หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 11 สัมผัสสังหาร



บทที่ 11 สัมผัสสังหาร

ท่านหานรู้สึกว่านี่เป็นปัญหาอย่างหนึ่ง จึงได้หยิบยกขึ้นมาพูด

“เรื่องนี้ง่ายมาก ก่อนจะเริ่มการประมูล ข้าจะเป็นคนอธิบาย ให้ฟังว่า ผู้ที่สามารถชนะการประมูล ข้าจะเป็นผู้ตั้งรหัสลายนิ้ว มือให้กับเขา นอกจากเขาแล้ว แม้แต่ช้าก็ไม่สามารถเปิดออก ได้”

หลานเขาเขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย แต่กลับทำให้ดวงตา ของผู้จัดการร้านเป็นประกาย

ถึงแม้จะมีบางอย่างที่เขาฟังไม่ค่อยเข้าใจ แต่โดยรวมแล้วก็ พอจะเข้าใจได้ จริงๆแล้วสิ่งที่นางถามไปนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เป็น ปัญหาเลย

อีกทั้งในความรู้สึกลึกๆแล้ว ยังรู้สึกหลานเขาเขาจะต้องเป็น คนที่โดดเด่นอย่างแน่นอน

“ถ้าอย่างนั้นตกลงตามนี้

ขณะที่ท่านหานกําลังจะเดินออกไป เสียงอันไพเราะของหลาน เยาเขาก็พูดขึ้นว่า “รบกวนท่านช่วยเตรียมหมวกผ้าคลุมให้ข้า สักหนึ่งใบ

ถึงแม้ว่าจะมีหลายคนในร้านประมูลเงินตู เคยเห็นใบหน้าของ นาง แต่นั่นเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น เพราะนางเข้าใจถึงหลัก การข้อหนึ่งว่า ผู้ที่โดดเด่นเกินไปมักจะนำภัยมาสู่ตัว
ดังนั้น!

นางจึงไม่อยากให้ใครเห็นตัวตนที่แท้จริงของนางมากเกินไป

ท่านทานพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ไม่นานก็ให้คนน่าหมวก ผ้าคลุมมาให้ และยังฝากชุดกระโปรงมาให้อีกหนึ่งชุด

หลานเยาเยารู้สึกเลื่อมใสในวิสัยทัศน์ของท่านทานมาก

เพราะจริงๆแล้วหมวกผ้าคลุมกับงอบ มีลักษณะ ที่ใกล้เคียงกัน มีปีกหมวกกางออกคลุมทั้งสี่ด้าน ภายใต้ปีกหมวกเย็บด้วยผ้า บางสีชมพู คลุมยาวลงมาจนถึงเอว เหมาะแก่การอำพราง ใบหน้า อีกทั้งรูปแบบของชุดกระโปรงก็ไม่ซับซ้อน เมื่อใส่ร่วม กับหมวกแล้วช่างดูเข้ากันอย่างมาก อีกทั้งการสวมใส่ก็ไม่ยุ่ง

ยาก

นางชอบชุดที่ไม่ยุ่งยากเช่นนี้

ดังนั้นนางจึงแอบรู้สึกชื่นชมท่านหานอย่างมาก

เมื่อแต่งตัวเสร็จ ก็เริ่มการประมูลอย่างรวดเร็ว

วันนี้ของที่จะใช้ประมูลมีทั้งสิ้นแปดชิ้น ของทุกชิ้นล้วนแต่มี ราคาสูงและหายาก ของเหล่านั้นค่อยๆถูกประมูลออกไปทีละชิ้น บางชิ้นมีราคาประมูลหลายแสนเหรียญเงิน

เหรียญเงินมากมายขนาดนั้น ทำให้หลานเขาเขารับอย่างไม่ หวาดไม่ไหว

เป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง
เมื่อสิ้นเสียงเคาะค้อนประมูลครั้งสุดท้ายของ ผู้ควบคุมการ ประมูล ของขั้นสุดท้ายก็ถูกประมูลออกไป มีผู้ร่วมประมูลหลาย คนที่พลาดการประมูลกำลังเตรียมตัวกลับ

ถึงตอนนี้!

ท่านหานได้เดินขึ้นไปบนแท่นประมูลอย่างสง่างาม ใช้มือลูบ เคราอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วพูดด้วยท่าทีที่ยิ้มแย้ม

“ช้าก่อนแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ของที่เราเตรียมไว้สำหรับการ ประมูลทั้งแปดชิ้น ได้ถูกประมูลไปหมดแล้ว แต่วันนี้ เพื่อที่จะให้ ทุกท่านได้เห็นเป็นบุญตา ทางร้านประมูลของเราได้เตรียมสมบัติ ลึกลับหายากอีกชั้นหนึ่ง ไว้ให้แก่ผู้ร่วมประมูลทุกท่าน

หลังจากนั้น ท่านหานก็กล่าวนำเสนอกล่องพยาบาลอย่างน่า สนใจ และทำให้ดูลึกลับน่าค้นหา เมื่อดึงดูดความสนใจของ เหล่านักประมูลได้แล้ว จึงให้หลานเขาเขานำกล่องพยาบาลออก มา

“ตอนนี้เราจะนำสมบัติหายากออกมาให้ทุกท่านได้ชมเป็นบุญ

ตา”

เมื่อท่านหานพูดจบ ก็มีหญิงสาวถือถาดวางของประมูลออก มา นางแต่งกายด้วยชุดผ้าโปร่งสีขาว เผยให้เห็นรูปร่างอัน สวยงามที่ซ่อนอยู่ภายใน

ผ้าคลุมหน้าบางเบาคล้ายดั่งหมอกจางๆ ยิ่งทำให้ดูลึกลับน่า ค้นหา ทำให้เข้าใจผิดได้ว่าเป็นนางฟ้าที่ลงมาจากสรวงสวรรค์
งาน ช่างงามจริงๆ

และแน่นอน หญิงผู้นี้คือ ผู้ที่ใครหลายๆคนไม่เคยเห็นใบหน้า

ที่แท้จริงของนาง

หลานเยาเยา

เพียงแค่ถือกระเป๋าพยาบาลคลุมด้วยผ้าไหมออกมา ก็ถูกจับ จ้องด้วยสายตานับไม่ถ้วน

นางกำลังจะส่งยิ้ม แต่ทันใดนั้น สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปอย่าง

กะทันหัน

มีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองนาง ราวกับว่าจะมองทะลุเข้าไป ในกระดูก ทำให้นางรู้สึกเย็นวาบไปทั่วแผ่นหลัง อีกทั้งนางยัง รู้สึกถึงแรงสังหารบางอย่างที่อธิบายไม่ถูก

เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง กลับมองหาที่มาของสายตาคู่นั้นไม่เจอ

แต่ยิ่งรู้สึกว่า ดวงตาคู่นั้นมองมาด้วยความโกรธแค้นมากขึ้น

เป็นสายตาที่เหมือนกับว่ากำลังจ้องมองดูเหยื่อ ทำให้นางรู้สึกไม่ สบายใจอย่างยิ่ง นางเดินขึ้นไปบนแท่นประมูล ใช้มือสัมผัสที่กระเป๋าพยาบาล แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากนั้น จึงให้ผู้ร่วมประมูลขึ้นมาสัมผัส

กระเป๋าพยาบาล กลับมีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นทันที

ทําให้ทุกคนประหลาดใจเป็นอย่างมาก

หลังจากนั้น หลานเขาเขาก็กดปุ่มบนกระเป๋า กระเป๋าพยาบาล ก็เปิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
บางคนรู้สึกตกตะลึงจนยืนขึ้นอย่างไม่รู้ตัว บางคนก็กล่าวว่า มันช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ

ในที่สุด หลานเขาเยาพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลชวนฟังว่า

“เมื่อของชิ้นนี้ถูกประมูลเรียบร้อย ข้าจะเป็นผู้ตั้งรหัสลายนิ้ว มือ ให้แก่ผู้ที่ประมูลได้ด้วยตนเอง และของชิ้นนี้ ก็จะกลายเป็น ของเขาผู้นั้นแต่เพียงผู้เดียว แม้แต่ตัวข้าเอง ก็จะไม่สามารถเปิด มันออกได้อีก ขอให้ทุกท่านร่วมประมูลด้วยความสบายใจ

พูดจบ!

นางรีบลงจากแท่นประมูลอย่างรวดเร็ว แต่กว่าที่จะกลับถึง ห้องส่วนตัว การประมูลก็เริ่มขึ้นก่อนแล้ว

“ห้าพันเหรียญเงิน!”

“หนึ่งหมื่นเหรียญเงิน!”

“สี่หมิ่นเหรียญเงิน!”

การประมูลเป็นไปอย่างดุเดือด จนหลานเขาเขา ลืมความรู้สึก ที่สัมผัสถึงแรงอาฆาตเมื่อก่อนหน้านี้จนสิ้น ตอนนี้กำลังใจจดใจ จ่ออยู่ที่เหรียญเงิน

บนโลกกว้างใหญ่นี้ เงินคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

โอ้สวรรค์!
นางกำลังจะรวยขึ้นในชั่วข้ามคืน

เพียงไม่นาน ราคาประมูลก็ขึ้นสูงถึงเก้าแสนเหรียญเงิน แต่ยัง มีผู้ประมูลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย

ถึงตอนนี้!!

มีเสียงที่ฟังดูนุ่มนวลเสียงหนึ่งพูดขึ้นว่า “หนึ่งล้านเหรียญ

ทองคํา”

พอได้ยินคำว่าทองคำ ดวงตาของหลานเยาเยาก็ลุกวาวเป็น ประกาย เกิดความอยากได้ใคร่มีขึ้นมา ภายหลังจึงเข้าไปยัง ระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ เพื่อหาว่ายังพอมีสิ่งของอะไรที่จะ น่ามาขายได้อีกบ้าง

แต่ว่า……

เสียงที่นุ่มนวลนั้นไม่ใช่เสียงขององค์ชายหรอกหรือ

แท้จริงแล้ว เขาก็ร่ำรวยไม่เบา

ปกติแล้วจะไม่ค่อยเผยตัว แต่เมื่อเผยตัวกลับทําให้ตกตะลึง ทำให้อยู่ดีๆบรรยากาศในการประมูลเงียบลงทันที

สิ่งที่องค์ชายเขียวต้องการ ต่อให้พวกเขาอยากได้ขนาดไหน ก็ต้องอดใจไว้ เพราะในที่สุด ไม่ว่าจะเรื่องเงินและเรื่องอำนาจ ไม่สามารถสู้ได้

“หนึ่งล้านเหรียญทองคำครั้งที่หนึ่ง

“หนึ่งล้านเหรียญทองคำครั้งที่สอง!”
“ห ง า …..”

ยังไม่ทันที่จะพูดจบ ผู้ควบคุมการประมูลก็เตรียมเงื้อมือทุบ

ค้อนปิดการประมูล

ทันใดนั้นเอง !

“มุกเย่หมิงหนึ่งเม็ด!” เป็นน้ำเสียงที่ดึงดูดใจ แต่ก็ฟังดูเย็นชา

เมื่อเสียงนี้ปรากฏขึ้น ทุกคนที่นั่งอยู่ก็รู้สึกเกิดความหวาดกลัว บรรยากาศเริ่มอึมครึม ไม่มีใครกล้าส่งเสียง เพราะกลัวว่าจะ เป็นการรบกวนมือสังหารคนใดเข้า

เสียงนี้………งคุ้นหูนัก

เป็นใครกัน?

เพียงแค่เสียงนี้ดังขึ้น ในใจของหลานเขาเขาก็รู้สึกสั่นไหว

ความกลัวเข้าครอบงำในจิตใจ นางลุกขึ้นยืนเพื่อมองหาที่มา

ของเสียง น

บนชั้นสอง ในห้องส่วนตัวฝั่งตรงข้าม มีผ้าม่านบางๆ กัน

บดบังสายตาของทุกคนอยู่

มุกเย่หมิง!

มุกเย่หมิงโบราณ เป็นสมบัติที่ประเมินค่ามิได้ ปกติจะมีเพียง ราชนิกุลชั้นสูงที่จะมีไว้ในครอบครอง อีกทั้งยังเป็นเครื่องแสดง

ถึงสถานะและตำแหน่งอีกด้วย

“ที่แท้คือท่านอ๋องเย่นี่เอง ไม่พบกันนานเลย!
เซียวจิ้นหยูยืนขึ้น แล้วหันหน้าไปโค้งคำนับทางห้องส่วนตัว

ของอ๋องเ

“อืม!”

เขาตอบกลับมาเพียงค่าเดียวสั้นๆ ดูเหมือนว่าการพูดเกินกว่า หนึ่งคำ สำหรับอ๋องเยู่แล้ว เป็นเรื่องที่ดูจะเป็นการสิ้นเปลือง

ทุกคนต่างไม่รู้สึกสงสัย เซียวจิ้นหยูเอง ก็ไม่ได้รู้สึกติดใจอะไร ดูเหมือนว่าจะชินกับความเย็นชา และไม่เห็นผู้อื่นอยู่ในสายตา เช่นนี้

“ในเมื่ออ๋องเย่ต้องการ กระหม่อมก็จำต้องตัดใจแล้ว!

ถึงแม้เขียวจิ้นหยูจะมีความสนใจในกระเป๋าพยาบาลอย่าง มาก และอยากได้มาครอบครอง แต่ก็รู้ว่าตนเองไม่สามารถเอา ชนะอ๋องเย่ได้ และไม่อยากยั่วโมโหเขา จึงเลือกที่จะยอมแพ้

“มาก!”

อ๋องเป?

ใช่ท่านอ๋องที่ถูกขนานนามว่า เป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม

เปล่า?

หลานเยาเขารู้สึกมีลางสังหรณ์ในใจ

แม้แต่องค์ชายเขียวยังไม่กล้าต่อกรด้วย คนอื่นก็ยังไม่กล้า เช่นกัน กระเป๋าพยาบาลจึงถูกต้องแย่ประมูลไปด้วยมุกเข่หมิง หนึ่งเม็ด
การประมูลสิ้นสุดลง ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับ

หลานเขาเขาเหมือนลูกบอลที่หมดลม ฟุบลงไปบนโต๊ะอย่าง ไร้เรี่ยวแรง ยกหัวไม่ขึ้น

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก……

“แม่นาง เจ้า กระเป๋าพยาบาลไปที่ห้องส่วนตัวของฮ่องเต้ แล้ว หลังจากเสร็จสิ้น อ๋องเก็จะมอบมุกเย่หญิงเพิ่มให้แก่เจ้า ท่านทานยืนพูดอยู่ด้านนอกด้วยท่าทีชอบกล


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ