ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่...

บทที่ 16 คุกเข่าขอโทษ



บทที่ 16 คุกเข่าขอโทษ

บทที่ 16 คุกเข่าขอโทษ

ช่วงสาย เจียงจื๊อสื้อเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน ไม่นานก็ลืม เรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเช้า แล้วก็ไม่ได้เจอเจียงนวลนวลและ หลานซือเฉินอีก

เธอกลับนึกว่าทั้งสองคนนั้นกลับไปแล้ว

ตอนเที่ยงเหอหลินเรียกเธอไปกินข้าวด้วยกัน เธอก็ไม่ได้ไป แต่กลับไปห้องน้ำแค่รอบเดียวเท่านั้น

ใครจะไปรู้เพิ่งจะเดินออกมาไม่ทันไร ก็มาพบเข้ากับเจียง นวลนวลที่กำลังเติมหน้าอยู่หน้ากระจกตรงอ่างล้างมือ

เจียงจื๊อสื้อนิ่งชะงัก แววตาเริ่มนิ่งขรึมขึ้น แล้วก็เดินเข้าไป ล้างมืออย่างช้าๆ

ทั้งสองยืนขนาบข้างกัน

เจียงนวลนวลมองสำรวจเจียงซื้อสื่อผ่านกระจก ริมฝีปากสี แดงยิ้มอย่างเยาะเย้ย ก่อนจะพูดขึ้น”พี่สาว เจอกันอีกแล้วนะ”
เจียง อสื่อไม่ได้มองดูเธอเลยสักนิด ราวกับไม่ได้ยิน

เจียงนวลนวลก็ไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย พูดขึ้นต่อไม่เจอ กันห้าปี ไม่มีข่าวคราวของพี่ ฉันก็นึกว่าพี่จะเป็นอะไรไป คิดไม่ ถึงว่าจะมาซุกหัวอยู่ในบริษัทเล็กๆแบบนี้ ….งคงใช้ชีวิตน่า สมเพชเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ ! ”

พอพูดถึงตรงนี้ เธอก็หัวเราะออกมาอย่างเยาะเย้ย

เจียงสื่อสื้อพูดตอบกลับด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ แค้น ไม่ต้องมาเรียกซะสนิทสนมอย่างนั้น แม่ของฉันคลอด ลูกออกมาแค่คนเดียวเท่านั้น ไม่ยักจะรู้ว่าแอบไปคลอดลูก นอกคอกด้วยตั้งแต่เมื่อไร

พอได้ยินคำว่า ‘นอกคอกคำนี้ เพียงนวลนวลที่หัวเราะอย่าง สะใจอยู่ก่อนหน้านี้ สีหน้าก็นิ่งลงทันที สายตาเย็นชาขึ้น นี่แก ว่าใครเป็นลูกนอกคอก?”

“ใครอยากรับก็รับไป

เจียงสื่อสื้อปิดก๊อกน้ำ แล้วสะบัดมือด้วยท่าทางเย้ยหยัน สายตาจ้องมองไปที่เธอพร้อมกับพูดขึ้น”เจียงนวลนวล ไม่เจอ กันหลายปี เธอก็ยังคงเหมือนกับเห็บหมาไม่เปลี่ยนเลยนะ เกาะแกะไปทั่ว น่าขยะแขยง
เสียงนวลนวลโกรธจนเลือดขึ้นหน้า

ในชีวิตนี้ที่เกลียดที่สุดคือเวลาที่คนเรียกเธอว่า ลูกนอกคอก

ทุกครั้งที่ได้ยิน มันทำให้รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเยาะเย้ยเธอ ว่าเป็นลูกเมียน้อย

ตอนนี้เจียงซื้อสื้อไม่ได้แค่เรียกเฉยๆ แถมยังบอกอีกว่าเธอ เป็นเห็บหมา !

“ชั้นต่ำ แกมีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าฉันเป็นเด็กนอกคอก? ถ้า เทียบกับแก ผู้หญิงที่คลอดไอ้เด็กนอกคอกออกมาให้คน อื่น แถมยังทอดทิ้งไปอย่างไม่ใยดีแล้ว ฉันว่าฉันดีกว่าไม่รู้ตั้ง เท่าไร

คำด่าที่แสนเจ็บแสบของเจียงนวลนวล มันเคยกระตุ้นอารมณ์ ความรู้สึกของเจียงซื้อสื้อยังไง ตอนนี้มันก็ยังคงเป็นแบบนั้น

เจียงจื๊อสื้อสีหน้าเปลี่ยนไปจนแทบดูไม่ได้ สองมือกำแน่น กัดฟันพูดขึ้น”เธอลองพูดประโยคเมื่อกี้มาอีกรอบสิ !

เจียงนวลนวลไม่หวาดกลัวเลยสักนิด พูดตอบกลับหน้าตาเฉย ให้พูดอีกรอบแล้วมันจะทำไมเหรอ? หรือว่าฉันพูดผิดตรง ไหน? ที่แกยอมคลอดเด็กออกมา ก็เพื่อเงิน การกระทำต่ำช้า ไร้ยางอาย ! แกทำให้ทั้งตระกูลเจียงต้องอับอายขายขี้หน้า ไม่แปลกที่พ่อกับ อเงินไม่เอาแก่ ถ้าเกิดแม่แกรู้เรื่องนี้ด้วย ไม่แน่นะอาจจะยอมตรอมใจตายไปเลยก็ได้ ตายซะจะได้จบๆ ดีกว่าอับอายขายขี้หน้าคนอื่น

เจียงนวลนวลยิ่งพูดยิ่งใส่อารมณ์ จนกระทั่งประโยคสุดท้าย ถึงกับลั้งปากไว้ไม่อยู่

เจียง ออรู้สึกว่าเลือดในตัวกำลังเดือดดาล

ความโกรธเกลียดเคียดแค้นที่มันสมอยู่ในทรวง ยังไงก็อัด งั้นเอาไว้ไม่อยู่แล้ว

เธอยกมือขึ้นมา ตบลงไปที่หน้าของเสียงนวลนวลอย่างแรง

เจี๊ยะ

เสียงตบ ดังก้องห้องน้ำ

หน้าของเจียงนวลนวลถูกตบจนหันไปอีกข้าง ใบหน้าที่ขาว นวล ประทับไว้ด้วยรอยนิ้วมือแดงและบวม
เธอมองเจียงจื๊อสื้อด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ คิดไม่ถึงว่า เจียง อ อจะลงไม้ลงมือกับเธอ

หลังจากผ่านไปอยู่นาน เธอจึงมีปฏิกิริยาตอบกลับ สายตา เกลียดชัง สีหน้าบูดเบี้ยว”เจียงสื้อสื้อ นี่แก…กกล้าตบ ฉัน ! ”

พอจะพูดจบ เจียงอื้อซื้อก็ใช้มือตบเข้าไปอีกครั้งอย่างเต็ม

แรง

“ก็ตบเธอไง ! เจียงนวลนวลที่ฉันมีวันนี้ได้ ก็ต้องกราบ ขอบพระคุณเธอนะ ความรู้สึกเจ็บที่หน้าของเธอ สาแก่ใจ แล้วยัง? ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ สิ่งที่ฉันทำลงไปวันนี้ เธอ สมควรที่จะได้รับแล้ว

พอพูดเสร็จ เจียงจื้อสื้อก็เดินจากไป โดยที่ไม่หันกลับมามอง เธอสักนิด

เจียงนวลนวลจะปล่อยไปได้ยังไง รีบเดินตามออกไปทันที พูดตะโกนอย่างบ้าคลั่ง เจียงสื่อสื้อ !!!”

เจียงจื้อ อทําหูทวนลม

เงยหน้ามาก็เจอเข้ากับหลานซือเฉินที่กำลังยืนรออยู่
ชายหนุ่มยังคงดูหล่อเหล่าไม่เปลี่ยน

พอเห็นเธอ สีหน้าเขาก็ตกใจขึ้นมา แต่มีท่าทางตกใจอยู่ได้ ไม่นาน หลังจากที่เห็นรอยมือบนหน้าของเจียงนวลนวลแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนทันที

“นวลนวล ! เกิดอะไรขึ้น?

เจียงนวลนวลที่พอเห็นหลานซือเฉิน ก็รีบสลัดความเกลียด งบนใบหน้าทิ้งไป จากนั้นก็แสร้งทำเป็นอ่อนแอน้ำเสียง ออเซาะทันที พูดขึ้นพลางร้องห่มร้องไห้”พี่อเฉิน…….

“หน้าของเธอ…..หลานซือเฉินมองใบหน้าที่บวมแดงทั้งสอง ข้างของเธอ ตกใจไม่น้อย จากนั้นก็หันไปมองเจียงซื้อสื้อด้วย สายตาที่ทั้งตกใจและโมโห“เจียงสื่อสื้อ ! คุณทําเหรอ?”

เจียงสื้อสื่อหันกลับมามองเขาอย่างไม่แยแส แล้วมันจะ ทำไม?”

หลานซือเฉินหน้านิ่งขรึม พร้อมกับพูดขึ้นอย่างไม่ถามเหตุ ถามผล นวลนวลเป็นน้องสาวของคุณ คุณมีเหตุผลอะไร ถึง ตบเธอแบบนี้?”
เจียงนวลนวลซุกในอ้อมกอดของเขา พูดสร้างสถานการณ์ ใส่ร้าย ตะกี้พอฉันเห็นพี่อยู่ข้างในก็รู้สึกดีใจมาก เลยเข้าไป พูดทักทายกับเธอ แต่ใครจะไปรู้ ไม่ทันได้ตั้งตัวพี่ก็เข้ามาตบตี ฉัน”

เจียงสื่อสื่อมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา

ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว เจียงนวลนวลเล่นละครตีสองหน้าแบบ นี้เนียนขึ้นเรื่อยๆ

แต่หลานซือเฉินกลับเอาแต่เชื่อเธอไม่มีเปลี่ยน

“เจียงจื๊อสื้อ รีบขอโทษนวลนวลเดี๋ยวนี้ ! “ชายหนุ่มหน้านิ่ง ขรึมขึ้น พร้อมพูดออกคำสั่ง สายตาเย็นชาเชือดเฉือนราวกับ ม็ด

เจียงจื๊อสื้อจ้องมองเขา มันช่างน่าขำสักเหลือเกิน

มิตรภาพตั้งแต่วัยเด็กเป็นเวลายี่สิบกว่าปี คงเทียบไม่ได้กับ วาทศิลป์ของเจียงนวลนวล

ห้าปีก่อนเป็นยังไง ห้าปีให้หลังก็ยังคงเป็นแบบนั้น !
แม้ว่าในใจจะไม่มีผู้ชายคนนี้แล้ว แต่เจียงสื่อสื้อก็ยังคง ควบคุมความเสียใจเอาไว้ไม่ได้อยู่ดี

เสียใจให้กับตัวเองที่ตาบอดในตอนนั้น เผลอไปหลงชอบ ผู้ชายแบบนี้ !

เธอยิ้มออกมา หันสายตามามองเขาอย่างเชือดเฉือนดุจ หนามแหลม พร้อมกับพูดขึ้น คุณเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรมาบอก ให้ฉันขอโทษ?”

หลานซือเฉินที่ได้ฟัง สีหน้าก็เย็นชาขึ้นกว่าเดิม

ผู้หญิงตรงหน้า ไม่ได้อ่อนโยนและเชื่อฟังเหมือนในวันนั้นอีก ต่อไปแล้ว

เธอแข็งกร้าวขึ้นมาก ทั้งตัวเต็มไปด้วยหนาม สายตาที่มอง เขาก็มีแต่ความเย็นชาและขยะแขยง

หลานซือเฉินเหมือนมีหนามกำลังทิ่มแทงอยู่ในใจ รู้สึกจุก

แน่น

ขณะนี้หลี่เซิ่งและเหยนอี้เฟยที่พอได้ยินก็รีบวิ่งมาทันที เห็น สิ่งที่อยู่ตรงหน้า ก็ตกใจและมึนงงไม่น้อย
“ประธานหลาน…..นี่มันอะไรกัน?

หลานซือเฉินที่ดึงสติกลับมา ก็พูดขึ้นพร้อมกับมองไปยัง เจียงสื่อสื้อด้วยสายตาเย็นชา “คุณหลี่ คนนี้เป็นพนักงานของ บริษัทของพวกคุณใช่ไหม?

หลี่เพิ่งหันมองไปที่เจียงซื้อสื่อ หนึ่งทีแล้วพูดขึ้น”ใช่ครับ เธอ เป็นประธานที่รับผิดชอบโปรเจกต์ของจิ้นกรุ๊ปในครั้งนี้

“เหอะ ประธานผู้รับผิดชอบนี่เอง ! อารมณ์ฉุนเฉียวจริงๆ จู่ๆก็ มาลงไม้ลงมือกับคู่หมั้นของผม ! คุณหลี่คุณจะอธิบายเรื่องนี้ กับผมยังไง?”

หลานซือเฉินใช้มือลูบๆปลอบเจียงนวลนวลพลางถามหลี่เพิ่ง

หลี่เซิ่งและเหยนอี้เฟยพอเห็นใบหน้าที่บวมแดงของเจียง นวลนวล ก็ตาโตอ้าปากค้าง

“นี่…….นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เจียงซื้อสื้อ นี่คุณทำลงไปเห รอ?”หลี่เพิ่งถามขึ้นด้วยความตกตะลึงและมึนงง

เจียงจื๊อซื้อก็ไม่ได้ปฏิเสธ”ฉันทำเองค่ะ”
เหยนอีเฟยที่แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ค่อยชอบหน้าเจียงสื่อสื่ออ ยู่แล้ว พอครั้งนี้เห็นเธอไปรุกรานแขกคนสำคัญของบริษัท แน่นอนว่าเธอก็ซ้ำเติมอย่างสุดกำลัง”เจียงซื้อสื้อ คุณนี่ช่าง กล้าเหลือเกินนะ แม้แต่แขกคนสำคัญของบริษัทยังกล้าไป รุกราน ยังไม่ขอโทษอีก หรือคุณอยากจะทำลายบริษัทกัน?”

เจียงสื่อสื้อสบถออกมา ฝันไปเถอะ !

หลานซือเฉินสีหน้ายิ่งดูบูดเบี้ยวขึ้นกว่าเดิม คุณหลี่…ดูแล้ว ระหว่างพวกเราคงจะไม่มีโอกาสได้ร่วมงานกันแล้วล่ะมั้งครับ วันนี้รบกวนมากพอแล้ว”พูดเสร็จก็ประคองเจียงนวลนวลทำท่า จะจากไป

หลี่เซิ่งก็ลนลานขึ้นมาทันที ยื่นมือไปรั้งหลานซือเฉินเอาไว้ พร้อมกับพูดขึ้น ประธานหลานรอสักครู่ครับ”

จากนั้นก็วิ่งไปดึงเจียงสื่อสื้อพร้อมกับถามขึ้น”เจียงจื๊อสื้อ มัน เกิดอะไรขึ้น? คุณรู้ไหมว่านี่คือใคร? นี่เป็นที่พึ่งพิงรายใหญ่ ของบริษัทเราเลยนะ คุณไม่ห่วงกะลาหัวบ้างหรือไง ทำไมถึง ไปล่วงเกินพวกเขา? คุณรู้ไหมว่าถ้าพวกเขาไปจริงๆ บริษัท พวกเราจะขาดทุนไปเท่าไร?

เจียงสื่อสื้อกัดฟันถามเขา แล้วผู้จัดการจะให้ฉันทำยังไง?
หลี่เซิ่งพูดขึ้นอย่างรีบร้อนทันที แน่นอนว่าต้องไปขอโทษ”

“แค่ขอโทษก็พอเหรอ?”เจียงจื๊อสื่อมองเจียงนวลนวลยิ้ม อย่างเย็นชา

เธอไม่คิดว่า ผู้หญิงคนนี้จะยอมให้เรื่องมันจบง่ายๆแบบนี้

หรอก

อย่างที่คิดไว้ ไม่กี่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงของเจียงนวลนวล พูดขึ้น คุกเข่าขอโทษฉัน ! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ