เจ้าสาวกลางทะเลทราย

ตอนที่ 8 ไม่คาดฝัน



ตอนที่ 8 ไม่คาดฝัน

เจ้าชายมาริคทอดเนตรมองทะเลทรายอันเวิ้งว้างและ กว้างใหญ่อย่างเศร้าสร้อย ภาพความหลังยังคงฝังอยู่ใน พระทัยไม่เคยลืมเลือน พระองค์และชายาของพระองค์ เคยยืนมองภาพแบบนี้ด้วยกันอย่างมีความสุขแต่พระเจ้า ก็กลั่นแกล้งพรากนางกับบุตรชายไปจากพระองค์ พระองค์ไม่สามารถรักใครได้อีกแล้วหัวใจของพระองค์ ได้ถูกฝังไปพร้อมกับร่างที่หลับใหลของชายาสุดที่รักของ พระองค์

“ท่านพี่” เรฮานร้องเรียกพี่ชายเมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนเหม่อ ออกไปด้านนอก

มาริคหันกลับมาตามเสียงเรียกพร้อมกับยิ้มให้ชายหนุ่ม “มีอะไรเร่งด่วนหรือน้องชายถึงได้มาที่นี่ได้”

“ท่านพี่ก็รู้ว่าเรื่องอะไร

“รู้แต่เจ้าก็จ้องนางแทบไม่วางตาเลยนี่” มาริคอมยิ้ม

“ท่านพี่ข้าไม่ต้องการแต่งกับนางข้าเกลียดหญิงต่าง ชาติ”

“เรฮานเจ้ายังไม่ลืมเรื่องนั้นอีกหรือ”มาริคมองหน้าน้อง ชายอย่างเห็นใจ
“ข้าไม่เคยลืมความเจ็บปวดในครั้งนั้นเลย” เรฮานใช้มือ ลูบคลํารอยแผลเป็นที่ด้านหลัง เมื่อ 5 ปีก่อนเขาเพิ่งเรียน จบใหม่ๆและได้กลับมาบ้าน เขาได้ชอบกับหญิงสาวชาว อังกฤษคนหนึ่งซึ่งมาทำงานเป็นเลขาให้กับพระบิดาของ เขาด้วยความรักที่มีต่อนางเขายอมแม้แต่สละตำแหน่ง องค์รัชทายาท แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อมีชายหนุ่ม ชาวอังกฤษซึ่งเป็นวิศวกรในการขุดบ่อน้ำมันมาทำงานที่นี่ ด้วย

เมื่อหนุ่มวิศวกรกลับไปหญิงสาวที่เขารักก็หนีไปกับ ชายหนุ่มคนนั้นด้วย เมื่อรู้เรื่องเขาก็รีบขับรถตามไปที่ สนามบินแต่ด้วยความรีบเร่งบวกกับความเร็วทําให้รถเกิด เสียหลักแหกโค้งพุ่งตกลงไปข้างทางเขาบาดเจ็บสาหัส อาการปางตายตั้งแต่นั้นมาเขาจึงตั้งข้อสังเกลียดหญิง สาวต่างชาติเรื่อยมา เขาคบกับหญิงสาวคูลฮาร์นทุกคน ที่เสนอตัวเข้ามาแต่ไม่เคยคิดจะรักใครอีกเพราะหัวใจรัก ของเขาได้ตายไปพร้อมกับอุบัติเหตุในครั้งนั้นแล้ว

“เจ้าควรลืมได้แล้วและเปิดใจมองคนอื่นบ้าง” มาริคพูด เตือนสติน้องชาย

“แล้วท่านพี่ล่ะทรงลืมไลแลตได้หรือเปล่า”

“ไม่เหมือนกันหรอกเรฮานพี่คิดถึงนางด้วยความรักแต่ เจ้ามีแต่ความเคียดแค้น”
“ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้นางขอยกเลิกการหมั้นเอง” เร ฮานบอกอย่างแน่วแน่

“เจ้าไม่ชอบนางบางเลยเหรอ พี่ว่านางสวยและน่ารักดี

“ท่านพี่ชอบนางหรือ ข้ายกให้เอาไหม

“ไม่ล่ะเรื่องเจนเซ่นพี่ยังคิดไม่ตกเลยพี่ไม่เคยรักนาง และไม่คิดจะรักด้วย”

“ท่านพี่เราออกไปขี่ม้าเล่นกันดีกว่าไหม เผื่อจะสบายใจ ขึ้น” ชายหนุ่มเอ่ยชวน

“ก็ดีเราไม่ได้ขี่ม้าแข่งกันมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย” มาริ คมองหน้าน้องชายก่อนจะพยักหน้ารับ

“อาจจะเป็นเดือน 2 เดือนหรือมากกว่านั้น” เรฮาน หัวเราะแล้วชายหนุ่มทั้งสองจึงเดินออกจากตำหนักตรง ไปที่คอกม้า

ชุติกาญจน์รู้สึกหงุดหงิดมากที่ต้องนั่งๆนอนๆอยู่แต่ใน ห้อง จะไปหาจิรดานางกำนัลก็ไม่ยอมบอกว่าเป็นคำสั่ง ของเจ้าชายเรฮาน พอจะขอพบองค์สุลต่านก็ไม่ได้อีกนี่ มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันเนี่ย
“ยานะฉันเบื่อแล้วนะฉันจะไปหาเพื่อนของฉัน” ชุติกาญ จน์บอกพร้อมกับก้าวไปที่ประตูแต่ยังไม่ทันเอื้อมมือไป เปิดประตูก็เปิดออกมาเสียก่อนร่างสูงสง่าของเจ้าชายเร ฮานก้าวเข้ามาจนหญิงสาวต้องถอยหลังไป 3 ก้าว ยานะ รีบพาตัวเองออกมาจากห้องอย่างรู้งาน

“ถ้าคุณคิดจะอยู่ที่นี่ก็ต้องทำตามกฎของที่นี่ แล้วทำไม ไม่ใส่ชุดของที่นี่”

“หม่อมฉันไม่ชอบๆ ชอบแบบนี้มากกว่าแล้วที่พระองค์ บอกว่าเป็นกฎๆอะไรของพระองค์” ชุติกาญจน์โกรธจน ลืมว่าอีกฝ่ายเป็นเจ้าชาย

“กฎที่ว่าเธอเป็นสมบัติของฉันแล้วจะต้องเชื่อฟังคำสั่ง ของฉัน” เรฮานบอกเสียงเรียบก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ จ้องมองหญิงสาวแก้มยิ้มเยาะ ชุติกาญจน์เกลียดสายตา แบบนี้และเธอก็ไม่ใช่สมบัติของใครด้วยเธอไม่ใช่สิ่งของ

“หม่อมฉันไม่ใช่สิ่งของ และไม่ใช่สมบัติของพระองค์ ด้วย”

“เธอปฏิเสธไม่ได้หรอกทันทีที่เธอก้าวเข้ามาที่ประเทศนี้ เธอก็เป็นสมบัติของฉันแล้วจำไว้” ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปาก
“หม่อมฉันมาที่นี่ในฐานะคู่หมั้นของพระองค์เท่านั้นยัง ไม่ใช่ผู้หญิงของพระองค์” ชุติกาญจน์โกรธจนใบหน้าแดง

“เธอลืมคืนนั้นแล้วหรือไง เธออ่อนระทวยในอ้อมแขน

ของฉันตอบสนองฉันอย่างเต็มที่ไม่ใช่เหรอ” ชุติกาญจน์หลบสายตาคมคู่นั้น เธอยังจำได้ไม่เคยลืม

ในสิ่งที่ต้องสูญเสียไป

“เธอคิดจะยอมแมวขายหรือไง” น้ำเสียงห้วนๆดังขึ้นอีก ครั้ง ชุติกาญจน์ขมวดคิ้ว

“ทรงหมายความว่ายังไงเพคะ”

“ถ้าคนที่นอนกับเธอคืนนั้นไม่ใช่ฉันเธอก็คงยังทำตัวเป็น สาวบริสุทธิ์มาหลอกลวงฉันสินะ”

คำสบประมาทของเขาทำให้เพลิงแค้นในใจของหญิง สาวเพิ่มพูนมากขึ้น

“หึ หึ คืนนั้นเพราะหม่อมฉันโดนขืนใจต่างหากไม่ได้ เต็มใจและรู้สึกขยะแขยงมากด้วย” ชุติกาญจน์หัวเราะ และมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่รังเกียจ
“ตุบ” ชายหนุ่มฟาดฝ่ามือลงบนโต๊ะด้วยความโกรธ “อวดดี เธอคิดว่าจะมาเป็นชายาของฉันได้งั้นเหรอ เธอ ผิดกับผู้หญิงที่นี่”

“ผิดยังไง” หญิงสาวย้อนถาม

“ผู้หญิงที่นี่จะอยู่หลังสามีเสมอ กราบแม้กระทั่งรอยเท้า ของสามี ไม่เถียงสามีหรือทำให้สามีไม่พอใจ”

“แบบนั้นมันก็ไม่ต่างกับกดขี่ทางเพศเลย

“มันเป็นกฎและถ้าเธออยากแต่งงานกับฉันก็ต้องทำแบบ นั้นเช่นกันหรือจะเปลี่ยนใจก็ได้ฉันจะบอกเสด็จพ่อให้” เร

ฮานมองหญิงสาวนิ่ง

“ไม่มีทางและหม่อมฉันก็ไม่ยอมทำแบบผู้หญิงพวก นั้นด้วยหม่อมฉันจะไม่ถอนหมั้นแน่หม่อมฉันจะทำให้ พระองค์ทรมานไม่สมหวังกับคนที่พระองค์รักเหมือนกับ ที่หม่อมฉันต้องเจ็บปวดกับสิ่งที่พระองค์แย่งชิงไปจาก หม่อมฉัน” แววตาที่มุ่งมั่นของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่ม ชะงัก

“กล้าดีนี่ ได้ถ้าเจ้าต้องการแบบนั้นอย่าคิดนะว่าการเป็น คู่หมั้นของฉันและแต่งงานกับฉันจะมีความสุขและสุขสบายอย่างที่เธอวาดฝันไว้ ฉันเกลียดผู้หญิงต่างชาติ โดยเฉพาะผู้หญิงที่เห็นแก่เงินและยศตำแหน่งอย่างเธอ ถึงแต่งงานกับเธอฉันก็ยังมีผู้หญิงอื่นได้และฉันก็ไม่คิด จะแตะต้องเธออีก” หญิงสาวมองเห็นแววตาเกลียดชังใน ดวงตาของชายหนุ่ม

“หม่อมฉันก็ไม่ต้องการจะให้พระองค์แตะต้องอยู่แล้ว แต่ในเมื่อหม่อมฉันเป็นชายาของพระองค์จะหญิงสาวคน ไหนถ้าพระองค์สนใจหม่อมฉันก็จะพรากไปจากพระองค์ ให้หมดเช่นกัน” ชุติกาญจน์ยิ้มอย่างเย็นชา

“เจ้ามันนางมารร้ายชัดๆ” ชายหนุ่มโมโหอย่างมาก

“แล้วเราจะได้เห็นดีกันชุติกาญจน์” ชายหนุ่มพูดทิ้งท้าย เอาไว้ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ชุติกาญจน์ทรุดนั่งลง กับพื้นอย่างหมดแรงเธอต้องรวบรวมความกล้าอย่างมาก ที่ต้องเผชิญหน้ากับเขา

“ดาฉันอยากเจอเธอจังเลย” หญิงสาวนั่งนิ่งจนยานะ ตกใจรีบเดินเข้ามาหา

“คุณคะเป็นอะไรหรือเปล่า”

ชุติกาญจน์รีบกลั้นน้ำตากับเข้าไปดังเดิมเธอจะร้องไห้ ให้ใครเห็นไม่ได้เด็ดขาด
“เปล่าฉันต้องการพบกับเพื่อนของฉัน”

“แต่ว่าเจ้าชายทรงรับสั่งห้ามไว้นะคะ” ยานะทำท่าอึดอัด

ใจ

“ทำไม”

“เจ้าชายรับสั่งว่าแขกต่างเมืองเยอะไม่ต้องการให้ผู้หญิง ของพระองค์ออกไปเดินวุ่นวายด้านนอกค่ะ”

“แต่ไม่ได้ห้ามฉันมาหาเจ้านายของเธอใช่ไหม” จิรดา เปิดประตูเดินเข้ามาอย่างไม่พอใจ

“คุณ”เบสคิสนางกำนัลที่คอยดูแลจิรดาวิ่งตามมาอย่าง

ตื่นกลัว

“ถ้าเกิดเจ้าชายรู้เขาพวกเราต้องโดนลงโทษอย่างหนัก แน่”

“พวกเธอไม่ผิดฉันดื้อที่จะมาเองแล้วฉันก็ไม่ใช่คู่หมั้น ของเจ้าชายด้วยอยู่นอกเหนือคำสั่งนั้น”จิรดาหันไปมอง หญิงสาวที่ยืนก้มหน้าอย่างนึกสงสาร

“ฉันขอคุยกับเพื่อนฉันเดี๋ยวเดียวเธอออกไปรอข้างนอก ก่อนแล้วจะรีบกลับ” จิรดาสั่งก่อนจะหันไปมองชุติกาญจน์ที่ยิ้มอย่างดีใจที่เห็นเธออีกครั้ง ยานะและเบสคิส จึงจำต้องเดินออกไป

“กานเป็นอะไรหรือเปล่าหน้าซีดๆ”

“เจ้าชายเสด็จมาที่นี่ เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ ต้องการแต่งงานกับฉัน” ชุติกาญจน์บอกกับเพื่อนสาว

“แล้วเธอว่าไง” จิรดาถามต่อ

“แบบนี้แหละที่ฉันต้องการยิ่งเขาเกลียดฉันมากเท่าไร ฉันก็ยิ่งต้องการแต่งกับเขา ฉันรู้ว่าเขาขัดพระบิดาของ เขาไม่ได้” ชุติกาญจน์ยิ้ม

“น่าสนุกดี แต่ฉันชักโมโหแล้วล่ะที่ออกไปไหนก็ไม่ได้จะ พบเธอก็ไม่ได้เขากำลังเล่นสงครามประสาทกับเราอยู่นะ กาน” จิรดามองอีกฝ่าย

“ใช้แต่ฉันไม่ยอมหรอก ฉันจะทำให้เขาโกรธจน เส้นเลือดแตกไปเลย” ชุติกาญจน์ยิ้ม

“น่ากลัวจังเลย ฉันเพิ่งรู้ว่าเธอเป็นสิงห์สาวที่น่ากลัวก็วัน นี้เอง”จิรดาหัวเราะอย่างชอบใจ

“คุณคะกลับกันเถอะค่ะ”เบสคิสมีสีหน้าเป็นกังวล
“ฉันกลับก่อนนะแล้วจะมาใหม่” จิรดาหันไปกระซิบบอก กับชุติกาญจน์

“จ๊ะ” หญิงสาวพยักหน้า

จิรดายิ้มให้ก่อนจะเดินออกไปจากห้องโดยมีเบสคิสเดิน ตามไปอย่างเป็นกังวล แต่ระหว่างทางจิรดาได้เจอกับอา ยาล่า “มาแค่วันเดียวกล้าเดินออกไปนอกห้องด้วยเหรอ”

“ฉันก็มีขาทำไมจะออกไปไหนมาไหนไม่ได้ท่านหญิงยัง ไปได้เลย

“แต่ข้าเป็นท่านหญิงไม่ใช่คนธรรมดาอย่างเธอ” อายา ล่าก๋ามือแน่น

“แล้วไงคะท่านหญิงกับฉันก็คนเหมือนกันมีสองมือสอง ขาเท่ากันหรือว่าท่านหญิงมีอะไรที่แตกต่างจากฉันหรือ คะ” จิรดาย้อนถามและมัวแต่มองหญิงสาวตรงหน้าจึง ไม่ทันได้สังเกตว่ามีอีกบุคคลหนึ่งเดินมาทางด้านหลังของ เธอ

“ผู้หญิงไทยกล้าแบบเจ้าทุกคนหรือเปล่า” มาริคเดินมา หยุดยืนข้างอายาล่า

“ไม่ทราบเพคะแต่หญิงไทยในประวัติศาสตร์กล้าที่จะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ