พี่สาวสวยสง่าของฉัน

บทที่ 8 ครอบครัวได้พบกันน้ำตาคลอ



บทที่ 8 ครอบครัวได้พบกันน้ำตาคลอ

บทที่ 8 ครอบครัวได้พบกันน้ำตาคลอ

“แต่ทำไมเขาโตมาไม่เหมือนกับตอนเด็กเลยล่ะ ?”

ค้งเมิ่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ดวงตาเหมือนแสงเลเซอร์ ดู เนี่ยเฟิงตั้งแต่หัวจรดเท้า

“นั่นเพราะเธอไม่ได้ดูให้ดี

ชิวมู่เฉิงเดินมาจับศีรษะของเนี่ยเฟิงเอาไว้ “ดูนี่ ไฝที่อยู่ ข้างดวงตา เธอดูเค้าโครงนี้ให้ดี ๆ รูปปาก ตอนเด็ก ๆ เหมือนอย่างกับตุ๊กตา โตขึ้นมาก็หล่อเต็มที่

ชิวมู่เฉิงวิเคราะห์อย่างจริงจัง

จนเนี่ยเฟิงรู้สึกเขิน

“นายคือเสี่ยวเฟิงจริงเหรอ ?”

คังเมิ่งกระพริบน้ำที่ปริ่มอยู่ในดวงตา ในใจยังคงไม่กล้า ที่จะเชื่อ

“แน่นอนสิ !” เนี่ยเฟิงพยักหน้า “พี่เจ็ดก็พูดเอง รอผมโต แล้วจะแต่งงานกับผม ! อีกอย่างยังใช้หญ้าหางจิ้งจอกทําแหวนให้ผมด้วย วันนั้นเล่นพ่อแม่ลูกกันยังบอก ผมว่าจะแต่งงานกับผมอยู่เลย”

ค้งเมิ่งได้ยินเนี่ยเฟิงพูดถึงประวัติด้านมืดสมัยเด็กขึ้นมา อยู่ ๆ ก็อยากหารอยตะเข็บเจาะเข้าไป เธอรีบพุ่งเข้าไป เอามืออุดปากเนี่ยเฟิงไว้ “ฉันเชื่อ ! ฉันเชื่อ ! นายหยุดพูด ได้แล้ว !”

เนี่ยเฟิงอดเผยอปากยิ้มไม่ได้ รอยยิ้มนี้ออกมาจาก

ภายในใจ

“เสี่ยวเฟิง ?”

ในเวลานี้เสียงที่พอจะเดาได้ดังเข้ามา ทำให้เนี่ยเฟิงอด สั่นเทิ้มไม่ไหว อยู่ ๆ ร่างกายก็แข็งทื่อขึ้นมา ข้อต่อของ ร่างกายไม่คล่องแคล่วเหมือนเคย เหมือนว่าค่า PPTของ เขาชะงักต้องค่อย ๆ ไหลไปทีละขั้น ๆ

“พี่ พี่หก…”

เนี่ยเฟิงเขาขอสาบาน ! ถ้ารู้ว่าเย่หรูเสว่เป็นพี่หกตั้งแต่ แรก เขาจะไม่ล้อเล่นกับเย่หรูเสว่เช่นนี้เด็ดขาด !

“นายตัวแสบ กล้าล้อเล่นกับพี่หกของเธออย่างนี้และ หรอ ? ฮึม ! กินหัวใจหมีดีเสือดาวมาล่ะสิ ?”
เย่หรูเสว่เดินมาอย่างช้า ๆ กำกำปั้นทุบลงกะโหลกของ เนี่ยเฟิง ขอ “เขกรัก” ให้กับเนี่ยเฟิง”!

สมัยเด็กเนี่ยเฟิงกลัวพี่หกที่สุด เพราะพี่หกคนนี้ค่อนข้าง เข้มงวด แล้วยังกวดขันเขามากเป็นพิเศษ

ในบรรดาพี่สาวทั้งหมด สุขภาพร่างกายของเย่หรูเสว่ ดีที่สุด เธอรับผิดชอบฝึกฝนเนี่ยนเฟิง ทุกวันต้องลุกจาก เตียงตนตีห้าครึ่ง ทำตามเป้าไม่สำเร็จเนี่ยเฟิงก็ต้องถูกตี มือ

“เสี่ยวเฟิง พี่สาวอย่างฉันผิดหวังจริง ๆ นึกไม่ถึงว่าเธอ จะแปดเปื้อนบรรยากาศที่ไม่ดีมากมายเช่นนั้น ! รู้จัก แทะโลมสาวแล้วนะเธอ”

เย่หรูเสบู่พอนึกถึงเนี่ยเฟิงกล้าให้เธอเรียกเขาว่าสามีสุด ที่รักตอนเธอตกที่นั่งลำบาก ก็อดโมโหไม่ได้ อยากจะจัด การเนี่ยเฟิงขึ้นมา!

สมัยเด็กเนี่ยเฟิงเห็นเย่หรูเสว่ ก็เหมือนกับที่หนูเห็นแมว ต่อให้ตอนนี้โตแล้ว เย่หรูเสว่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อ ไป แต่พลังความน่าเกรงขาม ยังคงฝังแน่นอยู่ในใจของ เนี่ยเฟิง

เนี่ยเฟิงส่ายหน้าร้องไห้เศร้าสลดขึ้นมา “ทั้งหมดนี้ เป็นการเข้าใจผิดอ่ะ พี่หก !”
“เข้าใจผิด ?”

“เอาล่ะ ๆ เสี่ยวเฟิงเพิ่งจะกลับมา เธออย่าทําให้เขา ตกใจส

ขณะที่เนี่ยเฟิงคิดว่าตัวเองจะถูกตีมือ ชิวมูเฉิงก็เอ่ยปาก ขึ้นมา ปกป้องเอาไว้ “พี่ใหญ่ ! พี่เป็นอย่างนี้ทุกครั้งเลย เจ้าตัวแสบนี่ถ้าไม่ให้รู้จักเจ็บบ้างก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรคือ กฎเกณฑ์

แม้ท่าทางของชิวมู่เฉิงจะดูเย็นชา แต่ก็ปกป้องเนี่ยเฟิงไว้ ทุกครั้ง ทนเห็นเนี่ยเฟิงเจ็บไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

“เขายังมีชีวิตอยู่นั่นก็เพียงพอแล้ว”

คำพูดนี้ของชัวฉู่เฉิงทำให้หัวใจคังเมิ่งกับเย่หรูเสบู่ทั้ง สองคนสั่นเทา

สักพักขอบตาของคังเมิ่งก็แดงก่ำ เธอกลั้นไม่อยู่แล้ว พุ่ง ไปข้างหน้าอย่างไม่ห่วงภาพลักษณ์ ร้องไห้คร่ำครวญขึ้น มา

“เสี่ยวเฟิง ! เธอไม่รู้หรอกว่าช่วงเวลานั้นฉันอยู่อย่างไร ทุกวันที่ตื่นขึ้นมาก็อยากไปตามหาเธอ มันหดหูมาก!
แม้เย่หรูเสว่จะไม่ได้เป็นเอามาก แต่ก็อดที่จะเช็ดหางตา ไม่ได้

เนี่ยเฟิงนึกว่าจิตใจที่ด้านชา จะไม่หวั่นไหวกับเรื่องใด ๆ อีก แต่พอเห็นพี่สาวทั้งสามดีใจปนร้องไห้ เพราะข่าวการ ยังมีชีวิตรอดของเขา อยู่ ๆ ก็รู้สึกแปล๊บที่หัวใจขึ้นมาก

คังเมิ่งกอดเนี่ยเฟิงเอาไว้แน่น เนี่ยเฟิงรู้สึกความอ่อนนุ่ม กดไว้จนแทบหายไม่ออก

“เอาล่ะ ๆ เสี่ยวเฟิงทุลักทุเลเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ยังไม่ได้ทานข้าวเลย พวกเธอหยุดกันสักเดี๋ยวเถอะ”

ชิวมู่เฉิงเอ่ยขึ้นมา คังเมิ่งจึงได้สะอึกสะอื้นคลายมือ

“พี่ใหญ่พูดถูก !”

ในที่สุดเนี่ยเฟิงก็หายใจหายคอทั่วท้องแล้ว เขาเกือบจะ โดนคนโหดร้ายทำให้ตาย

“เสี่ยวเฟิง เธอมีที่ปักหลักหรือยัง ? ถ้ายังไม่มี คืนนี้ก็พัก ของฉันที่นี่เถอะ”

เนี่ยเฟิงเพิ่งกลับมาแน่นอนต้องยังไม่มีที่ปักหลัก แม้ว่าจะพักโรงแรกหรือซื้อห้องชุดอยู่ก็ได้ แต่เมื่อได้อยู่กับพี่ สาวใยจึงต้องออกไปหาห้องข้างนอกด้วยล่ะ ?

“ผมเพิ่งกลับมาที่นี่ ยังไม่มีที่พัก”

“ก็ได้ ฉันจะขึ้นไปเก็บห้องให้เธอ

“พี่ใหญ่ ! เตรียมให้ฉันห้องหนึ่งด้วยสิ คืนนี้ฉันก็พักที่นี่ ฉันมีหลายอย่างจะคุยกับเสี่ยวเฟิง”

คังเมิ่งกระพริบดวงตาที่กลมโต อย่างกับดูไม่พอ คอยม องเนี่ยเฟิง

เป็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมาก ตอนแรกที่คังเมิ่งไม่ รู้ว่าเนี่ยเฟิงเป็นใคร ก็ทำตัวเหมือนเม่น พอตอนนี้รู้แล้ว ก็ กลายเป็นคนสุภาพอ่อนโยนเหมือนสมัยเด็กตอนนั้น

“พี่ใหญ่ คืนนี้ฉันก็นอนที่นี่ด้วยคนสิ”

เย่หรูเสว่กล่าวพลางมองไปที่เนี่ยเฟิง “ที่ผ่านมาเธอได้ ออกกำลังกายบ้างหรือเปล่า ? ฉันเห็นเธอวิ่งเร็วมากที เดียว พรุ่งนี้เช้ามาแลกเปลี่ยนกันหน่อยสิ”

เนี่ยเฟิง: …
เขาจะปฏิเสธได้เหรอ ? !

“ได้ คืนนี้พวกเรามาฉลองกัน !”

ในคืนนั้น เนี่ยเฟิงถูกพี่สาวทั้งสามซักไซ้เรื่อง “ความเป็น ความตาย”

พวกหล่อนสามคนกะใช้เวลาทั้งคืนสอบถามทุกอย่าง หลายปีมานี้ของเนี่ยเฟิง เนี่ยเฟิงคิดแล้วคิดเล่าก็ไม่ได้ เผยออกไปหมด ปิดบังตัวตนและศักยภาพของตัวเองใน ตอนนี้เอาไว้ บอกแต่เพียงว่าตัวเองเร่ร่อนอยู่ข้างนอก ใช้ ชีวิตช่วงหนึ่งไม่ต่างจากขอทาน ต่อมาหลังจากระหกระ เห็นช่วงหนึ่ง อาศัยความทรงจำกลับมายังที่นี่

เรื่องนี้ถึงกับทำให้พี่สาวทั้งสามเจ็บปวดใจทีเดียว พวก หล่อนทั้งสามมองดูสายตาของเนี่ยเฟิงเหมือนมองดูหนุ่ม น้อยผู้น่าสงสาร และพวกหล่อนทั้งสามก็สาบานกับตัวเอง ในใจว่า จะปกป้องเนี่ยเฟิงให้ดี จะไม่ให้เขาต้องพบความ ลำบากใด ๆ อีก

รุ่งเช้าของวันที่สอง เรื่องที่คังเมิ่งสูญเสียแฟนคลับไป ทำให้ต้องกลับบริษัทมาจัดการหน่อย ส่วนเย่หรูเสวก็ไม่ ได้หยุด ได้แต่กลับไปที่สถานีตำรวจก่อน

ต่อมาก็คือชิวมู่เฉิง แม้ว่าเขาจะลาออกแล้ว แต่ต้องไป เดินเรื่องให้เสร็จ
“เสี่ยวเฟิง เช้านี้เธอก็อยู่บ้านไปก่อนนะ ช่วงบ่ายรอพี่ เจ็ดกลับมา จะให้หล่อนพาเธอไปเดินรอบ ๆ”

พี่สาวทั้งสามสั่งเนี่ยเฟิงเสร็จก็ออกจากบ้านไป

ทว่าเนี่ยเฟิงไม่คิดจะอยู่ในบ้าน วันนี้เขาอยากไปดูบ้าน เกิดของเขา พ่อแม่เขาเสียไปนานแล้ว เขาไม่ได้กลับไป บ้านเกิดเลย จึงคิดถึงเป็นพิเศษ

เนี่ยเฟิงออกจากบ้าน ตามรอยความทรงจำของตัวเอง นั่งแท็กซี่มายังบ้านเกิด แต่เดิมที่ควรจะเป็นบ้านของเขา กลับกลายเป็นตึกระฟ้าตึกหนึ่ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ