เจ้าสาวกลางทะเลทราย

ตอนที่ 2 คู่หมั้น



ตอนที่ 2 คู่หมั้น

ประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่

“กลับมาแล้วหรือเมื่อคืนไปไหนมา”ประภาสมองบุตร

สาวด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“ไปงานปาร์ตี้บ้านเพื่อนมาค่ะ ก็เลยนอนค้างที่นั้น ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้โทรบอก” หญิงสาวตอบอย่างไม่ ใส่ใจเหมือนกับทุกครั้งที่โดนถาม

“แกเป็นผู้หญิงนะ ทำอะไรนึกถึงหน้าตาของพ่อแม่บ้าง” วรรณนาต่อว่าบุตรสาว

“หนูโตแล้วนะคะทำอะไรย่อมรู้ตัวดี คุณพ่อคุณแม่เอา เวลาไปสั่งสอนยัยกาน หลานสาวสุดที่รักจะดีกว่านะคะ หนูขอตัวนะคะง่วงเต็มทีแล้ว” หญิงสาวหันหลังเดินขึ้น ห้องนอนไปอย่างไม่สนใจใครอีก

“หนักข้อขึ้นทุกวันแล้วนะคะคุณ” วรรณนาถอนหายใจ พร้อมกับมองหน้าสามี

“เป็นเพราะคุณแม่ตามใจยัยพักตร์จนเคยตัว ผมคงต้อง คุยกับคุณแม่ให้รู้เรื่อง”

“อย่ารุนแรงนะคะค่อยๆ คุยกันค่ะ” วรรณนาบอกสามี
เพ็ญพักตร์กำลังจะเข้านอนแต่คุณหญิงน้อมจิตก็เรียก หญิงสาวเอาไว้เสียก่อน “กลับมาแล้วหรือหลาน” น้อมจิต เดินเข้ามาในห้องหลานสาวและยิ้มให้อย่างเอ็นดู

“ค่ะ คุณย่าจะไปไหนหรือคะแต่งตัวสวยจัง”เพ็ญพักตร์ พูดอย่างเอาใจ

“ปากหวานจังหลานย่า ย่ากำลังจะไปที่สมาคมคุณหญิง คุณนายนะจ้ะแต่ยังไม่ถึงเวลาพักตร์พอจะมีเวลาให้ย่า สักนิดหรือเปล่า” หญิงสาวประคองผู้เป็นย่ามานั่งลงที่ เก้าอี้

“สําหรับคุณย่า พักตร์มีเวลาเสมอค่ะ” หญิงสาวซบลง บนตักของคุณหญิง “เราโตพอที่จะมีคู่ได้แล้วนะลูก ย่ามี เรื่องจะบอก” ผู้เป็นย่าจับปลายคางของหญิงสาวเงยขึ้น เพ็ญพักตร์มองอย่างไม่เข้าใจ

“หนูมีคู่หมั้นอยู่แล้วเป็นเจ้าชายอาหรับ” คุณหญิงพูด ช้าๆ เพ็ญพักตร์ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

“อะไรนะคะคุณย่าพูดใหม่สิคะ”

“หนูได้ยินถูกแล้วลูก หนูจะต้องแต่งงานกับเจ้าชายเร ฮานแล้วหนูก็จะได้เป็นเจ้าหญิงพระชายาเชียวนะลูก”

หญิงสาวผละมือจากผู้เป็นย่าและลุกขึ้นยืน “ไม่มีทางค่ะหนูมีคนรักแล้วและเขาก็รวยมากด้วยเป็นลูกผู้ดีแถมมื เชื้อสายของเจ้าทางเหนือด้วยเจ้าชายอาหรับแบบนั้นหนู ไม่เอาหรอกตัวคงดำและขี้เหร่มากด้วย แถมพูดกันคนละ ภาษาอีกหนูรับไม่ได้หรอกค่ะคุณย่า ยังไงหนูก็ไม่แต่ง

“แต่นี้เป็นคำสัญญาของคุณพ่อหนูนะลูกหนูต้องทำตาม สัญญา”น้อมจิตพูดอย่างใจเย็น

“ใครสัญญาก็แต่งเองสิคะหนูไม่เกี่ยวถ้าคุณย่าบังคับ หนูๆจะหนีไปอยู่ที่อื่นและจะไม่กลับมาที่นี่อีกเลยคอยดู” หญิงสาวหันหลังเดินหนี คุณหญิงรีบลุกขึ้นเดินมาคว้าตัว หลานสาวเอาไว้

“อย่านะลูกอย่าทิ้งย่าไปย่ามีหนูคนเดียวเท่านั้น ไม่ แต่งก็ไม่แต่งเดี๋ยวย่าจะบอกกับพ่อหนูให้ให้ยกเลิกการ แต่งงานซะพอใจหรือยังลูก”

หญิงสาวหันมายิ้มและกอดผู้เป็นย่าเอาไว้อย่างประจบ “หนูรักคุณย่าที่สุดในโลกเลยค่ะ”

“จ้า ย่าก็รักหนูมากที่สุดเหมือนกัน เอาล่ะย่าต้องไปก่อน แล้วเดี๋ยวไม่ทันคนอื่นเขา”

“ค่ะ”เพ็ญพักตร์เดินมาส่งหญิงสูงวัยที่หน้าห้องและปิด ประตูลงเดินไปนั่งลงบนเตียง
“เจ้าชายอะไรที่ไหนฉันก็ไม่สนใจหรอกนอกจากคุณ วราวุธคนเดียวเท่านั้น เจ้าบ่าวของฉันต้องเป็นคุณคน เดียว” หญิงสาวยิ้มให้กับตัวเอง แล้วเย็นวันนี้เธอก็มีนัด กับเขาที่โรงแรมที่เขาเป็นเจ้าของอยู่เป็นงานปาร์ตี้เล็กๆ สำหรับญาติๆและเพื่อนๆของเขาเท่านั้น

“นอนดีกว่าเดี๋ยวหน้าจะเหี่ยวตอนเย็นต้องรีบตื่นอีก” หญิงสาวบอกกับตัวเองก่อนจะล้มตัวลงนอน

ชุติกาญจน์กำลังทำอาหารเย็นอยู่ในห้องครัวก็ต้อง สะดุ้งด้วยเสียงเรียกที่ดังมาจากห้องชั้นบน เพ็ญพักตร์ยืน เท้าเอวอย่างไม่พอใจอยู่ในห้องนอน

“ยัยกาน อยู่ที่ไหน ยัยกานมาหาพี่หน่อยสิ”

“มีอะไรคะพี่พักตร์” ชุติกาญจน์รีบวางมือและสั่งให้สาว ใช้รับไปทำต่อ หญิงสาวรีบวิ่งขึ้นมาชั้นบนและตรงไปที่ ห้องของเพ็ญพักตร์ทันที

“มีสิ ไม่มีจะเรียกหรือ แล้วทำไมมาช้านักล่ะ” เพ็ญพักตร์ กอดอกยืนมองน้องสาวต่างบิดามารดาด้วยใบหน้าที่บึง

“พอดีกานกำลังทำอาหารอยู่ในครัวน่ะค่ะพี่พักตร์มีอะไร หรือคะ”
“มาช่วยฉันแต่งตัวหน่อยสิฉันจะรีบไปงานปาร์ตี้ของคุณ วราวุธ

“ค่ะ” หญิงสาวเดินเข้าไปเลือกชุดในตู้เสื้อผ้าและหยิบ ออกมาวางให้พี่สาวได้เลือกก่อนจะเข้าไปช่วยแต่งหน้า และทำผมให้ ภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงเพ็ญพักตร์ก็ สวยพร้อมที่จะไปร่วมงานปาร์ตี้ได้แล้ว

“ฝีมือเธอใช้ได้เลยนะ” เพ็ญพักตร์หมุนตัวไปรอบๆอยู่ หน้ากระจก

“ขอบใจมากน้องรัก พี่ไปก่อนล่ะ” หญิงสาวบอกและเดิน ลงไปชั้นล่างอย่างอารมณ์ดี ชุติกาญจน์มองตามหลังพี่ สาวไปอย่างระอาใจเธอชินเสียแล้วกับการตบหัวแล้วลูบ หลังของลูกพี่ลูกน้องคนนี้

เพ็ญพักตร์เลี้ยวรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถและก้าวลง จากรถแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน หญิงสาวมองไปด้าน เบาะหลังรถและก้มลงมองที่พื้นใต้เบาะ

“แล้วของขวัญอยู่ไหนกันเนี่ยหรือว่าเราจะลืมเอาไว้ที่ บ้าน” หญิงสาวนิ่งคิดก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา จากกระเป๋าถือสีเงิน

กริ๊ง กริ๊ง!!!!!!
“ฮัลโลบ้านท่านประภาสค่ะ” สาวใช้รายงานเมื่อรับสาย

“ฉันเองนะไปบอกยัยกานมารับสายหน่อย”

“ค่ะ” สาวใช้วางโทรศัพท์ลงข้างๆตัวเครื่องและวิ่งเข้าไป ตามชุติกาญจน์ในห้องครัว

“คุณกานคะโทรศัพท์จากคุณพักตร์ค่ะ” สาวใช้รายงาน

หญิงสาวหันมามองและพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปรับ

โทรศัพท์

“คุณพี่มีอะไรหรือคะ” หญิงสาวถามออกไป

“ยัยกาน ลืมของขวัญเอาไว้บนห้องช่วยเอามาให้พี่

หน่อยสิ”

“เออ คือว่าเอาไว้ให้วันหลังไม่ได้หรือคะ”

“ไม่ได้” อีกฝ่ายทำเสียงแข็ง

“เธอต้องเอามาให้เดี๋ยวนี้ที่โรงแรมวิวเรส ด่วนด้วยนะ อย่าให้ฉันรอนาน อ้อฉันจะเข้าไปในงานก่อนพอเธอมา ถึงแล้วก็โทรหาพี่ด้วยเข้าใจหรือเปล่า”
“เข้าใจค่ะ” หญิงสาวรับคำและก็วางสายลง ก่อนจะถอน หายใจอย่างอ่อนล้า

อีก 30 นาทีต่อมาชุติกาญจน์ก็มาถึงหน้าโรงแรมหรู ระดับ 5 ดาว หญิงสาวก้าวผ่านประตูเข้าไปและมองหา โทรศัพท์ที่สามารถจะโทรหาพี่สาวของเธอได้

“ขอโทษครับมาตามที่นัดไว้หรือครับ” พนักงานชายคน หนึ่งเดินเข้ามาถามหญิงสาว

“ค่ะ” เธอคิดว่าเพ็ญพักตร์คงสั่งลูกน้องของแฟนเอาไว้ จึงไม่ได้เอะใจอะไร

“งั้นเชิญทางนี้ครับ” พนักงานหนุ่มเดินนำหน้าหญิงสาว ไปที่ลิฟท์และก้าวเข้าไปในลิฟท์และหันมายิ้มให้เธอ

“คุณสวยมากเลยนะครับไม่น่า…” เขาหยุดพูดแค่นั้น และทำให้หญิงสาวต้องมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ

‘พี่พักตร์นะพี่พักตร์ทำไมต้องรีบให้ด้วยก็ไม่รู้ หญิงสาว คิดและก้มหน้ามองกล่องของขวัญในมือ

ภายในห้องสูทหรูของโรงแรมวิวเรสซึ่งเป็นโรงแรมชั้น หนึ่งของเชียงใหม่ เจ้าชายเรฮานกำลังทอดพระเนตรออก ไปนอกหน้าต่างเพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงามของป่าไม้และ ทิวเขาที่มองเห็นอยู่ไกลๆ
“ที่นี่อากาศเย็นสบายดีจังเลยน่ะอัลลา”

“พระเจ้าค่ะแต่ว่าจะดีหรือพระเจ้าค่ะ ออกมาแบบนี้” องครักษ์คู่พระทัยทูลถามอย่างเป็นกังวล

“ดีสิเรื่องอื่นเราจัดการเองแถมพี่ข้าก็รู้เจ้าไม่ต้องกลัว หรอกว่าเสด็จพ่อจะทรงทราบท่านพี่มาริคจัดการได้เชื่อ ข้าสิ

“พระเจ้าค่ะ”อัลลาลอบถอนใจอย่างแรง…นี่ถ้าเกิดองค์ สุลต่านรู้เข้ามีหวังเขาได้โดนตัดหัวแน่….

ก๊อก! ก๊อก!

“ใคร” อัลลาหันไปมองและส่งเสียงถาม

“ผมเองครับผู้จัดการของที่นี่ครับ”

อัลลาหันไปมองเจ้าเหนือหัวของตนเอง เรฮานพยักหน้า เป็นเชิงอนุญาต อัลลาจึงเดินไปเปิดประตูให้

“สวัสดีครับคือว่าท่านประธานให้ผมมาดูแลคุณทั้งสอง ครับ ทางเรามีบริการพิเศษให้กับลูกค้าคนสำคัญด้วยนะ ครับ”
เรฮานเดินมานั่งลงที่เก้าอี้นวมในห้องรับแขกสายตาคม จับจ้องผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า

“บริการพิเศษงั้นหรือ หึ หึ หึ”

“ครับ ขาว สวย น่ารักรับรองครับว่าท่านจะต้องติดใจ” ผู้ จัดการรีบพูดสนับสนุนอย่างกระตือรือร้น

“บังอาจมากเจ้าคิดว่าท่านผู้นี่เป็นใคร ออกไป” อัลลา วาดเสียงดังจนอีกฝ่ายตกใจกลัวหน้าซีดอย่างเห็นได้ ชัด

“ใจเย็นๆก่อนอัลลา” ชายหนุ่มพูดห้ามไว้ และพอดีที่ เสียงเคาะประตูดังขึ้น

ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง ผู้จัดการใหญ่ รีบตรงไปเปิดประตูให้ ชุติกาญจน์ขมวดคิ้วเข้าหากัน อย่างงุนงง พนักงานหนุ่มดันตัวเธอให้เข้าไปด้านในห้อง พร้อมกับปิดมันลง เรฮานมองหญิงสาวอย่างสำรวจพร้อม กับยิ้มอย่างพึงพอใจ

“พี่พักตร์อยู่ไหนคะ” หญิงสาวหันไปถามผู้จัดการ โรงแรมที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ

“นี่คุณพูดเรื่องอะไรไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย แต่ก็ช่างเถอะ บริการแขกของเราให้ดีด้วยนะ” ผู้จัดการหนุ่มใหญ่สั่งและรีบเดินออกไปจากห้องสูทหรูนั้นทันที

“เชิญทางนี้ครับ” อัลลาเดินเข้ามาหาหญิงสาวที่ยังยืน งงอยู่กับที่ โดยที่ไม่ทันได้สังเกตว่ามีชายหนุ่มอีกคนมอง มายังเธออย่างไม่วางตา ชุติกาญจน์หันไปมองและต้อง ชะงักเหมือนต้องมนต์สะกด หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างที่ ไม่เคยเป็นมาก่อน ผู้ชายตรงหน้าเป็นใครกันหรือว่าเป็น แฟนของพี่สาวเธอ แต่ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วไม่น่าจะใช่ คนไทย ผิวเข้มสีแทน ผมยาวดำแค่ไหล่ ตัวสูงราวๆ 180 เซนติเมตร คิ้วดกดำ จมูกโด่งเป็นสัน

“เริ่มงานของคุณเลยหรือเปล่า” เรฮานถามขึ้นเป็นภาษา อังกฤษเมื่อเห็นหญิงสาวจ้องมองเขานิ่ง ชุติกาญจน์มอง จ้องหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ

“งาน งานอะไรคะ” หญิงสาวคิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ถามกลับเป็นภาษากลางเช่นกัน

“อืม…สวยใช้ได้ทีเดียว ชักชอบบริการของที่นี่เสียแล้ว เจ้าออกไปได้แล้วอัลลา” อัลลารีบเดินออกไปทันทีที่ได้ รับคำสั่งในห้องจึงเหลือแค่หญิงสาวกับชายหนุ่มเพียง สองคน ชุติกาญจน์เพิ่งเข้าใจเดี๋ยวนี้เองว่าเขาหมายความ ว่ายังไง

“ขอโทษนะคะคงมีการเข้าใจผิดกัน คือว่าดิฉัน…”
“คุณเข้ามาที่ห้องของผมแล้วจะเข้าใจผิดได้ยังไงกัน” ชายหนุ่มดึงมือหญิงสาวให้เดินเข้าไปในห้องซึ่งมีเก้าอี้ ยาววางอยู่

“เดี๋ยวสิคุณ คุณเข้าใจผิดแล้ว” หญิงสาวสะบัดมือออก และเดินไปที่ประตูจะเปิดมันออกแต่อีกฝ่ายก็เดินตามมา ยืนขวางเอาไว้

“เธอกล้ามากที่สะบัดมือออกจากฉันรู้หรือเปล่าว่าฉัน เป็นใคร แล้วนึกอะไรมาเล่นตัวเอาตอนนี้” เรฮานก้าว เข้าหาหญิงสาว ส่วนเธอก็ก้าวถอยหนี

“คุณจะเป็นใครไม่สำคัญและฉันก็ไม่สนด้วย ฉันจะบอก คุณเอาบุญฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมาให้บริการคุณ ฉันมาที่ นี่เพื่อเอาของมาให้พี่สาวของฉัน ถอยไป” หญิงสาวตวาด เสียงดัง

“เธอกล้ามาออกคำสั่งกับฉันหรือไง ไม่เคยมีใครกล้ามา ทำแบบนี้กับฉันเลย” ชายหนุ่มกระตุกยิ้ม

“งั้นก็มีซะสิ” หญิงสาวมองเขาตาขวาง

“เธอเป็นใครไม่สำคัญในเมื่อเธอเข้ามาในห้องของฉัน แล้ว ฉันถือว่าเธอมาหาฉัน”

“จะบ้าหรือไงพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้คงต้องโทรหาเจ้าของโรงแรมของที่นี่กันหน่อยแล้ว” หญิงสาวบอกและเดินไป ที่โทรศัพท์ แต่ไม่ทันที่เธอจะเดินไปถึง ร่างบางของเธอก็ ถูกดึงเข้าไปปะทะกับอกกว้างของชายหนุ่ม

“ปากดีจริงนะสาวไทยเนี่ย”

“ปล่อยนะ ปล่อย คุณจะทำอะไร ปล่อยฉัน!” หญิงสาว เบี่ยงหน้าหลบทั้งเตะทั้งถีบเป็นพัลวันแต่ร่างสูงใหญ่ก็ไม่ สะทกสะท้านเลย

“ตอนแรกฉันคิดว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงอย่างเธอ แต่ มันคงทำไม่ได้เสียแล้ว เธอจุดอารมณ์โกรธของฉันเอง นะ” ชายหนุ่มดึงกล่องของขวัญในมือของเธอออกและ โยนมันไปบนโซฟายาวก่อนจะอุ้มร่างบางเดินไปที่ห้อง นอนของตนเอง ชุติกาญนจ์หน้าซีดลง ไม่คิดว่าตัวเองจะ ต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ‘คิดสิชุติกาญจน์คิดคิดว่า จะทำยังไงให้หลุดพ้นจากเงื้อมือของผู้ชายป่าเถื่อนคนนี้ หญิงสาวเม้มปากแน่นและสูดหายใจเข้าลึกๆ

“เดี๋ยวค่ะคือว่าฉันยังไม่ได้เตรียมตัวเลย ขอฉันเตรียม ตัวก่อนได้ไหมคะ” หญิงสาวฝืนยิ้มให้เขาเมื่อชายหนุ่ม วางเธอลงบนเตียงนอน

“เธอนี่เปลี่ยนอารมณ์ได้ไวจริง ยอมรับแล้วหรือทำไม ต้องทำเป็นเรื่องมากด้วย” เรฮานมองหญิงสาวอย่างพิจารณาอีกครั้ง

“คือว่าฉันตกใจน่ะค่ะ เห็นคุณ ก็คุณหล่อออกแบบนี้ฉัน ก็ตื่นเต้นน่ะสิคะ” หญิงสาวแสร้งพูดเอาใจอีกฝ่าย

“อ้อ ต้องการเรียกร้องความสนใจจากฉัน ต้องยอมรับว่า เธอทำได้สำเร็จ” ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อย สาวไทยมองอีก ฝ่ายตาปริบๆ และรีบก้าวลงจากเตียง ไปยืนอีกฝากหนึ่ง ของเตียง

“ฉันแค่อยากแกล้งเธอที่ปากกล้าปากดีกับฉัน ความจริง ฉันก็ไม่ใช่คนใจร้ายอะไรแค่อยากมาพักผ่อนให้สบายใจ เท่านั้นเธอนวดเป็นหรือเปล่า”

“เออ..คือว่า…คือ…ปะ เป็นค่ะ” หญิงสาวพยักหน้า

“ดีเลย ฉันปวดเมื่อยอยู่พอดี นวดที่นี่แหละขี้เกียจออก ไปข้างนอกอีก” เรฮานถอดเสื้อคลุมตัวยาวที่ตัวเองสวม ทับไว้ออก เผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อแน่น หญิงสาวทำตา โต ความร้อนฉีดขึ้นมาบนใบหน้าวูบวาบ

“แล้วทำไมหน้าเธอแดงจัง อย่าบอกนะว่าเพิ่งเคยเห็น ผู้ชายโป๊ เพราะผู้หญิงอย่างเธอคงผ่านมานับไม่ถ้วนแล้ว ไม่น่าจะมีความอายแล้ว หรือว่าเสแสร้งทำเพื่อเรียกร้อง ความสนใจจากฉัน” ราชนิกุลหนุ่มเท้าสะเอวมองท่าทาง ของอีกฝ่าย
“ค่ะ ฉันแกล้งทำ เชิญนอนลงค่ะฉันจะได้นวดให้” หญิง สาวเสียงแข็ง

“เธอไม่พอใจหรือที่ฉันพูดแบบนั้น” ชายหนุ่มนอนคว่ำลง บนที่นอน มัดกล้ามเนื้อแท้ๆของผู้ชายทำให้จิตใจของชุ ติกาญจน์หวั่นไหว หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หญิงสาวลอบ กลืนน้ำลายลงคอและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เกิดมาก็เพิ่ง เคยนวดเป็นครั้งแรก

“เงียบทําไมเคืองฉันหรือไง” เขาถามขึ้นมาอีก

“เปล่า ฉันไม่สิทธิ์จะคิดแบบนั้นกับแขกหรอกค่ะ” หญิง สาวค่อยๆวางมือลงบนไหล่ของเขาและนวดไปมาตามที่ เคยเห็นเขานวดกัน

“ฝีมือเธอไม่เลวเลย แล้วฉันจะให้รางวัล” ชายหนุ่ม หลับตาลง หญิงสาวมองเสี้ยวหน้าของเขาอย่างลืมตัว

“ฉันคิดค่ามองนะ” เจ้าชายหนุ่มลืมตาขึ้นและหันมามอง ทางสาวไทย

“ขอโทษค่ะ” ชุติกาญจน์ก้มหน้าอย่างอายๆ “คุณสบาย ขึ้นหรือยังคะ”

“อืม..” เขารับคำในลำคอเบาๆ ชุติกาญจน์เลื่อนมือลงมา ที่หลังของเขาและเธอก็สังเกตเห็นรอยแผลเป็นของเขาที่โผล่พ้นขอบผ้าขนหนูขึ้นมา หญิงสาวใช้มือลูบไปมา

“หยุด!” ชายหนุ่มตวาดเสียงดังจนเธอชะงักและรีบดึงมือ ออก “ฉันให้เธอนวดไม่ใช่ให้มาดูรอยแผลเป็นของฉัน”

ร่างสูงลุกขึ้นนั่งมองหญิงสาวตาขวาง

“ฉันขอโทษค่ะ ที่ทำให้คุณโกรธ” หญิงสาวก้าวลงจาก เตียงมายืนอยู่ด้านล่าง

“ยังจะมาปากดี เธอต้องการอะไรกันแน่”

“ฉันก็ต้องการนวดให้คุณไงคะไม่น่าถาม” หญิงสาวย้อน

เขา

“ไม่ใช่เพื่อจะยั่วอารมณ์ฉันหรอกเหรอ” เสียงของเขา เข้มขึ้น

“เปล่านะคะ ฉันขอโทษฉันไม่ได้ตั้งใจถ้าทำให้คุณโกรธ” หญิงสาวยกมือไหว้เขาเพื่อเป็นการขอโทษ

“เธอแน่ใจนะ อย่าคิดว่าผู้ชายอย่างฉันไม่รู้เท่าทันผู้ หญิงอย่างพวกเธอนะ”
“นี่คุณฉันบอกคุณแล้วไงว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมาบริ การคูณๆ ไม่เชื่อ พอฉันนวดให้คุณก็ด่าคุณจะเอายังไง” ความอดทนของเธอมีขีดจำกัดเช่นกัน

“เธอกล้าต่อว่าฉันหรือระวังจะไม่มีที่ทำงานนะแม่สาว น้อย”

“ฉันไม่สนใจหรอกแต่คนอย่างคุณสิคงถูกตามใจจน เคยตัว จนเสียนิสัย” คำต่อว่าของหญิงสาวทำให้เจ้าชาย ต่างแดนถึงกับโกรธจนระงับอารมณ์ไว้ไม่ได้ เขากระชาก หญิงสาวเข้ามาหาอีกครั้ง

“มันจะมากไปแล้วนะ คนอย่างฉันไม่เคยมีใครกล้ามาต่อ ปากต่อคำด้วยแล้วเธอเป็นแค่ผู้หญิงชั้นต่ำกล้าดียังไงมา ด่าฉัน” เขาบีบแขนหญิงสาวแรงขึ้นเรื่อยๆ

“โอ้ย! ฉันเจ็บน่ะ ปล่อย!” หญิงสาวร้องอย่างเจ็บปวด

“ปล่อยเหรอ ง่ายไป มานี่!” ชายหนุ่มเหวี่ยงร่างบางไป ที่เตียงและค่อมร่างของเธอเอาไว้ ชุติกาญจน์ตัวสั่นด้วย ความกลัว

“กลัวหรือไง อย่ามาแกล้งทำหน่อยเลยอย่างเธอต้องเจอ มามากแล้ว อย่าดัดจริตดีกว่า”

“นี่คุณ! พ่อแม่ฉันยังไม่เคยว่าฉันสักคำ คุณมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน ลงไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้!” หญิงสาวเน้นเสียง อย่างหนักแน่น

“ข้าไปแล้วตอนนี้อารมณ์โกรธของฉันมันหยุดไม่ได้เสีย แล้ว” พูดจบเขาก็ทาบปากลงไปหาเรียวปากงามของเธอ ทันทีอย่างไม่ปราณี หญิงสาวๆได้แต่อู้อี้อยู่ในลำคอ ทุก สัมผัสจากเขาทําให้เธอเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่างกาย น้ำตา แห่งความสูญเสียและเจ็บปวดไหลรินลงมาพร้อมกันแต่ เขากลับไม่คิดจะสงสารเธอแม้แต่น้อย

เวลาแห่งความสูญเสียได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชุติกาญ จน์หันไปมองคนที่นอนหลับอยู่ข้างๆ อย่างนึกรังเกียจ เธอทําบาปทํากรรมอะไรไว้ ถึงต้องมาเจอกับเรื่องแบบ นี้ น้ำตาแห้งไปอย่างไม่รู้ตัว ป่านนี้พี่สาวของเธอคงคิดว่า เธอแอบไปเหลวไหลที่ไหนเป็นแน่ หญิงสาวก้าวลงจาก เตียงหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมอย่างรีบร้อนเพราะกลัวอีก ฝ่ายจะตื่นขึ้นมาก่อน เธอรีบก้าวไปที่ประตูห้องนอนเปิด มันออกอย่างเบามือ เดินไปหยิบกล่องของขวัญขึ้นมา และรีบออกไปจากห้องนั้นอย่างเร็วที่สุด

ชุติกาญจ์เอากล่องของขวัญให้กับพนักงานสาวให้เอา ไปให้เพ็ญพักตร์ที่ห้องจัดเลี้ยง แล้วก็เรียกแท็กซี่กลับ บ้าน น้ำตาไหลรินลงมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้นเมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้ว เธออยากจะฆ่าเขา อยากเอามีด 1 แทงให้สาแก่ใจ แต่เธอก็ไม่กล้าพอ จะแจ้งตำรวจก็อาย ชาวบ้านเขา ใครเขาจะเชื่อเธอในเมื่อเธออยู่ในห้องของ เขาและถ้าใครรู้เข้าป้ากับลุงของเธอจะต้องเสียหายและอับอายด้วย เธอควรทํายังไงดี ความสาวที่ หวงแหนต้องมาเสียให้กับผู้ชายแปลกหน้าคนนั้น เธอเก ยดๆๆเขา

ก๊อก! ก๊อก!

“เจ้าชาย เจ้าชายพระเจ้าค่ะ” อัลลาร้องเรียกเมื่อเห็น ประตูห้องนอนปิดอยู่ เจ้าชายเรฮานงัวเงียตื่นขึ้นและ คว้านหาตัวหญิงสาวที่นอนอยู่ข้างๆ แต่สิ่งที่เขาพบก็คือ ความว่างเปล่า

“ไปไหน” เรฮานลุกขึ้นและหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาพันกาย ท่อนล่างเอาไว้ เขาครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขารู้ ว่าหญิงสาวคนนั้นยังบริสุทธิ์อยู่และร่องรอยบนที่นอนก็ ยืนยันว่าเป็นแบบนั้น เขารู้แต่เขาหยุดไม่ได้ ไม่สามารถ หยุดอารมณ์ของตัวเองได้เลยทั้งที่คิดว่าจะไม่ยุ่งกับเธอ แต่เพราะเธอทำให้อารมณ์โกรธของเขาปะทุขึ้น

เจ้าชายเรฮานเสยผมขึ้นก่อนจะส่ายหน้าตอบอีกฝ่าย เขาพูดอะไรไม่ออก รู้สึกผิดอย่างมากทั้งที่บอกกับตัวเอง แล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงพวกนี้แต่เมื่อได้เข้าใกล้ผู้ หญิงคนนั้นเขาก็มีความรู้สึกอย่างสัมผัสอยากกอดอยาก จูบอยากมีเธอไว้ในอ้อมกอดของเขาตลอดเวลา

“เจ้าชายพะย่ะค่ะ” อัลลาร้องเรียกอย่างกังวลใจ
“มีอะไรอัลลา” ประตูเปิดออกอย่างช้าๆ พร้อมกับรับสั่ง ถามเมื่อเห็นสีหน้ากังวลใจของคนสนิท

“คือว่าหญิงสาวที่ทางโรงแรมจัดให้จริงๆไม่ใช่ผู้หญิงคน นั้นพระเจ้าค่ะ”

เจ้าชายเรฮานเบิกตากว้างอย่างตกใจ ‘แล้วผู้หญิงที่นอน กับเขาเป็นใครกันหรือว่าที่เธอพูดเป็นความจริง” “โธ่โว้ย” ชายหนุ่มสบถออกมาและทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้นวม

“แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะฝ่าบาท… อัลลามองไปบนเตียงที่ ว่างเปล่า ก่อนจะหันกลับมาทางเจ้านายหนุ่ม

“นางหายไปแล้ว” เจ้าชายเรฮานเงยหน้าขึ้นมอง องครักษ์หนุ่ม

“ฝ่าบาททรงหมายความว่า” อัลลาเดินเข้าไปยืนใกล้ๆ

“ใช่ เมื่อคืนข้านอนกับนาง” ชายหนุ่มหยุดไปนิดหนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ “เจ้าไปตามผู้จัดการของที่นี่มาและตามหา ตัวหญิงสาวคนนั้นด้วย ข้าจะชดใช้ให้นาง ถ้าเจอนางก็ เอาเช็คเงินสดให้นาง ให้นางใส่ตัวเลขได้ตามใจ”

“พระเจ้าค่ะ” องครักษ์หนุ่มโค้งศีรษะแล้วเดินออกไป เจ้า ชายเรฮานหลับตาลงกลิ่นกายสาวยังคงติดอยู่ที่ปลายจมูก ความหอมหวานยังคงตรึงอยู่ที่ริมฝีปาก ร่างบางหอมกรุ่นในอ้อมแขนเมื่อคืนมันทำให้หัวใจที่ แข็งแกร่งอ่อนยวบลง เขาหวังว่าเงินจะชดใช้ในสิ่งที่เขา ทำลงไปได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ