บทที่ 48 สาวน้อยชอบเก็บตัวกรีดร้องอย่างแสนเจ็บปวด
ดนัยกฤต ใช้สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าเพราะว่าท่าทาง ตื่นเต้นจนประหม่าออกมา สักพักถึงได้หัวเราะออกมาเล็กน้อย “คุณผอมขนาดนี้ ไม่มีเนื้อ
ไม่มีหนัง ไม่คุ้มเงิน”
หลังจากที่เดินเข้าประตูใหญ่มาแล้ว
ชาก็เห็นว่าด้านนอกมองเหมือนสถาปัตยกรรมแบบปราสาท ทว่าภายในกลับเป็นปกติทั่วไป แม้ว่าจะค่อนข้างวิจิตรสวยงาม มาก แต่ว่าก็สามารถเก็บจากรายละเอียดได้ว่าเป็นที่พักอาศัย จริงๆ
เธอแอบมองชัยกรอยู่หลายครั้งอย่างอดใจไม่ไหว
ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนว่าดูอ่อนโยนและสง่างามอย่างแท้จริง ไม่ คิดเลยว่าจะมีรสนิยมที่เกินคาดเพียงนี้
หลังจากเกิดเรื่องนั้นขึ้นแล้ว ทุกอย่างมันก็เกินความคาด หมายของธิชาโดยสิ้นเชิง
ชัยกรพาเธอไปยังประตูห้องนอนห้องหนึ่ง จากนั้นก็ทำหน้าจริงจังตอนที่พูดกับเธอ
“คุณธิชา ผมมีเพื่อนคนหนึ่งไปเจอกับเรื่องบางอย่าง จนทำให้ มีปัญหาทางด้านระบบทางจิตใจ จนเธอสูญเสียความทรงจำไป บ้างแล้ว และจําคนหลายๆ คนไม่ได้ คุณเคยเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ กับเธอมาก่อน วันนี้ที่กล้าเชิญคุณมา เรื่องสำคัญก็คืออยากให้ คุณช่วยมาเยี่ยมเธอหน่อย ถ้าเธอจำคุณได้ บางทีอาจจะช่วย เหลือเรื่องอาการป่วยของเธอได้
ชัยกรแสดงความเกรงใจกับเธอเช่นนี้ จนทำให้ธิชาดีใจจน รู้สึกทําตัวไม่ถูก
เธอเดินเข้าห้องนอนด้วยอาการมีคำถามมากมายต่างๆ นานา ตอนที่เห็นใบหน้าที่ผอมโซซีดเผือดดูสุขภาพไม่ดี…ในที่สุดก็ เข้าใจว่าชัยกรทำไมถึงได้ไปหาให้ตนเองเข้ามาช่วยเหลือ
แม้ว่าไม่ได้เจอหน้ากันมาสามปีแล้ว แต่หน้าตาของเด็กสาว
นั้นก็เปลี่ยนแปลงไปมาก
แต่โครงหน้ากับคิ้วยังคงชัดเจนอยู่ ธิชามองแวบเดียวก็จำเธอ ได้ทันที
เธอมองเด็กสาว “สติไม่สมประกอบ” ที่เอาแต่นั่งซุกตัวอยู่ตรง หัวเตียงอย่างประหลาดใจ พลันหันมองมาทางชัยกรอย่างอดไม่ ได้ “คุณ คุณประวิทย์ เพียงเธอเป็นอะไรไป?”
ใบหน้าผอมราวกับกระดูก หญิงสาวที่ดวงตาว่างเปล่าไร้ความ รู้สึกเป็นเพื่อนที่เรียนมัธยมมาด้วยกันเพียงวรินทร์
เพียงวรินทร์ กับเราเป็นเพื่อนเรียนห้องเดียวกันสมัยมัธยม
ต้น จากนั้นก็เรียนมัธยมปลายด้วยกันอีกครั้ง
ตอนนั้นเพื่อนสนิทที่สุดของชานอกจากญาณินแล้ว ก็คือ เพียงวรินทร์
นิสัยของเพียงวรินทร์ หยิ่งตามประสานิสัยของคุณหนูพันล้าน ที่เอาแต่ใจ
ญาณินกับเธอนิสัยไม่ค่อยถูกกันเลยไม่สนิทกัน ดังนั้นโอกาส ที่ทั้งสามคนจะเล่นด้วยกันน้อยมาก
แต่ว่าธิชายังคงดีกับเพียงวรินทร์ เสมอมา ตอนนี้ที่ญาณิน ลังหมกมุ่นยิบย่อยกับงานประชุมนักเรียน เธอก็มาคุยโม้ไป เรื่อยกับเพียงวรินทร์ อยู่บ่อยๆ
ตอนที่ใกล้จะเรียนจบม.4นั้น ตระกูลธาดาวรวงศ์ก็ประกาศ ออกมาว่าล้มละลาย เพียงวรินทร์อย่างกะทันหัน เพียงก็เริ่มขาด เรียน กระทั่งไม่ยอมขอลาอยู่บ่อยครั้งจนขาดเรียนไม่มาโรงเรียน อีกเลย
หลังจากนั้นแล้ว ก็ได้ยินว่าเธอทำเรื่องยื่นหนังสือลาออกแล้ว
ครั้งสุดท้ายที่เชาเจอหน้ากับเพียงวรินทร์ ก็ได้ยินจากปาก ของเธอ ว่าเธอจะไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ บางทีต่อไปอาจจะ ไม่มีโอกาสได้เจอหน้ากันแล้ว
แม้ว่าเขาจะรู้สึกเสียใจมาก แต่ก็เข้าใจเพราะสถานการณ์ของ ครอบครัวเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ เด็กอายุยังน้อยก็จะได้รับการ คุ้มครองอย่างเหมาะสม ตระกูลธาดาวรวงศ์พาเพียงไปเรียนที่ ต่างประเทศ ก็เพื่อที่จะหวังว่าเธอเองจะไม่ได้รับผลกระทบในทาง ลบไปด้วย
เธอยังจดจำได้ในครั้งสุดท้ายที่เจอหน้ากันในวันนั้น เพียงว นทร์ร้องไห้จนตาบวมเป่ง เวลาเดินก็เดินช้ากว่าปกติมาก ดูแล้ว กําลังอ่อนแอมาก
แต่สิ่งที่ทำให้ธิชาเก็บมาคิดสงสัยอยู่ในใจตลอดก็คือ หลัง จากที่เพียงวรินทร์ ไปอังกฤษแล้ว ราวกับแค่คืนเดียวได้หายวับ ไปจากโลกเช่นนั้น
เธอเปลี่ยนการติดต่อสื่อสารทั้งหมด ขนาดวีแชทก็ไม่ได้ใช้ และไม่ติดต่อกับเพื่อนในห้องคนใดอีกเลย…..
เรื่องนี้ทำให้ธิชาเสียใจอยู่บ้าง แต่ญาณินก็พูดขึ้นมาว่า เพียง วรินทร์เป็นคนที่รักษาหน้าตาขนาดนั้น ขนาดตระกูลธาดาวรวงศ์ ล้มละลายแล้ว เธอย่อมอับอายขายขี้หน้า ไม่อยากติดต่อสื่อสารกับใครใน เมืองปอีก ประมาณว่าคงไปเริ่มชีวิตใหม่ในต่างประเทศแล้วมั้ง การจากไปในครั้งนี้ คือสามปี
ธิชาเดินเขยิบเข้าใกล้ข้างเตียงอย่างอดใจไม่ไหว พลางเริ่มอ้า ปากพูดอย่างระมัดระวัง “เพียงคุณยังจำกันได้ไหม ฉันคือธิชา นะ”
ในอดีตเพียงวรินทร์ เป็นคนหน้ากลม เวลาพูดก็พูด คล่องแคล่วมาก เป็นคนมีชีวิตชีวา ยิ่งทำให้เด็กหนุ่มชื่นชอบ มาก ขนาดเด็กสาวเห็นเธอยังอดไม่ได้ที่จะแอบเหล่มอง
ทว่าเธอ ในเวลานี้กลับผอมจนข้อมือแห้งอย่างกับกิ่งไม้แห้ง เที่ยว ทั้งตัวผอมโซจนยากแก่การบรรยายได้ เมื่อประเมินทาง สายตาแล้วคนที่มีส่วนสูง168 เซนติเมตร แต่มีน้ำหนักเพียง 30กว่ากิโลเท่านั้นเอง
ธิชา ใช้ความอดทนเรียกเธออยู่นาน
จนในที่สุดเพียงวรินทร์ ก็หันศีรษะกลับมาจ้องมองเธอแล้ว จากนั้นรูม่านตาก็ขยายใหญ่ขึ้น จนยอมอ้าปาก พร้อมทั้งพูด ติดๆ ขัดออกมา “ธิชา ธิชา…”
ธิชาเริ่มตื่นเต้นจนนั่งอยู่ข้างเตียง และลองจับมือของเธอดู “เพียงแกจําฉันได้ก็ดีแล้ว ฉันคือธิชาไง เมื่อก่อนนี้พวกเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก สามปีที่ผ่านมา แกเกิดเรื่องอะไรขึ้นมากันแน่ ทำไมฉันติดต่อแกไม่ได้เลย ฉันหา แกอยู่นาน แต่ก็ไม่มีข่าวคราวเลย….”
คนสมัยนี้ขี้ลืมกันง่ายมาก
ในเวลานั้น อาณาจักรทางด้านการเงินของตระกูลธาดาวรวง ล้มละลายอย่างกะทันหัน ก็จะมีข่าวหน้าหนึ่งอยู่ทุกวัน
แต่ไม่นานนักข่าวมันก็เงียบหายไป และไม่มีใครจําตระกูล ธาดาวรวงศ์ได้อีก ในสถานที่แบบเมืองนี้ มีเศรษฐีมากหน้า หลายตานับไม่ถ้วน ทุกวันก็มีคนอยู่ดีๆ ก็ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี ภายในคืนเดียว แต่ก็มีคนที่ล้มละลายจนเสียชีวิตยกครอบครัว ในคืนเดียวก็มี มันไม่แปลกอะไร ไม่นานก็ถูกคนลืมเลือนไปจน หมดสิ้น
ธิชาหวนคิดถึงความหลัง และคอยหาช่องทางการติดต่อเพียง วรินทร์ มาอยู่ตลอด
ทว่าก็ไม่ได้ผลลัพธ์อะไรกลับมา จนทำได้แค่เก็บเรื่องนี้ไปแทน
ตอนแรกธิชาก็คิดว่าเพียงวรินทร์ จะไม่ค่อยยอมพูดสักเท่า ไหร่ เพราะว่าดูจากสภาพของเธอแล้วไม่เหมือนคนปกติจริงๆ
เธอคอยเรียกความทรงจำของเพียงวรินทร์ กลับคืนมา จึงได้ พูดเรื่องเก่าตอนเรียนมัธยมอยู่ด้วยกันไม่หยุด
พูดผ่านไปสักพัก แววตาของเพียงวรินทร์ ก็เหมือนบินหายไป ไกล ปากก็บ่นพูดกับตัวเองออกมา “ตอนนั้นพวกเรายังเด็ก ชีวิต ช่างมีความสุขมากๆ ไม่มีความคิดใดๆ ให้รกหัวสมองเลย…
ธิชาเบิกตาโต เธอถึงได้ตระหนักได้ว่าสามารถเพียงวรินทร์พูด คุยได้ตามปกติ
เธอดีใจพลางลองกอดเพียงวรินทร์เอาไว้
ทว่าแววตาของเพียงวรินทร์ กลับมองเลยไปยังใบหน้าของ ชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังแทน พอตอนที่เธอเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาดังรูปปั้นแกะสลักของ
ชัยกรแล้ว
จู่ ๆ ก็ผลักธิชาออก จากนั้นก็ตะเบ็งเสียงกรีดร้องแสบแก้วหู ออกมา
ธิชาจ้องมองเธอกรีดร้องแบบไม่ใช่คนปกติ น้ำเสียงติดต่อกัน อยู่ประมาณ2-3นาที จากนั้นเธอก็ตะโกนไล่ให้ไสหัวออกไป ไอ้ คนระย่า ไสหัวออกไป ทำไมแกยังไม่ตายห่าสักที ทำไมคนที่ต้อง ตายไม่ใช่แก
จากนั้นเธอก็เปิดผ้าห่มขึ้นและมุดตัวลงไปซ่อนด้านใน ไม่ว่า
ชาจะปลอบใจอย่างไร เธอก็ไม่ยอมออกมาอีกเลย จากนั้นหมอก็เข้ามาฉีดยาระงับประสาทให้กับเพียงวรินทร์
จนผ่านไปสักพักเธอถึงได้นอนหลับสนิท
คุณหมอพูดอธิบายออกมา “คุณเพียงวรินทร์ได้รับการกระทบ กระเทือนทางสภาพจิตใจ จนทำให้อารมณ์ไม่สามารถตั้งสติได้ ในเวลาเดียวก็มีอาการแทรกซ้อนอีกหลายอย่าง ทั้งอาการเบื่อ อาหาร แต่อาการเก็บตัวเป็นอาการที่เห็นได้ชัดมาก ตอนนี้พวก เรากำลังอยู่ในขั้นตอนการรักษา ถ้าเพื่อนเก่าของเธอมาพูดคุย เป็นเพื่อนกับเธอ เกรงว่าแค่คุยเรื่องปกติทั่วไปถึงเรื่องผ่านมา เท่านั้น ก็คือว่ามีประโยชน์มากกับเธอ”
ธิชาเดิมตามหลังชัยกรออกมาอย่างหนักใจ
จู่ ๆ ก็รู้สึกตื่นตูมและหวาดกลัวขึ้นมาก่อนกับชัยกร
แม้ว่าเพียงวรินทร์ จะเห็นได้ชัดว่าสติไม่สมประกอบก็ตาม แต่ ว่าตอนที่ตนเองพูดคุยกับเธอตั้งมากมาย เธอก็ยังสงบสติดีอยู่
จนตอนที่เธอเผลอมองไปเห็นชัยกร จนตัวเธอกรีดร้องเหมือน กับคนบ้าคลั่ง เสียงกรีดร้องอย่างแสบแก้วหูนั้นมันไม่เหมือนว่า ดังออกมาจากร่างกายที่ผอมแห้งของตัวเธอเลยสักนิด
เหมือนว่าชัยกรจับสัมผัสถึงสายตาของเธอที่กำลังประเมิน วิเคราะห์อยู่
เขาหลุบตา พร้อมทั้งพูดอย่างอ่อนโยน “พลอยทำให้คุณ ชา ต้องตกใจไปด้วย ต้องขอโทษเป็นอย่างมาก อาการของเพียง บางครั้งก็ดีบางครั้งก็เลวร้าย โชคดีมากที่เธอจำคุณได้ เห็นได้ ชัดว่าเมื่อก่อนพวกคุณสนิทสนมกันจริงๆ ถ้าคุณยินยอมและล่ะก็ ผมหวังว่าจะจัดให้เธอมาเจอกับคุณบ่อยๆ ถือว่าเป็นการช่วย รักษาอาการป่วย”
ธิชารู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายคนนี้อาจจะเป็นบุคคลที่อันตรายคนหนึ่ง แต่ ว่าต้องถามตรงๆ ออกมาอย่างทนไม่ไหว
“ตกลงว่าเพียงไปเจอเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจอะไรมา ทำไมฉันรู้สึกว่าเธอ เหมือนว่าจะทั้งหวาดกลัวและจงเกลียดจงชัง คุณประวิทย์คุณมากเลยนะ?”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ