บทที่ 16 ณห้องนอน (1)
หลังเลิกงาน ฟางจื้อเฉียงกลับมายังห้องพักของตน มองซ้ายมอง ขวา เกิดความขี้เกียจทำกับข้าวขึ้นมา จึงหยิบบะหมี่สำเร็จรูป จากนั้นก็ไปต้มน้ำ คิดเพียงว่ามื้อนี้กินบะหมี่สำเร็จรูปให้พอพ้น ไปซักมือก็แล้วกัน
หลังจากต้มบะหมี่เสร็จก็ยกชามบะหมี่ขึ้นมา เปิดคอมพิวเตอร์ ตรวจดูเบาะแสที่เกี่ยวข้องของหนีเซียนทั้งหมดในคอมพิวเตอร์ที่ ทำอยู่เป็นประจํา เริ่มจากเปิดQQ จากนั้นเปิดพื้นที่แสดงโพส ของหนีเซียน ต่อมาก็ Weibo เป็นต้น แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือน เดิม ไม่มีอะไรคืบหน้า
ครั้นเมื่อฟางจื้อเฉียงใกล้กินบะหมี่หมดชาม มีเสียงโทรศัพท์ ดังขึ้น มองดูสายที่เรียกเข้ามา ปรากฏชื่อสายที่โทรเข้ามาว่า : “แม่เสือ” ชื่อนี้ฟางจื้อเฉียงเป็นคนตั้งให้กับหวางย่าซิน เพราะว่า สําหรับเขา หวางย่าซินเหมาะสมที่สุดกับสมญานามว่า แม่เสือ
“ฮัลโหล!” ฟางจื้อเฉียงประหลาดใจมากที่หวางย่าซินโทรมา หาเขาทำอะไรในเวลานี้
“อยู่ที่ไหน? คุณรีบมาที่บ้านฉันเดี๋ยวนี้ ” หวางย่าซินยังคงพูด ด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนเคย อีกทั้งมักเป็นน้ำเสียงแกมออกค่า สั่งทุกครั้ง
“คุณจะบ้าไปแล้วเหรอ? ตอนนี้สองทุ่มกว่าแล้ว อีกทั้ง คุณก็ ตกลงแล้วว่า ผมทำงานเฉพาะวันพุธเท่านั้น วันนี้ก็เป็นวันศุกร์”ฟางจื้อเฉียงพูดออกไปตรง ๆ
“คุณไปดูเองว่าสัญญาเขียนไว้ว่ายังไง เขียนว่าเรียกได้ตลอด เวลาไม่ใช่เหรอ? ฉันไม่สนว่าตอนนี้คุณจะทำอะไร ให้ เวลา10นาที รีบเปลี่ยนเสื้อผ้ามาที่นี่เดี๋ยวนี้” หวางย่าซินพูดด้วย น้ำเสียงเย็นชา
“คุณฆ่าผมให้ตายตอนนี้ก็ได้ เวลา10นาทีผมไม่มีทางไปได้ทัน เวลา ผมเองข้าวเย็นก็ยังไม่ได้กิน” ฟางจื้อเฉียงก็เริ่มโมโหหิวขึ้น มาบ้าง
“โธ่? ยังไม่เสร็จธุระเหรอ? ค่ำมืดขนาดนี้ยังมีธุระอะไรอีก? ฟางจื้อเฉียงพูดไม่ออกแล้ว
“ค่อยคุยกันบนรถ บอกที่อยู่ของคุณมา และคุณรีบเปลี่ยน
เสื้อผ้าให้เสร็จ”
ฟางจื้อเฉียงจนหนทาง ทำได้เพียงบอกที่อยู่ให้กับหวางย่าซิน ไป ช่วยไม่ได้ใครใช้ให้เขารับเงินกับเธอ แม้ว่าตอนนี้ฟางจื้อ เฉียง จะเหนื่อยมากแค่ไหน ไม่อยากจะไปไหน อยากจะนอนหลับ บนเตียงให้สบาย แต่ว่าพอคิดถึงเงินเดือนละ 15000 เขาก็ยังคง รีบกินบะหมี่ให้หมด จากนั้นก็ล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้า
ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตู ฟางจื้อเดินไปเปิดประตู พร้อมกับกำลังผูกเนคไท
หวางย่าซินยืนอยู่หน้าประตู มองไปที่ฟางจื้อเฉียงประโยค แรกที่พูดก็คือ : “ดึกขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องผูกเนคไทแล้ว
จากนั้นมองเข้าไปด้านในห้องของฟางจื้อเฉียง ขมวดคิ้วถาม “คุณอยู่สถานที่แบบนี้เข้าไปได้ยังไง? ตอนเย็นก็กินบะหมี่ สําเร็จรูปอีก?”
“ที่นี่มันเป็นยังไง? รู้ไหมพวกเราเรียกที่แห่งนี้ว่าอะไร? พวก เราเรียกว่ามนุษย์ถ้ำ พวกเราพักอยู่ห้องใต้ดิน ร้ายกาจมั้ย ต้องการนั่งซักพักไหม ไม่มีน้ำชา ผมไปซื้อน้ำแร่ให้ซักขวด ฟางจื้อเฉียงยังคงพูดจาสุภาพ
“เกิดเรื่องอะไรเหรอ ถึงได้รีบร้อนขนาดนี้?” ฟางจื๊อเฉียงเดิน ออกไปพร้อมกับหวางย่านถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“ถึงบนรถแล้วค่อยคุยกัน” หวางย่าซินเดินเร็วมาก มองออก ว่าเธอร้อนใจอย่างบอกไม่ถูก
“วันนี้ช่วงบ่ายฉันไปรับเสี่ยว กลับจากโรงเรียน แต่กลับมาถึง บ้านก็ตามหาแต่คุณ ถามตลอดว่าทำไมคุณถึงไม่อยู่บ้าน ฉัน ทำได้เพียงโกหกไปว่าคุณออกไปทำงานข้างนอก เขาก็ร้องไห้ เป็นฟูมเป็นไฟล์ ร้องไห้งอแงหาพ่อตลอด พวกเราปลอบเขายังไง ก็ไร้ประโยชน์ จนถึงเมื่อครู่นี้ ฉันกับคุณป้าจนปัญญาจริง ๆ ดัง นั้นจึงโทรศัพท์มาหาคุณนี่แหละ ฉันบอกเขาว่าฉันจะไปรับคุณที่ สนามบิน คุณจะกลับมาหาเขาเป็นกรณีพิเศษ เรื่องก็เป็นอย่างนี้ ไม่งั้นฉันก็ไม่มาหาคุณค่ำมืดขนาดนี้หรอก อีกเดี๋ยวคุณเข้าไป ปลอบใจเขาหน่อย รอจนกว่าเขาหลับคุณค่อยกลับบ้านก็แล้ว กัน” หวางย่านอธิบาย
ฟางจื้อเฉียงไม่พูดอะไรมาก ถึงกับถอนหายใจพูดออกมาประโยคเดียวว่า: “จากจุดนี้พอมองออกว่า ในใจเด็กคนนี้ หวัง
เป็นอย่างยิ่งว่าจะมีพ่อซักคน” หวางย่าซินไม่ตอบกลับ ราวกับยอมรับในคำพูดของฟางจื้อ
เฉียง
“แต่ว่าคุณจะโกหกเขาอย่างนี้ไปตลอดก็ไม่ใช่เรื่องดีนะ? คุณ สามารถโกหกเขาได้ครั้งสองครั้ง แต่จะโกหกไปตลอดชีวิตไม่ได้ นะ?” ฟางจื้อเฉียงพูด
“ปัญหานี้คุณไม่ต้องมาเป็นกังวลแทน คุณทำหน้าที่ของคุณให้ ดีเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว” หวางย่าซินพูดเบาๆ
“โอเค ถือเสียว่าผมปากเสียเอง พอใจหรือยัง!” ฟางจื้อเฉียง พูดด้วยน้ำเสียงกลัดกลุ้ม ในที่สุด ก็ไม่มีใครพูดต่ออีกซักคำ
มาถึงบ้านของหวางย่าซิน ฟางจื้อเฉียงเดินตามหวางยาซิน เข้าไปในบ้าน พอเดินเข้าบ้านก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็ก และ ป้าของหวางยาซินกำลังปลอบเขาไม่หยุด แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ ค่อยจะได้ผลเท่าไหร่นัก
“ผมจะหาพ่อ ผมต้องการหาพ่อ” หวางจิ้งร้องไห้งอแงไม่หยุด ร้องไห้กระฟัดกระเฟียด
“ลูกจ๋า พ่อกลับมาแล้ว” ฟางจื๊อเฉียงเดินเข้าไปดู และตะโกน เรียกหวางจิ้ง
หวางจิ้งมองเห็นฟางจื้อเฉียง แทบจะกระโดดออกไปจาก เก้าอี้แล้วพุ่งไปในอ้อมแขนของฟางจื้อเฉียงทันที ฟางจื้อเฉียงถึงกับตกตะลึง แต่ก็โอบกอดหวางทิ้งไว้แน่น ไม่ว่าเป็นใครก็ตาม ล้วนมอบความรักและความเอ็นดูกับเด็กเล็กกันทุกคน ยิ่งไม่ต้อง พูดถึงเด็กน้อยคนนี้ที่ชื่นชอบคุณ ติดคุณขนาดนั้น ในใจของฟาง จื้อเจียงที่มีต่อเด็กน้อยคนนี้ แม้จะมีเหตุผลว่าเป็นงาน แต่ว่ายังมี อีกมากกว่านั้นก็คือความรักความเอ็นดูที่มาจากใจจริง
“คุณพ่อ คุณพ่อ ในที่สุดก็กลับมาแล้ว ผมคิดว่าพ่อจะหนีผม ไปอีก ไม่ต้องการผมแล้ว” หวางจิ้งร้องไห้โฮ ในอ้อมกอดของ ฟางจื้อเฉียง
กะทันหันเสียจนฟางจื้อเฉียงไม่รู้ว่าจะพูดอะไร มองไปที่หวาง ย่า น
หวางย่าซินจึงกระซิบเบา ๆ ว่า “ปลอบใจ อย่าให้เขาร้องไห้
ร้องไห้มาทั้งคืนแล้ว
“เสี่ยววี่ พ่อกลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ พ่อไม่ต้องการหนูได้ยังไง ล่ะ? ลูกพูดว่าต้องการหาพ่อ พ่อก็รีบนั่งเครื่องบินกลับมาหาใน ทันทีไม่ใช่เหรอ? ไม่ร้องไห้แล้วนะ” หลังหวางย่าซินพูดจบก็ไป ปลอบลูกของเธอ
“งั้นคุณพ่อ คืนนี้คุณพ่อไม่ไปไหนแล้วใช่ไหม?” หวางจิ้งวี่เงย หน้าขึ้นมาถามฟางจื้อเฉียงด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยคราบ น้ำตา
“พ่อ…… ฟางจื้อเฉียงไม่รู้จะตอบอย่างไรในช่วงเวลาเช่นนี้
“ไม่ไปไหนแล้ว คืนนี้พ่อไม่ไปไหนแน่นอน” หวางย่าชินพูดขึ้น ทันที เธอขอเพียงไม่ให้ลูกชายร้องไห้อีกเท่านั้น
“หนูไม่ร้องแล้ว ถ้าหนูไม่ร้องไห้แล้วคืนนี้พ่อจะไม่ไปไหน หาก หนูร้องอีก พ่อจะไปทันที” ฟางจื้อเฉียงวางเด็กน้อยแล้วหมอบลง ด้านหน้าของเด็กน้อยพูดออกมา “ไม่ร้อง พ่อผมไม่ร้องแล้ว ขอร้อง คุณพ่ออย่าไปไหนนะ!” หวา
งงตอบอย่างร้อนใจ ในที่สุดก็เช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าหยุด
ร้องไห้ในทันที
“ต้องอย่างนี้ซิ พ่อเคยพูดกับหนูแล้วไม่ใช่เหรอว่า ลูกคือลูก ผู้ชาย ลูกผู้ชายต้องทำยังไง? ลูกผู้ชายจะต้องเข้มแข็ง เกิดเป็น ผู้ชายจะร้องไห้งอแงง่าย ๆ ได้ยังไงกัน? พวกเราสองคนเป็น ผู้ชายรู้ไหม? แม้ว่าจะเลือดตกยางออกก็ร้องไห้ไม่ได้ การร้องไห้ เป็นสิ่งที่ผู้หญิงเขาทำกัน ลูกบอกพ่อ ลูกเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เป็นลูกผู้ชายอกสามศอกหรือไม่?” ฟางจื้อเฉียงถามไปตรง ๆ
“ผมเป็นลูกผู้ชายอกสามศอกครับ ผมไม่ใช่ผู้หญิง!
“งั้นต่อไปยังจะร้องไห้อีกหรือไม่?”
“ไม่ร้องไห้แล้วครับ!”
“ต้องอย่างนี้ซิ!” ฟางจื้อเฉียงแย้มยิ้ม
“คุณป้า คูณช่วยพาเขาไปล้างหน้าล้างตาซักหน่อยเถอะ ร้องไห้มาตั้งนาน น้ำตาเต็มหน้าไปหมดแล้ว” หวางย่าซินมอง เห็นภาพนี้ ไม่รู้ทำไมในใจเกิดความอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นก็พูดกับคุณป้า
“ไปเถอะ ไปล้างหน้าล้างตา เสร็จแล้วพ่อจะพาหนูไปเล่นฟางจื้อเฉียงลูบศีรษะของหวางจิ้ง
“ได้ครับ ได้ครับ!” หวางทิ้งไปล้างหน้ากับคุณป้าด้วยความ ดีใจ
“คืนนี้คุณจะไม่กลับไปจริง ๆ เหรอ ? ทำไมคุณถึงไปตอบเขา อย่างนั้นล่ะ งั้นคืนนี้ผมจะทำยังไง?” ฟางจื้อเฉียงกดเสียงต่ำถาม ด้วยความวิตกกังวล
“เขาอยู่ในสภาพนั้นไม่รับปากจะได้เหรอ? ร้องไห้จนตาบวม รอไปก่อนเถอะ รอจนกว่าเขาหลับแล้วค่อยกลับไป หากถึงตอน นั้นไม่มีรถกลับฉันจะขับไปส่งเอง” หวางย่านพูด
“ฉันรู้เรียกคุณมาตอนดึกขนาดนี้ทำให้คุณลำบากใจ เอา อย่างนี้นะ ฉันจะเพิ่มเงินให้อีกเดือนละ5000 รวมเป็นเดือน ละ20000 ดีไหม? หวางย่านพูดต่อ
ฟางจื้อเฉียงเบิกตาโพลง เซอร์ไพรส์มาก แต่ว่าในใจกลับดีใจ ลิงโลด ปากก็พูดออกมาว่า : “ผมไม่ได้พูดว่าจะขอขึ้นเงินเดือน ผมไม่ใช่คนที่เห็นเงินแล้วตาโตเสียหน่อย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ