ทนายเซ็กซี่เป็นเมียของผม

บทที่ 17 ณ ห้องนอน (2)



บทที่ 17 ณ ห้องนอน (2)

“ก็ได้ ฉันก็แค่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่านั้น ในเมื่อคุณไม่ต้องการ งั้นก็ไม่ต้องขึ้นเงินเดือน”

“อย่า อย่า อย่า ขึ้นเงินเดือนดีกว่าไม่ขึ้น ไม่มีใครรังเกียจเงิน หรอก ใช่ไหม!” ฟางจื้อเฉียงเสนอหน้าหัวเราะคึกคึกพูดออกมา

หวางย่าซิน ไม่ชินกับท่าทางเห็นแก่เงินของฟางจื้อเฉียง พูด ว่า: “พอได้แล้ว ฉันเคยพูดกับคุณแล้ว เงินไม่ใช่ปัญหา ขอเพียง คุณทำงานให้ดีเท่านั้น ฉันไม่มีทางเอาเปรียบคุณ อีกเดี๋ยวดูแล เขาให้ดี ๆ ใน……..ใน…ในใจของเขาขาดคุณไม่ได้ ๆ

“พ่อ ผมล้างหน้าเสร็จแล้ว พวกเราออกไปเล่นกันเถอะ!” หลัง จากหวางจิ้งล้างหน้าเสร็จก็รีบพุ่งเข้ามาจับมือของฟางจื้อเฉียง

ไว้จนแน่น

“ดึกมากแล้วจะไปเล่นที่ไหน? ลูกดูเวลาซิ จวนจะสองทุ่มแล้ว ลูกจำไม่ได้แล้วเหรอ? พอถึงสองทุ่มก็ถึงเวลาเข้านอนแล้ว” หวา งย่าซินพูดด้วยน้ำเสียงขึงขัง

“ไม่ไม่ไม่ ไม่ ผมจะออกไปเล่น ผมจะออกไปเล่นกับคุณพ่อไป เล่นแป๊บเดียว ได้ไหมครับ?”

“ไม่ได้!”

“ผม…ผมพาเขาออกไปเล่นประเดี๋ยวเดียว ก็กลับแล้ว วันนี้ เป็นวันศุกร์ไม่ใช่เหรอ พรุ่งนี้ก็ไม่มีเรียน นอนดึกอีกนิดได้ไหม? “ฟางจื้อเฉียงแย้มยิ้มพูด ตอนนี้เขาเองก็รักละเอ็นดูเด็กน้อยคนนี้ ขึ้นมาบ้างแล้ว “คุณจะเข้าใจอะไร? เด็กเล็กสำคัญที่สุดก็คือเข้านอนแต่หัวค่ำ

เข้านอนเป็นเวลา สำหรับเด็กเล็กนั้นสำคัญที่สุด” หวางย่าซิน

ถลึงตาใส่ฟางจื้อเฉียงพูด

“คุณต้องพูดซีเรียสขนาดนั้นเลยเหรอ? ไม่ใช่ว่าจะใช้กฎ เกณฑ์บังคับไปหมดทุกเรื่องนะ เด็กก็เป็นคน มีความรู้สึกมีจิตใจ และมีความต้องการของตนเอง ที่สำคัญเขาไม่ใช่เครื่องจักร บอกให้นอนกี่โมงก็ต้องนอน จะให้ตื่นกี่โมงก็ต้องตื่น? ควรให้ เขาผ่อนคลายหน่อยถึงจะเหมาะสมจะเป็นอะไรไป?” ฟางจื้อ เฉียงไม่เห็นด้วยอย่างมากกับวิธีการเลี้ยงลูกของหวางยาใน

“ฉันจะสอนลูกฉันยังไงคุณไม่ต้องมาทำสอน”หวางย่าซิน

โมโหมาก

“คุณอย่าลืม ผมเป็นพ่อของเขา ลูกจ๋า พวกเราไป คืนนี้พ่อ ตัดสินใจเอง พ่อจะพาลูกไปเล่นข้างนอก แต่ว่าพวกเราไปเล่น แป๊บเดียว เล่นเสร็จแล้วกลับมานอน ดีไหม? ลูกอยากเล่น อะไร?” ฟางจื้อเฉียงก็เป็นคนดื้อรั้นเช่นกัน หากอารมณ์ขึ้นใครก็ หยุดไม่อยู่ จากนั้นก็อุ้มหวางทิ้งไปด้านนอก

“ผมจะเล่นลูกบอล ผมไปเอาลูกบอลนะครับ!” หวางจิ้ง หัวเราะเสียงดังพร้อมกับวิ่งไปเอาลูกบอลในห้อง

“ฟางจื้อเฉียง ฉันคิดว่าคุณคงจะเข้าใจสถานะของคุณ” หวาง ย่านโกรธหน้า จนดูน่ากลัว ขบฟันกรอดพูดกับฟางจื้อเฉียง
“ผมรู้ว่าผมอยู่ในสถานะอะไร แต่ยังไงผมขอเตือนคุณ การ เป็นห่วงลูก ปลูกฝังลูกตามหลักวิชาการนั้นถูกต้อง แต่ว่าไม่ใช่ จะทำตามในหนังสือเป๊ะๆ สำหรับเด็กเล็กแล้ว ความผ่อนคลายที่ เหมาะสม ให้เขามีสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายกับสภาพแวดล้อม ทางอารมณ์ที่ดีบ้างนั้นดีที่สุด คุณวางกรอบไว้ทุกกระเบียดนิ้ว คุณคิดไหมต่อไปลูกจะเติบโตขึ้นได้ยังไง? คุณไม่ต้องมาเตือน ผมหรอก ถ้าคุณไม่พอใจ พรุ่งนี้คุณไล่ผมออกก็ได้” ฟางจื้อเฉียง พูดด้วยน้ำเสียงโมโห

“คุณพ่อ ลูกบอลมาแล้วครับ”

“โอเค ไป พ่อจะสอนลูกเล่นบอล พวกเราไม่ต้องไปไกลนัก เล่นที่สนามก็แล้วกัน” ฟางจื้อเฉียงอุ้มเด็กน้อยอีกครั้ง เดินไปที่ สนามทันที

ต่อมา ฟางจื้อเฉียงเล่นลูกบอลกับหวางจิ้งด้วยกันที่สนาม ทั้ง สองคนเล่นกันอย่างมีความสุข

หวางย่านยืนมองอยู่ที่ขอบหน้าต่าง แรกเริ่มเดิมที โกรธจน หน้าแดง มองฟางจื้อเฉียงด้วยสายตาเย็นชา แต่ว่าต่อมาสีหน้าก็ ค่อย ๆ และค่อย ๆ ไม่ค่อยแดงแล้ว ยืนเหม่อลอยท้ายสุดสีหน้าก็ เริ่มเผยรอยยิ้มขึ้นมาบ้างแล้ว ภาพที่สนามด้านหน้าของเธอ ดู อบอุ่นและรักใคร่ปรองดองกันดีมาก ภาพเหตุการณ์ที่ธรรมดา เช่นนี้ เธอมองดูด้วยความประทับใจ

“คุณฟางคนนี้ดูท่าเหมือนจะชอบเสี่ยวนะ ดูไปแล้วฉันว่าเขา ชอบจริง ๆ ไม่เหมือนกับการแสร้งทำ” คุณป้าเดินเข้ามาพูดกับหวางย่า น

“อืม เขาเป็นคนที่มีจิตใจเมตตา แต่ว่า ฉันไม่มีทางเลือกเขา

หวางย่านพูดเบา ๆ

ฟางจื้อเฉียงไม่ให้หวางจิ้งเล่นนานเกินไป เล่นประมาณ 40นาทีก็บอกให้หวางจึงกลับไปนอน เขาไม่เคยมีลูก และไม่ เข้าใจวิธีการเลี้ยงลูก เขาเพียงแต่รู้สึกว่า เด็กทุกคนนั้นชอบเล่น โดยธรรมชาติ ไม่จําเป็นต้องใช้กฎเกณฑ์มากมายมาวางกรอบ กีดขวางธรรมชาติของเด็กจนเกินไป และบางอย่างก็ไม่จำเป็น ต้องจริงจังมากเกินเหตุ แน่นอน เขาก็เข้าใจว่าเขาเป็นเพียงคุณ พ่อจําเป็นเท่านั้น เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของเขา เขาก็ไม่ควรทำอะไร เกินกว่าเหตุ ดังนั้นเล่นกันประเดี๋ยวเดียวก็ให้หวางจิ้งเข้านอน เด็กคนนี้ไม่รู้เพราะอะไร ไม่เชื่อฟังคำสั่งของแม่และคุณป้าเอา เสียเลย แต่สำหรับคำพูดของฟางจื้อเฉียงแล้วแทบจะทำตามทุก คำพูด ฟางจื้อเฉียงเรียกให้เขาไปนอน เขาก็เชื่อฟังกลับเข้าไป ในบ้านเข้านอนแต่โดยดี

หลังกลับเข้าไปในบ้าน เล่นจนเหงื่อท่วมตัว คุณป้าก็อุ้มหวาง จิ้งไปอาบน้ำ

“เขาอาบน้ำเสร็จแล้วก็จะไปเข้านอน รอจนกว่าเขาหลับคุณ ค่อยกลับแล้วกัน!” หวางย่าชินพูดกับฟางจื้อเฉียง

“อืม โอเค!” ฟางจื้อเฉียงตอบรับคำ เดินไปที่ขอบหน้าต่างจุด บุหรี่ขึ้นสูบ เขาเองก็ไม่อยากพูดอะไรมากกับหวางย่าซินที่วางท่าที่ขึงขังวางอำนาจ ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงประเภทชอบทําตัว เหมือนดั่งราชินีผู้สูงส่ง นี่คือสิ่งที่ฟางจื้อเฉียงรับไม่ได้ ในความ คิดของเขาสําหรับผู้หญิงแล้วควรมีความรู้สึกบอบบางน่า ทะนุถนอมบ้างเหมือนดั่งนกน้อยคลอเคลียเจ้าของ

“ขอโทษนะ ก่อนหน้านี้ที่พูดหนักไปหน่อย ขอโทษจริง ๆ คุณ อย่าเอามาใส่ใจเลยนะ” หวางย่าซินจู่ ๆ ก็พูดกับฟางจื้อเฉียง ฟางจื้อเฉียงถึงกับเบิกตาโพลงมองไปที่หวางย่าน เขาไม่

อยากเชื่อเลยว่าคำพูดเช่นนี้จะออกจากปากของหวางย่าน

“มองหน้าฉันอย่างนี้ทำไม?” หวางยาซินรู้สึกได้ถึงสายตา แปลก ๆ ของฟางจื้อเฉียง

“ไม่มีอะไร เพียงแค่รู้สึกว่า คำพูดขอโทษสามคำที่ออกจาก

ปากคุณมันดูมหัศจรรย์มาก!” ฟางจื้อเฉียงพูดไปพร้อมกับ

หัวเราะ

“คุณนี่?” ประโยคนี้ทำให้หวางย่าชินบันดาลโทสะขึ้นทันที จากนั้นก็พูดน้ำเสียงเย็นชาว่า : “คนอย่างคุณนี่น่ะ ทำดีเข้า หน่อยก็คิดจะทําเริบเสิบสาน อยากกินอะไรก็ไปหยิบเอาเอง ในตู้ เย็นมีเครื่องดื่ม บนโต๊ะมีผลไม้ ฉันจะไปอาบน้ำ

หวางย่าซินพูดจบก็เดินไปทันทีไม่สนใจฟางจื้อเฉียงแม้แต่นิด เดียว

“ปากของฉันนี่มันไม่รู้จักดีเอาจริง ๆ พูดจาหาเรื่องให้คนอื่น ด่า!” ฟางจื้อเฉียงบ่นพึมพำกับตนเอง แต่ก็ไม่เกรงใจ หลังสูบ บุหรี่เสร็จ เดินไปที่ตู้เย็นหยิบเครื่องดื่มมาหนึ่งขวดมานั่งดื่มและดูโทรทัศน์

นั่งอยู่บนโซฟา เขาเหนื่อยมากจริง ๆ ง่วงซะจนเปลือกตาจะ รบกันอยู่แล้ว เขาตื่นตั้งแต่เช้ายุ่งทั้งวันจนถึงช่วงหัวค่ำ หลังกลับ บ้านช่วงหัวค่ำยังนั่งได้ประเดี๋ยวเดียวก็ต้องมาที่นี่อีก เขาไม่ใช่ มนุษย์จักรกล แน่นอนว่าต้องเหนื่อยเป็นเรื่องธรรมดา

ขณะที่ฟางจื้อเฉียงนั่งบนโซฟาง่วงจนเกือบจะผล็อยหลับ ได้ยินเสียงเรียกพ่อของหวางจิ้ง หันกลับไปเห็นหวางย่านสาม ชุดนอนอุ้มหวางจิ้งในอ้อมกอดเดินมาที่ประตูห้องรับแขก หวาง ย่าซินพูดกับหวางจิ้งว่า: “โอเค พูดราตรีสวัสดิ์กับพ่อ พวกเรา จะต้องไปนอนกันแล้ว”

ฟางจื้อเฉียงแย้มยิ้ม พูดกับหวางจิ้งว่า: ราตรีสวัสดิ์ คืนนี้ หลับฝันดีนะ”

“ไม่ ไม่ ไม่ พ่อ พ่ออย่าเพิ่งไป อย่าไป ผมจะนอนกับพ่อ” หวาง จิ้งที่ได้ยินคำพูดของแม่ ก็ฟังออกว่าไม่ถูกต้องถึงกับร้องไห้ออก มาเสียงดังทันที

หวางย่าซินขมวดคิ้วขึ้นอีกครั้งจึงพูดว่า “คุณพ่อไม่ไปไหน พ่อไม่มีทางจะไปไหน”

“ไม่ ผมจะนอนกับคุณพ่อ ผมจะนอนกับคุณพ่อ ผมจะนอนกับ คุณพ่อคุณแม่”

“อะไรนะ? หวางย่าซินถึงกับเบิกตาโพลง ฟางจื้อเฉียงก็เบิก ตาโพลงเช่นกัน ความต้องการของเด็กน้อยนั้น ทำให้ทั้งสองถึง กับตกตะลึงจนตาค้าง
“ลูกพูดออกไปได้ยังไง?” ใบหน้าของหวางยาซินแดงก่ำ ใช้ น้ำเสียงเอ็ดลูกของตน

“ผมไม่ได้พูดผิด พวกเขาบอกกับผมว่า พวกเขาทุกคนนอนกับ คุณพ่อคุณแม่ ทำไมล่ะ? ทำไมผมจะนอนกับคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้? ไม่เอา ไม่เอา ผมจะนอนกับคุณพ่อคุณแม่ ผมไม่เอา!” หากหวาง จิ้งงอแงโหวกเหวกขึ้นมาล่ะก็ นั่นคือสถานการณ์ที่โลกกำลังจะ แตก

“โอเค โอเคโอเค พ่อแม่จะนอนเป็นเพื่อนลูก นอนด้วยกัน

ในที่สุดหวางย่าซินก็ทนไม่ไหว ทำได้เพียงรับปากเพื่อให้สงบ

“อะไรนะ? อย่างนี้ก็ได้เหรอ?” ฟางจื้อเฉียงถึงกับเบิกตาโพลง

มองไปที่หวางย่านด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ

“ฉันเองยังไม่ถือสาเลย คุณยังถือสาเรื่องอะไร? เข้ามา!” หวา งย่าชินจ้องฟางจื้อเฉียงด้วยสายตาขึงขัง จากนั้นก็อุ้มลูกของตน เข้าไปในห้องนอนของตน

“นี่เป็นเรื่องละครน้ำเน่าไปหรือเปล่า?” ถึงตอนนี้ฟางจื้อเฉียง ยังไม่เชื่อกับตาตัวเองว่าเป็นเรื่องจริง แต่ว่ายังไงก็จนหนทางเดิน ตามหวางย่าซินเข้าไปในห้องนอนของเธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ