หมอยาร้อยพิษ

บทที่ 13 เสียโฉมแล้ว



บทที่ 13 เสียโฉมแล้ว

บทที่ 13 เสียโฉมแล้ว

“ตบสั่งสอนนางคนชั้นต่ำนี่ซะ ใครตีจนตายได้ก่อน ข้ามี รางวัลใหญ่ให้!” หลินเซอร์เฟยสั่ง พวกข้าทาสก็ต่างเดิน ไปตรงหน้า แต่พอมองใบหน้าของนาง ก็ต่างตกใจกัน ใหญ่

“ดูอะไรล่ะ ไปตบมันสิ! หูหนวกกันหรือไง? ข้าสั่งให้พวก เจ้าไปตบมันไง พวกเจ้ามามองข้าทำไม? ไปสิ!” หลินเซ อร์เฟยโมโหใหญ่โต พวกข้ารับใช้ไม่ฟังที่นางสั่ง จึงทำให้ นางโกรธจัด

หยุนเชียนซีมองใบหน้าของหลินเซอร์เฟย ทันใดนั้นก็ หัวเราะออกมา และพูดว่า “ไม่นาน เจ้าจะมาขอร้องข้า เอง”

รอยยิ้มที่แปลกประหลาดของนาง ทำเอาหลินเซอร์เฟย ขนลุกขึ้นมา คำพูดนี้ หมายความว่ายังไง?

ขอร้องนาง?

ตลกแล้ว ไม่มีทางหรอก!

“หยุนเชียนซี นางคนชั้นต่ำ! นี่เป็นคำพูดที่ข้าตลกมากที่สุด ที่ข้าเคยได้ยินแล้วล่ะ! คนใกล้ตายแล้วยังปากแข็ง ได้อีกเหรอ? เหอะ วันนี้ข้าจะตีเจ้าให้ตาย จากนั้นไปตาม นัดแทนเจ้า ข้าจะบอกรัชทายาทว่า เพราะเจ้าแอบไป มั่วสุมกับคนอื่น จึงถูกทำโทษจนตาย!” หลินเซอร์เฟยเงย หน้าขึ้น แสยะยิ้ม เผยให้เห็นฟันด้านใน

หยุนเชียนซีหัวเราะเบาๆ รับฟังคำด่าของหลินเซอร์เฟย ไว้ แต่ละคำพูดล้วนแต่ดุร้ายทั้งนั้น นางไม่ได้เก็บเอามา จำไว้ แต่แค่จับหูเบาๆ เลิกคิ้วขึ้น เตรียมตัวรับฉากต่อไป

สั่งสอน ให้ไปแล้วล่ะ! โม่เย้นซาง ยาพิษตัวนี้ เป็นไปตาม ชื่อเลย เหมาะกับหลินเซอร์เฟยอย่างมาก.……………

“ทำไม ถึงกับไม่กล้าพูดแล้วเหรอ? นางคนชั้นต่ำ ตอนนี้ ถ้าเจ้าคุกเข่าขอโทษข้า และร้องเห่าเหมือนหมา ข้าอาจ จะรับไว้พิจารณา ไม่ตีเจ้าจนตายก็ได้” หลินเซอร์เฟยยิ่ง ค่ายิ่งได้ใจ นางเลิกคิ้วเฉียบบางของตัวเองขึ้น เห็นหยุน เชียนซีไม่พูดเสียที ก็คิดว่านางคงจะกลัวตัวเองไปแล้ว

เมื่อก่อนเรื่องร้องเห่าเหมือนหมา หยุนเชียนซีเคยทํามา ไม่น้อยเหมือนกัน

“คุณหนูใหญ่ ขอร้อง……” พอพูดจบ ฉาเอ๋อก็คุกเข่า ลงพื้น เหมือนจะร้องเห่าแทนเจ้านายตัวเอง นางยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกหยุนเชียนซีดึงขึ้นมาเสียก่อน

“ฉาเอ่อ คนที่ควรขอร้อง ควรจะเป็นอีกคนมากกว่า!” สีห น้าหยุนเชียนซีเด็ดเดี่ยว และยังมีรอยยิ้มเล็กน้อย ทําเอา คนที่เห็นแล้ว ต้องใจสั่นกลัว ตอนที่นางพูดคำนี้ ยังหันมา มองหลินเซอร์เฟยอีก

“เจ้าว่าอะไรนะ!” หลินเซอร์เฟยไม่พอใจอย่างมาก ตะโกนออกมาสุดเสียง นางไม่อยากจะเชื่อเลย นางคน ชั้นต่ำที่เมื่อก่อนไม่ได้เรื่องอ่อนแอ วันนี้จะกล้าพูดจา บังอาจตัวเองแบบนี้!

“แปะๆๆ” หยุนเชียนซีตบมือขึ้นมา มองดูใบหน้านางที่ เปลี่ยนไป ดูแล้ว พิษของโม่เย้นซาง กำลังเริ่มออกฤทธิ์ แล้วล่ะ

เป็นยาพิษที่ดีมากจริงๆ

ฉาเอ่อมองดูใบหน้าของหลินเซอร์เฟย ทันใดนั้นก็เบิก ตาโพลง พวกข้ารับใช้ที่ไม่กล้าเดินออกไป ก็ต่างมอง ตาโต พวกเขามองเห็นใบหน้าของหลินเซอร์เฟย บวมขึ้น อย่างรวดเร็ว!

ทุกครั้งที่พูด ก็จะบวมขึ้นอีก ความเร็วของอาการบวม ทำเอาคนพูดไม่ออก
นี่ นี่ไปโดนอะไรมาน่ะ?

ทำไม ทำไมทุกครั้งที่พูด ถึงบวมแบบนี้ล่ะ? นี่ นี่คุณหนู ใหญ่ ไปโดนอะไรไม่ดีมาน่ะ? เรื่องนี้ แปลกมากจริงๆ!

ในขณะนี้เอง ตอนที่พวกเขากำลังแปลกใจ หลินเซอร์เฟ ยก็ค่าออกไปอย่างสะใจอีกครั้ง พอพูดจบ ใบหน้านาง ก็บวมขึ้นจนขนาดเท่ากับหัวหมู ผิวแก้มสองข้างแทบจะ บวมจนแตก บนผิวหนังมีเส้นเลือดนูนขึ้นมาเต็มไปหมด ทั้งน้ำเงินและแดงนูนขึ้นมา ดูน่ากลัวอย่างมาก

“พวกเจ้าดูอะไรน่ะ!” หลินเซอร์เฟยสังเกตเห็นสายตา แปลกประหลาดของทุกคน และในตอนที่กรีดร้องเสียงดัง พอสัมผัสไปที่ใบหน้า นางกรีดร้องออกมา “กร็ด——”

“โอ้ย! ข้า เป็นอะไรไป! ข้าเป็นอะไรไปน่ะ!?” หลินเซ อร์เฟยเจ็บอย่างมาก สัมผัสอย่างหวาดกลัว จากนั้นก็กรีด ร้องออกมาเสียงแหลม! ทำไม ใบหน้านางถึงบวมขนาด นี้!?

“กรี้ดๆ——” พอนึกว่าใบหน้าตัวเองต้องเสียโฉมแน่ หลิน เซอร์เฟยก็กรีดร้องอีกครั้ง ใบหน้าก็บวมขึ้นอีกครั้ง ดู เหมือนผิวบนใบหน้าบางลงเรื่อยๆ เหมือนจะแตกออก

คงเป็นเพราะร้องเสียงดังเกินไป ความเจ็บบนใบหน้าก็ รุนแรงมากขึ้น นี่ นี่เป็นอะไรไปนะ ในตอนนั้นเอง นางก็นึกถึงหยุนเชียนซีได้เป็นคนแรก นางคนชั้นต่ำนี่ ต้องเป็น นางแน่ เมื่อกี้นางตบตัวเองมาสองครั้ง จากนั้นใบหน้าก็ เริ่มบวมมากขึ้น

“ไป ไปเอากระจกมาให้ข้า!” หลินเซอร์เฟยนึกถึงท่าทาง ใบหน้าตัวเองที่บวมขึ้น ก็รู้สึกเจ็บใจอย่างมาก สำหรับผู้ หญิงแล้ว ใบหน้ารูปลักษณ์สำคัญเป็นที่สุด

“คุณ คุณหนู” ข้ารับใช้คนหนึ่งได้รับคำสั่ง ก็รีบวิ่งออก ไป และเอากระจกมา เขาตัวสั่นเกร็ง เดินไปหาหลินเซ อร์เฟยด้วยสองขาที่อ่อนแรง สายตาวอกแว่ก ไม่กล้ามอง หลินเซอร์เฟยตรงๆ

หลินเซอร์เฟยมองตาโต ความกลัวครอบง่าหัวใจของ นาง นางแย่งกระจกมา พอใบหน้าสะท้อนไปที่กระจก เท่านั้น นางก็กรีดร้องออกมาจนแทบจะขาดใจ และโยนก ระจกออกไปอย่างแรง “ไม่นะ——!”

ใบหน้าของนาง ตอนนี้คงจะน่าเกลียดอย่างมาก!

เพราะเสียงกรีดร้องเมื่อกี้ ใบหน้าก็ยิ่งเจ็บไปอีก หลินเซ อร์เฟยรู้สึกได้ว่า มีผิวหนังบนหน้าบางส่วนแตกออกมา แล้ว!

เจ้าลองจินตนาการดู แก้มสองข้างของคน ใหญ่เท่า ลูกโป่ง บวมขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ ผิวบนใบหน้าบางลงเรื่อยๆเส้นเลือดเห็นได้อย่างชัดเจน สุดท้ายเหลือเพียงใบหน้าที่ สยองขวัญหลังจากที่ผิวหนังบนหน้าลอกออก?

ขอเตือน ทางที่ดีอย่าไปคิดจินตนาการเลย เพราะ คงจะ น่ารังเกียจ น่าขยะแขยงมาก

หลินเซอร์เฟยก็รู้สึกได้ว่า ใบหน้าบวมออก นอกจากทุก ครั้งที่นางเปิดปาก และทุกครั้งที่นางพูดอีกด้วย ใบหน้าจะ บวมขึ้นอย่างเร็ว นี่ นี่เป็นเพราะอะไรกัน!

นางไม่เข้าใจเป็นเพราะทุกครั้งที่นางพูดหรือเปล่า แต่แม้ จะเป็นการคาดเดา ก็เพียงพอแล้ว นางหุบปากไม่กล้าพูด มากอีก ทําได้แค่มองค้อนหยุนเชียนซี ใช้สายตาถามว่า เป็นแบบนี้ได้ยังไง

หยุนเชียนซีเลิกคิ้วขึ้น พูดว่า “ข้าบอกแล้ว เจ้าจะ ต้อง…….มาขอร้องข้าแน่นอน”

โม่เย้นซาง ก็มีความหมายตามชื่อ อย่าพูดมาก ไม่เช่น นั้นจะเจ็บตัวได้

ขอแค่นํายาพิษของโม่เย้นซาง ป้ายไปบนใบหน้า ขอ แค่คนที่โดนยาพิษเปิดปากพูด หรือกินข้าว และทุกอย่าง ที่ต้องใช้กำลังบนใบหน้า ก็จึงทำให้ใบหน้าบวมขึ้นอย่าง เห็นได้ชัด! และถ้าหุบปากไม่พูดก็จะทำให้บวมช้าลง แต่ พิษยังคงไม่หายไป ภายในสี่สิบกว่าวันนี้ ขอแค่พูดหรือกินข้าวเป็นต้น พิษจะยังคงออกฤทธิ์เรื่อยๆ

พิษตัวนี้ รักษาพวกคนที่ชอบพูดคำหยาบโดยเฉพาะ

ในตอนที่หยุนเซียนซีเห็นดอกโม่เย้นซาง นางก็นึกถึง คุณหนูใหญ่หลินที่ชอบด่าอื่นเป็นประจำจนติดเป็นนิสัย ยังไม่ทันไรเอง ก็มารนหาที่ตายเองเสียแล้ว

“พิษตัวนี้ ขอแค่เจ้าไม่กินข้าว ไม่พูด ใบหน้าก็จะลดบวม เอง ดังนั้น เจ้าเลือกที่จะหิวจนตายไปช้าๆ หรือเลือกที่จะ มาขอร้องข้า ข้า จะรอนะ” หยุนเชียนซีแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ สายตากลับเย็นชาจนเหมือนน้ำแข็ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ