หมอยาร้อยพิษ

บทที่ 1 โลกปัจจุบันที่ต่างภพ



บทที่ 1 โลกปัจจุบันที่ต่างภพ

บทที่ 1 โลกปัจจุบันที่ต่างภพ

ศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด

ประตูหน้าวิลล่าสุดหรูบนยอดเขาแห่งหนึ่ง รถนายทหาร ยศสูงจอดลงด้วยความเร็ว หลังจากที่ประตูรถถูกเปิด ออก ผู้ชายหลายนายใส่เสื้อสูทสีดำพร้อมแว่นกันแดด ค่าเดินลงจากรถด้วยความเร็ว ยกเปลออกมาจากด้าน ใน ผู้ชายที่นอนอยู่บนเปลนั้นศีรษะเต็มไปด้วยเลือด มีลม หายใจที่ค่อนข้างอ่อนแรง

ผู้ชายพวกนั้นยืนอยู่หน้าประตูวิลล่าอย่างเป็นระเบียบ ไม่กล้าส่งเสียงดังเลยแม้แต่น้อย เขาเก็บบุคลิกมาเฟีย ของตนเอง แล้วก้มหัวลงเก้าสิบองศา พูดพร้อมกัน “ท่าน king ได้โปรดช่วยหัวหน้าของพวกผมด้วยครับ!”

สถานการณ์และบรรยากาศแบบนี้ หากโดนผู้คนรู้เข้า ต้องอึ้งทึ่งอย่างแน่นอน แล้วอึ้งทึ่งซ้ำอีกรอบ!

เพราะว่าผู้ชายที่อยู่ในเหตุการณ์พวกนี้ ต่างเป็นมาเฟีย อันดับต้นๆ ในวงการมืด ต่างก็เป็นผู้ที่หน้ามือเรียกฝนหลัง มือเรียกเมฆได้ กลับมีคนสามารถทำให้คนพวกนี้มายืน อยู่หน้าประตูบ้านผู้อื่นแล้วยังมีมารยาทแบบนี้
หลังจากที่ความเงียบปกคลุมอยู่นานแสนนาน ประตู วิลล่าจึงถูกเปิดออก เสียง แคร่ก เปิดออกโดยอัตโนมัติ

ผู้ชายต่างก็โล่งอกในเวลาเดียวกัน วันนี้ king คงจะ อารมณ์ดีสินะ พวกเขารีบยกเปลขึ้น แล้วเข้าไปในประตู ด้วยความเร็ว เดินเข้าไปตามทางเดินยาว แต่ละก้าวล้วน เดินด้วยความระมัดระวัง

เป็นเพียงเพราะว่า ในวิลล่านี้มีหญิงสาวผู้หนึ่งที่มาเฟีย ทั้งวงการมืดต่างก็เกรงกลัว

ฝีมือทางการแพทย์ไม่ว่าจะด้านวิทยาศาสตร์หรือด้าน แผนโบราณนั้นเชี่ยวชาญถึงที่สุด มีแต่คนที่ไม่อยากช่วย ไม่มีทางมีคนที่ช่วยไว้ไม่ได้! ถึงจะชมว่า king ผู้นี้เป็น อันดับหนึ่งของวงการแพทย์ก็ไม่ถือว่าพูดเกินไป!

และสิ่งที่ทำให้ทุกคนขนลุกไปกว่านั้นคือ เมื่อเทียบกับ วิชาการแพทย์รักษาคนแล้ว ผู้หญิงคนนี้ชอบศึกษายา พิษมากกว่า สิ่งที่เธอชอบนั้นไม่ใช่การทดลองยาพิษ แต่เป็นการทํายาพิษออกมาจากพวกสมุนไพรและพืช ธรรมชาติด้วยวิธีที่เก่าแก่ที่สุด

ยาพิษพวกนั้น ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหน ก็สามารถทำให้ คนตายไปในพริบตาได้

ผู้หญิงที่เก่งทั้งการแพทย์และด้านอสรพิษแบบนี้ แล้วยังมีอาชีพที่ทําให้คนตกใจไม่น้อย——นักฆ่า นักฆ่าแบบนี้ ผู้หญิงแบบนี้ เพียงพอที่จะทำให้พวกมาเฟียทั้งหลายเกรง กลัว

เพราะว่าอยากฆ่า แต่ฆ่าไม่ได้ อยู่ในยุคที่สมองผูกไว้ที่ เอวนั้น ไม่มีใครกล้ามามีเรื่องกับผู้หญิงคนนี้หรอก

พวกผู้ชายเดินไปหลายนาที ในที่สุดก็เดินมาถึงจุดสิ้น

สุดของทางเดิน เห็นผู้หญิงที่เลื่องลือคนนี้——ทำให้พวก

เขาแปลกใจมาก ความรู้สึกแรกพบ

ผู้หญิงคนนี้ปล่อยผมลอนยาวของเธอยุ่งไปมา ใน ปากกัดแอปเปิลไว้ครึ่งลูก ใส่ชุดนอนที่ผิดด้าน ใบหน้า สวยงามน่ารัก กำลังศึกษาระเบิดลูกเล็กที่อยู่บนโต๊ะ เป็น ระเบิดทรงเล็ก น่ารัก ที่ทำให้เหมือนรูปทรงแอปเปิล

เขาว่ากันว่า king ชอบคิดค้นระเบิด คงจะเป็นเรื่องจริง

“เข้ามาสิ” หยุนเชียนซี ก็คือผู้หญิงที่ถูกเรียกว่า king หาวด้วยความขี้เกียจ เก็บระเบิดลูกเล็กนั้นและแอปเปิล ที่ทานไปครึ่งลูกเข้ากระเป๋า กดปุ่มบางอย่างที่อยู่บนโต๊ะ กำแพงด้านหลังของเธอถูกเปิดออกเป็นสองข้าง เผยให้ เห็นถึงห้องผ่าตัดที่ใหญ่มหาศาลและเครื่องมือครบครัน

พวกผู้ชายรีบยกหัวหน้าของพวกเขาเข้าไป จากนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ พวกเขาไม่มีทางลืมทั้งชีวิต โอ๊ย ทั้ง ชีวิตของพวกเขา ก็คง ยาวนานแค่นี้แหละ

หยุนเชียนซีหยิบมีดผ่าตัดขึ้น ผ่าไปทางขวา มีดผ่าตัด หมุนอยู่ในอากาศเป็นมุมที่สวยงาม จากนั้นเสียงจิ๊ก แทง เข้าไปในหัวกะโหลกของผู้ชายคนนั้น

พวกผู้ชายที่อยู่ข้างๆ ตกใจจนขาอ่อน ฟันสั่นไปหมด นี่king จะฆ่าหัวหน้าพวกเขาเหรอ?

หยุนเชียนซีผ่ากะโหลกออกอย่างง่ายดาย มีดของเธอ แทงไปมาด้วยความเร็ว มีดหนึ่งตามด้วยมีดหนึ่ง ไม่คิด ไม่ลังเล เคลื่อนไหวไปมาด้วยความเร็ว…..

ผ่านไปเพียงไม่กี่ยาที หยุนเชียนซีก็เอากระสุนที่อยู่ใน สมองออกมาหมดแล้ว ตามด้วยเย็บด้วยความเร็ว ทุก อย่างดูเพอร์เฟค

จากนั้น หยุนเชียนซีก็ยิ้ม แล้วหยิบแอปเปิลออกมาจาก กระเป๋า แล้วกัด…….

“แม่มึงดิ จะฆ่า……” พวกผู้ชายมองพฤติกรรมของหยุ นเชียนซีด้วยความอึ้ง ยังไม่ทันได้ตะโกนออกมา ห้อง ผ่าตัดก็โดนระเบิดดังตุ้ม

อันที่หยุนเชียนซีกินนั้น เป็นระเบิดเล็กที่ใส่เข้าไปในกระเป๋าเมื่อกี้ ในตอนที่เธอกัด บังเอิญ กัดโดนปุ่มเปิดปิด พอดี หลังจากนั้น ทุกคนยังไม่ทันได้รู้ตัว ทั้งห้องผ่าตัดก็ โดนระเบิด คนทั้งห้อง โดนระเบิดจนกลายเป็นขี้เถ้า

King ที่เลื่องลือ ตายง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ!

ถ้าหยุนเชียนซียังมีเวลาทันที่จะพูดอะไรบางอย่าง เธอ คงอยากจะพูดว่า “เชี่ย——”

แคว้นหนานฉี

ตำหนักร้างหลังจวนเฉิงเซี่ยง มีหญิงสาวโฉมงามอายุ ราวสิบหกสิบเจ็ด ใส่เสื้อผ้าลายห่านสีเหลืองยืนอยู่ แต่ ใบหน้ากลับมีสีหน้าที่กริ้วโกรธและโหดร้ายที่ไม่ค่อยเข้า กับโฉมงามนั้นนัก

หลินเซอร์เฟยสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ เอามือเท้า เอวแล้วยืนอยู่กลางสวน มีคนถือไม้อยู่ด้านหลังหกถึงเจ็ด คน

คนที่ยืนอยู่ตรงหน้านางนั้น เป็นหยุนเชียนซีที่สีหน้า ซีดเซียว ก้มหน้าตัวสั่นไม่กล้าพูดจาใดๆ

“นางแรด เจ้าพูดมาสิ เจ้าไปให้ท่าองค์รัชทายาทใช่หรือ ไม่!” หลินเซอร์เฟยจ้องหยุนเชียนซีด้วยความโอหังแล้วถามด้วยความโหดร้าย

“ท่านพี่ ให้ท่า ให้ท่าองค์รัชทายาท? ข้าเปล่านะ ข้าไม่ ได้ทำเจ้าค่ะ!” หยุนเชียนซีส่ายมือไปมาด้วยความรุน สีหน้าซีดขาว ดวงตามีน้ำตาไหลออกมาด้วยความน่า สงสาร

นางเปล่า นางไม่ได้ทำจริงๆ ทำไมท่านพี่ถึงต้องใส่ร้าย นาง….

“นางแรด!” หลินเซอร์เฟยไม่ฟังใดๆ นางยักคิ้ว ตามด้วย เตะแรงๆ ไปที่หน้าอกของหยุนเชียนซี

ร่างกายที่เล็กผอมของหยุนเชียนซีต้านไม่อยู่ จึงล้มลง กับพื้นด้วยความแรง กระโปรงสีชมพูที่เก่าและขาดของ นางโดนน้ำเน่าที่อยู่บนพื้น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา ทำให้นางดูแล้วน่าสมเพชยิ่งนัก

“ท่านพี่ ขอ ข้าขอร้องท่านปล่อยข้าไปเถอะเจ้าค่ะ…ข้า ไม่ได้ทำจริงๆ ท่านพี่…” หยุนเชียนซีกอดศีรษะ นอกจาก ขอร้อง ก็เหลือเพียงขอร้อง

“ตี ตีให้ตายซะ! ตีนางแรดที่หน้าไม่อายนี้ให้ตายไปเลย! เหอะ กล้าไปให้ท่าองค์รัชทายาท ถ้ย!” หลินเซอร์เฟยม องนางด้วยความเย็นชา แล้วยังถุยในนางอีก
พวกบ่าวไพร่หกถึงเจ็ดคนนั้นรีบรับคำสั่ง ในแววตามี ความเกลียดแค้น หยิบไม้และแส้ เข้าไปใกล้หยุนเชียนซี

“เซี๊ยะ——”

โดนเฆี่ยนแล้วเฆี่ยนอีก ตีแล้วตีอีก ลงไปแรงๆ ที่ร่างกาย อันอ่อนแอและไม่สามารถต่อต้านของหญิงสาว หญิง สาวที่โดนเฆี่ยนตีด้วยความรุนแรง นอกจากร้องไห้แล้ว ก็มีเพียงพูดประโยคเดิมซ้ำไปมา “ข้าไม่ได้ไปให้ท่าองค์ รัชทายาทนะเจ้าคะ ข้าเปล่า..…….

แส้และไม้ที่ไร้ความรู้สึกนั้น ตีลงไปแรงๆ บนร่างกาย ของนางด้วยแรงที่จะเอาให้ถึงตาย

“นางแรด นี่เป็นผลของการที่เจ้ากล้าไปให้ท่าองค์ รัชทายาท!” หลินเซอร์เฟยท่านิ้วจีบ แล้วหัวเราะ มองดูหยุ นเชียนซีที่ค่อยๆ ขาดลมหายใจ เสียงที่ขอชีวิตเริ่มอ่อน ลงไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีความใจอ่อนแม้แต่น้อย

ท้องฟ้าที่สดใสมืดมนทันที ตามด้วยฝนตกลงมาหนัก ราวกับว่ากำลังร้องไห้ให้กับหญิงสาวผู้นี้

หลินเซอร์เฟยขมวดคิ้ว มองดูฝนที่ตกกะทันหันด้วย ความเกลียด มองดูเสื้อผ้าที่เปียกเพราะฝน จึงรีบพาบ่าว ไพร่ออกไปจากตำหนักที่ร้างและเก่าแห่งนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ