บทที่ 5 ขึ้นเวที
บทที่ 5 ขึ้นเวที
คนนั้นสีหน้าเฉยชา ดวงตาที่คมราวกับเหยี่ยวถึงแม้จะดู การแสดงบนเวที แต่กลับเฉยชาจนไม่มีความรู้สึกใดๆ
ผู้ชายคนนี้ ความรู้สึกที่ให้เมื่อเทียบกับอ๋องฉีนั้น แตก ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ผู้ชายคนนี้ ไม่ธรรมดา!
หยุนเชียนซีทันคิดได้แค่นี้ ก็โดนแม่เล้าพาไปแล้ว เข้าไปหลังเวทีเตรียมตัวแสดง
“ฝูหรุง วันนี้เจ้าห้ามผิดเชียวนะ องค์รัชทายาทและอ๋อง ฉีต่างก็ดูอยู่ หลังจากที่เล่นพิณแล้วก็รำอีกหนึ่งเพลง เจ้า ซ้อมมาดีแล้วนะ?”
ไปถึงหลังเวที หยุนเชียนซีก็เริ่มมึน เรื่องพิณหมากล้อม พู่กันและวาดรูปนั้น บังเอิญมาก นางไม่เป็นสักอย่าง
ได้ยินคำพูดของแม่เล้า หยุนเชียนซีอึ้งเล็กน้อย ไม่ได้ตอบ
“ข้ารู้ข้ารู้ ข้าไม่พูดมาก เจ้าทำมาดีโดยตลอด” แม่เล้า ยิ้ม แล้วตบเบาๆ ที่ไหล่ของหยุนเชียนซี จากนั้นก็เดินจาก ไปด้วยรอยยิ้ม
หยุนเชียนซีมองหญิงสาวที่อยู่รอบๆ มีคนเล่นพิณ มี
คนเต้นรำ นางถึงค้นพบว่านางโลมนั้น เป็นยากมาก การ
แสดงนี้? แสดงการฆ่าคนได้หรือไม่? พวกการศึกษาต่างๆ หยุนเชียนซีไม่ถนัดจริงๆ จะทำ
อย่างไรดี?
“ท่านพี่ฝูหรุง ยังมีเวลาอีกสักพักท่านก็ต้องขึ้นไปแล้ว คืนนี้เจ้าเป็นผู้โชคดี คืนแรกของเจ้า ต้องเป็นอ๋องฉี แน่นอน” หญิงสาวชุดสีม่วงเดินเข้ามา แล้วจับมือของหยุ นเชียนซีด้วยความอ่อนโยน
ถึงในคำพูดของนางเต็มไปด้วยความหวังดี แต่แวว ตากลับโหดร้าย
หยุนเชียนซีดึงมือออก แล้วยิ้มอย่างเย็นชา ในโรงโลมนี้ ก็แก่งแย่งชิงดีเหมือนกัน
หยุนเชียนซีไม่สนใจหญิงสาวชุดสีม่วงนั้น นางเดินไป ทางพิณเก่าแก่ คิดอยู่ว่ามาฝึกตอนนี้ทันหรือไม่?
พอวางนิ้วมือลงไปบนพิณ กลับรู้สึกมีความคุ้นเคยความรู้สึกนั้นยังไม่ทันได้คิดอะไรมาก เพลงที่โศกเศร้า นั้นก็ถูกดีดออกมาจากนิ้วของนาง
หยุนเชียนซียิ้มด้วยความเข้าใจ นางลืมไปเอง หยุนเชีย นซีคนเก่านี้ดีดพิณเป็น ถึงจวนเฉิงเซี่ยงจะไม่ได้ดีกับนาง นัก แต่ก่อนที่นางอายุจะสิบขวบ สิ่งที่หญิงสาวควรเรียน นางก็เคยเรียนพร้อมกับหลินเซอร์เฟยอยู่สองสามปี
ตอนนี้นางสามารถดีดพิณได้นั้น ก็เป็นเพียงความทรงจำ ในสมองก็เท่านั้น
ก็ดี จะได้ผ่านได้ง่าย
หากเป็นไปได้ สามารถตีองค์รัชทายาทอยู่ใต้เวทีได้นั้น ดีที่สุด! ถึงเรื่องนี้จะมีความยากเล็กน้อย
หยุนเชียนซีในตอนนี้ เกลียดองค์รัชทายาทมาก หาก ไม่ใช่เพราะกอดนั้นของเขา หยุนเชียนซีจะโดนเฆี่ยนจน ตายได้อย่างไร? หากเปลี่ยนมุมมองกัน หากไม่ใช่เพราะ องค์รัชทายาท หยุนเชียนซีก็คงไม่ตาย ถ้าไม่ตาย นางจะ ใช้ร่างกายนี้เกิดใหม่ได้อย่างไร?
เอาเถอะ เรื่องพวกนี้ ค่อนข้างจะซับซ้อน
นางคิดง่ายๆ แล้วกัน นางเกลียดโท่ป่าเล่ที่สมควรตายนั่นก็พอ
“ฝูหรุง ถึงเจ้าขึ้นเวทีแล้ว” มีคนมาเรียกนางอยู่ด้านข้าง หยุนเชียนซีเห็นได้ชัดว่ายังไม่คุ้นชินกับชื่อนี้ สักพักถึง ได้สติ ตอนนี้นางคือฝูหรุง
หยุนเชียนซียกพิณขึ้น แล้วเดินด้วยฝีเท้าที่สง่า เดินขึ้น ไปบนเวทีละก้าว
นางที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุม หาวด้วยความน่าเบื่อ จริงๆแล้ว นางรู้สึกเบื่อมาก ถึงได้มาทำเรื่องเช่นนี้ หากเป็นเมื่อก่อน ต้องทําให้คนทั้งวงการมาเฟียหัวเราะจนฟันร่วงแน่ นาง เป็นถึง king เป็นking ที่ทำให้คนทั้งวงการมาเฟียเกรง กลัว แต่ตอนนี้กลับมาปลอมตัวเป็นนางโลม ไปแสดงเพื่อ สร้างความบันเทิงให้ผู้อื่น
โถ่วโถ่ว ช่างไม่เอาไหนเลยจริงๆ!
ไม่เอาไหนก็ไม่เอาไหนสิ ยังไงก็ดีกว่านั่งอยู่ในลานบ้าน หวั่นเสี้ยรอให้คนมาทำร้าย ตอนนี้นางอ่อนแอเกินไป มี เพียงแข็งแกร่งเท่านั้น ถึงจะปกป้องตนเองได้ และการ แข็งแกร่งนี้ ก็ต้องเริ่มจาก ทำความรู้จักศัตรูก่อน!
หยุนเชียนซีแอบเพิ่มโทป่าเล่เข้าในบัญชีศัตรูของนาง
หยุนเชียนซีกอดพิณด้วยความช้า ในที่สุดก็ขึ้นเวทีด้านล่างนั้น มีผู้ชายที่อายุหลากหลายนั่งเต็มไปหมด เห็น นางออกมา ก็ฮือฮากันใหญ่
นางโลมฝูหรุงผู้นี้ ได้ข่าวว่าเป็นนางโลมงดงามที่โรงหมั่น เย่วเลี้ยงดูมาสิบปี มีความสามารถในการบำเรอที่เก่งกาจ อย่างไรก็ตาม นางเป็นเทพหญิงที่สร้างมาเพื่อผู้ชายโดย เฉพาะ!
ผ้าปิดหน้าที่ลึกลับ ทำให้ผู้ชายพวกนี้เริ่มสนใจ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความรู้สึกส่วนตัวของหยุนเชียนซีหรือ เปล่า วินาทีที่นางเดินขึ้นเวที นางเห็นได้ชัดเจนว่าโทป่าเล่ ที่นั่งอยู่ด้านล่างนั้นขมวดคิ้วเล็กน้อย
ทําไมหรือ เขาดูออกแล้วหรือ?
แต่ว่าพอมองไปทางโทป่าเล่อีกครั้ง เขาก็ยังคงอยู่ใน ใบหน้าที่เย็นชานั้น เหมือนเมื่อครู่นั้นไม่ได้ขมวดคิ้วเลย
หยุนเชียนซีเริ่มระแวง นางไม่กลัวโดนโทป๋าเล่ดูออก ถ้า ดูออกก็ยิ่งดี ให้เขาเครียดตาย! แต่ว่า อยู่ต่อหน้าผู้ชาย คนนี้ ระมัดระวังหน่อยจะดีกว่า เกรงว่าหลังจากทำเขา โมโห น ยังไม่ทันได้หนี ก็เสียชีวิตไปแล้ว
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วยาม หยุนเชียนซีเหมือนได้ลิ้มรสของ คำว่าทำตัวเอง แน่นอน นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนี้หนึ่งชั่วยาม
“ข้าน้อย หรุง ขอเล่นเพลงให้พวกคุณชายหนึ่งเพลง เจ้าค่ะ” หยุนเชียนซีเหลือกตาขาวพร้อมกับใช้ความ รุนแรงอย่างวู่วาม นางทำความเคารพต่อหน้าทุกคน จาก นั้นก็นั่งลง แล้ววางมือลงบนพิณ แล้วดีดพิณเลย
พวกชายหนุ่มที่อยู่ด้านล่างนั้น เพียงเพราะคำพูดนี้ ต่าง ก็อ่อนตัวกันไปหมดเลย
ถึงจะมองไม่เห็นว่าหญิงสาวบนเวทีหน้าตาเป็นอย่างไร แต่หุ่นของนาง และดวงตาโตที่อยู่นอกผ้าคลุมนั้นสวย งดงามมาก มีบุคลิกผู้ดีที่สูงส่ง และความอ่อนโยนนั้น หลอมรวมอยู่ในร่างเดียวกัน งดงามมาก
ภายใต้ผ้านี้ จะมีใบหน้าที่งดงามแบบไหนกันนะ!
เสียงพิณดังขึ้น แล้วค่อยๆ กระจายไปทั่ว เสียงพิณนั้น โศกเศร้า ราวกับร้องไห้ เหมือนคนรักกำลังพูดเบาๆ เบา ยิ่งกว่าดอกไม้ร่วง เหมือนดึงผ้าออกมายาวๆ และเหมือน น้ำที่ไหลด้วยความเศร้าหมอง
พิณนี้ ดีดได้ดีมากนัก
แต่ว่า สถานการณ์ช่างไม่เหมาะนัก!
คนที่อยู่ใต้เวทีหลายคนเริ่มขมวดคิ้ว แม่เล้าที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าแย่มาก จ้องมองหยุนเชียนซีที่อยู่บนเวทีด้วยความ โหดร้าย แล้วด่าทอ “นางบ้า เจ้าดีดพิณอะไรกัน”
อยู่ที่โรงโลมนั้นมาหาความสุข ใครเขาอยากจะฟังเพลง เศร้าที่เหมือนพ่อแม่ตายล่ะ!
หยุนเชียนซีเองก็เหมือนจะรู้ตัว แต่ในความทรงจําของ นาง นางดีดเป็นเพียงเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าหยุน เชียนซีในอดีตนั้นมีความรู้สึกเช่นนี้ จึงไม่ฝึกพวกพิณที่ สนุกสนานเลย กลับฝึกเพลงที่โศกเศร้าเช่นนี้
นางขมวดคิ้วเล็กน้อย กำลังคิดอยู่ว่าไม่เหมาะสมมาก จะหยุดดีไหม ทันใดนั้นก็มีเงาสีฟ้า กระโดดขึ้นเวที
“คนสวย เหตุใดจึงโศกเศร้าถึงเพียงนี้? ให้ข้าดูหน่อย สิ…” เสียงที่อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยความล้อเล่นดังขึ้น ข้างหูของหยุนเชียนซี จากนั้นเสียงพิณก็หยุดชะงักใน ทันที
เพราะว่า โทป๋าหวู่กอดหยุนเชียนซีเบาๆ มือของเขานั้น อยู่ละแวกใบหูที่ใส่ผ้าปิดหน้าไว้
ในแววตาของหยุนเชียนซีต่อต้านเล็กน้อย ฝ่ามือใหญ่ ที่กอดเอวของนางและใบหน้าของผู้ชายที่เข้าใกล้นั้น ทำให้นางรู้สึกต่อต้านทั้งสิ้น
การกระทําของโทป่าหวู่ซะงัก เห็นได้ชัดว่าโดนความต่อ ต้านนั้นทำร้ายเล็กน้อย แต่ไม่ช้า เขาก็เปลี่ยนเป็นใบหน้า ที่ยิ้มแย้ม และท่าทางที่จะหยิบผ้าปิดหน้าออกนั้นไม่ได้ หยุด
ผ้าปิดหน้าถูกเปิดออก เผยให้เห็นถึงใบหน้าของหยุน เขียนชื
ด้วยความที่หยุนเขียนซีเป็นคนที่งดงามอยู่แล้ว แถมวัน นี้ยังแต่งหน้าเล็กน้อย ก็ยิ่งเผยให้เห็นถึงความสวยงาม เพิ่มขึ้น
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ