เทพสงครามเป็นพ่อแม

บทที่10 คณะผู้บริหารของบริษัทซานหยวนกรุ๊ป



บทที่10 คณะผู้บริหารของบริษัทซานหยวนกรุ๊ป

บทที่10 คณะผู้บริหารของบริษัทซานหยวนกรุ๊ป

วันที่สอง

อิ๋นซินนอนอย่างสลบไสล แม้แต่เสียงนาฬิกาปลุก เธอก็ ไม่ได้ยิน

จนเสียงนาฬิกาปลุกดังครบสามครั้ง เธอถึงได้ตื่นขึ้น หลังจากตื่นนอน เธอเพิ่งคิดขึ้นได้ว่าจะต้องไปส่งทั่วทั่วไป โรงเรียน

เมื่อหันไปดู พบว่าถั่วถั่วไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว

“ใช่ ฉินเฟิง?”

อิ๋นซินคิดว่าเป็นฉินเฟิง เธอได้เดินออกไป เห็นว่ามี อาหารวางอยู่ที่บนโต๊ะ และเห็นจดหมายเขียนทิ้งไว้ “ผม ส่งทั่วทั่วไปโรงเรียนแล้วนะ”

“ถือว่ายังมีความรับผิดชอบ”

หลังจากอิ่นซินคิดดังนั้นแล้ว เธอก็ได้เก็บข้าวของต่างๆ แล้วก็ไปทำงาน
เมื่อคืน เธอก็ได้คิดทบทวนอยู่นาน การตัดสินใจใช้ชีวิต อยู่ร่วมกับฉินเฟิน ดีหรือไม่ดี แต่เมื่อเห็นการกระทำของ เราแล้ว การที่ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกับฉินเฟิน มันก็มี ข้อดีอยู่เหมือนกัน

อินซินเดินขึ้นไปตึกชั้นที่สูงสุดของบริษัทเพื่อเข้าร่วม ประชุม เป็นการประชุมคณะผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ซานหยวนกรุ๊ป

การประชุมระดับคณะผู้บริหารระดับสูงนี้จะว่าด้วยเรื่อง นโยบายต่างๆของบริษัท

เมื่ออิ่นซินเข้ามาถึงด้านในของบริษัท เธอเองก็รู้สึก อารมณ์ไม่ค่อยดี

“เฮ้ หลานสาว มาแล้วแล้วเหรอ”

ในห้องประชุมนี้ ลูกน้องแต่ละคนสีหน้าอารมณ์ไม่ค่อย สู้ดีนัก บนใบหน้าของท่านอื่นมีริ้วรอยตามวัยของท่าน และใช้ไม้เท้าช่วยเดิน ตอนนี้ท่านได้หลับตาอยู่

และด้านข้างคืออิ่นป่าย กำลังมองเธอด้วยสีหน้าเศร้า สร้อย

“อืม”
อินชินตอบ

“หลานสาว อย่าเย็นชานักเลย อย่างน้อยก็เป็น ครอบครัวเดียวกัน ได้ยินมาว่าเมื่อคืนเธอให้ฉินเฟิง ขอทานนั่นเข้าบ้านเหรอ? สุดยอดจริงๆ ไอ้หมอนั่นมันทิ้ง เธอกับลูกไปตั้งหลายปีขนาดนั้น เธอยังให้มันเข้าบ้านอีก คุณเริ่มกินไม่เลือกตั้งแต่เมื่อไหร่ ”

อั๋นป่ายเลิกคิ้ว ทำท่าทีเหมือนหวังดีกับอิ่นซิน แต่หยินซิ นทำงานทุกที่ในคำสั่ง

เขาไปฉินเฟิงเช็คมาแล้ว และพบว่าฉินเฟิงเป็นแค่ทหาร ธรรมดา จากนั้นจางลี่ก็บอกเขาเกี่ยวกับข้อมูลของฉินเฟิง ว่ามีคนรวยคนหนึ่งที่ตอบแทนหนี้บุญคุณ ตอบแทนหนี้ บุญคุณหมดก็ไม่มีอะไรแล้ว

จากนั้นเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เขานึกว่าฉินเฟิงเป็นคนที่มีภูมิฐานอะไร ที่แท้ก็เป็นแค่ เป็นทหารคนนึง

“ได้เข้าบ้านจริงๆแล้วจริงเหรอว่ะ? เชี่ย ไอ้ขอทานนั่น ครั้งแรกที่ฉันเจอมัน ยังอยู่บนถนนใส่เสื้อผ้าขาดๆอยู่ เลย”

“ไอ้หมอนั่น หลังจากที่นอนกับอิ่นซินแล้ว วันต่อมาก็ได้ทะเบียนสมรส ขโมยเงินอิ่นซินแล้วก็หนีไป จนเมื่อวานพึ่ง จะกลับมา แล้วทำมาเป็นแต่งตัวดู ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่”

“ขอทานก็คือขอทานอยู่วันยังค่ำ เป็นได้แค่คนเป็นแค่ ขอทานเท่านั้นแหละ แต่ฉันคิดไม่ถึงว่า อื่นซินจะเป็น ประธานของบริษัทซานหยวนกรุ๊ป แต่ตอนนี้นางหิวมาก แล้ว แม้แต่ขอทานก็ไม่เว้น”

ในห้องประชุม มีผู้คนไม่น้อยที่หัวเราะเยาะอื่นซิน

สีหน้าของอิ่นซินดูน่าเกลียด แต่เธอก็ไม่ได้โต้แย้งใดๆ เพราะตลอดเจ็ดปีคำพูดเหล่านี้ก็ไม่เคยหยุดแม้แต่คำ เดียว จะโต้เถียงยังไงก็ไม่เป็นผล เธอทำได้เพียงอดทน อย่างเงียบๆ

“จริงด้วย ตอนนี้อิ่นซินก็เป็นส่วนหนึ่งของคณะผู้บริหาร แล้ว”

ทันใดนั้นอิ่นป่ายก็พูดขึ้น จากนั้นเดินไปข้างๆอิ่นซิน ยิ้มแล้วพูดว่า “หลานสาว ฉันขอโทษนะ ที่จู่ๆก็มีคณะผู้ บริหารอย่างเธอเพิ่มเข้ามา เก้าอี้ไม่เยอะขนาดนั้น เธอ อาจจะต้องยืนนะ”

อิ่นป่ายบอกเชิงให้อิ่นซินยืนอยู่ที่จุดสุดท้าย และเขาก็ กลับมาอยู่ข้างๆคุณท่านอื่นอีกครั้ง“ได้”

หัวใจของอิ่นซินเต้นรัว สุดอิ่นซินก็ต้องอดทน

ลักษณะไม่เหมือนคน ช่วยไม่ได้

ภายในใจของเธอรู้สึกเจ็บปวด กลุ่มบริษัทซานหยวน กรุ๊ปนี้เธอเป็นคนก่อตั้งขึ้นมา เธอต่อสู้ทีละเล็กทีละน้อย โดยไม่ใช้อำนาจของตระกูล แต่ตอนนี้มันดีขึ้น ไม่ใช่เรื่อง ง่ายเลยที่เธอได้กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของคณะผู้บริหาร ไม่เพียงอยู่ในตำแหน่งสุดท้ายเท่านั้น

ในขณะที่ทุกคนนั่ง เธอยืนอยู่คนเดียว

เห็นได้ชัดว่ามันค่อนข้างเหงา

แล้วในตอนนี้ คุณท่านอื่นก็ได้ลืมตาขึ้นช้าๆ เขาใช้ไม้ เท้าของเขามองไปที่คณะผู้บริหาร แน่นอนว่าเขาข้ามอุ่น ซินไปและพูดขึ้นว่า “อีกสามวันบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปจะตั้ง รกรากอยู่ในเมืองเจียงเฉิงอย่างเป็นทางการ นี่เป็นบริษัท ขนาดใหญ่ของเมืองเกียวโต หลังจากที่พวกเขามาถึง ใน มือพวกเขามีที่ดินที่ซื้อมานานแล้ว มีขนาดมากกว่า 1,000 หมู่ แต่เนื่องจากพวกเขาเพิ่งตั้งรกราก และขาดกำลังคน โครงการนี้จึงจำเป็นต้องร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่น ”
“โครงการนี้สำคัญกับพวกเรามาก ถ้าบริษัทซานหยวน กรุ๊ปของเราสามารถเอาชนะได้ การกลับเข้าสู่กลุ่มชั้น หนึ่งจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป และหากเราสามารถเป็น พันธมิตรระยะยาวได้ พวกเราก็จะสามารถเอาชนะกลุ่ม อื่นๆได้ และตั้งตระหง่านอยู่ในเมืองเจียงเฉิงได้อย่าง แท้จริง”

ดวงตาขุ่นมัวของคุณท่านอื่น ดูกระปรี้กระเปร่าเล็กน้อย “นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับบริษัทซานหยวนกรุ๊ป ของเรา ดังนั้นผมจึงประกาศว่า ถ้ามีคนสามารถเอาชนะ และได้รับความร่วมมือจากบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปได้ ผมจะ ยกตำแหน่งให้เขา เขาก็จะสามารถเป็นประธานบริษัท ซานหยวนกรุ๊ปได้ ”

ท่านประธาน!

ทุกคนต่างตกตะลึง ประธานของบริษัทซานหยวนกรุ๊ปนี่ มันเยี่ยมไปเลย นี่เป็นบริษัทที่สำคัญที่สุดของตระกูลอื่น หากพวกเขาได้ควบคุมบริษัทซานหยวนกรุ๊ปแล้ว แน่นอน ว่าจะได้เป็นหัวหน้าตระกูลลิ่น

“ท่านประธาน ตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา คุณท่านอื่นเขาดำ รงตำแหน่งประธานมาตลอด ครั้งนี้คุณท่านอื่นยอมออก จากตำแหน่ง”

“ดูออกว่าการร่วมงานกับบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปในครั้งนี้สำคัญมาก ไม่อย่างนั้นคุณท่านอื่นคงไม่เลือกทำแบบนี้”

“พวกคุณว่าเราจะเอามันมาได้ไหม?”

“เราจะเอามันมาได้ยังไง? บริษัทซานหยวนกรุ๊ปของ เราเป็นบริษัทระดับ 3 ที่มีสินทรัพย์รวมเพียง 300 ล้าน เท่านั้น ถึงจะรวมกับเงินที่หลี่เทียนเฉิงได้รับเมื่อวานก็ได้ ไม่เท่าไหร่เอง”

ทุกคนต่างพูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง พวกเขารู้สึกว่าเรื่องนี้ ไม่มีความหวัง มันยากเกินไป แล้วบริษัทเล็กๆในเมือง เจียงเฉิงก็มีหลายร้อยบริษัท แล้วบริษัทซานหยวนกรุ๊ปก็ดู ไม่สะดุดตาเลยจริงๆ

แต่ตอนที่อิ่นซินอยู่ในอำนาจ จุดที่ย่ำแย่ที่สุดของบริษัท เราก็ผ่านมันมาแล้ว

“ท่านประธาน!”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ อิ่นซินก็หายใจถี่ขึ้น ดวงตาของ เธอร้อนผาก เพราะบริษัทซานหยวนกรุ๊ปเป็นบริษัทที่เธอ สร้างขึ้นจากการทำงานอย่างหนักทีละนิดๆ เมื่อเธอได้รับ ความร่วมมือจากบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปแล้ว เธอก็จะสามารถ กลับไปดำรงตำแหน่งประธาน และเอาของที่เป็นของเธอ คืนมาได้โครงการนี้ เธอต้องใต้หันมาใ

บางที นี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวของเธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ