บทที่ 56 นับวันคุณยิ่งน่าผิดหวังขึ้นเรื่อย ๆ
ธิชาเพิ่งจะเดินเข้าหาได้ไม่กี่ก้าว แทบยังทรงตัวไม่ได้ดีเลยก็ ถูกเขาลากเข้าสู่อ้อมอกไปแล้ว
ท่อนบนของธาวินเปล่าเปลือย ส่วนท่อนล่างนั้นพันผ้าขนหนู เอาไว้ แถมมานอนตากแดดกลางวันแสกๆ อยู่ตั้งนาน จนทำให้ ร่างกายร้อนผ่าวไปทั้งตัว
ธิชาที่แนบกับแผงอกของเขารู้แค่ว่ามันร้อน จนแก้มก็ร้อนตาม
ไปด้วย
หลังจากที่เธอนั่งทรงตัวได้ดีแล้วก็ยื่นมือออกไปดันหน้าอก ของเขา และผลักเขาออกเล็กน้อย พยายามรักษาระยะห่างกับ เขา
ทว่าธาวินกลับไม่มีท่าทีที่จะหยุดเลย พลางกอดเธอที่อยู่ใน
อ้อมอกเอาไว้แน่นขึ้นเรื่อย
แม้ว่าพงศ์พนาไม่ใช่คนนอกก็ตาม เขาอยู่ข้างกายของมานาน หลายปีถือว่าเป็นญาติที่สนิทสนมกันมากที่สุดก็ได้
ทว่าธิชายังคงไม่คุ้นชินกับการทำตัวสนิทสนมแนบแน่นเช่นนี้ กับธาวินต่อหน้าคนอื่น
แววตาของพงศ์พนาสดใสดั้งเดิม สายตาจ้องมองไปทางด้าน หน้า ราวกับหลักการมองข้ามผ่านเรื่องที่ไม่มีมารยาทไปเลย ก็ เหมือนว่าคงคุ้นชินกับภาพนี้มาตั้งนานแล้ว เลยไม่ได้รู้สึกว่าไม่เหมาะสมแต่อย่างใด
ธานบีบปลายคางของเธออย่างแผ่วเบา จากนั้นก็พูดอย่าง สบาย ๆ “พงศ์พนาเขาชมคุณให้ผมฟังไม่น้อยเลยนะ ได้ยินหรือ เปล่าเนี่ย?”
ธิชาคิดอยู่ในใจว่าเมื่อครู่ก็อยู่ใกล้ขนาดนั้น ถ้าพูดว่าไม่ได้ยิน ก็ตอแหลไปแล้วแหละ
เธอจึงพยักหน้าตอบรับ “ได้ยินบ้าง… ผู้ช่วยพงศ์พนาเป็นคน ช่างเจรจา เขาคิดถึงเรื่องที่ฉันเพิ่งจะมาถึงมันก็ไม่ง่ายเลย จึงได้ พูดคำพูดที่น่าฟังออกมาหลายประโยคเพื่อเป็นการชื่นชมฉันก็ ถือว่ามันเป็นเรื่องปกติทั่วไป
ธาวินพ่นลมพรือ “คุณไม่รู้จักถ่อมตนเลยนะ”
พงศ์พนาที่อยู่ด้านข้างพูดต่ออย่างไร้ข้อบกพร่อง “คุณธิชาที่ เพิ่งเข้ามารับดูแลธุรกิจได้ไม่นานและจัดการได้อย่างเป็นระบบ ทำให้คนอื่นเห็นถึงความพัฒนาจริงๆ ผมก็แค่กล่าวรายงานให้ คุณชายฟังไปตามความจริงเท่านั้นเอง”
ธาวินยังคงทําท่าเล่นไม่เลิก “ผมว่านะ คุณใช้ทักษะในการ สื่อสารกับคนเท่านั้นแหละ ด้วยท่าทางเชื่อฟังนอบน้อมไม่มีพิษมี ภัย จนทำให้คนยอมปล่อยความระมัดระวังตนออกมา บวกกับ ทุกคนต่างรู้ว่าคุณแช่ธนาภูวนัตถ์ ยังไงเสียก็ต้องไว้หน้าผมบ้าง แหละ พอเวลาทำธุระต่างๆ ก็ย่อมง่ายดายมาก ส่วนเรื่องความ สามารถนั้น … ยังคงต้องคอยสังเกตไปเรื่อย ๆ ผมอยากจะเห็น จริงๆ ว่าเด็กสาวที่ขนยังขึ้นไม่เต็มตัวยังมีความสามารถขนาดไหนๆ
ปากเขาก็พูดไป ฝ่ามือใหญ่ก็เริ่มความหาอยู่ตรงบริเวณเอว และหน้าท้อง จากนั้นก็มุดลงทางใต้เสื้อทันที
พงศ์พนาจับสัมผัสได้บรรยากาศของที่นี่เริ่มมีบางอย่าง เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
เขารีบพูดตัดบทและขอตัวไปก่อนทันที
ในที่สุดริมขอบสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ก็เหลือแค่พวกเขาสอง
คน
ธิชาผ่อนคลายลงเยอะ มือเล็กๆ เริ่มจับฝ่ามือใหญ่ที่เริ่มแสดง พฤติกรรมร้ายกาจออกมา แถมตอบโต้กลับทั้ง ๆ ที่หน้าแดงแจ๋ “ฉันโตแล้วนะ ขนอะไรที่ยังขึ้นมาเต็มเหรอ… คุณยังคิดว่าฉันยัง เป็นแมลงที่คอยบินตามกันอยู่บ่อยๆ ใช่ไหม?”
ธาวินดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอดและหอมอยู่หลายครั้ง แววตามี แต่รอยยิ้มออกมา ส่วนมือทั้งสองข้างก็คอยมุดเข้าช่องคอเสื้อ พร้อมๆ กัน น้ำเสียงแสดงความชั่วร้ายออกมา “มั่นใจขนาดนี้ เลย ไหน ไหน ให้ผมดูสิว่าโตขนาดไหนแล้ว แล้วก็ขนอีก…ว่ามัน โตจนครบหรือยัง”
กลางวันแสกๆ ต่อหน้าสาธารณชน ธิชาเป็นคนขี้อายซะขนาด นี้ ต้องไม่ให้เขาได้ทำวีรกรรมส่ออนาจารริมขอบสระว่ายน้ำ แน่นอน
เมื่อครู่ยังพูดคุยกันอยู่ดีๆ อยู่เลย ใครจะไปรู้ได้เล่าว่าเขาพูดไปพูดมาก็เริ่มคึกขึ้นมา……
โชคดีที่ว่าก็เขาก็รู้ทางของเขาแล้ว การต่อสู้นั้นถือว่าเป็นวิธีที่ ถนัดมาก
เธอจับมือของธาวินเอาไว้เพื่อเป็นการห้ามไม่ให้เขาแตะต้อง กางเกงของตนเอง สิ่งที่เขาทำได้ก็แค่มือระวิงกับการแตะตั้งอยู่ บนเจ้าก้อนกลมๆ สีขาวหิมะทั้งสองก้อน จนสุดท้ายก็ยังรู้สึกไม่ เต็มที่ จนนัยน์ตาเริ่มปะทุกองเพลิงเรื่อย ๆ
ธิชาฉวยจังหวะที่เขายังไม่กลายร่างเป็นสัตว์ร้าย จึงรีบอ้าปาก พูดเพื่อเบี่ยงประเด็นทันที
“เมื่อครู่ฉันยืนอยู่ด้านหน้าของคุณกับพงศ์พนา และได้ยินพงศ์ พนากำลังชมฉันอยู่ พูดว่าสายเลือดอะไรนี่แหละ และพวกลูกไม้ หล่นไม่ไกลต้นพวกนี้ คำพูดของพงศ์พนาประโยคนี้หมายความ ว่าอย่างไรกัน หรือว่า…”
ก่อนที่เธอจะพูดให้จบก็ถูกเก็บเสียงไปแล้ว
ก็แค่กลัวว่าถ้าตนเองขึ้นไม่สงบปากสงบคำก็จะส่งเสียงคราง จนน่าอายออกมา
เพราะว่าปีศาจจอมลามกอย่างธาวินคนนี้เขาฉวยจังหวะตอนที่ เธอกำลังอ้าปากอยู่กับปลายกันของเธอ…
งับอยู่ข้างหนึ่งพลางขบเม้มอย่างแผ่วเบา จนทำให้ถูกอีกข้าง ที่ถูกปล่อยทิ้งถึงกับรู้สึกไม่สมดุล
ธิชาอายสุดๆ ไปเลย
โชคดีที่ว่าที่นี่เป็นบ้านธนาภูวนัตถ์ ไม่ใช่วิลล่าเล็กๆ ที่ชาวิน เอาไว้เลี้ยงดูสาวๆ
เมื่อก่อนตอนที่ลุงรัณยังแข็งแรงอยู่นั้นระบบความปลอดภัย ของที่นี่เพียบพร้อมมาก ไม่ใช่แค่การมีกล้องวงจรปิดอยู่ทุกมุม ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงเท่านั้น กระทั่งยังมีโดรนคอยบินสำรวจ อย่างไม่ขาดสาย…
เธอผลักศีรษะของเขาออก พลางเปล่งเสียงที่แสนยากเข็ญ ออกมาได้สักครึ่งประโยค “คุณสามารถ สามารถจะควบคุมไว้ หน่อยได้ไหม เดี๋ยวคนอื่นเห็นเขา คุณไม่อายแต่ฉันอาย…
ทว่าไม่ว่าชาจะสาปแช่งอย่างโมโห แต่ก็เป็นการเปล่งเสียง อย่างอ่อนระทวยแกมขอร้องอย่างเศร้าๆ
ชายหนุ่มที่เริ่มมีอารมณ์ก็ยังไม่มีมีท่าจะหยุดกลางทางเลย ด้วยซ้ำ
ธิชาไม่มีวิธีอื่นแล้ว จนเริ่มใช้มือใช้เท้าในการต่อสู้กับเขา ปากก็พูดไม่หยุดเพราะไม่ยอมให้เขามาทำเรื่องบัดสีบัดเถลิง กลางวันแสกๆ ริมขอบสระว่ายน้ำหรอก
กระทั่งยังมีการพูดข่มขู่ถ้าเขายังจะบังคับขืนใจ ต่อจากนี้อีก หนึ่งเดือนเขาก็อย่าได้แตะต้องตัวเธออีก
แม้ว่าการข่มขู่ของเธอในสายตาของเขานั้นก็ไม่รู้สึกรู้สาแต่ อย่างใด แม้ว่าจะเป็นคนมีปรารถนาสูง แต่กลับเป็นผู้ชายเจ้า อารมณ์แสนเจ้าเล่ห์และใส่ใจกับความรู้สึก
ชาคอยพูดอยู่ข้างหูเขาไม่หยุดหย่อน จนชายหนุ่มถึงกลับ เบื่อขึ้นมา
จนในที่สุดเขาก็ทำก็ทำหน้าเครียดและหยุดมือที่กำลังกระทำ อยู่ พร้อมทั้งจ้องมองใบหน้าของเธออย่างหม่นหมอง “นับวันคุณ ยิ่งผิดหวังขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว”
ธิชาหน้าแดง จากนั้นก็กระแอมออกมาอย่างเขินอาย
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ชายหนุ่มโกรธ เธอยังใช้นิ้วอันนุ่มนิ่มของ เธอจิ้มไปที่ท่อนแขนอันยาของเขา
“พี่ชาย เรายังพูดอย่างเป็นจริงเป็นจังกันอยู่นะ คำพูดเมื่อครู่ ของผู้ช่วยพงศ์พนามันทำให้ฉันแปลกใจอยู่จริงๆ คำที่พูดว่าสาย เลือดของฉัน ตกลงแล้วมันหมายความว่าอย่างไร…
ธิชาไม่ใช่เป็นเพราะว่าฉุกคิดกับคำพูดของพงศ์พนา แต่หลาย ปีที่ผ่านมานี้ไม่เคยหยุดสอบถามเรื่องสถานะกับพ่อแท้ๆ ของ ตนเองมาก่อนเลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ตระกูลธนาภูวนัตถ์เกิดเรื่อง ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น เธอก็เริ่มสงสัยไม่ได้ว่าในปีนั้น ชานาฎฉวยจังหวะในการแต่งงานเข้ามาอยู่ในตระกูลธนาภูว นัตถ์
แต่ไม่ว่าจะณิชานาฏหรือว่าธาวินก็ไม่เคยปริปากพูดออกมาเลย
ธิชาคอยระวังว่าธาวินจะปิดบังตนเอง พร้อมทั้งคอยสังเกตสีหน้าของเขาอย่างละเอียดอยู่ตลอดเวลา
ทว่าธาวินก็แค่ขมวดคิ้วอย่างเบื่อหน่าย และตอบกลับด้วยน้ำ เสียงไม่ยี่หระอะไร “สายเลือดอะไรกัน? คุณก็ใช้ชีวิตอยู่ในตระ กูลธนาภูวนัตถ์มาตั้งเป็นสิบปี แม้ว่าจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อผม แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงแล้วแหละ คนข้างนอกทุกคนต่างก็คิดว่าคุณ เป็นลูกสาวของตระกูลธนาภูวนัตถ์ ถ้าคุณทำงานแล้วเกิดโง่เง่า เป็นเต่าตุ่นที่ต้องขายหน้าไม่ใช่ตระกูลธนาภูวนัตถ์ของผมเห รอ?”
ธิชายังคงไม่พอใจ รีบอ้าปากถามตรงๆ ทันที “เป็นแบบนี้เห รอ ฉันยังคิดว่า…ฉันยังคิดว่าพงศ์พนารู้ว่าพ่อแท้ๆ ของฉันเป็น ใคร…”
ธาวินขมวดคิ้วเอาไว้ พลางจ้องมองเธอด้วยแววตารังเกียจ “นี่ สมองคุณมีน้ำเข้ามาเหรอ ขนาดผมยังไม่รู้ว่าพ่อคุณเป็นใคร ผู้ ช่วยอย่างพงศ์พนาจะรู้ว่าอะไรล่ะ!”
แววตาและน้ำเสียงของเขาไม่เหมือนคนที่กำลังเสแสร้งแกล้ง ทําออกมาเลย ธิชารู้สึกผิดหวัง
“คุณ….ไม่รู้สักนิดเลยจริงๆ ใช่ไหม?”
เหมือนว่าธาวินถูกเธอถามจนเบื่อเต็มทน จนลุกขึ้นและดึงผ้า ขนหนูออกและเตรียมตัวลงน้ำ
ก่อนที่เขาจะลงน้ำยังไม่ลืมที่จะถากถางกลับ “ถ้าคุณแปลกใจ ในตัวพ่อของคุณว่าคือใครกัน ทำไมไม่ไปถามณิชานาฏล่ะ แต่ ว่าณิชานาฏนอนกับผู้ชายไม่ถึงหมื่นคนแต่ก็คงมีเป็นพันแล้ว แค่กลัวว่าเธอไม่ได้อยากจะปิดบังคุณ แต่กลับไม่รู้จริง ๆ ว่าพ่อแท้ๆ ของคุณ ออะไรแน่”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ