หมอยาร้อยพิษ

บทที่ 6 สถานการณ์เช่นนี้



บทที่ 6 สถานการณ์เช่นนี้

บทที่ 6 สถานการณ์เช่นนี้

โทป้าหวู่หายใจขัดข้อง มองดูใบหน้าของหยุนเชียนซื ค้างจนลืมตัว

ในช่วงที่โทป่าหวู่อึ้งนั้น หยุนเชียนซีหมุนตัว แล้วออก จากอ้อมของเขา นางรีบเดินถอยหลัง รักษาระยะห่าง กับโทป่าหวู่ ในช่วงระหว่างนี้ ยังไม่ลืมหันไปมององค์ รัชทายาทโทป่าเล่หนึ่งที

เห็นเพียงในแววตาของเขามีความสงสัยเล็กน้อย จาก นั้นสิ่งที่มาแทนคือความอาฆาต!

วินาทีนี้ เขาอยากฆ่านาง!

หยุนเชียนซีทำเสียงเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นสูง มองกลับ ไปโดยไม่กลัวใดๆ นาง หยุนเชียนซี ไม่เคยกลัวอะไรทั้ง นั้น!

มองดูแววตาของโทป่าเล่ เหมือนเขายังดูไม่ออกว่านาง คือหยุนเชียนซี หรืออาจจะดูออกแล้ว แต่ก็ยังคงจะฆ่า? ดี มาก!

ปากที่บางของโท่ป่าเล่ยิ้มที่มุมปากเล็กๆ แววตาเหยี่ยวของเขามีความเย็นชา ราวกับกำลังพูดว่า: ดีมาก

มาก บ้าแกสิ!

ในระหว่างที่หยุนเชียนซีและโท่ป่าเล่จ้องกันไปมานั้น โท ป่าหวู่ที่อยู่ด้านข้างอ้าแขนที่ยาวออก แล้วกอดหยุนเชียน ซีเข้าอ้อม แล้วพูดเสียงดัง “คนสวย คืนนี้ ข้าต้องการเจ้า!”

“อะไรนะ?” หยุนเชียนซียักคิ้วเล็กน้อย แล้วหันไปมอง

โทป่าหวู่

“คนสวย ข้าบอกว่า ข้าต้องการ….คืนแรกของเจ้า” โท่ป่า หวู่หัวเราะเสียงดัง ยื่นมือไปจับที่คางของหยุนเชียนซี

หยุนเซียนซียักคิ้วแล้วยกมือขึ้นตบออก

แม่เล้าที่อยู่ด้านล่างมึนไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมฝูหรุงที่ อยู่บนเวทีพอดึงผ้าปิดหน้าออกนั้นกลับเปลี่ยนไปเป็นอีก คน ในช่วงที่ตกใจนั้น ได้ยินคำพูดของโทป่าหวู่ นางก็ยิ้ม ทันทีทันใด

ไม่เป็นไรไม่เป็นไร เพียงแค่มีคนต้องการ นางมีรายได้ก็ เพียงพอแล้ว!
“คุณชายเจ้าคะ แน่นอนเจ้าค่ะ ได้แน่นอนเจ้าค่ะ เพียง แต่ว่าราคานั้น….” แม่เล้ารีบเดินขึ้นบนเวทีด้วยรอยยิ้ม ถึง คนตรงหน้าจะเป็นท่านอ๋อง แต่เรื่องเงินนั้น ต้องพูดกันให้ ชัดเจน

“หนึ่งหมื่นตำลึง!” แม่เล้ายังไม่ทันพูดจบ ก็มีเสียงที่เย็น ชาดังขึ้น

หนึ่งหมื่นตาลีง สําหรับนางโลมแล้ว เป็นราคาที่สูงเทียบ ฟ้าเลยล่ะ ต้องรู้ว่าเงินก้อนนี้สามารถเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้าน ทั้งชีวิตเลยก็ว่าได้

เจ้าของเสียงนั้น กลับไม่ใช่โทป่าหวู่ แต่กลับเป็นคนที่นั่ง อยู่ด้านล่าง คนที่ไม่เงียบสงบ——องค์รัชทายาทโทป๋าเล่!

คิ้วที่สวยงามของโทป่าหวู่ขยับขมวดเล็กน้อย เพราะคิด ไม่ถึงว่าองค์รัชทายาทจะแย่งหญิงสาวกับเขา ถึงคนที่ แย่งกับเขาจะเป็นองค์รัชทายาท แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า อ๋องฉีอย่างเขาจะเกรงกลัว

“สองหมื่นตำลึง” โท่ป่าหวู่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ฝ่ามือใหญ่ยัง คงกอดไหล่ของหยุนเชียนซีไว้

ครั้งนี้สีหน้าของแม่เล้าเริ่มแย่
ถึงการหาเงินนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่คนที่แย่งกันนั้น กลับ เป็นอ๋องฉีกับองค์รัชทายาท นี่ นี่นางจะทำอย่างไรดี ยาก จริงๆ!

“สามหมื่นตำลึง” สีหน้าของโทป่าเล่ไม่ยิ้มเลยแม้แต่น้อย เวลาที่พูดนั้น แววตากลับจ้องมองหยุนเชียนซีอยู่

“ห้าหมื่นตำลึง” โทป่าหวู่ยังคงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แต่เห็น ได้ชัดว่าแววตาเปลี่ยนไป จ้องมองโท่ป่าเล่โดยไม่คิดจะ

ยอมใดๆ มือที่กอดไหล่ของหยุนเชียนซีก็แน่นมากขึ้น

หยุนเชียนซีขมวดคิ้ว เอามือใหญ่นั้นออกด้วยความ ลำบากเล็กน้อย “คุณทั้งสองเจ้าคะ ข้อขอพูดอะไรบาง อย่างได้ไหมเจ้าคะ?”

“พูด!”

“พูด!”

เสียงที่เข้มงวดทั้งสองดังขึ้นพร้อมกัน แล้วเพิ่มเติมคือ แววตาที่เร่าร้อนจากทั้งสองฝั่ง

หยุนเชียนซีไม่มีความกลัวใดๆ ยิ้มอย่างเฉยชา แล้วพูด เบาๆ “ข้า ไม่ ขาย!”
หลังจากที่พูดจบสามคำ หยุนเชียนซีก็หมุนตัวด้วย ความเร็ว แล้ว——วิ่งด้วยความคล่องแคล่ว!

โทป่าหวู่อยู่ใกล้มาก แต่กลับมองดูหยุนเชียนซีวิ่งหนี ไปโดยที่ไม่ทันตั้งตัวจับนางไว้ นางเคลื่อนไหวเร็วมาก ราวกับเสือดาวที่บ้าคลั่ง!

“นี่ นี่….” แม่เล่ามองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความอึ้ง สมอง ไม่ทันได้สติ

นี่ นี่ ใครบอกนางได้บ้าง ว่า เกิดอะไรขึ้น?

โดนหยุนเชียนซีวุ่นวายเช่นนี้ เวทีการแสดงครั้งแรกของ นางโลมฝูหรุงถือว่าพังทลายไปแล้ว แม่เล้ารีบจัดการให้ คนอื่นขึ้นไปแสดง โทป่าหวู่เองก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ชม การแสดงต่อด้วยความเฉยเมย ส่วนโท่ป่าเล่นั้นใช้ข้ออ้าง ที่ว่าร่างกายไม่ค่อยสบาย แล้วขอตัวจากไปก่อน

ในตอนที่หยุนเชียนซีกำลังปีนกำแพงของโรงหมั่นเย่ว เพื่อหนีนั้น ก็รู้สึกได้ว่าด้านหลังมีความเยือกเย็น

นางทำตาหยี ท่าทางที่ปีนกำแพงนั้นหยุดชะงัก ถึงนาง จะไม่มีวรยุทธ์ของคนสมัยก่อน แต่จากที่นางฝึกฝนจาก ชาติก่อนนั้น นางมีไหวพริบที่ดีมาก อยากจะรู้กลิ่นไอของ คนที่อยู่ในที่ลับนั้น ไม่ยาก
หยุนเชี่ยนซี้ไม่ได้กระวนกระวายแม้แต่น้อย นางปล่อย มือที่จับกำแพงออก แล้วกระโดดลงไปในสวนของโรง หมั่นเย่ว ดวงตาหงส์ยิ้มอ่อน และยิ้มที่มุมปาก พูดด้วย เสียงต่ำ “คนที่อยู่ในที่ลับ ไม่ต้องหลบซ่อนก็ได้นะ?”

รอบๆ ต่างเงียบจนน่ากลัว มีเพียงเงาของหยุนเชียนซี ที่ สวยงาม และสง่า!

“น่าสนใจ!” ไม่ไกลนัก มีเสียงที่เย็นชาของผู้ชายดัง ขึ้น รอยยิ้มอ่อนๆ ที่มุมปาก รู้สึกขนลุกมากขึ้นท่ามกลาง ความมืด!

นางผมยาวราวน้ำตก ใบหน้างดงาม แต่มุมปากกลับมี รอยยิ้ม หญิงสาวผู้นี้ งดงามเพียงนั้น

เห็นเพียงดวงตาของหยุนเชียนซีหมุนไปมา สุดท้ายหยุด อยู่ในทิศทางลับที่ผู้ชายอยู่ แล้วถามด้วยเสียงต่ำ “ไม่ ทราบว่าองค์รัชทายาทตามมาถึงที่นี่ มีเรื่องอันใดหรือ?”

ในคำพูดของนางไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย เป็นความ มั่นใจ มั่นใจเต็มร้อย

หยุนเชียนซีมั่นใจ เวลาแบบนี้ผู้ชายที่ตามออกมานั้น คง มีเพียงโท่ป่าเล่คนเดียวเท่านั้น เมื่อครู่ตอนอยู่บนเวทีมอง แววตาของเขาก็รู้ ผู้ชายคนนี้ไม่ยอมจบเรื่องนี้ไปง่ายๆ หรอก

มือของนางที่หลบอยู่ในแขนเสื้อนั้นกำผงดาทูร่าอยู่ เพียงแค่โทป่าเล่เข้าใกล้ นางก็จะปล่อยออกไป!

จังหวะนั้น สําคัญยิ่งนัก

หยุนเชียนซีดูเหมือนไม่ตื่นเต้น แต่กลับหยุดหายใจ เพราะนางมีราง หากครั้งแรกไม่โดน คนที่จะลำบากนั้น เป็นไปได้ว่าจะเป็นตัวเอง นางเหมือนไปหาเรื่อง สิงโตที่ หัวฟู

โทป่าเล่รู้สึกแปลกใจที่หญิงสาวผู้นี้รู้ฐานะของตน แต่ เขาก็ใจเย็นขึ้นมาทันตา หลังจากที่พูดจบ จึงค่อยๆ เดิน ออกมาจากหลับ

เพราะแสงที่น้อยนิดของดวงจันทร์ หยุนเชียนซีเห็น สีหน้าของเขาชัดเจน ยังคงเป็นการแต่งตัวเมื่อครู่นี้ เสื้อ คลุมยาวสีดำ ยืนกอดแขน มีบุคลิกที่เจ้าอำนาจ

“องค์รัชทายาทจะแย่งหญิงสาวชาวบ้านหรือเจ้าคะ?” หยุนเชียนซีตั้งใจถามอย่างเฉยเมย

ได้ยินเช่นนี้ แววตาของโท่ป่าเล่เผยให้เห็นถึงความไม่ พอใจ เห็นได้ชัดเจน ไม่มีการปิดบังใดๆ
“ทําไม? ไม่ได้ครอบครอง ก็โกรธแล้วหรือเจ้าคะ?” หยุน เขียน ยักคิ้ว เพียงแค่เขาเข้ามาใกล้อีกนิด แค่อีกนิด….

“รนหาที่ตาย!” โทป่าเล่พูดเพียงประโยคเดียว คิ้วที่คม ราวกระบี่ แววตาเหยี่ยว เห็นได้ชัดถึงความอาฆาต

“หือ? ข้าไม่เคยรู้มาก่อน ว่าตายเขียนอย่างไร!” หยุน เชียนซีไม่ยอมแม้แต่น้อย นางยิ้มอย่างเย็นชา ไม่แพ้ ผู้ชายตรงหน้าที่เต็มไปด้วยความอาฆาตเลย

นางเติบโตจากการเร่ร่อน เร่ร่อนอยู่ในวงการมือนาน หลายปี ฟันคนเหมือนหั่นผัก เมื่อเทียบความโหดร้าย นาง ไม่แพ้ใครใดๆ ทั้งสิ้น!

สถานการณ์เช่นนี้ หากมีคนเดินผ่าน ต้องโชคดีแน่ๆ ที่พบเหตุการณ์เช่นนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ