เสียงที่แหบพร่าดูมีอายุของคนแก่

“ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก แต่ว่าแค่อยากจะทักทายพ่อ บ้านฉินอย่างคุณน่ะ เลย อยากจะขอเตือนพ่อบ้านฉิน หนึ่งครั้ง นี่เป็นครั้งแรก ถ้าขืนยังมีครั้งต่อไปอีก อย่าโทษ ผมที่ไปปรากฏตัวที่จิงตู ไล่ฆ่าทุกคนล่ะ”

เสียงทีเล่นทีจริงของฉินเฟิงลอดไปตามสาย

แต่ ทำให้ฉุนเทียนเฉิงขนลุกไปทั้งตัว เหงื่อเปียกไปทั้ง ตัว “ครับ คุณชายน้อย”

หลังจากนั้นฉินเฟิงก็วางสายไป แล้วโยนโทรศัพท์กลับ ไปให้เฝิงกาง ถามต่อไปด้วยว่า “หลังจากสามวันนี้ บริษัท เฟิงซิ่งกรุ๊ปจะมีการจัดพิธีตัดริบบิ้น? เพื่อประกาศออก ไป?”
“ใช่ครับ ท่านประธาน หลังจากสามวัน บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป จะมีการประกาศการย้ายมาอยู่ที่เมืองเจียงเฉิงอย่างเป็น ทางการค่ะ”

เฝิงกางรีบตอบกลับทันที

เขาได้จัดการตามสิ่งที่ตระกูลฉินมอบหมายไว้ นับว่า เป็นการเลือกเมืองลงหลักปักฐานแล้ว อีกทั้งดูท่าแล้วฉิน เฟิงยังจะใช้ประโยชน์จากเขาอีก อย่างไรเสียเขายังมี ประโยชน์อยู่บ้าง เขาจึงถอนหายใจออกอย่างโล่งอก

“ถ้างั้นโปรเจคแรกคืออะไร? ” ฉินเฟิงถามขึ้นอีกครั้ง

“เอ่อจริงสิ ในมือของเรามีที่ดินนับพันไร่ ทําเลก็ดีมาก พวกเราเตรียมที่จะร่วมมือกับบริษัทในเมืองเจียงเฉิง ร่วม กันพัฒนา ตอนแรกเลือกบริษัทชั้นนำสิบอันดับในเมือง เจียงเฉิง แต่ตอนนี้มีบริษัทซานหยวนกรุ๊ปเข้า…………..

ตอนแรกเฝิงกางเลือกหนึ่งในสิบบริษัทชั้นนำของเมือง เจียงเฉิง แต่ ฉินเฟิงพูดแล้ว ว่าบริษัทซานหยวนกรุ๊ป คือ เถ้าแก่เนี้ย

“โปรเจคที่แรกที่จะร่วมงานกัน ต้องเป็นบริษัทซานหยวน กรุ๊ปเท่านั้น ห้ามมีข้อผิดพลาดเด็ดขาด แต่ ตอนนี้เรื่อง ของผมยังต้องปิดไว้ ทำงานตามปกติเถอะ หลังจากงานตัดริบบิ้นอีกสามวันที่จะถึงนี้ ค่อยส่งมอบของ ขวัญไปในจังหวะนี้ พวกคุณต้องประกาศออกไป ว่าจะ เลือกบริษัทที่มาร่วมงานด้วย”

ฉินเฟิงสรุปเรื่องนี้

“ใช่แล้ว ฉีหยุน หลังจากสามวันนี้ ไปร่วมงานหนึ่งแทน ฉันหน่อยสิ”

เวลานี้เอง ฉินเฟิงมองไปยังฉีหยุน

“ผมหรอครับ? ถึงเวลานั้น ต้องชอบของขวัญอะไรหรอ ครับ? ”

ฉีหยุนเริ่มสนใจขึ้นมา

“ฉันรู้ว่านายชอบอะไร

ฉินเฟิงชกไปที่แกกว้างของฉีหยุนเบาๆ เหมือนพี่ชาย

น้องชายเล่นกัน

หลังจากนั้น ก็คุยรายละเอียดงานคร่าวๆกับเฝิงกางอีก เล็กน้อย เฝิงกางถึงได้เดินจากไป ฉีหยุนจึงรีบถามขึ้น “ท่านนายพลครับ ทำไมไม่ไล่เขาออกไปเหรอครับ เขามา ถึงก็รับเงินสินบนเยอะขนาดนี้”
“ไล่เขาออก ในมือฉันก็จะไม่มีใครให้ใช้ประโยชน์น่ะสิ อีกทั้ง หลายปีมานี้ ตำแหน่งสำคัญในบริษัทเฟิงซึ่งกรุ๊ป หลายตำแหน่ง คนของตระกูลฉันเป็นผู้ครอบครอง เฝิ งกางได้เปิดเผยเรื่องของฉุนเทียนเฉิงแล้ว ตอนนี้เท่ากับ ว่าเขาหักหลังตระกูลฉินทั้งตระกูล เขาไร้หนทางที่จะถอย แล้ว”

“ตอนนี้เขามีเพียงทางเดียวคือต้องอาศัยพวกเรา ถึงจะ อยู่รอดได้ ก็เหมือนกับคนจมน้ำคนหนึ่งนั่นแหละ มีเชือก หย่อนลงมาเส้นหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ต้องรีบจับเชือกนั้น เอาไว้ แบบนี้ เขายังสามารถช่วยพวกเรากำจัดเก็บกวาด หนอนบ่อนไส้ที่ซ่อนตัวอยู่ในบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป จัดการ ตระกูลฉินที่เป็นตะปูเสี้ยนหนามแฝง”

ฉินเฟิงอธิบายไปสักครู่

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง

ฉีหยุนเข้าใจได้ในทันที เขาเป็นเพียงผู้ช่วยผู้บังคับ บัญชากองทหาร มีความสามารถมาก ได้รับรางวัลชนะ เลิศในการต่อสู้พื้นที่ของทางทหาร เป็นทหารที่ดุดันคน หนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่เขาไม่ใช่ทหารทั่วไป เพราะฉะนั้นเขา จึงตามติดฉินเฟิงอยู่ตลอด
กลางดึก

อิ่นซินกลับมาถึงบ้าน จึงรีบกลับเข้าไปในห้องนอนของ ตัวเอง เอนตัวล้มลงนอนกับโซฟา ที่อยู่ของเธอในตอน นี้เป็นบ้านเดี่ยวหนึ่งหลัง ห้องรับแขกใหญ่มากทีเดียว มี โซฟาที่ใช้โดยเฉพาะ หลังจากนั้นเธอก็บีบนวดคลึงตรง ขมับเบาๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า

“เป็นอะไรเหรอครับ? ”

ฉินเฟิงกำลังสอนการบ้านให้กับกั่วถั่ว พอเห็น สถานการณ์เป็นแบบนี้จึงเดินเข้าไป แล้วถามไถ่

“ก็เป็นเพราะเรื่องโปรเจคของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปนั่นแหละ บริษัทซานหยวนกรุ๊ปของเราเล็กเกินไป ไม่พอที่จะอยู่ใน สายตาของพวกเขาหรอก เพราะฉะนั้นฉันต้องหาทางร่วม งานกับบริษัทใหญ่ให้ได้ วันนี้ ฉันเข้าไปหาทีละคนๆ แต่ ก็ไม่มีข้อยกเว้น แต่ก็ถูกปิดประตูไม่รับแขก ฉันในตอนนี้ ยังเครียดกับเรื่องนี้ไม่หายเลย ตกลงฉันต้องทำยังไงกัน แน่ ถึงจะสามารถร่วมงานกับบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปได้ ตอนนี้ ฉันมืดแปดด้านแล้วจริงๆ”

อิ่นซินทำงานยุ่งมาทั้งวัน แต่ไม่ได้อะไรเลย เริ่มตั้งแต่ บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป ที่ปิดประตูไล่ไม่รับแขก หลังจากนั้น ก็ถูกปิดประตูไล่ตามๆกันมา หนึ่งเป็นเพราะบริษัทซาน หยวนกรุ๊ปเล็กเกินไปจริงๆ มูลค่าทางการตลาดแม้แต่ร้อยล้านยังไม่มีเลย สองเป็นเพราะ คนส่วนมากต่างรู้จัก อิ๋นซิน เธอไม่ใช่อำนาจศูนย์กลางของบริษัทซานหยวน กรุ๊ป

เป็นแค่คนที่ถูกตระกูลอื่นทอดทิ้ง เป็นแค่ผู้หญิงที่

ต้องการดิ้นรนเพื่อเอาชนะแค่นั้นเอง

พวกเขาสนใจในรูปลักษณ์ที่สวยงามของเธอมาก แต่ สําหรับการร่วมงานนั้น พวกเขาไม่ได้คิดทบทวนเลย แม้แต่น้อย อิ่นซินตัดสินใจแทนบริษัทซานหยวนกรุ๊ปไม่ ได้

“เท้าของคุณ เป็นอะไรอย่างนั้นเหรอ?

ในเวลานี้เอง ฉินเฟิงสังเกตเห็นเท้าของอินซิน บริเวณ ข้อเท้า ถูกถูไถจนแดงไปทั้งแถบ

“นี่น่ะเหรอ ไม่มีอะไรหรอก แค่วันนี้ต้องเดินทั้งวัน เลย เสียดสีจนถลอกน่ะ”

ในเวลานี้เอง อินซินสังเกตเห็นบริเวณข้อเท้าของตัว เอง เพราะว่าต้องใส่ส้นสูง ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้เดิน ทางในตอนแรกอยู่แล้ว แต่เพราะว่าต้องทำงานแข่งกับ เวลา และก็เป็นเพราะรูปลักษณ์ภายนอกอีกนั่นแหละ เธอ จึงจำใจต้องสวมรองเท้าส้นสูงเป็นเวลาสิบกว่าชั่วโมง
แต่ เพราะว่าโปรเจคนี้มีความสำคัญมาก อิ่นซินจึงไม่ได้ สังเกตเห็น

“รอก่อน”

ฉินเฟิงหันกลับไป ผ่านไปไม่นาน ก็กลับมาพร้อมกับน้ำ ล้างเท้าหนึ่งกะละมัง “คุณแช่เท้าก่อนนะ เดี๋ยวผมไปเอา ยามาใส่ให้คุณ”

“คือมันไม่เหมาะมั้งคะ คุณเป็นผู้ชาย จะมาล้างเท้าให้ ฉันที่.………….

อิ๋นซินที่ยังพูดไม่ทันจบ ฉินเฟิงก็ยกเท้าของเธอใส่ เข้าไปในกะละมังแล้ว น้ำอุ่นกำลังพอดี ไม่เจ็บไม่หนาว หลังจากนั้นก็มีเสียงของฉินเฟิงลอดออกมา “ฟังผมนะ ผม เป็นสามีของคุณ”

“de……”

อิ๋นซินนั่งลงบนโซฟา มองไปยังฉินเฟิงที่กำลังล้างเท้าให้ กับเธอ ใบหน้าคมสันชัดเจน ตั้งใจจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น มัน ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา นี่คือความรู้สึกตลอดเจ็ดปีที่ เธอไม่เคยได้รับมันมาเลย

เจ็ดปีแล้ว ที่เธอต้องแบกรับความกดดันคนเดียวมาโดย ตลอด ไม่กล้าที่จะปล่อยวางเลยแม้แต่น้อย เธอเหนื่อยมาก แต่ในตอนนี้ เธอมีความรู้สึกอยากจะพิงกาย ซบไหล่ของฉินเฟิง อย่างไรเสียเธอก็เป็นแค่ผู้หญิงคน หนึ่งเท่านั้น

หรือ การให้ฉินเฟิงอยู่ที่นี่ จะเป็นการสานสัมพันธ์ไปใน ทางที่ดีนะ

เพียงแต่ คงจะธรรมดาหน่อย เรียบง่าย จนหน่อย แต่ การใช้ชีวิตธรรมดาๆก็ไม่เป็นอะไรหรอก แค่เป็นคนดีก็ พอแล้ว เธอไม่กล้าหวังสูงขนาดนั้นหรอก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ