สายเปย์เบอร์หนึ่ง

บทที่15 ใครเป็นคนทําอาหาร



บทที่15 ใครเป็นคนทําอาหาร

ดวงตาที่สวยงามของหลีซิงเยียนประกายด้วยความสงสัยและไม่ เข้าใจ เธอคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ ไอ้หมอนี่ ไม่ออกนอกประตูใหญ่ ไม่ล่วงข้ามประตูสอง ปกติอยู่แต่ในบ้าน ทำงานจำพวกคนใช้แม่ บ้านควรจะทำอาหาร ทุกวันก็ทำอาหารได้ธรรมดามาก ทำไม อาหารที่ทำออกมาวันนี้ เหมือนคนเปลี่ยนไปคนละคนเลย

อาหารเหล่านี้ ต้องเป็นเขาที่ซื้อมาจากข้างนอกแน่นอน!

หลีซิงเขียนแอบพูดในใจ ยังไงเธอก็ไม่เชื่อว่านี่คือเงินเบี้ย เอง เธอยอมที่จะเชื่อว่า นี่คือ เฉินเบี้ยที่กลัวเสียหน้า ตั้งใจ โอ้อวด!

“นี่คือคุณทำเองเหรอ?” ได้ห้าวหนาน ถามด้วยรอยยิ้ม ต้องไป ที่ เฉินเป่ย ราวกับพยายามจับผิดในดวงตาของเขา

“ใช่เลย ฉันทำอาหารไม่เก่ง ดังนั้นจึงต้องอภัยต่อประธานได้ แล้ว” น้ำเสียงของ เฉินเป่ย ประจบประแจงต้อยต่ำ พูดยิ้มเล็ก น้อย ดวงตาของเขาสงบชัดเจนแววตาไม่ได้มีการหลบหลีกใดๆ ใต้ห้าวหนานมองไม่เห็นอะไรเลย
หลังจากที่ได้ห้าวหนานซึมซุปครีมเห็ดไปคำหนึ่ง แววตาส่อง แสงประกายในทันที มองไปที่ เฉินเปีย

“เกิดอะไร น? ฝีมือการทําอาหารของเขาแย่มากประธานได้ โปรดอภัย” หลีซิงเขียนที่อยู่ข้างๆ คิดว่า ได้ห้าวหนานไม่พอใจ จึงรีบอธิบายอย่างกังวล

ตกตะลึงอาศัยอยู่ในต่างประเทศเป็นเวลาหลายปี โดยเฉพาะ

ใน ประเทศ

ประเทศฝรั่งเศษ ดังนั้นวัฒนธรรมการทางอาหารที่ได้สัมผัสมา ก็ต้องเป็นของดั้งเดิม

ระดับหรูหรา

แม้ว่า เฉินเป่ย เคยทํางานใน Château Lafite Rothschild มาระยะหนึ่ง แล้วจะสัมผัสถึงสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร

เมื่อเทียบกับวัฒนธรรมการ

อาหารของ ประเทศฝรั่งเศษ เขา สู้ได้ห้าวหนานไม่ได้เลย แต่ วันนี้เขากลับทำซุปครีมเห็ดอาหารขึ้นชื่อของ ประเทศฝรั่งเศษ เป็นการรนหาที่ตายชัดๆ พุ่งสู่กระบอกปืนของตัวเอง หลีซึ่งเขียน ตำหนิขึ้นมาในใจทันที ไอ้หมอนี่ ทำเรื่องเสียในช่วงเวลาสำคัญ จริงๆด้วย!

“ไม่” ได้ห้าวหนานส่ายหัว สายตาที่มองไปทางเฉินเป่ย เต็ม ไปด้วยความประหลาดใจและตกตะลึง”รสชาติของซุปครีมเห็ดนี้ แท้ดั้งเดิมมาก ไม่เพียงแต่จะคง รสชาติดั้งเดิมของ ประเทศฝรั่งเศษ ไว้เท่านั้น แต่ยังรวมเอารส ชาติของ หัวเซียด้วย ตามที่ฉันทราบ เซฟทุกคนที่ฉันรู้จัก ไม่มี ใครสามารถทําได้

“แต่คิดไม่ถึงว่า วันนี้ คุณเฉิน จะทำให้ฉันได้เปิดหูเปิดตา ต้อง ยอมรับเลยว่า ความเข้าใจในอาหาร ประเทศฝรั่งเศษ ของคุณ เฉิน ลึกซึ้งยิ่งนัก ไม่เช่นนั้นมากจะไม่สามารถทำอาหารดั้งเดิมที่ มีชื่อเสียงของ ประเทศฝรั่งเศษได้

“ประธานใต้ ชื่นชมมากเกินไปแล้ว ซุปครีมเห็ดนี้ คน ประเทศ ฝรั่งเศษ เป็นทุกคน ตอนที่ทำ ฉันแค่ใส่เครื่องปรุงรสของ หัว เซีย ในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น จึงทำให้มีรสชาติที่แตกต่าง ฉัน แค่รู้คร่าวๆเท่านั้น หัวใสนิดหน่อย

หลีซึ่งเขียนที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าสวยตกตะลึง

ตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง เธอฟังความคิดเห็นที่ชื่นชมอย่างมาก

ของ ไต้ห้าวหนานอย่างอึ้งยิ่ง มองไปที่เฉินเป่ย ยังไงก็ไม่

สามารถตั้งตัวได้ ในเวลานี้ ดวงตาที่งดงามของ หลีซึ่งเขียน กะพริบตาเล็กน้อย สายตาที่มองไปทาง เฉินเป่ยเต็มไปด้วยความสงสัยและซับซ้อน

เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าเฉินเป่ยจะสามารถพูดจามีเหตุมีผลได้น่าฟัง

เงินเลยแค่เคยทํางานในโรงไวน์ลาฟิต เท่านั้น ในขณะที่ได้ ห้าวหนานมีประสบการณ์ในร้านอาหารชั้นนำของประเทศฝรั่ง เศษ มามากมาย สามารถให้ได้ห้าวหนานให้คำประเมินที่สูง เช่นนี้ แค่คิดก็รู้แล้วว่าหลีซึ่งเขียน ความตกตะลึงมากขนาด ไหน

หลีซิงเยียนจะไปรู้ได้อย่างไรว่า เฉินเบี้ยไม่ค่อยจะแสดงฝีมือ การทําอาหารแล้ว ครั้งสุดท้ายที่เขาแสดง ยังเป็นเพราะว่า ได้ สอนพ่อครัวเทวดา ที่ตอนนี้มีชื่อเสียงโด่งดังในโลกมืดแก่งตะวัน

“คุณเฉิน…..เหมือนว่าคุณจะเข้าใจมารยาทขนบธรรมเนียม ของตะวันตกมาก ไต้ห้าวหนานกลับไม่ได้จะปล่อย เฉินเป่ย ไป ทันใดนั้นก็ถามขึ้น

“พูดภาษาฝรั่งเศษ ได้นิดหน่อย สื่อสารในชีวิตประจำวันไม่มี

ปัญหา” เฉินเป่ยยิ้มแห้งๆ และได้ห้าวหนานก็ดีใจขึ้นมา น สําหรับเขาแล้ว เป็นโอกาส พอดีเลยไม่ใช่เหรอ? เมื่อกี้ตอนที่อยู่ในรถ ชิงเขียนบอกฉันว่า คุณเฉิน ยังรู้เรื่อง ไวน์? ถ้าอย่างนั้น เราดื่มกันหน่อยดีไหม?” คำพูดของ ไต้ห้าว

หนาน ทำให้สีหน้าของ หลีซึ่งเขียนไม่เป็นธรรมชาติขึ้นมา
นี่เป็นการกลั่นแกล้งอย่างชัดเจน แม้ว่าเมื่อวันเฉินเป่ย จะมีข้อ ได้เปรียบทางวาจา แต่ เติ้งหลุน รู้เรื่องไวน์แต่งูๆปลาๆเท่านั้น แม้แต่โดนคนหลอกแล้ว ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ จินตนาการได้เลยว่า เติ้งหลุน มีความรู้ตื่นมากแค่ไหน ในวัฒนธรรมของเรื่องอาหาร

ส่วน ไต้ห้าวหนานล่ะ ได้อาศัยอยู่ต่างประเทศจริงๆนะ ไวน์ แดงที่เคยชิม เกรงว่าอาจจะมากกว่าน้ำเปล่าที่ เฉินเป่ยเคยดื่ม

เมื่อวานเอ่ยขึ้นสามารถเล่นฝีปากได้ วันนี้ ต่อหน้า ไต้ห้าว หนานยังจะแกล้งได้อย่างไร!

หลีซึ่งเขียน กำลังจะพูดไกล่เกลี่ยให้เงินเป่ย ก็เห็นว่า เฉินเบี้ยพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ตอบตกลง

ใช้เวลาไม่นาน หลีซิงเยียน ได้เอาไวน์แดงลาฟิตขวดหนึ่งมา ด้วยท่าทางทั้งโกรธทั้งจนปัญญา ไวน์สีแดงถูกขึ้นอย่างช้าๆ เฉินเป่ย ยื่นมือออกมา สามนิ้วจับที่ก้านแก้วเบาๆ เต็มไปด้วย ท่าทางที่สง่างาม

ในวินาทีนี้ ความกะล่อนปลิ้นปล้อนบนตัว เฉินเป่ย ได้จางหาย ไป ตัวเขาในขณะนี้ เต็มไปด้วยความสง่าในทันที เสมือนกับ สุภาพบุรุษที่แท้จริง ที่อาศัยอยู่ในตะวันตก
หลีชิงเขียน จ้องมอง เฉินเป่ย ด้วยดวงตาที่สวยงาม ในขณะ นี้ สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาของเธอ ดูเหมือนจะไม่ใช่คนใช้ที่ทำได้ เพียงประจบประแจง เสมือนเป็นสุภาพบุรุษที่กิริยามารยาทดี งาม!

ดวงตาที่สวยงามของ หลีซึ่งเขียน พาดผ่านความสับสนและ ซับซ้อน เธอไม่เข้าใจ เฉินเป่ย แค่เคยทำงานที่โรงกลั่นไวน์ ประเทศฝรั่งเศษ เพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น จะเป็นทักษะการทำ อาหารที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้ยังไง ยังสามารถกลายเป็นสุภาพ บุรุษ!

ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่า เฉินเป่ย ยิ่งดูยิ่งคาดเดาไม่ออก

“เชิญ” เฉินเปยชนแก้วด้วยความเคารพ ไม่มีท่าทางที่ไร้ มารยาท ในเมื่อคืนอย่างสิ้นเชิง เขา ในตอนนี้ ทั้งตัวเปล่งประกาย ความสง่า ไร้ที่ติ!

ถ้าหากเขาสวมชุดสูท ในตอนนี้ ไม่มีใครสงสัยเลยว่า เขาเป็น คนหัวเขี่ย เพราะท่าทางที่เขาแสดงออกมาในตอนนี้ จะมีใคร สงสัยเลยว่า เขาคือผู้ดีมีชาติตระกูลของตะวันตกชัดๆ!

“เพียบเทียบเพียบ!

ไต้ห้าวหนานวางแก้วไวน์ลง ปรบมือขึ้น ในตอนนี้เขามองไปที่ เฉินเป่ยพูดด้วยความพึงพอใจ “คิดไม่ถึงเลยว่า คุณเฉิน จะเข้าใจวัฒนธรรมทางตะวันตกมากเช่นนี้ แม้แต่ฉันยังคงต้องละอาย ฉันขออภัยกับคุณ ในความอคติของ ฉัน ในเมื่อครู”

“ประธานใต้ ยกย่องแล้ว ทั้งหมดนี้คือภรรยาของฉันเองที่ สอนให้” ทันใดนั้น เฉินเป่ย ก็ยิ้มจางๆ ทำให้หลีซิงเยียนที่อยู่ ข้างๆสีหน้าแข็งทื่อ

เธอชะงักไปหลายวินาที ถึงได้ตระหนักถึงเจตนาที่หวังดีของ เขา นี่คือจะเอาคุณงามความดีทั้งหมดยกให้กับเธอ เพิ่มความ ประทับใจต่อหน้า ใต้ห้าวหนาน

หลังทานอาหารเสร็จ ได้ห้าวหนานและ หลีชิงเขียนคุยกันสัก พัก ถึงได้ออกจากคฤหาสน์

ได้ห้าวหนาน ขึ้นไปนั่งในรถแท็กซี่ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ค่อยๆจางหายไป แทนที่ด้วยรอยยิ้มที่เยือกเย็น

เขา โทรออกสายหนึ่ง หน้าจอโทรศัพท์แสดงหมายเลขต่าง ประเทศ!

“พ่อ พ่อเดาว่า หลังจากที่ฉันกลับมาที่หัวเซีย ได้เจอกับ ใคร?” ใต้ห้าวหนานพูดด้วยเสียงต่ำ

“ใคร?” เสียงทางปลายสายทุ้มลึก

“สี่ปีที่แล้ว หมายจับที่เคยเห็นในประเทศฝรั่งเศษ ชายชาวหัวเซียที่โดนราชวงศ์ประเทศฝรั่งเศษ ตาม จับ…….ตอนนี้เขาเป็นสามีของหลีซิงเยียน” ได้ห้าวหนานค่อยๆ พูดขึ้น แววตาโหดเหี้ยมนิ่งสงบ

“นายแน่ใจเหรอ? ในตอนนั้นผู้ชายคนนั้น ทำให้เจ้าหญิงแห่ง ประเทศฝรั่งเศษระบายความโกรธทั่วถนน

“แน่นอนอยู่แล้ว ตอนที่กินข้าวฉันตั้งใจล่อถาม เขารู้มารยาท วัฒนธรรมทางตะวันตก อย่างทะลุปรุโปร่ง…….ฉันไม่คาดคิดว่า เขาจะซ่อนตัวอยู่ในหัวเซีย ยังแต่งงานกับหลีซิงเขียน” เติ้งหลุน ชะงักชั่วคราว “ถ้าเราจับเขาได้ มอบให้ราชวงศ์ประเทศฝรั่ง เศษ นั้นความร่วมมือระหว่างราชวงศ์ประเทศฝรั่งเศษ กับบริษัท อื่นๆ ก็จะตกมาถึงมือเราอย่างแน่นอน”

“เรื่องนี้แหวกหญ้าให้ตื่นไม่ได้ แม้ว่าตอนนี้เขาจะดูเหมือน เป็นคนไร้ประโยชน์ แต่ต้องซ่อนความสามารถของตัวเองไว้ แน่นอน อย่าพึ่งชะล่าใจ

หลังจากที่ได้ห้าวหนาน วางสายลง มุมปากยกขึ้นอย่างเยือก เย็นลึกล้ำ ตอนที่เขาเห็น เฉินเซียครั้งแรก ก็จำเนินเป่ยได้แล้ว ทานข้าวในเมื่อครู่ ก็คือการยืนยันตัวตนของเฉินเป่ย

หลีซึ่งเขียน คุณถึงกับชอบใจตัวไร้ประโยชน์แบบนี้ คือขาดผู้ชายเกินไปใช่ไหม … ได้ห้าวหนาน ยิ้มอย่างดูถูก เหยียดหยาม เขาไม่คาดคิดว่า หลีซึ่งเขียน ถึงกับแต่งผู้ชายที่ อ่อนแอไร้ประโยชน์แบบนี้เข้าบ้าน นี่คือเรื่องตลกที่สุดในรอบ ศตวรรษ!

“อาหารทั้งหมดนี้ คุณเป็นคนทำจริงๆเหรอ?” หลีซึ่งเขียนต้อง มอง เฉินเป่ย อย่างเย็นชา แล้วซักถาม “แน่นอน” เฉินเบียรินน้ำหนึ่งแก้วให้หลีซึ่งเขียน อย่างใส่ใจ

“คุณทำอาหารเก่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” แววตาที่งดงาม ของหลีชิงเขียน

ฉายผ่านความสงสัย

“นี่คือฉันเรียนรู้จากสูตรอาหารจากทางอินเตอร์เน็ต เพราะ ฉันมีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาไง” เฉินเบี้ยหัวเราะเบาๆ

และหลีซิงเยียนขี้เกียจไปใส่ใจกับผู้ชายที่หลงตัวเองแบบนี้ มองเขาตาขวาง ลุกขึ้นเดินออกไปนอกคฤหาสน์

เธอรีบร้อนที่จะไปจัดการกับธุระของบริษัท เมื่อกี้เลขา หลิน

เฉว ได้โทรหาเธอหลายครั้ง ล้วนเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในการประชุมของบริษัท รอให้เธอกลับไปแก้ไข

หลีซึ่งเขียนกลับไปถึงบริษัท นั่งในห้องทำงาน ทันใดนั้นประตู ทำงานก็เคาะดังขึ้น หลินเจ ก็พาผู้หญิงผมสั้นคนหนึ่งเดิน ห้อง เข้ามา

หลีชิงเยี่ยมเงยหน้าขึ้น กวาดมองไป ผู้หญิง ตระหง่านสายตาคมเฉียบ ดั่งกับเสือต้า ผมสั้นรูปลักษณ์สูง

“ประธานหลี บอดี้การ์ดที่คุณหา มาถึงแล้ว” หลินเฉพูดขึ้น

“รู้แล้ว เธอออกไปก่อนได้เลย” หลีชิงเขียนหยิบเรซูเม่ที่อยู่ ด้านข้าง ชำเลืองดู มองไปที่ผู้หญิงผมสั้น

ซูเหลย อายุ 22 ปี เคยเป็นผู้ชนะการแข่งขันชิงแชมป์การ ต่อสู้หญิงรุ่นไลท์เวตแห่งชาติ และรับราชการทหารหญิงกอง กำลังพิเศษในเวลาต่อมา ดำรงตำแหน่งรองผู้กำกับ หลังจาก ปลดประจําการ ก่อตั้งบริษัทบอดี้การ์ด

ของตัวเอง

ในประโยคสั้นๆ ก็ได้เขียนประวัติความเป็นมาของ ซูเหลยอ ย่างละเอียดชัดเจน แม้ว่าจะไม่ได้เขียนระบุว่า ได้รับรางวัลใด บ้าง แต่ก็ยังคงทำให้หลงเขียน ชื่นชมยิ่งนัก

“สถานการณ์ของทางบริษัท และหน้าที่โดยรวม เดี๋ยวหลินเฉว จะแนะนำให้คุณในภายหลัง ทางสวัสดิการค่าตอบแทน คุณ เรียกตามใจ คุณยังมีคำถามอะไรที่จะถามไหม?” หลีชิงเขียน วางประวัติส่วนตัวลง มองไปที่ซูเหลย

ซูเหลย เหลือบมองไปรอบๆ ห้องทำงาน สีหน้าดูเคร่งขรึมเล็ก น้อย “ประธานหลีถ้าฉันเดาไม่ผิด ที่นี่ น่าจะถูกคนแอบทำกล อุบายอะไรบางอย่างแล้ว”

“แอบทํากลอุบาย? หมายถึงอะไร?” หลีซิงเขียน ชะงักเล็ก น้อย ทันใดนั้นก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นในใจ

ซูเหลยลุกขึ้นยืน ชี้ไปที่กระถางต้นไม้ ที่วางอยู่ตรงมุมห้อง ทำงานกะทันหัน “กระถางดอกไม้ที่นั่น ถูกคนแอบทำกลอุบายไว้ ถ้าไม่ใช่คนที่ทําความสะอาดท่า ก็แสดงว่า มีคนใส่เครื่องดักฟัง

“นอกจากนี้ ยังมีชั้นสามของชั้นหนังสือ มีหนังสือเล่มหนึ่งวาง ไว้ในแนวทแยงมุม โดยเจตนา ช่องว่างที่แสดงออกมา ก็เพียง พอที่จะวางกล้องแอบถ่ายแล้ว”

“และยังมีโทรศัพท์ของ ประธานหลีมีร่องรอยการถูกประกอบชิ้นส่วนอย่างเห็นได้ชัด อาจจะถูกใส่เครื่องดักฟังไว้ ข้างใน”

ซูเหลยแค่พูดก็ ถูกสุดสำคัญ ทำให้หลีซิงเขียน ตกตะลึงเล็ก

น้อย!

ซูเหลยก้าวไปข้างหน้า จับสำรวจข้างตู้หนังสือ กระถางต้นไม้ และโทรศัพท์ของหลีซิงเยียน แต่กลับสองมือว่างเปล่า ขมวดคิ้ว

มุ่น

“มีอะไรหรือ?” หลีซิงเขียน ถามขึ้น

น่าแปลก” ซูเหลย ขมวดคิ้วมั่นแล้วมองไปที่ หลีซึ่งเขียน “ประธานหลคูณดูรอยขีดข่วนนี้ เกิดจากการติดตั้งเครื่องดักฟัง อย่างแน่นอน แต่เครื่องดักฟังทั้งหมด ถูกคนถอดทิ้งแล้ว

“ถอดทิ้งแล้ว?” หลีชิงเทียนตกสะดุ้งเล็กน้อย ใบหน้าสวยงาม เปลี่ยนสีทันที “จะเป็นใคร?”

“ใครเป็นคนติดตั้ง ใครก็เป็นคนถอด” ซูเหลย ค่อยๆพูดขึ้น ทำให้ หลีชิงเขียน สีหน้าขาวซีด ในทันที ห้องทำงานของตัวเอง กลับถูกคนอื่นทําเหมือนเป็นดินแดนที่ไร้ผู้คน เข้าออกตามหา อำาเภอใจ!

ทั้งหมดนี้ จะเป็นใครที่ทำ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ