หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 17 ใช้ตั๋วเงินแทนพัด



บทที่ 17 ใช้ตั๋วเงินแทนพัด

กล้าจ่ายจริงๆ ถึงเมียนกลืนน้ำลายอีกใหญ่ แต่ก็ยังคงลังเล

ไม่ใช่เพราะว่าเขาเมตตาหลานซิวหยุน แต่เป็นเพราะเกรงกลัว อิทธิพลของจวนแม่ทัพ หากมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น เขาคงจะอยู่ ในจักรวรรดิแห่งนี้ต่อไปอีกไม่ได้แล้ว

และในตอนนี้เอง!

“ฮือ ฮือ ฮือ….. มีเสียงร้องไห้คร่ำครวญเสียงหนึ่งดังขึ้น

ทำให้ความสนใจทั้งหมดของถึงเมี่ยนหันเหไปที่หลานเขาเยา ทันที แล้วก็ต้องตะลึงงัน

ในตอนนี้ หลานเยาเยามีท่าทีที่แสดงออกถึงความโศกเศร้า ไม่สามารถหยุดน้ำตาให้ไหลออกมาได้ ใบหน้าจึงเปียกปอนไป ด้วยน้ำตา บ้างก็หยดลงบนพื้น บ้างก็เปียกปอนอยู่บนเสื้อผ้า

“ท่านแม่ด่วนจากไป ตั้งแต่เล็กขาก็ต้องอดมื้อกินมื้อ หิวจน ต้องกินเปลือกไม้ใบหญ้า บางครั้งก็ต้องแย่งอาหารกับสุนัข ที่มี ชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ก็เพื่อที่จะแต่งงานกับรัชทายาท จะได้ไม่ต้อง โดนรังแกและถูกทําร้ายอีกต่อไป

แต่ว่า

แต่ในวันแต่งงาน ความหวังทั้งหมดกลับสลายกลายเป็นฟอง อากาศ พี่สาวทั้งสี่ทุบตีข้าตั้งแต่ยังเด็ก ข้าก็ทน แย่งคู่หมั้นของข้า ข้าก็ทนอีก แต่นางยังไม่พอใจ ในใจยังอยากให้ข้าตาย

ตอนนี้บนตัวของข้าเต็มไปด้วยแผลเป็น ร่างกายอ่อนแอ ทั้งหมดต้องขอบคุณนาง หากไม่ใช่เพราะโชคดี ข้าคงจะนอนใน หลุมศพที่มีหญ้ารกท่วมหัวแล้ว

“ตั๋วเงินเหล่านี้เป็นสิ่งที่ขาต้องเก็บมาตั้งแต่เด็กจนโตจึงจะมี ได้ ก็เพื่อจะนำออกมาใช้ในวันนี้ ถ้าหากเจ้าไม่รับปากข้า ข้าก็ คงจะนอนตายตาไม่หลับ ฮือ ฮือ ฮือ……

พอพูดจบ หลานเขาเขาก็ยกมือขึ้นจะเช็ดน้ำตา แต่ได้ยิน เหมือนเสียงของบรรดาสัตว์มีพิษกำลังเริ่มสำแดงฤทธิ์ จึงเอามือ

ลง

“เอาเถอะ เอาเถอะ! คุณหนูหก ข้าจะช่วยท่านเอง”

ไม่ต้องร้องไห้แล้ว ปกติก็ผอมเหมือนลิง พอร้อง ก็ยิ่งดูน่า เกลียดเข้าไปใหญ่!

แน่นอนว่า จริงๆ ในใจของเขาก็ยังพอจะมีความเห็นอกเห็นใจ

ผู้อื่นอยู่บ้าง

“งั้นตั๋วเงิน……

หลานเยาเขามองตั๋วเงินสองใบที่ถืออยู่ในมือ ใบหนึ่งมูลค่า ห้าร้อย ใบหนึ่งมูลค่าหนึ่งพัน ทำท่าทางน่าสงสาร

ตั๋วเงินต้องเอาอยู่แล้ว !

ถึงเมียนยื่นมือไปคว้าตั๋วเงินทั้งสองใบ แต่ดึงมาไม่ได้เพราะหลานเขาเขาทําไว้แน่น

ถึงเมียนคิดในใจ

นางต้องลำบากมามากถึงจะเก็บเงินได้เยอะขนาดนี้ หากเอา มาหมด ต่อไปภายหน้า นางจะอยู่ต่อได้อย่างไร

ดังนั้น จึงเอาแค่ใบละหนึ่งพันใบเดียว แต่ก็ยังคว้ามาไม่ได้ จึง มองหลานเยาเยา เห็นน้ำตาหลานเขาเยาหยด “แหมะๆ” อย่าง

ไม่ขาดสาย

“คุณหนูหก ท่านวางใจเถอะ ข้าถึงเมียน ต่อให้จะไม่ใช่คนดี สักเท่าไหร่ แต่ก็มีความชอบธรรม หากรับปากเรื่องใดก็จะต้อง ทำให้ได้ เรื่องนี้ข้าจะทำแบบไม่ให้ทิ้งร่องรอยเลย

ถึงเมียนคิดว่าหลานเยาเยาไม่ให้ตัวเงิน เป็นเพราะกลัวว่าเขา จะไม่รักษาสัญญา ดังท่านจึงต้องแสดงท่าที่จริงใจเป็นการรับ ประกัน

แต่ใครจะไป………..

ทันทีที่เขาพูดจบ หลานเขาเขากลับเก็บตัวเงินคืน หลังจากที่ นางเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย น้ำตาก็หยุดไหล เหมือนสั่งได้

“เมื่อกี้รู้สึกร้อน จึงใช้ตั๋วเงินมาทำเป็นพัด ตอนนี้ค่อยรู้สึกดีขึ้น หน่อย” พอพูดจบก็เอาตั๋วเงินเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ หลังจากนั้น จึงกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจว่า: “ขอบคุณมาก พี่ใหญ่ถึงเมี่ยน

“ข้าไปก่อนล่ะ จะรอฟังข่าวดีจากท่าน!
พูดจบ ก็เดินออกไปแบบสง่างาม

พวกเขาเหล่านั้นเห็นหลานเขาเขาค่อยๆเดินจากไปต่อหน้า ต่อตา ก็มีหนึ่งคนพูดขึ้นด้วยความเสียดายว่า

“พี่ใหญ่ คุณหนูหกไปง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ?”

“แตก แตก!” ถึงเมียนผู้ซึ่งสติเพิ่งกลับเข้ามาอยู่กับตัว ถอนมือ ที่คว้าอยู่กลางอากาศกลับมาอย่างเขินอาย “ไปก็ไปสิ ทำเรื่อง ของตัวเองให้เสร็จก็พอแล้ว”

ตั๋วเงินมูลค่าหนึ่งพันจำนวนสองใบที่มอบให้ก่อนหน้านี้ก็มาก เกินพอ พวกเขาไม่ขาดทุนเลยสักนิด แถมยังถือว่าได้มากอีก

ด้วย

“ใช่ ใช่ ใช่ พี่ใหญ่พูดถูก เพียงแต่เมื่อกี้ข้าเห็นเหมือนกับว่า คุณหนูหกนำอะไรบางอย่างไปเช็ดที่ตา หลังจากนั้นน้ำตาก็ไหล ไม่หยุด สิ่งที่คุณหนูหกเพิ่งพูดเมื่อกี้ คงไม่ใช่เรื่องหลอกลวงใช้ ไหม?” มีหนึ่งคนเริ่มสงสัย

พอได้ฟังดังนั้น!

ถึงเงี่ยนก็หัวเราะเบาๆ “น้ำตาเป็นของปลอม ความเจ็บปวด เป็นของปลอม แต่หัวใจ ตายด้านนี่สิของจริง ไปเถอะ!”

หลังจากที่พวกเขาจากไป ก็มีชายผู้สวมหน้ากากสีเงินคนหนึ่ง เดินออกมาจากเงามืด แล้วก็มองตามไปยังที่ที่หลานเขาเขาเดิน หายไปด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง หรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วก็หายวับไปทิ้ง ไว้เพียงร่องรอย………
ยามหนู (เวลา24:00-2:00) เพิ่งผ่านไป แสงจันทร์สีนวล ส่องกระทบลงมายังพื้นดิน จริงๆมันควรจะเป็นบรรยากาศที่เงียบ และสงบ แต่กลับทำให้รู้สึกน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก

ณ ลานของหลานซิวหยุน ในจวนแม่ทัพ

มีงูเขียวหางไหม้ตัวหนึ่งเลื้อยขึ้นมาจากไผ่ด้านนอกหน้าต่าง มายังหน้าต่าง เหมือนจะถูกดึงดูดจากอะไรบางอย่าง หลังจาก เลื้อยสำรวจอยู่บนหน้าต่างสักพัก ก็เลื้อยทะลุหน้าต่างเข้ามายัง ห้องส่วนตัวของหลานชิวหยุน

และในตอนนี้!

หลานชิวหยุนที่กำลังหลับสนิทอยู่บนเตียง มุมปากมีรอยยิ้ม จางๆ เหมือนกำลังฝันหวานอยู่

หลังจากนั้นก็มีงูพิษอีกหลายตัวเลื้อยคลานตามกันเข้าไป ภายในห้อง คางคงและแมงป่องก็มาล้อมรอบห้องทั้งสี่ด้าน พวก มันพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะเข้าไปข้างใน แต่หาทาง เข้าไม่เจอ ทำให้พวกมันเริ่มอารมณ์เสีย

องครักษ์ที่เฝ้ายาม ในช่วงกลางคืนเริ่มสังเกตเห็นถึงความผิด ปกติบางอย่าง

“รู้สึกไหมว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังขยับอยู่โดยรอบ องครักษ์คนหนึ่งถามอย่างสงสัย

“ไม่มีนี่ ช้าไม่เห็นจะได้ยินอะไรเลย เจ้าหูฝาดไปรึเปล่า? ไอยะเจ้าอย่ามาโดนตัวข้า วางใจเถอะ ไม่มีอะไรหรอก” ดึกขนาดนี้จะ มีอะไรเคลื่อนไหวได้อย่างไร?

องครักษ์อีกคนทําท่าไม่เชื่อ เพราะตอนนี้เขากำลังหลับๆตื่นๆ

อย่ามาโดนตัวข้า เขาเริ่มโมโห

แต่ว่า เขายังไม่ทันจะพูดจบ ก็เหมือนมีมืออีกข้างมาวางบน ไหล่ของเขา……

“เห้ย น้องชาย อย่าขยับ บนไหล่ของเจ้า……..

ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะหมดความอดทนพูด ขัดขึ้นมาว่า “จะมีอะไรกันนักกันหนา ไม่เห็นหรือยังไงว่าข้า กำลังง่วงอยู่?”

องครักษ์ผู้นั้นทําท่าทางรำคาญ แล้วยื่นมือไปปัด “มือ” ที่อยู่ บนไหล่ของเขา เมื่อมือไปสัมผัสถูก กลับรู้สึกว่าเย็นๆและนิ่มๆ

เขาหันไปดูด้วยความตกใจ จึงูตัวใหญ่หนึ่งตัวกำลังเลื้อยไปที่

หน้าของเขา

องครักษ์อีกคนหนึ่งหนีไปนานแล้ว ที่ขาของเขายังมีแมงป่อง อีกสองตัว ไต่เข้าไปในกางเกงของเขา

เมื่อได้ยินเสียงร้องโวยวาย องครักษ์อีกสองคนจึงชักดาบ แล้วฟันไปที่งูที่กัดองครักษ์คนนั้น แล้วก็ดูดพิษออกให้แก่พวก เขา ภายในห้องก็มีเสียงกรีดร้องด้วยความกลัวของหลานชิวหยุ
องครักษ์ องคนรีบไปในทันที

ประตูห้องถูกพังเข้าไป ในแสงสลัวก็มองเห็นหลานซิวหยุนนั่ง ขดตัวอยู่ที่มุมเตียง ห่อตัวด้วยผ้าห่มอย่างแน่นหนา แล้วพูดไม่

หยุดว่า:

ไม่นาน ไฟในจวนแม่ทัพก็ถูกจุดสว่างขึ้น หลานเฉินและนิ่ง ซื้อที่ยังอยู่ในชุดนอนก็วิ่งมาที่ลานของหลานชิวหยุนอย่างเร่งรีบ คนหนึ่งใบหน้าเต็มไปด้วยความสง่างาม ส่วนอีกคน ใบหน้าเต็ม ไปด้วยความกังวล

แต่เมื่อเห็นหลานชิวหยุนแล้ว หลานเฉินก็รู้สึกโกรธเป็น

อย่างมาก

เพราะหลานชิวหยุนที่กำลังอยู่ในอาการตกใจกลัวอย่างมาก กำลังกอดองครักษ์คนหนึ่งอยู่ แม้แต่เท้าเหยียบอยู่บนเท้าของ องครักษ์ มัวแต่กลัวงูจะมากัดตนเอง จนลืมดูว่าเสื้อผ้าของตัวเอง หลุดลุ่ยอยู่

ทันทีที่เห็นเรื่องไม่เหมาะสมก็รีบดึงตัวหลานซิวหยุนมาอยู่ ข้างๆตัวเอง แล้วจึงจัดเสื้อผ้าของนางให้เรียบร้อย

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?
หลานเฉินเหยียบแมงปองที่เพิ่งจะคลานเข้าไปตัวหนึ่ง แล้ว จึงถามด้วยน้ำเสียงดุดัน

ในบ้าน มีงูหลายตัวถูกฆ่าตายแล้ว ส่วนนอกบ้านโดยรอบ เต็มไปด้วยงูพิษ แมงป่อง และคางคก

ในเมื่อมีคนกล้าปล่อยสัตว์มีพิษเข้ามาในจานของเขา ถ้าหาก รู้ว่าเป็นใครล่ะก็ เขาจะลงมือฆ่าคนผู้นั้นด้วยตัวเอง เพื่อระบาย ความแค้น

“ท่านพ่อ จะต้องเป็นนังสารเลวหลานเยาเยา ต้องเป็นนาง ปล่อยเข้ามาแน่ๆ ฮือๆๆ……

หลานชิวหยุนน้ำตานองหน้า มองไปยังหลานเงินด้วย ใบหน้าซีดเผือด

“หลานเยาเยา?”

หลานเฉินกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ในแววตามีความมุ่ง มั่นที่จะฆ่า ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าสัตว์มีพิษมากมายขนาดนี้ หลาน เยาเขาคงไม่มีทางที่จะทำเรื่องนี้ไหว

แต่ตอนนี้เขากำลังไม่พอใจ จึงต้องหาใครสักคนมาระบาย

อารมณ์กระมัง?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ