สามีข้า ข้าปกป้องเอง

บทที่ 3 ดื่มยา



บทที่ 3 ดื่มยา

บทที่ 3 ดื่มยา

ที่ลานวุ่นวายกันเป็นเวลานาน เสียงตะโกนของคนรับใช้ ดังจนไม่หยุดหย่อน นั่งเย่นั่งพิงเก้าอี้แล้วฟังเสียงข้างนอก แล้วรู้สึกว่ามีความสุข

ไม่รู้ว่าผ่านไม่นานเท่าไร ข้างนอกค่อยๆเงียบลง ทันใด นั้นสาวรับใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามา วิ่งเย่เหลือบมองเขา เขาก็ คือคนที่กล่าวหานางเมื่อตอนเช้า

นางเห็นสาวรับใช้มองนางแว๊บเดียว จากนั้นก็ได้ยิน เสียงคุกเข่าลงบนพื้น

“พระชายา เป็นความผิดของข้าเอง ข้าไม่ควรแสดง ความไร้มารยาทต่อพระชายา ได้โปรดพระชายาช่วย อย่าเล่าเรื่องให้ท่านอ๋องฟังอีกเลย บ่ายนี้เขากระโดดลง บ่อสามครั้งแล้ว พวกข้าห้ามไว้ไม่อยู่จริงๆ พระชายาได้ โปรดเมตตาด้วยเถิด”

สาวรับใช้พูดด้วยน้ำเสียงที่กำลังจะร้องไห้ วิ่งเก๋ได้ยิน เช่นนั้นก็ขยับมุม แล้วพูดว่า

“ตอนนี้ข้าเป็นพระชายาของตำหนักอ๋องโยว และก็เป็น นายของเจ้า ถ้าพวกเจ้าเชื่อฟังข้าแต่โดยดี ข้าก็จะไม่ ทำให้เจ้าลำบากใจ แต่ถ้าเกิดพวกเจ้าทำอะไรให้ข้าไม่สบายใจ ข้ามีเรื่องเล่ามากมายค่อยๆเล่าให้ท่านอ๋องของ พวกเจ้าฟัง ถ้าอยากปกป้องเขาละก็ เจ้าก็ทำให้คนรับใช้ ในตำหนักอ๋องเชื่อฟังหน่อย ข้าคนนี้นิสัยไม่ดี รับประกัน ชีวิตท่านอ๋องของพวกเจ้าไม่ได้เหรอนะ”

สาวรับใช้กัดฟัน แล้วพยักหน้าอย่างหนัก พวกนางเป็น แค่คนรับใช้ ถึงจะคับแค้นใจแต่ก็ไม่สามารถทําอะไรได้

“เจ้าชื่ออะไร? ” วิ่งเยถามยังกะทันหัน

“ข้าชื่อหลิงเอ๋อ”

วิ่งเย้เงยหน้าขึ้นมองนางแว๊บเดียว พยักหน้าเบาๆ “พอได้แล้ว ลงไปเถอะ”

หลังจากหลินเอ๋อเดินออกไป สาวรับใช้อีกคนหนึ่งก็เดิน เข้ามา สีหน้าของนางกังวลเป็นอย่างมาก แล้วพูดว่า “พระ ชายา ท่านอ๋องตกน้ำแล้วเป็นหวัด และตอนนี้ก็ไม่ยอม ทานยา ท่านไปดูหน่อยเถิด”

วั่งเย้เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็หงุดหงิดจนขมวดคิ้ว “ไม่ดื่มยาก็ บังคับเขาให้ผมสิ เรียกข้าจะมีประโยชน์อะไร”
สาวรับใช้รู้สึกลำบากใจ อย่างไรก็ตามเขาก็เป็นถึงนาย ของพวกข้า จะบังคับให้ดื่มได้ยังไง พระชายาคนนี้แค่พูด เพียงสองสามคำ ก็สามารถหลอกให้ท่านอ๋องกระโดดลง บ่อน้ำได้ งั้นก็ต้องมีทางที่จะสามารถหลอกให้ท่านอ๋อง ของพวกข้าเมยาได้

เมื่อเห็นสาวรับใช้ไม่พูด วึ่งเย่ไม่มีทางเลือก อย่างไร ก็ตามตอนนี้ก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ทำ ไปดูก็ไปดู

เมื่อคิดเช่นนั้นนั่งเก๋ก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปในห้องนอน เห็น สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆในกำลังยกถ้วยยาแล้วกล่อมให้เขา ดื่ม แต่จูนเจ๋วก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ดื่มยา หันหน้ากลับ ไปใครเรียกก็ไม่สนใจ

“ท่านอ๋อง ท่านดื่มยาเถิด ไม่งั้นหวัดจะไม่หาย”

“เอาออกไป! ข้าไม่ดื่ม! ”

“เฮ้ ท่านละก็ ทำไมพระชายาพูดอะไรก็เชื่อไปหมด แล้ว ก็กระโดดลงน้ำจริงๆ ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆพวกข้า จะรับผิดชอบกันยังไง ”

“ฮึง! พวกเจ้าไม่ต้องสนใจข้า”

เมื่อคนรับใช้เห็นเช่นนั้นก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เงยหน้า ขึ้น เห็นวิ่งเก๋กำลังยืนพิงประตู แล้วมองดูพวกนางอยู่คนรับใช้รีบลุกขึ้นแล้วทำความเคารพ “พระชายา”

วั่งเย็พยักหน้า “ลงไปเถิด ข้าอยู่นี่ก็พอ”

สาวรับใช้รู้สึกล้งเลแล้วมองไปที่จูนเจ๋ว เห็นสภาพเขา ฟ้าผ่าก็ไม่ขยับ เลยค่อยๆถอยลงไป

เพียงแค่แป๊บเดียวในห้องก็เหลือแค่วิ่งเก๋กับจูนเจ๋วเพียง สองคน วิ่งเย้ยกถ้วยยาขึ้น แล้วยกไปที่ตรงหน้าเขา แล้ว พูดด้วยสียงเย็นชาว่า “จะกินเอง หรือจะให้บังคับ” จูนเจ๋ วกำลังรู้สึกน้อยใจ ยิ่งได้ยินคำข่มขู่ยิ่งน้อยใจเข้าไปใหญ่ รอบๆดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตา แล้วพูดว่า “เจ้าหลอกข้าใช้ ไหม”

“อืม? ” วิ่งเก๋ไม่เข้าใจ

“เมื่อกี้ข้าหาในบ่อเป็นเวลานาน ไม่เห็นมีนางเงือกเลย พวกนางบอกข้าว่าเจ้าหลอกข้า”

“พวกนางบอกข้าว่าถ้าแต่งงานแล้วภรรยาจะดีต่อข้า แล้วจะดูแลและเล่นกับข้า แล้วทำไมเจ้าถึงดุกับข้าละ แล้วยังหลอกให้ข้าโดดน้ำอีก ภรรยาชั่ว” พูดเสร็จจูนเจ๋ว ยิ่งน้อยใจเข้าไปใหญ่ น้ำตาหยดลงบนเสื้อผ้า ดูยังไงก็น่า ส่งสาร
วิ่งเย้ดูสภาพเขาแล้วขยับมุมปาก จะว่ายังไงก็เป็นผู้ชาย ทำไมถึงคล้ายกับเมียน้อยจริงๆอะไรนิดอะไรหน่อยก็ ร้องไห้ ได้ยินว่าอ๋องโยวเป็นคนเย็นชาและดุร้ายไม่ใช่? ก็แค่กลายเป็นคนโง่บุคลิกแบบเดิมก็น่าจะไม่ได้เปลี่ยน ไปสักหน่อย?

“พอที ถือว่าข้าผิดเอง เจ้าจะดื่มไม่ดื่ม

จูนเจ๋วมองนางด้วยความน้อยใจ กะจะโต้ตอบ แต่เมื่อ เห็นสายตาที่เย็นชาของวิ่งเก๋ก็กลัวขึ้นมาทันที ได้แต่อ้า ปากแล้วน้ำตาไหล “อา~”

……..ข้าให้เจ้าดื่มด้วยตัวเอง! ” วั่งเก๋กัดฟันแล้วพูด เขา รู้สึกใกล้หมดความอดทนแล้ว อยากจะบีบหัวของเขาลง มาจริงๆ!

จูนเจ๋วเมื่อได้ยินเช่นนั้นยิ่งน้อยใจเข้าไปใหญ่ เลยลุก ขึ้นจากเตียงแล้วตะโกนว่า “ตอนข้าดื่มยาก็มีพวกนาง รับใช้! ทั้งๆที่เจ้าเป็นคนหลอกให้ข้าโดดลงบ่อ แล้วข้า ถึงเป็นหวัด! ตอนนี้เจ้ากลับให้ข้าดื่มยาเอง! ภรรยา ชั่วๆ! ”

“เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้นะ!

วั่งเย่โกรธจนเส้นเลือดออก แล้วพูดอยู่ในใจว่าสิบปีมานี้ ข้าสังหารแต่คน แล้วเมื่อไรเคยทำเรื่องรับใช้คนกันข้ากำลังตกอยู่ในมือของเจ้าโง่นี่

“อ้าปาก! ” วิ่งเก๋ตักยาในถ้วยแล้วยกไปตรงหน้าเขา

เดียวก็ปิดปาก เดียวก็อ้าปาก เอ่อ!

สุดท้ายจูนเจ๋วก็อ้าปาก พฤติกรรมของวิ่งเก๋ไม่สุภาพเลย นางเกือบจะเทและทิ่มโดนล่าคอของเขา เป็นแบบนี้จนดื่ม ยาหมด จูนเจ๋าจ้องนางแว๊บเดียว จากนานก็นอนหลับไป วั่งเยบีบถ้วยยาที่กำลังถืออยู่ จนเห็นรอยแตกในถ้วยได้ อย่างชัดเจน

หลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไป คนรับใช้ในตำหนักอ๋องก็ไม่ กล้าสบประมาทพระชายาอีกเลย กลัวนางจะเล่าเรื่องให้ ท่านอ๋องฟัง แล้วหลอกให้กระโดดตึกกระโดดน้อีก ด้วย สมองของท่านอ๋องในตอนนี้ จะไปสู้อะไรนางได้

สองวันนี้วิ่งเก๋ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แค่วิ่งแล้วฝึกซ้อม เท่านั้น คนรับใช้กับจูนเจ๋วก็เชื่อฟังดี ไม่ได้สร้างปัญหา อะไรให้นาง และของดีๆในตำหนักอ๋องโยวนางก็ซ่อนไว้ ไม่น้อย สองวันนี้นางได้ดื่มยาบำรุง วิ่งเย่รู้สึกว่าร่างกาย ของตัวเองนั้นดีขึ้นไม่ใช่น้อย แล้วบวกกลับเพลงยุทธของ นางในชาติก่อน ที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้ร่างกาย ได้ ถึงจะไม่สามารถเทียบเท่าเมื่อก่อนได้ แต่ก็ไม่ได้แตก ต่างจากคนทั่วไป
เดิมทีคิดว่าจะสามารถอยู่ในตำหนักอ๋องได้อย่างสงบ สุข แต่เมื่อถึงวันที่สาม หลิงเอ๋อก็เข้าปลุกนางและจูนเจ๋ว ตั้งแต่เช้า

“ท่านอ๋องพระชายาตื่นเร็วเข้า ควรตื่นมาแต่งตัวได้แล้ว” หลิงเอ๋อพูด

วิ่งเย่ลืมตาขึ้น เห็นได้ชัดว่าใบหน้าของนางนั้นโกรธมาก

นางเกลียดการที่นางนอนอยู่แล้วมีคนเข้าปลุกมากที่สุด

สาวรับใช้คนนี้ไม่อยากมีชีวิตต่อหรือไง?

เมื่อรู้สึกได้ว่าวิ่งเก๋กำลังโกรธ หลิงเอ๋อก็รีบอธิบาย “พระ ชายาทรงอย่าโกรธเลย วันนี้เป็นวันที่ต้องกลับบ้าน ท่าน กับท่านอ๋องต้องไปที่จวนแม่ทัพ

“กลับอะไรบ้าน ยังไงตระกูลหรงก็ไม่อยากเห็นหน้าพวก ข้า ไม่ไป” นั่งเก๋พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“พระชายา ไม่ไปไม่ได้นี่เป็นกฎ ถ้าเกิดแม้แต่บ้านก็ไม่ กลับคนเขาจะพูดกันได้ ถ้าถึงตอนนั้นในวังต้องส่งคนมา ถามแน่นอน”

ส่งคนในวังมาถาม ถ้าเป็นแบบนั้นเรื่องก็จะยุ่งยากเข้าไปใหญ่

วั่งเย่ลุกขึ้นนั่งด้วยความหงุดหงิด ใบหน้าของนางมืดดถึงขีดสุด แรงจืด มืดมนเต็มไปทั่วห้อง หลิงเอ๋อเมื่อ เห็นเช่นนั้นตกใจจนขาอ่อน ก็แค่กลับบ้าน ไม่ต้องโกรธ ถึงขนาดนั้นก็ได้

ดวงตาวิ่งเย่ส่องแสงที่มืดมิดออกมา ตระกูลหรง วันนี้อยู่ ดีๆจะเป็นอันดีที่สุด ถ้ากล้าสร้างปัญหาละก็ ข้าจะฉีกพวก เจ้า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ