เทพสงครามเป็นพ่อแม

บทที่15 เหล้าขาวเอ้อกัวโถวราคาเจ็ดหยวน



บทที่15 เหล้าขาวเอ้อกัวโถวราคาเจ็ดหยวน

บทที่15 เหล้าขาวเอ้อกัวโถวราคาเจ็ดหยวน

“มาสิ มาใส่ยา”

ฉินเฟิงยกเท้าของอิ่นซิน มาวางไว้แนบอกของตัวเอง แล้วหยอดยาน้ำออกมาเล็กน้อย ค่อยๆทาลงไป ตั้งใจ อย่างมาก ถ้าถูกทหารที่อีสเตอร์แลนด์เห็นล่ะก็ คงจะพา กันอ้าปากค้างอย่างแน่นอน

เพราะในใจของพวกเขา ฉินเฟิงคือเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่ง ดุจเหล็กกล้า

และ ขณะเดียวกันกระดูกเหล็กก็ยังคงมีความอ่อนโยน เช่นเดียวกัน

หลายปีมานี้ ฉินเฟิงติดค้างผู้หญิงอยู่สองคน ติดค้างมา เยอะมากแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น หลายปีมานี้ ฉินเฟิงเอาอิ่นซิน เป็นจุดมุ่งหมายในการมีชีวิตอยู่ต่อไป

อิ่นซินที่ยังคงจ้องมองฉินเฟิงอยู่อย่างนั้น กลับรู้สึกถึง ความหล่อเหลาของฉินเฟิง แต่แล้วก็ถามต่ออีกว่า “เอ่อ จริงสิ ฉินเฟิง วันนี้ฉันพึ่งได้ข่าวมาว่า หลังจากสองวันนี้ จะถึงวันที่บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปทำพิธีตัดริบบิ้นเพื่อประกาศ การลงหลักปักฐานที่เมืองเจียงเฉิง และการตัดสินใจ เลือกบริษัทที่เข้ามาร่วมโปรเจคนี้ ก็จะทำในงานวันนั้นเหมือนกัน ข่าวแว่วมาว่า จะดูจากของขวัญที่ส่งมอบมาให้

“คุณช่วยฉันคิดหน่อยสิว่าจะให้อะไรดี บ้านเรามีเงิน ไม่มาก เงินส่วนมากก็อาศัยหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ แม่ของฉัน ท่านก็ชอบซื้อแต่กระเป๋าแบรนด์เนม พวกกำไร เงินใช้ จ่ายไปเยอะมาก ตอนนี้ทั้งบ้านเอาออกมาได้แค่แปดแสน เอง”

ครั้งนี้อิ่นซินตั้งใจพูดคุยปรึกษากับฉินเฟิงอย่างตั้งใจ ใน หัวใจของเธอค่อยๆเปิดรับฉินเฟิงมากยิ่งขึ้น

เงินแปดแสน

ในหัวใจของฉินเฟิงรู้สึกซับซ้อนมาก เพราะเจ็ดปีก่อน อิ่นซินเป็นประธานบริษัทซานหยวนกรุ๊ป ในตอนนั้นเธอ มีทรัพย์สินเป็นร้อยล้าน แต่ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอ กลับมีแค่แปดแสน

เขาหัวเราะพร้อมพูดออกมาว่า “เมียจ๋า เรื่องเกี่ยวกับ ประธานกรรมการบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป มีข่าวอะไรแว่วมา อย่างงั้นหรอ ? ”

“ข่าวหรอ ฉันไปสืบก่อนนะ”

ทันใดนั้น อิ่นซินก็รีบโทรศัพท์หาหลิวลานเมิ่งทันทีผ่านไปไม่นานก็วางสายลง แล้วหันไปพูดกับฉินเฟิงว่า “มีสิ ได้ยินมาว่าประธานกรรมการบริษัทเฟิงซึ่งกรุ๊ปคนนั้น น่ะ ปลดประจําการมาจากอีสเตอร์แลนด์ อีกทั้งยังได้ยิน มาว่ายศเขาสูงมาก”

“ถ้าอย่างนั้นผมรู้แล้วล่ะว่าจะให้อะไร? ”

“ให้อะไรหรอคะ”

“หนิวหลันซานเอ้อกัวโถวที่ขวดละเจ็ดหยวน”

“อะไรนะ!

อิ่นซินตกใจ จนตาคู่สวยทั้งสองข้างเบอกกว้าง จ้องมอง ฉินเฟิงอยู่แบบนั้น เธอยังคิดว่าฉินเฟิงจะพูดเรื่องของ แพงๆอะไรบางอย่างออกมาเสียอีก แต่คิดไม่ถึงว่าจะพูด เรื่อง ‘หนิวหลันซานเอ้อกัวโถวที่ขวดละเจ็ดหยวน’

“ฉินเฟิง คุณคิดจริงจังหรอเนี่ย คงไม่ใช่ว่าพูดไปแบบนั้น เพื่อแกล้งล้อฉันเล่นหรอกนะ”

อิ่นซินคิดว่าฉินเฟิงกำลังปลอบเธออยู่

แต่ฉินเฟิงกลับส่ายหัวไปมาเบาๆ แล้วเอาเท้าของกิ๋นซิน เข้ามาแนบอ้อมอก ทำให้มันอบอุ่นขึ้นมาทันที แล้วถึงพูดออกมาว่า “ประธานกรรมการคนนั้นน่ะปลดประจำ การออกมาจากอีสเตอร์แลนด์ ผมก็กลับมาจากอีสเตอร์ แลนด์มาเหมือนกัน เพราะฉะนั้นผมถึงได้รู้ ว่าเขาต้อง ชอบหนิวหลันซานเอ้อกัวโถวที่ขวดละเจ็ดหยวนอย่าง แน่นอน คุณฟังผมอธิบายก่อนนะ อีสเตอร์แลนด์สถาน ที่แดนป่าเถื่อนนั่นน่ะ ฤดูร้อนน่ะเย็นชื้น ลมหนาวพัดมา แต่ละทีหนาวจนเจ็บเข้ากระดูก ยังมีทะเลทรายโกบีนั่นอีก หนาวจนทนแทบไม่ไหว แต่ในกองทหารให้ความสําคัญ กับกฎระเบียบวินัยเป็นอย่างมาก จะดื่มเหล้าไม่ได้โดย เด็ดขาด”

“แต่ หนิวหลันซานเอ้อกัวโถวที่ขวดละเจ็ดหยวนไม่นับ หรอก เพราะว่าปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำเกินไป แต่รสชาติ กลับแรงมาก ดื่มลงไปแล้ว ทำให้เกิดความอบอุ่น ทำให้ คนรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา เพราะฉะนั้นทหารในอีสเตอร์แลนด์ ชอบแต่เจ้านี่”

ฉินเฟิงอธิบายแบบนี้มาปุ๊บ ก็ทำให้อิ่นซินเข้าใจอะไร ขึ้นมาบ้าง แต่แล้วก็ส่ายหัวแล้วถามขึ้นมาอีกว่า “เรื่อง เป็นแบบนี้จริงๆ แต่คนคนนั้นฉันเคยได้ยินมาว่า ท่าน ตำแหน่งสูงมาก แน่นอนว่าต้องไม่เหมือนกับทหารทั่วไป อย่างคุณแน่ พวกเขาอาจจะมีวิธีป้องกันความหนาววิธีอื่น กลางคืนก็อาจจะไม่หนาวแบบนั้นก็เป็นได้ ถ้าอย่างนั้น แน่นอนว่าต้องไม่ชอบดื่มเอ้อกัวโถวนั่นหรอก”

อิ่นซินคิดชั่วครู่ ท่ามกลางผู้คนเยอะขนาดนั้น มอบหนิว หลันซานเอ้อกัวโถวที่ขวดละเจ็ดหยวน เกิดพลาดล้มเหลวขึ้นมา ก็จะเป็นการขายหน้าเสียเปล่า จะเป็นเรื่อง ที่คุยกันสนุกปากไปทั้งเมืองเจียงเฉิง

ถ้าอย่างนั้น ตนเองอยู่ในเมืองเจียงเฉิง เกรงว่าจะไม่ สามารถเดินบนหนทางธุรกิจเส้นนี้อีกต่อไป

“ในอีสเตอร์แลนด์ ผู้บัญชาการก็เป็นเหมือนนายทหาร ทุกคน อีกทั้ง ผู้บังคับบัญชาก็เป็นแบบอย่าง ปฏิบัติตัว กับทหารทั่วไปอย่างเท่าเทียมสวมชุดเดียวกันพักด้วยกัน ไม่มีอภิสิทธิ์เหนือกว่าคนอื่นหรอก” ฉินเฟิงพูด

“จริงหรอคะ?

อิ่นซินยังคงมีความสงสัยอยู่บ้าง

“แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว”

ฉินเฟิงพยักหน้าหง็กหงัก

อิ่นซินเงียบลงครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ยอมปล่อยวางวิธีนี้ แล้ว มอบเหล้าเจ็ดหยวนที่ด้อยกว่าหนึ่งขวด อีกทั้งบนพิธีการ ตัดริบบิ้นของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปนั้น ถ้าคนไม่รู้ ก็คงคิดว่า เธอกำลังลองดีกับบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป

นี่มันเสี่ยงเกินไปแล้ว
การเสี่ยงในครั้งนี้ เธอเสี่ยงไม่ไหวจริงๆ

แต่ เพื่อไม่ทำร้ายจิตใจของฉินเฟิง สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ พูดอะไรออกมาอีก

ตั้งต่อง

ในมือของอินซิน มีคนส่งข้อความมาหาเธอหนึ่งข้อความ บนนั้นมีประโยคหนึ่งประโยค “คุณอิ่นครับ ครั้งก่อนเป็น ความผิดพลาดของผมเอง ไม่ระวังซื้อของผิด คืนพรุ่งนี้ ผมขอเชิญคุณอิ่นมาที่โรงแรมหลานเทียน ผมได้จัดงาน เลี้ยงเพื่อขอโทษคุณอิ่นโดยเฉพาะ ขณะเดียวกัน ผมก็ อยากพูดคุยเรื่องโปรเจคการร่วมงานกันระหว่างบริษัท ฟางซื่อกรุ๊ปกับบริษัทซานหยวนกรุ๊ปด้วยครับ”

คนส่ง ฟางเย้น

อิ่นซินมองดูแวบหนึ่ง แล้วก็รีบปิดมันลงทันที ก็แค่งาน เลี้ยงที่ประตูห่านป่า มีหรือเธอจะดูไม่ออก

วันที่สอง อิ่นซินได้ไปหาหลิวลานเมิ่ง ช่วยกันหาบริษัท อื่นๆที่เหมาะสม เพื่อขอร่วมงานด้วย แต่ผ่านมาวันหนึ่ง เต็มๆ ก็ยังคงหาบริษัทที่จะยอมร่วมงานด้วยไม่ได้ แต่วันนี้ เป็นเพราะความสัมพันธ์ของหลิวลานเมิ่ง ทำให้อิ่นซินได้ พบประธานมากมาย แต่ก็ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ต่างพากันปฏิเสธหมดเลย

เหตุผลง่ายมาก เพราะอิ่นซินไม่สามารถตัดสินใจแทน บริษัทซานหยวนกรุ๊ปได้ ทุกคนต่างรู้กันดีว่า นี่คือคนที่ถูก ทอดทิ้ง

บนถนนเส้นหนึ่ง หลิวลานเมิ่งกำลังให้กำลังใจอิ่นซิน “ยังมีพรุ่งนี้อีกวันนะ พวกเราค่อยหาวิธีอื่นกัน”

“อืม”

อิ่นซินพยักหน้าเบาๆ

แต่กิ๋นซินรู้ดีอยู่แล้วว่า พรุ่งนี้ก็เป็นเหมือนวันนี้นั่นแหละ วันนี้พวกเขาได้หาบริษัทที่สามารถร่วมมือกับบริษัทเฟิง ซิ่งได้หาไปหนึ่งรอบแล้ว แต่ก็ล้มเหลวหมดเลย ไม่มี บริษัทไหนยอมรับ

หลังจากที่พวกเธอแยกทางกันแล้ว อิ่นซินก็นั่งอยู่บน เก้าอี้ตัวหนึ่ง ลมพัดมาเรื่อยๆ เธอนวดขมับเบาๆ บน ใบหน้าเต็มไปด้วยความเครียด

“ยังมีพรุ่งนี้อีกหนึ่งคืน พรุ่งนี้อีกวัน มะรืนก็จะเป็นวัน ประมูลของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปแล้ว ทำยังไงดีล่ะ” อิ่นซินพูด เองเออเอง มีความรู้สึกจะเป็นจะตาย และรู้สึกจะเป็นบ้า
สุดท้าย เธอก็นั่งบนเก้าอี้ตัวนั้นนานมาก แล้วเธอก็เปิด โทรศัพท์ออกมา คลิกเปิดข้อความของเมื่อวานขึ้นมาอีก ครั้ง ตอบกลับไปหนึ่งคำ

“ได้”

ตามมาด้วย อิ่นซินก็ได้โทรไปหาฉินเฟิง “ฉินเฟิง คุณมา หาฉันที่ถนนซานหลงเจียหมายเลขยี่สิบเจ็ดหน่อยสิ”

ผ่านไปไม่นาน ฉินเฟิงก็มาถึง อิ่นซินที่มองดูนาฬิกาของ ตัวเองอยู่หลายครั้ง “เวลาที่นัดไว้คือสองทุ่ม ตอนนี้ยังทุ่ม ครึ่งอยู่เลย ถ้าไปถึงตรงนั้นก็คงพอดี ไปกันเถอะ”

อิ๋นซินบอกให้ฉินเฟิงขึ้นรถของตัวเอง

ฉินเฟิงนั่งลงข้างๆคนขับ แล้วถามไปที่อิ่นซิน “เมียจ๋า เป็นอะไรเหรอ?”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เดี๋ยวคุณจำไว้นะว่าต้องพาฉันกลับ บ้านด้วย ห้ามเด็ดขาดเลยนะ ห้ามให้ฉันไปตกในเงื้อมมือ ของไอ้สัตว์เดรัจฉานนั่นนะ ”

อิ๋นซินเตรียมพร้อมแล้ว จะดื่มหนักในครั้งนี้ เพียงแค่ สามารถสานสัมพันธ์กับบริษัทซานซื่อกรุ๊ปได้อีกครั้ง ตอน นี้วิธีเดียวที่สามารถคว้าโปรเจคของบริษัทเฟิงซึ่งได้มี เพียงแค่ทางนี้ทางเดียว
งานเลี้ยงประตูท่านป่าก็งานเลี้ยงประตูห่านป่าเถอะ

ถ้าฉินเฟิงไม่ได้หลอกเธอแล้วล่ะก็ ถ้าอย่างงั้นอย่างน้อย เขาก็เป็นทหารมาตั้งหลายปี ต้องฝีมืออยู่บ้างแหละหน่า สามารถพาตัวเองกลับไปได้ แต่ หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ ในใจของเธอ ไม่ค่อยประทับใจในตัวฉินเฟิงนัก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ