บทที่ 10 ไท่จื่อเฟย ข้าไม่ต้องการ
บทที่ 10 จอเลย ข้าไม่ต้องการ
โห่ปังเลไม่มีทางอภิเษกกับลูกของคนที่ติดตามอ๋องฉื
แน่นอน
เมื่อคืน หยุนเชียนซีที่ดูแตกต่างนั้น เขามั่นใจว่า หากผู้ หญิงคนนี้ เหมาะสมที่สุดแล้ว ถึงนางจะอาศัยอยู่จวนเฉิง เซี่ยง แต่กลับไม่มีคนชอบ และเหมือนเดือนที่แล้วพึ่งโดน ตบตีไปอย่างโหดร้าย หลังจากฟื้นมา นิสัยก็แตกต่างไป ตากอดีตเยอะเลย…..
ผู้หญิงที่ฉลาด โหดเหี้ยม ดื้อและไม่ยอมแพ้เช่นนี้ โท่ป่า เล่รู้สึกว่า นางเป็นคนที่เหมาะสม
เพราะเช่นนั้น เมื่อคืนถึง……..
เขาก็แค่คิดอย่างใสซื่อ ไม่ว่าหญิงสาวที่สยบมากแค่ไหน แค่ได้ร่างกายของนางมา ก็จะเชื่อฟัง
และตำแหน่งไท่จื่อเฟยนั้น โท่ป่าเล่คิดว่าจะมีผู้หญิงคน
ไหนปฏิเสธลง
“เจ้าจริงจังหรือ?” แว๊บแรกนั้นหยุนเชียนซีคิดว่าผู้ชาย คนนี้ป่วย นางไม่โกรธเพียงแค่ยิ้ม แล้วถามกลับ
“ข้าไม่เคยพูดจาไปเรื่อย” โทป่าเล่มั่นใจ ไม่ลังเลแม้แต่
น้อย
องค์รัชทายาท เข้ามาใกล้ล” หยุนเชียนซียังคงยิ้ม แล้ว โบกมือไปทางเขา
“หิม?” โท่ป่าเลคิดว่าหยุนเชียนซีดีใจเกินไป จึงไม่ระแวง แล้วขยับเข้าไปใกล้
“ปัง——” หมัดชกเข้ามา ในตอนที่เขาไม่ระแวงเลยแม้แต่ น้อย โดนทุบแรงๆ แรงนั้นเปรียบเสมือนกับฟ้าผ่า!
หยุนเชียนซีมองแล้วตาบวมไปหมด ยักคิ้วด้วยความ เจ้าเล่ห์ ริมฝีปากสีแดงยิ้ม แล้วพูดคำพูดที่ดูโอหังที่สุด “ไท่จื่อเฟย? ข้าไม่ต้องการ! ”
“หยุนเชียนซี! ” โทป่าเล่เจ็บปวด กัดฟันจ้องหญิงสาวที่ อยู่ตรงหน้า จากที่เขาดูนั้น หยุนเชียนซีเป็นหญิงโง่เขลาที่ ไม่รู้เรื่อง!
นางพูดอะไรนะ? ไท่จื่อเฟย ไม่ต้องการ!
โอหังมาก!
“โทป่าเล่ หากเจ้าอยากอภิเษก ก็ไปอภิเษกกับหลินเซอร์เฟยของเจ้าเถอะ เจ้ากับข้า ไม่มีทางอยู่ด้วยกันได้!” หยุนเชียนซีไม่อยู่ในผ้าห่มต่อ นางเปิดผ้าห่มออก แล้วลง จากเตียงด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า
“เราจะไปไหน?” โห่ป่าเล่สาบาน ตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่าน
มา เขาไม่เคยโมโหมากกว่าเช้าวันนี้ “ในเมื่อองค์รัชทายาทไม่เอาเสื้อมาคืน ข้าก็จะกลับไป
เช่นนี้ ไม่เห็นเป็นไรเลย” หยุนเชียนซีสะบัดผม จากนั้นก็
เดินไปทางประตู ไม่สนใจใดๆ
“หยุดนะ!” โทป่าเล่โกรธจนคันฟันไปหมด เขามั่นใจ ผู้ หญิงคนนี้กล้าเดินออกไปเช่นนี้โดยไม่อับอาย เขาหยิบ เสื้อที่วางไว้ข้างเตียง แล้วโยนไปทางหยุนเชียนซี ใบหน้า ที่หล่อเหลานั้น โกรธจนกลายเป็นสีตับหมูไปแล้ว
“เล่นตัวจริงๆ” หยุนเชียนซีมองบน ริมฝีปากของนางเปิด ปิด พูดคำพูดที่ไม่ไว้หน้า พูดอยู่นั้นก็ใส่เสื้อผ้าต่อหน้าต่อ หน้าโทป่าเล่
ในตอนแรกนั้นโท่ป่าเล่คิดว่านี่เป็นวิชามารยาของหยุน เชียนซี แต่ว่าเขาคิดผิดเพราะเขาเห็นแววตาไม่สนใจของหยุนเชียนซี เห็นได้อย่างชัดเจน
ผู้หญิงคนนี้ ไม่สนใจความบริสุทธิ์ของตนเองจากใจจริง และไม่สนใจตำแหน่งไท่จื่อเฟย!
มาก ยิ่งหนเขียนซีเป็นเช่นนี้ เขา ก็ยิ่งสนใจมากขึ้น หยุนเชียนซีใส่เสื้อผ้าเสร็จ ก็เดินออกไปจากห้อง ก่อน จากไป ยังไม่ลืมที่จะหันมาจ้องโทป่าเล่
โทป่าเล่มองแผ่นหลังของหยุนเชียนซี แล้วจับที่หน้าผาก กัดฟันแล้วพูด “หยุนเชียนซี เจ้าไม่มีสิทธิ์เลือกว่ายอม หรือไม่ยอม”
หยุนเชียนซีที่พึ่งออกไปนั้นหยุดเดินเล็กน้อย แล้วออก เสียงเบาๆ ว่า เหอะๆ จากนั้นก็เดินไปด้านหน้าต่อ
โทป่าเล่ ก็รอดูแล้วกันว่าเจ้าทำให้ไม่มีสิทธิ์เลือก อย่างไร!
หยุนเชียนซีที่หายไปทั้งคืนก้าวเข้าลานบ้านหวั่นเสี้ย ฉา เอ๋อก็รีบพุ่งเข้ามา มองดูหยุนเชียนซีที่อารมณ์ค่อนข้างดี นางก็โล่งอก “คุณหนู ข้าใจหายหมดเลย ท่านหายไปไหน มาหรือเจ้าคะ!”
“ไม่มีอะไร” หยุนเชียนซีส่ายหน้า ไม่ได้อธิบายอะไรมาก
ร่างกายของนางเหนื่อยมาก เมื่อคืนโดนโทป่าเล่ทรมาน ทั้งคืน ตอนนี้รู้สึกว่ากระดูกจะคลายหมดแล้ว
หยุนเขียน ลากร่างกายที่เหนื่อยของตนเอง ไม่สนใจ คำถามของจู เอ่อ แล้วเข้าไปในห้อง จากนั้นก็นอนหลับ ไปเลย
สามวันต่อมา หยุนเชียนซีมีชีวิตที่ค่อนข้างสงบ นาง ศึกษาหาของที่หายาพิษในจวนเฉิงเซี่ยงเหมือนเดิมอย่าง สบายใจ
แต่ในจวนเฉิงเซี่ยงนั้น สิ่งที่สามารถนำมาทำยาพิษนั้นมี ไม่มาก นางจึงตัดสินใจ ออกนอกจวน
ปกติแล้วบนภูเขา พวกยาสมุนไพรต่างๆนาๆ มีเยอะ ตอนนี้ร่างกายของนางไม่ไหว มีเพียงใช้ยาพิษในการ รักษาต่อเท่านั้น
หยุนเชียนซีเป็นคนที่ตัดสินใจแล้วทำทันทีเสมอ นาง เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นผู้ชาย แล้วแปะหนวดไว้ที่ใบหน้า แล้ว ปีนกําแพงออกนอกจวนเฉิงเซี่ยง
หยุนเชียนซีสะพายตะกร้าเล็กๆ ไว้ด้านหลัง ในปากคาบ หญ้าสมุนไพร แล้วฮัมเพลงเบาๆ ค่อยๆ เดินอยู่บนทาง เดินภูเขาสีเขียวนอกเมือง
ท่าทางของนางเช่นนี้ กลับรู้สึกว่าตนเองเป็นหญิงสาวที่ เก็บเห็ดเลย
ถุษฤษณเองทะลึ่งไ
หยุนเชียนซีส่ายหน้า พยายามห้ามตนเองไปคิดเรื่องบ้า บอพวกนั้น แล้วเดินต่ออย่างช้าๆ ทันใดนั้น! นางก็รู้สึกถึง ฝีเท้าเบาๆ ที่อยู่ด้านหลัง
ฝีเท้านี้เดินตามนาง นางเร็ว ก็เดินตามเร็ว นางช้า ก็ช้า ตาม เห็นได้ชัดว่ากำลังสะกดรอยตามนาง
หยุนเชียนซีสีหน้าเฉยเมย เดินไม่เปลี่ยนความเร็ว ยังคน เดินอยู่เช่นนั้นไม่เร็วและไม่ช้า
คนด้านหลังตาหยี ในแววตามีความสงสัยเล็กน้อย แล้ว เดินตามหยุนเชียนซีต่อ
ทางเลี้ยงนั้น หยุนเชียนซีกลับหายไป!
คนที่เดินตามนางหยุดชะงัก แต่ก็เดินต่อไปข้างหน้า เรื่อยๆ
หยุนเชียนซีซ่อนอยู่ตรงทางเลี้ยว ในมือถือหินก้อนใหญ่ เตรียมพร้อมจะทุบตีคนที่เดินตามนาง
ในตอนที่มีเงาผ่านทางเลี้ยวนั้น หยุนเชียนซีก็ยกก้อนหิน ขึ้นสูงๆ แล้วทุบลงไปด้วยความแรง!
เงาสีดำไหวตัวเร็วมาก หายไปในทันที ทำให้หยุนเซียน ซีบโดนความว่างเปล่า
หยุนเชียนซีขมวดคิ้ว รู้สึกถึงมีกลิ่นไอของคนที่อยู่ด้าน หลัง นางรีบหลบไป หลบทันคนด้านหลังโจมตี
ความเร็วของทั้งสองคน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ความ สามารถไล่เลี่ยกัน+
ชายหนุ่มไม่ได้มีใจทำร้ายหยุนเชียนซีแม้แต่น้อย แต่หยุ นเชียนซีกลับไปใจอ่อนด้วยเช่นกัน พอได้โอกาสก็โจมตี ไปที่จุดของชายหนุ่ม!
“หยุนเชียนซี เจ้าโหดเหี้ยมนัก!” เสียงของชายหนุ่มดัง ขึ้นจากการปะทะกัน
หยุนเชียนซียิ้มอ่อน แล้วตอบกลับ “ขอบพระคุณคำชม ขององค์รัชทายาทเจ้าค่ะ”
ถูกต้อง คนน่าเบื่อที่เดินตามนางก็คือโท่ป่าเล่
เจ้ากรรมนายเวรจริงๆ
หยุนเรียนรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคนที่เดินตามนางคือโท ป่าเล่ กลิ่นไอที่คุ้นเคยนั้น นางสามารถแยกออกอย่าง ราคา ส่วนมาจากความอ่อนไหวของนักฆ่า
เป็นองค์รัชทายาทแล้วทำไม? ก็จะทุบ!
“เจ้า แต่งตัวเช่นนี้ จะทำอันใด? ” โห่ป่าเล่มองหยุนเชีย นซี นางใส่ชุดชายหนุ่ม แล้วยังติดหนวด จะไปทำอะไร หรือ?
เขาก็แค่พบเห็นนางโดยบังเอิญ ก็ดูออกเลย เป็นเพียง เพราะแปลกใจ จึงเดินตามไปเหมือนโดนผีผลัก
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ