ทนายเซ็กซี่เป็นเมียของผม

บทที่11 สามีจําเป็น (1)



บทที่11 สามีจําเป็น (1)

“เด็กโง่ เพราะพ่อของเขาเป็นคนอเมริกัน แต่พ่อเองคนจีนทั้ง แท่ง แค่ไปทํางานในอเมริกาเท่านั้น แน่นอนว่าหน้าตาต้องไม่ เหมือนคนอเมริกาแน่นอน ลูกดูสิ ถ้าพ่อหน้าตาเหมือนคน อเมริกาลูกก็คงมีหน้าตาเหมือนคนอเมริกาแล้วไม่ใช่เหรอ? เพื่อนนักเรียนของลูกคนนั้นหน้าตาเหมือนพ่อของเขาหรือเปล่า ล่ะ?” ฟางจื้อเฉียงพูดพลางหัวเราะพลาง

“ก็น่าจะใช่นะ!” เด็กน้อยคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงพยักหน้าพูดอย่าง รับค่า

โอเค ลูกนั่งกับพ่อตรงนี้ แม่จะไปเตรียมพิซซ่าของที่ลูกชอบ กินที่สุด” หวางย่าหินให้หวางจิ้งนั่งลงบนเก้าอี้ และมองไปที่ ฟางจื้อเฉียง จากนั้นก็เดินออกไปด้านนอกเพื่อซื้ออาหาร โรงเรียนแห่งนี้ช่างกว้างขวางดีจริง ๆ อีกทั้งสิ่งของต่าง ๆ ของ เด็ก ๆ อาทิ ของกินก็ดี ของ เสื้อผ้าก็ดี มีไว้ให้พร้อมสรรพ ใช้ก็ดี

“คุณคือพ่อของผมจริง ๆ ใช่ไหม?” หวางจิ้งจ้องตาเขม็งมอง ไปที่ฟางจื้อเฉียง

“ลูกควรจะตัดคำว่าไหมออกไป พ่อเป็นพ่อของลูกอย่าง แน่นอน ถ้าพ่อไม่ใช่พ่อของลูก จะมาหาลูกพร้อมกับแม่ของลูกได้ ยังไง?”

“งั้น คุณบอกผมมาว่าผมมีชื่อว่าอะไร?”
“ลูกชื่อหวางจิ้งวี่ !”

“งั้น คุณชื่อว่าอะไร?”

“พ่อชื่อว่าฟางจื้อเฉียง” ฟางจื้อเฉียงพูดออกไปแล้วก็พบว่ามี อะไรบางอย่างผิดปกติ

“คุณพูดโกหก คุณไม่ใช่พ่อของผม คนอื่น ๆ ใช้แซ่เดียวกับ พ่อ แต่ทําไมผมแซ่หวาง คุณแช่ฟาง?”

ฟางจื้อเฉียง ขมวดคิ้วแล้วพูดต่ออีกว่า “นั่นเป็นเพราะลูกใช้ แซ่เดียวกับแม่ไงล่ะ และเป็นเพราะว่าแม่ของลูกรักลูกมากไป หน่อย จึงให้ลูกใช้แซ่เดียวกับแม่ แม่ของลูกแซ่หวางไม่ใช่เห รอ?”

“ใช่ แม่ผมแซ่หวาง ผมก็แซ่หวาง ผมแซ่เดียวกับแม่” เด็ก น้อยพยักหน้ามีทีท่าพอจะเข้าใจบ้าง

“คุณเป็นพ่อของผมจริง ๆ นะ” เด็กน้อยก็ยังคงถามฟางจื้อ เฉียง เพื่อยืนยันอีกครั้ง

“พ่อเป็นพ่อของลูกจริง ๆ” ฟางจื้อเฉียง ทำได้แต่เพียงพูดและ พยักหน้ารับค่า

“ทั้งสองคนกำลังคุยเรื่องอะไรกันจ๊ะ” หวางย่านยกสำรับ อาหารมาพร้อมกับถามลูกชายด้วยรอยยิ้ม

“แม่ เขาเป็นพ่อของผมจริง ๆ ใช่ไหม?”

“ก็ใช่น่ะสิ เขาเป็นพ่อของลูกแน่นอน ก่อนหน้านี้พ่อของลูกงานอยู่อเมริกามากลับมาหาพวกเราได้ แต่หวางย่าน พูด พลางพร้อมกับของให้กับของเธอ

คุณพ่อของผม จ้องตายถามฟางจื้อเฉียงอีกครั้ง ฟางจื้อเฉียงเหลือบมองที่หวางยานอีกครั้ง ซึ่งเขาไม่จริง อย่างไร

อืม แน่นอน พ่อเขาต้องเป็นสามีของน่ะสิ พอได้แล้ว กินเถอะ ซักถามอะไรมากมาย หวางย่าชินพูดพลางเหลือบ ตามองอยากกินอะไรก็เดินสั่งตรงนั้น

ไม่ใช่ เขาไม่ใช่พ่อของผม

“ลูกทำไมถึงพูดว่าไม่อีกล่ะ” หวางย่าซินรู้สึกจิตใจหดหู่ไงบอกถูก

“เมื่อกี้เรียกชื่อของเขา แต่เพื่อนเรียนคนพูดว่า แม่ ของพวกเขาทุกวี่คล้ายกับพบสงสัยอีกจึงซักถามขึ้นทันที ภายในใจเด็กคิดตรรกะบางอย่างนั้นมันง่ายมาก

หวางย่านขมคิ้วพูดกับลูกว่า วัน ๆ พ่ออย่างล่ะ เป็นแม่ของพวกเขาเรียกพ่ออย่างเท่านั้น
“ถ้าแม่ไม่เรียก ผมก็ไม่เชื่อว่าเขาเป็นพ่อของผม แม่โกหกผม พวกคุณร่วมกันโกหกผม ผมไม่เคยมีพ่อ พวกเขาต่างก็บอกว่า ผมเป็นคนไม่มีพ่อ

หวางจิ้งวี่ จู่ ๆ ก็ร้องไห้โฮออกมาเสียงดัง

“โอเค โอเค แม่จะเรียกแม่จะเรียก!” หวางย่านถูกก่อกวน จนหมดหนทาง ทำได้เพียงตอบรับคำ จากนั้นก็หันไปหาฟางจื้อ เฉียง หน้าของเธอเริ่มแดง จะขยับปากอึ้งยังไงก็พูดไม่ออก สุดท้ายก็ขบฟันพูดกับฟางจื้อเฉียงว่า “คุณพูดแล้วกัน”

“ใช่ คุณเรียกฉันแทน” หวางยาซินเบิกตาโพลงมองไปที่ฟาง ซื้อเฉียง ทำอย่างไรเธอก็พูดไม่ออก ท้ายสุดก็ส่งมอบความอึดอัด นี้ให้กับฟางจื้อเฉียง

“ผม…….ผม…ผมควรเรียกคุณว่าอะไร?” ฟางจื้อเฉียงในใจ

เริ่มเป็นทุกข์

“คุณพูดดูสิว่าคุณควรเรียกฉันอย่างไร? เมื่อคุณไม่ได้ยินลูก พูดเหรอ? รีบเรียกเดี๋ยวนี้!” หวางย่าซินเบิกตามองไปที่ฟางจื้อ เฉียง ซึ่งความจริงแล้วเพื่อให้ฟางจื้อเฉียง มีความมั่นใจขึ้นมา บ้าง

ฟางจื้อเฉียงจะเอ่ยปากพูดยังไง กับชื่อเรียกที่ปั้นแต่งขึ้นมากับ ผู้หญิงที่เพิ่งจะรู้จักกัน

“รีบพูดออกมา ไม่งั้นฉันจะหักเงินเดือนของคุณ” หวางย่านม องดูแล้วว่าฟางจื้อเฉียงนั่งอึ้งอยู่นานก็ยังไม่พูดออกมาจึงกด เสียงให้พูดกับฟางจื้อเฉียงด้วยเสียงอู้อี้
ฟางจื้อเฉียงจ้องหน้าหวางยาซินด้วยสายตาขึงขัง ภายใต้แรง กดดันที่จะต้องถูกตัดเงินเดือนจึงขบฟันกรอดตะโกนออกมาว่า : “เมียจ๋า!” หลังพูดเสร็จ หวางย่าซินและฟางจื้อเฉียงต่างก็หน้า แดง การเรียกขานเช่นนี้นั้นมันดูกำกวมและดูเสแสร้งอย่างเห็น ได้ชัด

“เอาล่ะ เอาล่ะ ตอนนี้ลูกเชื่อหรือยัง รีบกินเข้าไป!” หวางย่า นเขินอายจนหน้าแดง เอ็ดลูกของตนเอง

“ต่อไปทั้งสองคนต้องเรียกอย่างนี้นะ เย้ดีใจจัง ผมมีพ่อแล้ว ในที่สุดผมก็มีพ่อแล้ว” หวางจิ้งดีใจลิงโลดตะโกนออกมาดัง ๆ

“ทําอะไร?”

“คุณมานี่!”

“ไปเถอะ!” หวางยาซินพยักหน้าพูดออกไปเมื่อเห็นฟางจื้อ เฉียงสอบถามความคิดเห็นของเธอ

ฟางจื้อเฉียงทำได้แต่เพียงเดินตามหวางทิ้งไปด้านนอก

มองเห็นแต่เพียงหวางจิ้งจูงมือฟางจื้อเฉียงไปโต๊ะข้าง ๆ ยืน ข้างโต๊ะพูดกับผู้ชายอีกคนหนึ่งว่า “หลี่เสี่ยวหมิง เธอเห็นไหม นี่ คือพ่อของผม ผมมีพ่อเป็นตัวเป็นตนแล้ว พ่อผมกลับมาจาก อเมริกา จากนี้ไปคุณจะพูดว่าผมไม่มีพ่อไม่ได้แล้วนะ

พ่อแม่โต๊ะนี้ถึงกับตกตะลึง ฟางจื้อเฉียงเองก็อึดอัดทำอะไรไม่ ถูก ยิ้มกับพ่อแม่คู่นั้นพูดว่า “ขอโทษด้วย ต้องขอโทษด้วยที่ รบกวนคุณทั้งสอง”
เพิ่งพูดจบหวางจิ้งก็จูงมือฟางจื้อเฉียงไปอีกโต๊ะหนึ่ง พูดกับ เพื่อนตัวน้อยของเขาอีกคน ราวกับจะประกาศให้โลกรู้มิปาน ขณะแนะน่าพ่อของตนเองให้กับคนอื่นด้วยท่าทางมาดมั่นและมี ชีวิตชีวามาก

หวางยาซินมองเห็นภาพเช่นนี้ อดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ด้วย เหตุการณ์เช่นนี้มองออกว่าลูกของเธอปรารถนาที่จะมีพ่ออย่าง มาก และต้องการความรักจากพ่อ

หวางจิ้งดึงมือฟางจื้อเฉียงเดินไปเกือบทั่วโรงเรียน บอก คุณครูและเพื่อนนักเรียนที่เขารู้จักทุกคน บอกทุกคนว่าเขามีพ่อ เป็นตัวเป็นตนแล้ว

และแนะนำฟางจื้อเฉียงให้กับทุกคนที่รู้จัก

“พ่อ พวกเขาชอบรังแกผม พวกเขาพูดว่าผมไม่มีพ่อ รังแกผม แต่นี้ต่อไป ผมจะดูว่าใครกล้าชกผมอีก หากพวกเขาซกผม ผมจะ เรียกพ่อมา พ่อจะช่วยผมชกพวกเขาคืน ใช่ไหม ?

“ได้ยังไง? ลูกเป็นลูกผู้ชาย เรื่องชกต่อยจะเรียกผู้ปกครองมา ช่วยเหลือได้อย่างไรกัน? พ่อจะสอนลูก การชกต่อยนั้นนะ อธิบายให้ละเอียดก็คือว่าใครโหดกว่ากัน ลูกรู้ไหม? ต่อไปใคร กล้า กลูก ลูกก็ต่อยกลับ ชก ให้หนักกว่าเดิม ชกให้เขากลัว จน ต่อไปไม่กล้าที่จะมาหาเรื่องกับลูกอีก” ฟางจื้อเฉียงสายศีรษะพูด

“แต่ว่าแม่ไม่อนุญาตให้ทะเลาะวิวาทกับใคร บอกว่าถ้าใคร ต่อยก็ให้ไปบอกกับคุณครู”

“นั่นได้ยังไงกัน? เกิดเรื่องชกต่อยก็ไปหาคุณครู เรื่องเล็กน้อยก็วิ่งไปฟ้อง นั้นมันคนขี้แพ้ เกิดเป็นลูกผู้ชายอกสามศอกพวกเรา ต้องตาต่อตาฟันต่อฟัน ต้องสู้ให้คู่ต่อสู้กลัวด้วยความสามารถ ของตนเอง สู้จนกว่าเขาไม่กล้าที่จะรังแกเราอีกต่อไป พอจะบอก กับลูกว่า ถ้าคนอื่นไม่ค่อยก่อน จะไปต่อยกับคนอื่นก่อนไม่ได้นะ ถ้าหากคนอื่นต่อยลูก ลูกก็ต้องเอาคืน คนอื่นต่อยลูกหนึ่งที่ลูก ต้องต่อยกลับสองที เขาค่อยสองที ต้องเอาคืนสามที ห้ามเสีย เปรียบและต้องสู้ให้ชนะ ถึงสู้ไม่ชนะก็ไม่เป็นไร พวกเราต้อง แสดงพลังของตนเอง สู้กับพวกเขาจนกว่าพวกเขาไม่กล้าที่จะสู้ กับเราอีก นับว่าพวกเราเป็นผู้ชนะ บอกพ่อมาว่า ลูกเป็นลูกผู้ชาย อกสามศอกใช่ไหม?”

“ใช่ ผมคือลูกผู้ชายอกสามศอก

“เป็นลูกผู้ชายอกสามศอกต้องทำยังไง?”

“ต้องต่อสู้ให้ชนะ!”

“ถูกต้อง พ่อจะบอกเล่าให้ลูกฟัง เมื่อตอนที่พ่อเรียนหนังสือ คนอื่นมาต่อยพ่อ พ่อไม่เคยไปฟ้องครู และไม่ไปบอกผู้ปกครอง พ่อชกต่อยกับพวกเขา พ่อชกต่อย โหดกว่าพวกเขา เดิมทีมีคน มากมายมารังแกพ่อ หลังจากพวกเขาถูกพ่อต่อยกลับก็จนกลัว หัวหดไปเลย จนในโรงเรียนไม่มีใครกล้ารังแกพ่ออีกเลย ทุกคน เชื่อฟังพ่อ เป็นไงล่ะ พ่อดูมีอำนาจมั้ยล่ะ?” ฟางจื้อเฉียงที่อุ้ม

หวางจิ้ง พูดออกมาด้วยความปิติยินดี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ