ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่...

บทที่ 8 ไม่แน่อาจจะเร็วๆนี้



บทที่ 8 ไม่แน่อาจจะเร็วๆนี้

บทที่ 8 ไม่แน่อาจจะเร็วๆนี้

เจียงจื้อสื่อได้ยินแล้วก็ตกตะลึง คิดในใจว่าแบ่งเตียงครึ่ง หนึ่งอะไรกัน คุณช่างไม่เกรงใจเลยจริงๆ แล้วคนนี้ใช่จิ้นเฟิง เฉินจริงๆเหรอ ที่ได้ยินมาจิ้นเฟิงเฉินแลดูสูงส่งและเย็นชา แต่ ที่เห็นมีแต่คำแรกชัดๆ ไม่งั้นจะพูดจาแบบนี้ได้ยังไง

ในขณะที่เธอกำลังสงสัยอยู่นั้นจิ้นเฟิงเฉินก็รู้ตัวดีว่าเขาได้ พูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป เขาจึงไอเบาๆ เพื่อปกปิด จาก นั้นสีหน้าก็กลับมาเย็นชาเหมือนเดิม

เขาพูด “เสียวเป่ายังไม่ได้อาบน้ำสงสัยต้องรบกวนคุณแล้ว แหละ”

เจียงสื้อสื้อดึงสติกลับมาแล้วพูดว่า “ได้ ไม่มีปัญหา”

หลังจากที่ตอบเสร็จ เธอก็รู้สึกว่าบทสนทนามันผ่านไปเร็ว เหลือเกิน เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่ใจ

แต่เธอก็ไม่ได้โง่เขลาคิดถึงเรื่องราวนี้อีก แล้วก็หันกลับไป หาเสื้อผ้าให้เสียวเป่า ถึงแม้บ้านของเจียงจื๊อสื้อจะเล็ก แต่ที่นี่ มีครบทุกอย่าง แม้แต่เสื้อของเด็กเล็กก็มีอยู่เต็มตู้
ห้าปีนี้ นี่คือสิ่งที่เขาเตรียมมาเพื่อให้เด็กคนนั้น ถึงแม้จะรู้ดีว่า ชาตินี้คงจะไม่ได้เจอหน้ากันแล้ว แต่ทุกๆปี ทุกๆ ฤดูก็จะเตรียม ไว้ชุดสองชุด และอีกอย่างอายุของเด็กคนนั้นกับเสียวเป่าก็ ไล่เลี่ยกัน

เจียงสื่อสื้อไม่ได้คิดอะไรมาก หยิบเสื้อลายวัวที่อยู่ชั้นนอก สุดออกมา

น่ารักมากเลย !

สำหรับของจิ้นเฟิงเฉินที่นี่ไม่มีเสื้อผ้าที่เขาจะใส่ได้ แต่จิ้นเฟิง เฉินก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก

20นาทีต่อมา เจียงซื้อสื้ออุ้มเสี่ยวเป่าที่ตัวหอมฟุ้งออกมา จากห้องน้ำเสี่ยวเป่าใส่เสื้อลายวัว ใส่พอดีอย่างไม่น่าเชื่อ ราวกับว่าเสื้อตัวนี้ถูกเตรียมมาเพื่อเสี่ยวเป่าโดยเฉพาะ

หลังจากที่จิ้นเฟิงเฉินเห็นแล้ว ในแววตาของเขาแสดงให้ เห็นว่าเขากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ เหมือนเขามีอะไรที่อยากจะ ถาม แต่หลังจากไตร่ตรองแล้ว เขาก็ล้มเลิกความคิดนั้น

เจียงซื้อสื้อก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะอธิบายอะไรให้ฟัง เพราะคง รู้จักไม่ถึงวัน ต่อให้สนิทกันแต่สำหรับเรื่องในอดีตเธอก็ไม่ อยากจะรื้อฟื้น
ดังนั้นเธอจึงอุ้มเสี่ยวเป่าเข้าไปในห้อง หลังจากนั้นก็หา ผ้าห่มที่สะอาดออกมาให้จิ้นเฟิงเฉิน

“โซฟาเล็กไปหน่อย คุณอาจนอนไม่ค่อยสบาย

“ไม่เป็นไร ขอบคุณสําหรับคืนนี้

จิ้นเฟิงเฉินรับผ้าห่มไป นิ้วมือบังเอิญไปโดนหลังมือของเจียง สื้อสื้อผิวกายทั้งสองสัมผัสกันเจียงสื่อสื้อแข็งทื่ออยู่สักพัก สีหน้าอึดอัดและหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด แล้วเธอก็รีบเอามือ ออกไป

จิ้นเฟิงเฉินยังคงเคลิบเคลิ้มกับความนุ่มนวล ดวงตาของเขา มืดสลัว และเขาก็ดูสับสนเล็กน้อย ไม่รู้ทำไมปกติจะต้องคอย ระวังเจียงจื๊อสื้อแต่ตอนนี้ความรู้สึกนั้นมันลดเลือนหายไปแล้ว ความรู้สึกแบบนี้เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อนน่าแปลกใจ จริงๆ

เจียงอื้อจื๊อไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เธอกลับไปในห้องหยิบเสื้อ นอนแล้วก็ไปอาบน้ำ ในบ้านมีผู้ชายอยู่ ทําอะไรก็ไม่สะดวก แต่ยังดีที่เจียงจื้อสื้อหัวโบราณ ใส่เสื้อผ้าก็มิดชิดเรียบร้อย ตอนเธอออกมาจิ้นเฟิงเฉินนอนอยู่บนโซฟาตาปิดสนิท หายใจสม่ำเสมอ ดูท่าเหมือนจะนอนหลับแล้ว
เจียงจื๊อรื้อถอนหายใจ แล้วก็ปิดไฟเตรียมเข้านอน โดยที่ ไม่รู้ว่า ตอนนี้ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังได้ลืมตาขึ้นแล้ว ดวงตาที่มืด ดำราวกับท้องฟ้ายามค่ำได้เพ่งไปที่เงาของเธอ

ร่างกายของเธอบอบบาง และเธอกำลังใส่ชุดนอนที่มิดชิด ลายการ์ตูนหมีเหมือนเด็กไร้เดียงสา

แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดจิ้นเฟิงเฉินรู้สึกราวกับว่ามีเลือดพลุ่ง พล่านอยู่ที่ท้องน้อยของเขา ที่ที่ปกติสามารถควบคุมตัวเองได้ ดีกลับมีปฏิกิริยาตอบโต้

ป้ง !

ประตูปิดลงจิ้นเฟิงเฉินใช้เวลาสักพักกว่าจะทำให้สิ่งนั้นสงบ ลง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความคาดไม่ถึง เขา…กลับมีอารมณ์กับ ผู้หญิงที่เพิ่งเจอได้ไม่ถึงวัน

เช้าวันต่อมา ตอนที่เจียงซื้อสื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าจิ้นเฟิงเฉินไม่ อยู่แล้ว บนโต๊ะมีกระดาษโน้ตวางอยู่เขียนว่า มีธุระด่วนขอตัว ไปก่อน ฝากเสี่ยวเป่าด้วยตอนค่ำผมจะมารับเขาเอง ส่วนความ เสียหายทางหน้าที่การงานผมจะชดใช้ให้เอง
เจียง อสื่ออ่านเสร็จเธอก็รู้สึกหมดคำพูด ได้แต่คิดในใจว่า พ่อที่ไหนกันกล้าทิ้งลูกไว้ในบ้านของผู้หญิงแปลกหน้า เขา วางใจได้ยังไง ไม่กลัวว่าฉันจะวางแผนทําชั่วเหรอ หลังจาก ต่อว่าเขาเสร็จแล้วเจียงสื่อสื้อก็เอาโทรศัพท์ออกมา โทรหา ผู้จัดการเพื่อที่จะลางาน เธอคิดว่าน่าจะไม่น่าจะมีหวัง เพราะ ช่วงนี้ที่บริษัทมุ่งมากๆ

ใครจะไปรู้ ผู้จัดการไม่ได้ว่าอะไร แถมยังตอบตกลงด้วย ซ้ำ “ผมรู้แล้ว จิ้นกรุ๊ปได้แจ้งผมไว้แล้ว เขาบอกว่าคุณกำลัง ปรึกษาหารือกับพวกเขาเรื่องขั้นตอนและรายละเอียดของงาน เลี้ยงอยู่สื้อสื้องานครั้งนี้จะไปถึงฝั่งไหม พวกเราคงต้องพึ่งคุณ แล้วนะ คุณต้องจัดการให้ดีล่ะ ถ้าหากสำเร็จ ปลายเดือนผมจะ ให้โบนัสหนึ่งแสน

เจียง อ อตกใจมาก

หนึ่งแสนเลยเหรอ

เงินนี้คงจะพอซื้อยาให้แม่ได้อีกหลายเดือนเลย

คิดไม่ถึงเลยว่า สุดท้ายตัวเองกลับพึ่งบุญบารมีของเสี่ยวเป่า จนได้รับแต่สิ่งดีดีแบบนี้

ณ ห้องผู้บริหาร จิ้นกรุ๊ป
กู้เนียนกําลังรายงานตารางงานของทั้งวัน “9นาฬิกา เป็นการประชุมของผู้บริหารชั้นสูง 10นาฬิกาประชุมผู้ถือหุ้น 11นาฬิกาประชุมทางไกลกับบริษัทย่อยต่างประเทศ บ่าย2 ประชุมกับท่านกัวจากธนาคารย่าไท่เกี่ยวกับกําหนดการนัด หมาย 4โมงเย็น ท่านเกาจากหวนฉิวกรุ๊ปนัดท่านไปตีกอล์ฟ หนึ่งทุ่มตรง งานวันเกิดของคุณท่านตระกูลซ่ง ท่านต้องไปให้ ได้

จิ้นเฟิงเฉินจดจ่อไปที่เอกสารบนโต๊ะ ไม่ได้มองขึ้นมาดูเลย แม้แต่น้อย เขาพูด “ประชุมตอนบ่ายสามผมจะจัดการเอง งาน ตอนเย็นและตอนคําให้จิ้นเฟิงเทราไปแทน

ในระหว่างที่กู้เนี่ยนกำลังจะตอบ” ได้” ก็มีเสียงมาจากข้าง นอกห้อง ทําไมพอผมมาถึง ก็ได้ยินแต่ตารางงานยาวเป็น หางว่าว พี่บ้าไปแล้วเหรอ ผมเพิ่งกลับมาจากทำงานที่ต่าง จังหวัดนะ ให้ผมได้หายใจบ้างเถอะ

คนที่เพิ่งมาคือจิ้นเฟิงเหรา คุณชายรองแห่งตระกูลจิ้นและ ก็คือมือรองแห่งจิ้นกรุ๊ป ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยสนใจโลก เอ้อระเหยลอยชาย แต่เวลาทํางานเขาจริงจังมากไม่รองไป จากจิ้นเฟิงเฉินเลย อีกอย่างหน้าตาเขาก็หล่อเหลาดูดีแลดู ภูมิฐาน เป็นตัวแทนของจิ้นกรุ๊ปไปออกงานและก็ออกสื่อบ่อยๆ นอกจากนี้ผู้หญิงนับไม่ถ้วนก็ยังยอมจำนนแก่เขาอีก เขาเป็นที่ น่ายอมรับมาก ไม่รองไปจากจิ้นเฟิงเฉินเลย
ตอนนั้น เท้าหน้าของเขาเพิ่งจะก้าวข้ามคานประตูเข้ามา เท้าหลังหยุดชะงักกำลังถอยหนีออกไป

จิ้นเฟิงเฉินมองไปที่เขาด้วยสายตาที่คมกริบราวกับมีด พูด แบบไม่มีโอกาสให้คนอื่นพูดแทรก” เข้ามา

จิ้นเฟิงเทราซึมฮัมอย่างเศร้าใจ แล้วก็ก้าวเข้ามา

กู้เนี่ยนแสดงสีหน้าเห็นอกเห็นใจ และกล่าวทักทาย “คุณชายสอง”

จิ้นเฟิงเหราโบกมือตอบกลับ แล้วนำเอกสารที่อยู่ในมือ ส่ง ไปให้พี่ชาย

เขาแค่มาส่งเอกสารเฉยๆ ไม่คิดว่าจะโชคร้ายแบบนี้ก็เลยหา ข้ออ้าง”พี่ ตอนค่ำผมมีนัดแล้วผมอาจไปแทนพี่ไม่ได้แล้ว”

จิ้นเฟิงเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ผู้หญิงพวกนั้น ไม่นัดแค่ วันเดียว ก็คงไม่หายไม่ไปไหนหรอก”

“ใครบอก ครั้งนี้ผมทุ่มเทมากเลยนะกว่าจะสำเร็จ” จิ้นเฟิง เหราพูดอย่างน่าเชื่อถือ
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มเยาะเย้ย ดื่มเหล้าเมาเล่นไม่ทําการทํางานไม่ เอายังจะดีกว่า ถ้านายแน่จริงก็หาสาวแต่งงานเลย พ่อแม่จะ ได้ดีใจ”

จิ้นเฟิงเหราฟังแล้วตกใจ เลยก้าวถอยหลังไป “พี่ อย่าพูด เรื่องน่ากลัวเรื่องเครียด ๆแบบนี้ได้ไหม ผมลัทธิคนโสดไม่ ยอมให้ผู้หญิงมาทำลายชีวิตผมหรอก พี่ดูอย่างพ่อสิ โดนแม่ คุมเข้มซะขนาดนั้น แค่เห็นผมก็รู้สึกว่าชีวิตมืดมนแล้ว

“นายอายุก็ไม่น้อยแล้วนะ เมื่อก่อนที่แม่เอารูปผู้หญิงสวยๆ ฐานะดีมาให้ดู พี่ว่าก็ไม่เลวนะ เดี๋ยวจะเลือกมาให้สักคน จิ้นเฟิงเฉินกวาดตามองไปที่เขาเหมือนข่มขู่

จิ้นเฟิงเหราน้ำตาไหลนองน้ำเสียงโศกเศร้า “ผมอายุเยอะ ที่ไหนกัน ปีนี้แค่27เอง อายุน้อยกว่าพี่แค่2ปี พี่ยังไม่แต่งงาน เลย ผมจะรีบร้อนทำไม

จิ้นเฟิงเฉินเงียบไปสักพัก”ไม่แน่ อาจจะเร็วๆนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ