ทนายเซ็กซี่เป็นเมียของผม

บทที่13 สามีจําเป็น (3)



บทที่13 สามีจําเป็น (3)

ขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น17 และเดินไปหน้าห้อง 1702 เดิมที่คิดจะเคาะ ประตู แต่คำนวณเวลาแล้ว จึงยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าห้อง เล่น โทรศัพท์มือถือไปพลางๆ พอเวลาผ่านไปประมาณ 10กว่านาที ฟางจื้อเฉียงคาดเดาว่าเวลานี้ ภายในห้องพักน่าจะถึงช่วงเวลา กิจกรรมหรรษาแล้วล่ะ สูบบุหรี่ไปพลางเคาะประตูไปพลาง ในใจ คิดว่า ช่วงที่เสียงเคาะประตูดังไม่หยุดทั้งสองคงถึงช่วงเวลาเข้า ได้เข้าเข็มอยู่ภายในห้อง ไม่รู้ว่าจะอยู่ในสภาพยังไง ฟางจื้อ เฉียงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

“ใคร?” หลังจากนั้นอีกนานกว่าที่ผู้จัดการหนิวจะขานรับ ฟัง น้ำเสียงแล้วดูหงุดหงิดงุ่นง่านจนพูดไม่ออก

“พนักงานบริการ สายไฟห้องของคุณมีปัญหา ต้องซ่อมแซม

รบกวนเปิดประตูหน่อยครับ”

“ไม่ต้องซ่อม ไปให้พ้น

“คุณผู้ชาย ขอความร่วมมือด้วยครับ สายไฟมีปัญหา หาก ซ่อมแซมไม่ทันเวลาอาจเกิดเพลิงไหม้ได้ครับ พวกเราต้องรีบ เข้าไปซ่อมแซม ถ้าคุณไม่ยอมเปิดประตูพวกเราจะนำคีย์การ์ด มาเปิดเองนะครับ ขอโทษด้วย!” ฟางจื้อเฉียงดัดน้ำเสียงในลำ คอพูดออกมา

“อย่าเพิ่ง รอเดี่ยว ไอ้MLGB โรงแรมซังกะบ๊วยของพวกคุณ เนี่ย ผมจะไม่มาพักอีกแล้ว” ฟางจื้อเฉียงได้ยินเสียงก่นด่าของผู้จัดการหนิวดังมาไม่หยุด จากนั้นได้ยินเสียงเปิดประตูแคร๊ก แคร๊ก

“ซ่อมอะไรนักหนา ซ่อม……… อเฉียง คุณเองเหรอ?” ผู้จัด การหนิวเปิดประตูก็เจอกับฟางจื้อเฉียง

“ผู้จัดการ สวัสดีครับ!” ฟางจื้อเฉียงแย้มยิ้ม จากนั้นก็ผลัก ตัวผู้จัดการหนิว แล้วเดินเข้าไปในห้อง

หลังจากเข้าไปมองเห็นการเงินเสี่ยวหลิวกำลังสวมเสื้อคลุม ด้านนอก เห็นได้ชัดว่าเสื้อผ้าด้านในไม่เตรียมที่จะใส่ เพราะว่า ต้องการจะถอดออกให้หมดเสียมากกว่า

“เย้ เสี่ยวหลิวคุณคนสวย คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน?” ฟางจื้อ เฉียงพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูป

“ฟางจื้อเฉียง คุณจะทำอะไร?” ผู้จัดการหนิวพูดพลางรีบเข้า มาแย่งโทรศัพท์ของฟางจื้อเฉียง แต่ด้วยรูปร่างของฟางจื้อเฉียง แล้วนั้น ผู้จัดการหนิวหรือจะเป็นคู่ต่อสู้กับเขาได้

“ไอ้เฉียง ไอ้ ไอ้ … ต้องการอะไร?” เสี่ยวหลิวเริ่มลนลาน

“ผมไม่ได้ทำอะไร ผมแค่เดินผ่านทางมาเท่านั้น เห็นคุณทั้ง สองเดินเข้ามาในโรงแรม ผมคิดว่า ยังไงพวกเราก็เคยทำงาน ร่วมกัน ผู้จัดการหนิวก็เคยเป็นหัวหน้าของผม ผมก็แค่จะขึ้นมา ทักทายซักหน่อยเท่านั้น เออใช่แล้ว พวกคุณทั้งสองกำลังคิดจะ ทำอะไรกันเหรอ? เสี่ยวหลิว ทำไมแม้แต่ชิ้นนี้ก็ยังถอดออกอีกเห รอ?” ฟางจื้อเฉียงแสร้งทำเป็นโง่ ชี้ไปทีเสื้อซับในที่วางอยู่ข้าง เตียง
“ไม่ไม่ไม่ ใช่ นี่มัน…….. เสี่ยวหลิวถึงกับโง่ไปเลย ส่ายหัว อย่างลนลาน แต่ว่าจะไม่ยอมรับยังไงก็ไร้ประโยชน์

ผู้จัดการหนิวทำสีหน้าเคร่งขรึม มองไปที่ฟางจื้อเฉียง จากนั้น เดินไปปิดประตู เดินกลับมาหยิบบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงส่งให้กับ ฟางจื้อเฉียง ถามตรงไปตรงว่า “อาเฉียง คุณพูดมาตรง ๆ คุณ คิดจะทําอะไร?”

“ต้องการอะไรเหรอ? ผมคิดดูก่อน” ฟางจื้อเฉียงเพิ่งคิดถึง ปัญหานี้ เขายังไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงต่อ

“พูดมาตรง ๆ คุณต้องการเงินเท่าไหร่ถึงจะลบภาพทั้งหมด ในมือถือของคุณ” ผู้จัดการหนิวรุกไล่ถามต่อ

“เงินเหรอ? ไม่สิ ผมไม่ต้องการเงิน ถ้าผมต้องการเงินนั่น มัน

เป็นการกรรโชกทรัพย์ล่ะ? ผมไม่เคยทำเรื่องผิดกฎหมาย

“งั้นคุณต้องการอะไร? จะให้ทำยังไงถึงจะให้คุณลบภาพ ทั้งหมด ในโทรศัพท์มือถือ” ผู้จัดการหนิวเริ่มบันดาลโทสะ

“อย่าเพิ่งร้อนรนไป ท่านผู้จัดการ ครั้งก่อนที่คุณไล่ผมออก โดยไม่ถามไถ่เรื่องราวให้ชัดเจน ผมก็ไม่ได้โมโหอย่างนี้เลย เอา อย่างนี้นะ ความต้องการของผมมีไม่มาก พรุ่งนี้ให้ผมจะกลับ เข้าไปทำงาน อีกทั้งต้องขยายพื้นที่ของผมกว้างขึ้นอีกหน่อย พื้นที่เล็ก ๆ ตรงถนนหยวน จัดให้อยู่ในเขตของผม ยังมีอีกข้อ บ่ายวันพุธของทุกวันเป็นวันหยุด ไม่ส่งสินค้า แต่ว่าคุณวางใจ ช่วงเช้าแน่นอนผมต้องส่งสินค้าให้เสร็จเสียก่อน เป็นยังไง?

ฟางจื้อเฉียงนั่งสูบบุหรี่บนเก้าอี้ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย

สีหน้าของผู้จัดการหนิว ขบเคี้ยวฟันจนดูน่ารังเกียจ พูดออก มาว่า: “ตกลง ตอนนี้แกก็รีบลบภาพทั้งหมด ในโทรศัพท์มือถือ ต่อหน้าฉันเดี๋ยวนี้”

“ลบภาพเหรอ? ยังไม่ได้ ถ้าผมลบภาพออกไป คุณก็ไล่ผม ออกอีก ก็แย่สิ? คุณคิดว่าผมโง่ขนาดนั้นเหรอ?” ฟางจื้อเฉียงยิ้ม เยาะเก็บโทรศัพท์มือถือใส่ในกระเป๋า

“ฟางจื้อเฉียง ครั้งนี้ผมไว้หน้าคุณขนาดนี้แล้วยังไม่พอใจอีก เหรอ เชื่อไหมว่าในเมืองหมิงแห่งนี้ ผมสามารถฆ่าคุณได้ตลอด เวลา?” ในที่สุดผู้จัดการหนิวก็ระเบิดโทสะออกมา

“ผมเชื่อ แต่คุณเชื่อไหมว่า ผมก็สามารถฆ่าคุณได้ตลอดเวลา เช่นกัน? ผมรู้ว่าบ้านคุณอยู่ที่ไหน และรู้จักพี่สะใภ้คุณอีก วันนี้ผม สะกดรอยตามพวกคุณมานานมากแล้ว ในนี้ก็เก็บรูปภาพไว้ มากมาย คุณคิดดูสิ ผมนำภาพทั้งหมดให้พี่สะใภ้ดู คุณเองจะ เป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัวในทันที? คุณอย่าลืมสิ ที่คุณนั่งอยู่ใน ตำแหน่งผู้จัดการนี้ได้ก็อาศัยพ่อตาของคุณทั้งสิ้นไม่ใช่เหรอ?” ฟางจื้อเฉียงยิ้มเยาะพูดออกมา จากนั้นก็ยืนขึ้นมาพูดอีกว่า: “ใน เมื่อผู้จัดการคิดว่าร่วมมือกับผมแล้วไม่คุ้มค่า งั้นผมก็จนหนทาง ผมต้องไปแล้วล่ะ บ๊ายบาย

ฟางจื้อเฉียงพูดจบก็เดินออกไปข้างนอก เขาล่วงรู้ประวัติเบื้อง หลังของผู้จัดการหนิวเป็นอย่างดี แท้จริงแล้วไม่มีอะไรเลย แต่งงานกับภรรยา จากนั้นก็มาทำงานเป็นผู้จัดการในบริษัทขนส่งของพ่อตาแห่งนี้

“อย่า อย่า อย่า โอเค ผมรับปากคุณ คุณมาทำงานพรุ่งนี้ แต่ คุณต้องรับปากผม ภาพในโทรศัพท์ของคุณจะให้ใครดูไม่ได้ และคุณก็ห้ามพูดเรื่องนี้กับใคร ถ้าภรรยาของผมรู้เรื่องนี้ ผมจะ ฆ่าคุณเป็นคนแรก”

“คุณวางใจได้ คนอย่างผมทำอะไรมีคุณธรรมไว้ใจได้ คุณทั้ง สองคนทําเรื่องผิดจารีตซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับผมเลย ผมต้องการ ทำงานเท่านั้น ในเมื่อผู้จัดการหนิวรับปากแล้ว งั้นพรุ่งนี้ผมจะไป ทำงานตามปกติ ต้องขอโทษด้วยที่มารบกวนพวกคุณทั้งสองคน พวกคุณทั้งสองทำกิจกรรมกันต่อ อย่าให้ผมเป็นก้างขวางความ สุขของพวกคุณ เออใช่ ผู้จัดการหนิว คุณยังไม่ได้รูดซิปกางเกง เดี๋ยวน้องชายของคุณจะหนาว เดี๋ยวจะไม่มีเครื่องมือทำกิจกรรม นะ ไม่รบกวนแล้ว พบกันใหม่!” ฟางจื้อเฉียงยิ้มฮาฮาพูดออกมา จากนั้นก็เดินออกไปพร้อมกับปิดประตูให้

หลังจากออกจากห้อง ฟางจื้อเฉียงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะคำโต ออกมา เขาคาดเดาอารมณ์ของคนทั้งสองได้ออก วันนี้คงหมด อารมณ์ที่จะเล่นกันต่อแล้วล่ะ

“ที่แท้หางานทำมันง่ายขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่ยากเลยซักนิด เดียว!” ฟางจื้อเฉียงพูดไปหัวเราะไป จากนั้นก็เดินออกจาก โรงแรมอย่างสบายใจ

วันที่สองก็มาถึง เป็นวันที่ฟางจื้อเฉียงเริ่มต้นส่งสินค้าอีกครั้ง สาเหตุที่เขาทิ้งงานนี้ไม่ลง ก็เพราะว่างานนี้แม้จะลำบาก แต่เงินเดือนกลับมากกว่าพนักงานออฟฟิศทั่วไป เพียงแค่เขาขยันมาก ขึ้น สามารถมีรายได้ 5000-6000 ต่อเดือน ปีหลัวซุนกับหลิวเ นทั้งสองคน ทํางานที่เมืองจูหมิงมาตั้งนาน ถึงจะพูดได้ว่าจะนั่ง ออฟฟิศทั้งวัน ไม่ถูกลมถูกฝนเลย แต่ว่าเงินเดือนของพวกเขาแค่ 4000กว่า เท่านั้น และยังมีเหตุผลที่สำคัญก็คืองานของพนักงาน ส่งสินค้านั้น วนเวียนในตลาดได้ทั้งวัน สิ่งที่ฟางจื้อเฉียงต้องการ ก็คือการวนเวียนไปรอบ ๆ หาคนที่เขาต้องการหา เขาหวังว่าซัก วันนึงเขาจะพบกับหญิงสาวคนนั้นที่ตนเองตามหามาตลอด

“มาทางนี้ อาเจียง คืนนี้พวกเราจะดื่มเหล้าเป็นเพื่อน” รอหลิว เย่นทําอาหารเสร็จ ปีหลัวซุนนิ้วเบียร์วางบนโต๊ะหลายขวด เปิด ขวดเบียร์ส่งให้กับฟางจื้อเฉียง

“มนุษย์เรานี่หนา กระทำการสิ่งใดล้วนมีเจตนาแอบแฝงและ หวังผลตอบแทนทั้งสิ้น ยากที่จะหาน้ำใจได้ ฉันจะบอกให้ฟังนะ ฉันนะเรื่องเงินไม่มีจะให้ มีแค่เพียงชีวิตเดียวเท่านั้น” ฟางจื้อ เฉียงพูดกับหลัวชุนอย่างตรงไปตรงมา

“นายพูดประโยคนี้ มันทำร้ายจิตใจมากเลยนะ พี่อย่างฉัน เป็นคนอย่างนั้น ในสายตาแกเหรอ?”

“ประมาณนั้นแหละ ถึงยังไงอยู่ดี ๆ นายมาทำดีกับฉัน มั่นใจ ได้ว่าไม่ใช่เรื่องดี พูดมาตรง ๆ ครั้งนี้จะให้ฉันทำอะไรกันแน่? ฟางจื้อเฉียงดื่มเบียร์เข้าไปหนึ่งอีก จากนั้นก็กินกับแกล้ม

“โธ่เอ้ย คนซื่อบื่ออย่างนายเนี่ยนะ ไม่ยอมปริปากพูดเสียที นั้นฉันพูดเอง อาเฉียง เขาไม่เอ่ยปาก ฉันพูดเอง นายก็รู้ว่าพวกเราทั้งสองพักอยู่ในห้องเล็ก ๆ แค่นี้ นายเป็นผู้ชายทั้งแท่ง พักที่ นี่ซักสองสามวันไม่เป็นไรพอไหว แต่นายมาอยู่ที่นี่ก็หลายเดือน แล้ว มันไม่สะดวกจริง ๆ นายเคยพูดไม่ใช่เหรอว่า นายเป็นคุณ พ่อจําเป็นให้กับลูกของผู้หญิงคนนั้น ได้เดือนละ 15,000 ทำงาน ขนส่งที่นี่ ก็ได้เดือนละ5000-6000 รวม ๆ กันก็ประมาณ 2หมื่น กว่า ได้ตั้ง 2หมื่นกว่ายังไม่คิดจะไปเช่าห้องเป็นของตนเองบ้าง เหรอ? นายนอนที่โซฟากับพวกเราทุกวัน พูดตามตรงนะ พวกเรา รู้สึกไม่สบายใจจริง ๆ ต้องขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ!” หลิวเช่น ใช้ หางตามองไปที่ปีหลัวซุนพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ