รอดอกไม้ผลิบานพร้อมกับคุณ

บทที่ 10 มีอะไรกับผู้ชายอื่น



บทที่ 10 มีอะไรกับผู้ชายอื่น

“ใคร?”

ขณะที่บาสกำลังเซ็นเอกสารที่ลูกค้าส่งมา หลังจาก นั้นก็เห็นเบอร์แปลกๆขึ้นทางหน้าจอโทรศัพท์ เขาก็เลย ถามไป

ขณะที่เธอได้ยินเสียงที่เย็นชาของฝ่ายตรงข้าม หัวใจเธอก็เต้นแรงขึ้น จากนั้นก็พูดออกมาว่า

“คุณบาสคะ ฉันคือ ฟางค่ะ”

“ส่งที่อยู่มา เดี๋ยวผมให้คนไปรับ บาสคิดว่าฟาง เลิกงานแล้ว เธอจึงโทรหาให้คนไปรับ

“เปล่าค่ะ คุณบาสคะ พอดีว่าฉันยังไม่เลิกงาน ฟางรีบตอบอย่างรวดเร็ว พูดต่อด้วยความเกรงใจว่า “วัน นี้ฉันต้องอยู่ทำงานต่อค่ะ รบกวนคุณช่วยไปรับลูกต้นที่ โรงเรียนอนุบาลหน่อยได้ไหมคะ งานฉันยังไม่เสร็จ ไม่รู้ จะให้ใครช่วยแล้วจริงๆค่ะ

อะไรนะ? ผู้หญิงคนนี้มาสั่งเขา ยังพูดอีกว่าไม่มีคน ช่วยแล้วถึงคิดได้ว่ายังมีเขา! เธอเอาเขาเป็นอะไรกันแน่ เนี่ย?

ตลอดมานี้มีแต่บาสที่สั่งใช้คนอื่น ไม่มีใครกล้าสั่งเขาเลย แต่พอเห็นภาพของเด็กทรงกะลาคนนั้น บาสก็ขมวด คิ้ว แล้วพูดว่า

“เดี๋ยวฉันให้คนไปรับ” สายถูกตัด

“ขอบ…” ยังไม่ทันพูดขอบคุณ เสียงในสายก็ตุ๊ดๆ เป็นเสียงที่ถูกตัดสายแล้ว

ไม่มีมารยาทเลยจริงๆ

แต่เห็นกับที่ว่าเขายอมไปรับลูกต้น ก็ให้อภัยความ ไม่มีมารยาทของเขาละกัน!

ฟางรู้สึกดีขึ้น จากนั้นก็ก้มหัวทำงานต่อ ฟาฬิกาในห้องทำงานวนไปถึงสิบโมงแล้ว ฟางยืดเอวที่เหมือนจะหักขึ้น ยืดตัวไปมา อยู่ๆก็หาว

“ยังมาแอบขี้เกียจอยู่?

ภัยมาอีกแล้ว……

ฟางหวังว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี
“ใครขี้เกียจ ฉันแค่ยืดเส้นยืดสายหน่อย ไม่ได้ หรอ!” ฟางมองออกไปที่นอกห้องทำงาน ดูโล่งไปหมด เพื่อนร่วมงานทุกคนต่างก็เลิกงานกันแล้ว ทำไมพลยังอยู่ ที่นี่

“รองหัวหน้า อย่าหาว่าฉันพูดนะ คุณก็ตั้งใจทำงาน จริงๆนะเนี่ย จับตาดูฉันตลอดเลย แถมยังอยู่บริษัทถึงป่า นี้ด้วย!” ดึกขนาดนี้แล้วยังไม่กลับบ้าน โรคจิตจริงๆเลย ผู้ชายคนนี้

“ฮ่าๆ เธอก็ยังคงปากดีเหมือนเดิม” พลพูดไปด้วย พร้อมกับเดินเข้ามาหาฟาง “คงจะเหนื่อยมากสินะ ทำงาน ดึกขนาดนี้ ถ้าคุณยอมตกลงออกไปทานข้าวกับผมตอนนี้ งานพวกนนี้ คุณไม่ต้องทำก็ได้นะ

“คุณทำไมยังไม่ตายใจอีกเนี่ย ฉันว่าฉันพูดชัดเจน แล้วนะ คุณมาตามตื้อฉันอย่างนี้ คุณว่ามันมีความหมาย ไหม!” หลังจากมองไปที่สีหน้าของพล ฟางก็ขมวดคิ้วขึ้น ทันที

“มีความหมายสิ มีความหมายมากเลย!” พลพูด พร้อมกับหัวเราะเสียดัง “ฉันจะให้คุณรู้ว่า ห้าปีก่อนคุณ จากผมไปไม่ได้ ตอนนี้คุณก็อย่าคิดจะหนีผมไป

“พล คุณนี่หน้าด้านจริงๆ!” ฟางหยิบกระดาษเอสี่ขึ้นมา โยนไปทางของพล ทั้งห้องทำงานเธอเต็มไปด้วย กระดาษเอสี่

พลรีบจับไปที่มือของฟาง พูดอย่างโกรธแค้นว่า “ฉัน ให้เธอเลือกนะ จะอยู่กับฉัน หรือจะออกจากงาน

“คุณ!” ฟางโกรธจนพูดไม่ออกปาก มองไปที่ผู้ชาย ข้างหน้าเธอด้วยแววตาที่ระยิบระยับ

“ปล่อยมือ”

เสียงที่สุขุมเย็นชามาจากด้านหลัง

เสียงที่คุ้นเคยนี้ทำเอาฟางตกใจเป็นอย่างมาก

พลมองไปด้วยความรำคาญ จ้องไปที่สายตาของคน ข้างหน้า สายตาคู่นั้นช่างสุขุมและเย็นชาเหลือเกิน

เขาเหมือนลูกเป็ดที่ตกใจ จากนั้นก็รีบเก็บอารมณ์

พลรีบปล่อยมือของฟาง เปลี่ยนสีหน้าเป็นสีหน้า ที่เคารพกระทันหัน จากนั้นก็มองไปที่บาส พูดอย่าง กระวนกระวายว่า “ท่าน…..ท่าน…….

“ยังไม่ไปอีก?” บาสแค่พูดออกมาไม่กี่คำ กลับเป็น คำพูดที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้
“ครับ. ……….” พลเหมือนนักโทษคนหนึ่ง เขาสั่นไปทั้ง ตัว รีบก้มหัวแล้วเดินออกไป

หลังจะออกจากประตู เขาถึงโล่งอก เขาเช็ดเหงื่อที่ ท่วมหัวของเขา

แอบสงสัยใจใน ผู้จัดการบาสที่สูงส่งขนาดนี้ ทำไม ถึงมาแผนกออกแบบเล็กๆกระทันหันขนาดนี้ล่ะ

“คุณบาส? คุณมาได้ไงคะเนี่ย? แล้วเขาเป็นอะไร ของเขาหรอคะ?” ฟางนวดมือที่โดนพลจับเมื่อกี้ จากนั้นก็ มองพลที่วิ่งออกไป เธอถามด้วยความสงสัย

“ปล่อยเด็กทิ้งไว้ไม่ไปรับ ดึกขนาดนี้ก็ยังไม่กลับ เพราะกำลังจู๋จี๋กับผู้ชายนะ?” บาสยกมือขึ้นนวดไปที่ หัว ภายในตาไม่มีความรู้สึกใดๆ หน้าที่เย็นชาของเขานี้ เหมือนรู้อยู่แล้วแต่ก็ยังจะถาม

“เปล่าซะหน่อย! ฉันกำลังทำงานอยู่นะ!” ฟางแสดง สีหน้าที่เหมือนกำลังถูกเข้าใจผิด ตีให้ตายเขาก็ไม่ยอมมี อะไรกับผลแน่นอน

บาสมองฟางด้วยสีหน้าที่เหมือนจะไม่สนใจ พูด อย่างเย็นชาว่า “ต้นถามหาเธอตลอดเลย กลับไปกับฉัน
มองดูผู้หญิงที่อยู่หน้าเขาคนนี้ เขาก็คิดถึงลูกดันที่ เพิ่งสั่งให้คนไปรับกลับมา

นี่ก็จะสิบโมงแล้ว เด็กคนนั้นยังใส่เสื้อนอบรูปการ์ตูน จระเข้นั่งรออยู่บนโซฟา โอบกอดของเล่นไว้แลดูน่าจะ ง่วงมากแล้ว

คนทั้งบ้านมองไปทางเด็กที่นั่งอยู่บนโซฟา ไม่รู้จะ ทำยังไง ได้แต่ดูอยู่ข้างๆ

คุณตาที่นั่งอยู่อีกฝางของโซฟารู้สึกเป็นห่วงเขา อย่างมาก จากนั้นก็มองบาสที่กำลังเข้ามาทางประตู

“ตันจะรอแต่มาม ไม่ยอมขึ้นห้องไปนอนเลยวัน ไม่รู้จะทำไงแล้วเนี่ย นี่ก็โมงยามแล้ว ทำไมยังไม่เลิก งานอีก เธอรีบไปรับฟางกลับมาเลยนะ

จากนั้น ก็มีฉากที่ประธานบางปรากฏอยู่แผนก ออกแบบ

“คุณรู้ได้ไงว่าฉันทำงานบริษัทนี้ ช่างคิดแล้วคิด อีก เหมือนตัวเองไม่เคยบอกเขานา

“สืบมา” ในโลกใบนี้ ไม่มีอะไรที่น่าสอยากรู้แล้ว

สืบหามาไม่ได้
“คุณจ้างคนตามสืบฉัน?!” ฟางตกใจมาก เธอมี ความรู้สึกว่าตัวเองกำลังเจอกับหมาป่า

“พูดไม่ขึ้นว่าสืบ แค่ทำความเข้าใจกับเรื่องที่ฉัน อยากรู้” บาสพูดออกมาอย่างกระฉับกระเฉง

หลังจากที่คุณตาจะให้ฟางและลูกต้นย้ายเข้ามาอยู่ ด้วย บาสก็ให้คิมไปสืบหาเบื้องหลังและข้อมูลของสองแม่ ลูกนี้

บ้านอนั้นเป็นครอบครัวที่ใหญ่ และฐานะดีไม่ใช่น้อย คนที่อยากจะเข้ามาอยู่ในบ้านของเขาก็มีไม่ใช่น้อยเช่นกัน ไม่ว่าใครจะเข้ามาก็ต้องสืบให้ชัดเจน

ยังดีที่เบื้องหลังของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ผิดปกติอะไร

บ้านเก่าเธออยู่ที่เมืองลาเบล สมัยเด็กๆ แม่ของเธอ ทิ้งเธอไว้ แล้วหนีออกจากบ้าน สมัยเรียนพ่อเธอก็เสียชีวิต ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอทำงานส่งตัวเองเรียน ไม่ยอมรับ แม่เลี้ยงของเธอ หลังจากจบมหาลัยเธอก็ย้ายมาที่เมือง โลกัส เธอย้ายมาทำงาน ไม่นานก็มีลูกก่อนแต่ง แต่พ่อ ของเด็กนั้นคือใคร เขาให้คนไปสืบตั้งนาน แต่ก็สืบไม่ได้

แต่พอเมื่อกี้ที่เห็นเธออยู่กับผู้ชายสองต่อสอง คิดว่าต้นก็น่าจะเป็นลูกที่เกิดมาอย่างไม่น่าได้ตั้งใจ

พอคิดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของบาสก็สุขุมลง

“คุณทำอย่างนี้ ก็เหมือนกับว่าไม่ให้เกียรติคนอื่น” พอฟางรู้ว่าตัวเองถูกคนอื่นสืบอย่างลับๆ ก็รู้สึกไม่โอเค เป็นอย่างมาก

“อยากให้คนอื่นให้เกียรติเธอ ก็ควรดูก่อนว่าตัวเอง เหมาะสมไหมที่จะได้รับเกียรตินั้น บาสพูดด้วยน้ำเสียงที่ เย็นชา “รีบเก็บของ แล้วตามฉันมา

พอพูดจบ เขาก็เดินจากไป

เธอดูจากภาพข้างหลังของผู้ชายคนนนี้ ทำเอาเธอ เครียดไม่น้อยเลยจริงๆ แถมยังเป็นห่วงลูกต้นอีก เธอจึง รีบเก็บของแล้วตามบาสไป

“แม่เจ้า! นี่คือวังหลวงหรือ?!

ฟางอดไม่ได้จึงหลุดคำชมออกมาจากปาก

หลังจากมาเมืองโลกัส เธอก็นับได้ว่าเจออะไรมา เยอะเหมือนกัน
ภาพข้างหน้าเธอนี ถือว่าลบล้างความคิดทเธอคิดมา ต่างๆนาๆแล้วจริงๆ

ขณะที่บาสมารับเธอ เป็นรถรุ่นแอสตันมาร์ติ เธออึ้ง

ในความหรูหรานี้มาก

หลังลงจากรถ พอเห็นบ้านหลังงนี้ ใช้คำว่าหรูหรามา เปรียบเทียบไม่ได้แล้วจริงๆ

ภายนอกของบ้านหลังนี้ ถูกออกแบบมาเหมือนบ้าน แถวยุโรป มีทั้งหมดห้าชั้น มีสีขาวและสีน้ำตาลเป็นโทน ของบ้าน บรรยากาศรอบๆ ไม่มีคำว่าล้าสมัย หน้าบ้านเป็น มีผืนทุ่งหญ้าเต็มไปหมด ถูกตัดแต่งออกมาได้สวยงาม มาก ถึงจะเป็นช่วงกลางคืน ก็ยังมีแสงสว่างราวกับตอน กลางวัน

ดูก็รู้เลยว่าสถาปนิกต้องตั้งใจไม่น้อยเลยจริงๆ

นี่คือสถานที่ที่ห่างออกจากในเมือง ไม่ได้เสียงดัง และวุ่นวายมากนัก วิวรอบๆดูดีมาก เหมาะกับอยู่อาศัยมาก จริงๆ

พอเข้าประตูเท่านั้น ก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่มีแม่บ้าน มาต้อนรับเจ้าบ้าน

และผู้ชายจะใช้จานเตรียบเรียบร้อยแล้วค่ะ” แม้บ้านนําเสื้อที่พาดอยู่บนแขนของบาสออกมา ก้ม ค่านับแล้วพูด

บาลพยักหน้า แล้วปลดกระดุมที่แขนต่อด้วยกระดุมที่ หน้าอก แล้วตรงไปที่ห้องอาบน้ำ

ฟางมองดูผู้ชายที่เยือกเย็นและสุขุมคนนี้ รู้สึกเหมือน เสียสติไปแล้ว

“คุณผู้หญิงฟางคะ เชิญทางนี้ค่ะ คุณชายต้นกำลัง รอคุณอยู่ค่ะ” แม่บ้านพูดด้วยน้ำเสียงที่เคารพ

ฟางเดินตามแม่บ้านไป เธอเปิดตาที่กว้างของเธอ มองดูรอบๆบ้านและชื่นชมมาตลอดทาง จากนั้นก็ถอน หายใจออกมา

ในที่สุดก็เจอลูกต้น เขานั่งอยู่บนโซฟาหนังที่ถูกแกะ สลักออกมาอย่างดี

“มามี้!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ