ร้กลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า

บทที่ 53 ฉันจะใช้การตบในครั้งนี้ค่อยๆ พูดเรื่องเหตุผลกับคุณ



บทที่ 53 ฉันจะใช้การตบในครั้งนี้ค่อยๆ พูดเรื่องเหตุผลกับคุณ

ธิชาเหยียบเบรกรถอยู่ตรงประตูโรงจอดรถ และผลักประตูรถ และลงจากรถด้วยสีหน้าเย็นชา

ไพลินตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อจริงๆ ในเวลานี้ก็มองเห็นแววตา อันคนกริบของธิชา ในใจเลยพอจะเดาได้หรือว่าเธอเกิดเรื่อง อะไรขึ้นมาแล้ว….

เธอไม่คิดพะวงหน้าพะวงหลังอีกแล้ว พลางเกี่ยวแขนของธา วินเอาไว้แน่นอย่างถนัดมือ “คุณชาย แววตาของธิชาช่างโหด ร้ายมาก เหมือนกับต้องการที่จะฆ่าคนกัน เมื่อครู่เธอจงใจจะขับ รถชนฉันจริงๆ พวกเราอีกนิดก็จะไม่มีชีวิตรอดแล้ว! คุณชาย คุณ ต้องออกหน้าให้ฉันนะคะ”

ไพลินถูกเอาใจจนเคยชินแล้ว ธาวินคอยปกป้องเธอเป็นอย่าง ดีมาโดยตลอด อาการนิสัยเสียและการกลับกลอกของเธอก็ ค่อยๆ เติบโตขึ้นเรื่อยด้วยเป็นผลมาจากการได้รับความเอาใจ เนี่ยแหละ

สิ่งเดียวที่ธิชาแย่งในสิ่งที่เป็นของตนเองไป ไพลินเกลียดเธอ เข้าไส้ ก็แค่ต้องการจะฉวยจังหวะเหยียบผู้หญิงคนนี้ให้จมอยู่ใต้ ฝ่าเท้า

ทว่าเวลานี้ กลับเห็นความมืดหม่น ในรูม่านตาของธิชากำลังมองที่คนที่อยู่ตรงหน้าทั้งสองคน

แม้ว่าเมื่อครูธาวินเกือบจนโดนรถชนก็ตาม แต่สีหน้ายังไม่ แสดงอารมณ์โกรธเคืองแสดงออกมา

เขาหรี่ตาเล็กน้อย พร้อมทั้งถามกลับด้วยเสียงเคร่งขรึม “นี่ คุณเป็นอะไรไปเนี่ย?”

ธิชาจ้องมองใบหน้าของไพลินด้วยอาการแค้นเคืองเข้าไส้ ชีวิตของเธอมันไม่มีค่าขนาดนั้นเลยเหรอ?

ขนาดผู้หญิงทั่วไปที่อยู่ข้างกายของธาวินก็ถึงขั้นลงมือคิด บัญชีกับเธอ เกลียดจนอยากจะฆ่าเธอ ให้ตายในชั่วทุกวินาทีเลย

ธิชากระตุกมุมปากขึ้น พลางใช้สายตาเย็นยะเยือกชำเลือง มองใบหน้าของไพลิน

“แทนที่จะถามฉันว่าฉันเป็นอะไร ลองถามพี่ไพลินดูไหมว่าทำ

เรื่องดีๆ อะไรลงไป!”

ธาวินได้ยินเหมือนมีความผิดปกติเกิดขึ้น เขาลองคว้าข้อมือ ของธิชาเอาไว้ด้วยหน้าตาเคร่งขรึม

ทว่าเธอกลับพยายามสะบัดออกทันที ธิชาคว้าคอเสื้อของ ไพลินทันที จากนั้นก็ฉุดลากมาอีกทางหนึ่ง พลันใช้สายตาเชือด เฉือนจ้องมองอย่างกินเลือดกินเนื้อ และถามกลับด้วยน้ำเสียง เย็นเฉียบ “ฉันไปทำอะไรถึงได้ไปทำร้ายจิตใจจนบาดหมางกับพี่ ไพลินเหรอ พี่ไพลินถึงได้ต้องการชีวิตของฉันให้ได้?
เมื่อไพลินได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้ว ในใจก็ย่อมรู้ว่าเรื่องมันต้อง ถูกเปิดเผยจนเสียท่าหมดแล้ว

แต่ว่าเธอก็ยังคงไม่แสดงสีหน้าสะทกสะท้าน ถึงอย่างไรก็อยู่ กับธาวินมาตั้งหลายปีแล้ว และถือว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมรสุม ต่างๆ นานามามากมาย ธิชาแค่หัวเดียวกระเทียมลีบไม่มีพิษมี ภัยอะไรมันทำให้เธอขวัญอ่อนไม่ได้หรอก

แววตาอันสงบเสงี่ยมไพลินจ้องมองใบหน้าของเธออย่างสงบ นิ่ง สีหน้าเหมือนปกติทั่วไป น้ำเสียงเหน็บเยาะเย้ยเล็กน้อย “เหรอ? แล้วฉันจะไปเอาชีวิตของคุณยังไงกันล่ะ ก็ตอนนี้คุณ ไม่ใช่ว่ายืนเป็นปกติอยู่ตรงหน้าฉันอยู่นี่ไงไม่ใช่เหรอ คุณธิชา เป็นน้องสาวในนามของคุณชาย ฉันก็ต้องให้ความเคารพกับฉัน อยู่แล้ว แต่เรื่องทั่วไปก็สามารถพูดเหตุผลได้ แต่การที่เป็นน้อง สาวแท้ๆ ของคุณชายก็ไม่สามารถใช้คำพูดเพียงไม่กี่ประโยค ในการใส่ร้ายฉันได้

ธิชามุมปากของกระตุกขึ้นเล็กน้อย “แล้วคุณมันจัดอยู่ใน จำพวกไหนล่ะ นี่ฉันใส่ร้ายคุณเหรอ?”

ไพลินอาศัยน้ำเสียงของเธอก็พอจะเดาออกว่าในมือของชา คงไม่มีหลักฐานอะไร เธอยิ่งจองหองหนักขึ้น และยิ่งทำให้ตนเอง ดูไร้เดียงสาเพื่อฉวยจังหวะเรียกร้องให้คุณชายใจอ่อน

ไพลินพูดอย่างถ่อมตัว “ถ้าคุณธิชามีหลักฐานที่บอกว่าฉันเป็น คนทำร้ายคุณ ก็เอาออกมาแสดงให้เห็น ถ้าไม่มีเมื่อครู่ตอนที่ คุณหักพวงมาลัยเพื่อเปลี่ยนทิศทางจะมาชนฉันนี่คือการจงใจฆ่าฉันเลย!”

ธิชาผ่อนแรงตรงคอเสื้อของเธอ พลันแสยะยิ้มออกมาเป็นชา ทว่าก็ตักเตือนกลับอย่างระมัดระวัง พร้อมทั้งเงื้อมือขึ้นและตบ หน้าของเธอฉาดใหญ่

“เพียะ” เสียงดังลั่น ทั้งหนักหน่วงและดังฟังชัด

ไพลินไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย จนถูกโดนตบฉาดใหญ่จน ศีรษะเอียง จนใบหน้าครึ่งหนึ่งแดงจนบวมฉ่งแสบร้อนไปด้วย เธอเป็นคนที่โดดเด่นคนใกล้ตัวของธาวิน นานแค่ไหนแล้วที่

ไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้

ไพลินเอื้อมมือมาประกบใบหน้าเอาไว้ พลางหงุดหงิดมาจน ดวงตาแดงก่า

“แก…แกกล้าตบฉัน ธิชาแกมีสิทธิ์อะไรมาตบฉัน?!”

ธิชาหน้าดาคราเครียด พลางกระตุกมุมปากอย่างเย็นชา “ไม่ใช่ว่าพูดเรื่องเหตุผลเหรอ ฉันก็ใช่ฝ่ามือนี้ในการพูดเรื่อง หลักการกับแกไง”

ไพลินอยากจะร้องไห้ออกมาจริงๆแล้ว เธอไม่เคยคิดมาก่อน เลยว่าธิชาจะกล้าบังอาจต่อหน้าธาวินเช่นนี้

เธอทั้งร้องไห้น้ำตาตกทั้งเกาะอยู่ด้านข้างธาวินแน่น “คุณชาย ธิชาสติแตกจนปีศาจเข้าแล้ว ไม่รู้ว่ากินยาอะไรผิดมา คุณชาย…

ใบหน้าอันงดงามของไพลินร้องไห้อย่างกับห่าพายุลง ถึงขั้นถ้าผู้ชายมาเห็นแล้วต่างรู้สึกใจอ่อนทันที

ทว่าธาวินกลับไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาตั้งแต่แรก แต่ฉวย จังหวะตอนที่เตรียมก้าวขาเดินออกไปนั้น พลันคว้าข้อมือเธอเอา ไว้ทันที

“ตกลงมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?

ถึงขั้นธาวินมาถามไถ่แล้วธิชา ก็เลยไม่คิดปกปิดอีกเลย เธอ พูดเรื่องราวทั้งหมดก่อนหน้านี้ต่อหน้าธาวินให้ฟังรอบหนึ่ง

พอได้ฟังแล้วสีหน้าไม่มีความเป็นมิตรอีกเลย พลันให้คนใกล้ ตัวที่สนิทของตนเองไปตรวจสอบทันที

ไม่นานนักก็ตรวจสอบจนได้เรื่องแล้ว แต่ว่าไพลินก็ยังกัดฟัน พูดว่าลูกน้องของตนเองลงมือทำโดยไม่คิดให้รอบคอบ

“คุณชาย เรื่องที่ฉันทำไม่กล้าที่จะยอมรับ แต่ว่าเรื่องที่ไม่ได้ ทำนั้น ใครก็อย่ามาบีบให้ฉันรับ ลูกน้องของฉันมีอยู่เป็นร้อย ๆ คน ฉันไม่สามารถจะไปจับตาดูในสิ่งที่เรากระทำได้ทุกวินาที ช่วงนิธิชาก็พาคนของตนเองทำเรื่องเย่อหยิ่งในถิ่นของฉัน เธอ ยังเด็กนัก แถมยังคนใหม่ และยังไม่มีทักษะพอ จนลูกน้องที่อยู่ ภายใต้ต่างรู้สึกไม่พอใจ นี่ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ลูกน้องของไพลินก็ถูกเรียกมาเพื่อเป็นพยาน จนผลสรุปก็คือ ลูกน้องนั้นมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับธิชาจนมีอันธพาลคนหนึ่งมอง เธอแล้วรู้สึกขัดหูขัดตาเลยจัดการเล่นตุกติกกับรถของธิชาเองเลย และเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับไพลินเลย

ท่ามกลางสถานการณ์นี้ไม่มีหลักฐานในการที่ไพลินเป็นคนสั่ง การให้ทำด้วยตัวเองได้ และก็หาบันทึกที่เธอออกคำสั่งกับลูก น้องของเธอ การตกในสถานการณ์เช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

ครั้งนี้ธิชา โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บสักนิด ดังนั้นธาวินเลยไม่ ได้รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที และก็ไม่ได้ลงโทษให้กับไพลินที่เป็น แม่ทัพใหญ่และแข็งแกร่งของตนเอง เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้น เมื่อครู่การตบหน้าในครั้งนั้นถือว่าเป็นบทเรียนและการสั่งสอนที่ ได้ลงโทษแล้ว

ธาวินชำเลืองมองไพลินที่นั่งคุกเข่าหลังตรงอยู่ใต้ร่างกายของ เขาอย่างไร้ความรู้สึก

เขาเม้มริมฝีปากเอาไว้ น้ำเสียงดุดัน “ไพลินฉันให้โอกาสคุณ

สารภาพความจริงออกมาอีกครั้ง เรื่องนี้คุณบงการอยู่เบื้องหลัง

ใช่ไหม?”

ไพลินทําท่าทางยอมตายแต่ไม่ยอมรับสารภาพ “ฉันเปล่าทุก คนต่างก็รู้ว่าธิชาเป็นคนของคุณชาย แม้ว่าฉันจะมีอำนาจสูงมาก เป็นพิเศษ แต่ก็ไม่มีทางที่กล้าจะแตะต้องคนของคุณชาย ยิ่ง ไม่ใช่วิธีต่ำช้าแบบนี้หรอก”

ธาวิน พูดต่อ “งั้นคุณก็ดูแลลูกน้องได้ไม่ดีพอ จนทำให้ลูกน้อง ทำผิดพลาดมหันต์ เรื่องนี้คุณยอมรับหรือไม่?”

ไพลินหน้าซีดเผือด พลางใช้สายตาจ้องมองธิชาที่ไม่มีรอย แผลใดๆ บนตัวสักนิดที่นั่งอยู่ข้างกายธาวินด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
แม้ว่าในใจของเธอนั้นจะอัดอั้นความชั่วร้ายเอาไว้ แต่สีหน้า ทำได้แค่อดทนเอาไว้ “ข้าน้อยรู้ตัวผิดไปแล้ว ลูกน้อยที่อยู่ใต้ อาณัติก็มากมายเหลือเกิน จนไร้การอบรมสั่งสอนมันเป็นความ ผิดของฉันจริงๆ ฉันยอมรับโทษอย่างจริงใจ

ธาวินยกนิ้วขึ้นเพื่อเคาะลงบนโต๊ะ น้ำเสียงอันเย็นเฉียบแต่ ไม่มีอารมณ์อื่นเจือปน

“งั้นคุณยอมรับผิดแล้วย่อมต้องมีการลงโทษ และรู้สึกว่าลูก น้องที่อยู่ใต้อาณัตินั้นคนมากมายจนทำให้ดูและจัดการได้ไม่ดี ชาเขาเติบโตอยู่ข้างกายฉันมา ผลลัพธ์จากความสามารถของ เธอฉันก็ได้ยินได้เห็นกับตากันอยู่แล้ว คุณช่วยชี้แนะอยู่สักระยะ ตอนนี้เธอสามารถจัดการได้เองแล้ว ไพลินคุณจัดการเอา ขอบเขตงานทั้งหมดของคุณแบบมาครึ่งหนึ่งให้กับธิชา ในเมื่อ คุณสองคนไม่ถูกชะตากัน ต่อไปต่างแยกกันทำงาน ไม่เข้าไป ยุ่มย่ามซึ่งกันและกัน

ไพลินได้ยินแล้ว สีหน้าพลันแดงแจ๋ทันที จนหน้าแดงเริ่ม เปลี่ยนเป็นเขียวแทน จนสามารถพูดได้ว่าใบหน้าเปลี่ยนสี มี ครบทุกสีหน้าอย่างที่

หัวใจของเธอเจ็บปวดหนักหน่วงเป็นระยะเวลานั้นโกรธจัดจน แทบจะหายใจไม่ออก

ขอบเขตอำนาจของเธอยิ่งใหญ่ขนาดนี้ นี่เป็นผลงานในการ สะสมมาเป็นเวลาหลายปี

ไม่เพียงแต่สถานบันเทิงยามค่ำคืน บ่อนกาสิโน ยังมีร้านอาหาร และวงการบันเทิงต่างๆ อีกมากมายอีก

แค่เรื่องเล็กน้อยเรื่องเดียว ธิชาสามารถแบ่งเขตอำนาจของ เธอที่มีทั้งหมดไปได้ครึ่งหนึ่งเลย!

ริมฝีปากบางของธาวินเม้มเล็กน้อย “ทำไม คุณไม่พอใจเหรอ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ