ตอนที่ 1 เครื่องบินดีเลย์
ตอนที่ 1 เครื่องบินดีเลย์
ช่วงปลายฤดูร้อน ณ เมืองหยางเฉิง เวลา สาม
“แกร๊ก”
เสียงล็อคประตูดังขึ้น ฟู่ฉิงเทียนในชุดสีขาวกำลังลากกระเป๋า ตามทางเดินตรงเข้ามา
“ทำไมมาช้าจัง เครื่องบินดีเลย์หรอ?”
มู่เฟยเอ๋อร์ออกไปต้อนรับ และรับเอากระเป๋าเดินทางจากมือเธอ
มา
“อื้ม อากาศไม่ค่อยดีหน่ะ” ฟู่ฉิงเทียนพูดอย่างเซ็งๆ
หางตาของเธอเหลือบไปเห็นคราบลอยลิปสติกบนคอเสื้อของ เขา มู่เฟยเอ๋อร์ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
เธอเคยได้ยินมานานแล้วว่าฟู่ฉิงเทียนมีคนอื่น
แต่อยู่ด้วยกันมาตั้งสามปีแล้ว เธอรู้ตัวเองดีว่าเมื่อไหร่ที่ควรจะเก็บเงียบเอาไว้
ก็เหมือนกับตอนนี้ เธอต้องแกล้งเสแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไร
เพราะว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอในตอนนี้ ยังไม่อยู่ในจุดที่ เธอจะหึงหวงหรือถามอะไรเขาได้
เธอไม่ควรเอาตัวเองไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของเขา เธอเป็นเพียง แค่คู่นอนระยะยาวของเขาเท่านั้น ไม่ได้เป็นแฟนที่อยู่ด้วยกัน
“เหนื่อยมามากแล้ว รีบไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนเถอะ”มู่เฟยเอ๋อร์ เก็บความสงสัยเอาไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ แต่กลับยังแอบหันไป มองเขาอยู่
ฟู่ฉิงเทียนถอดเสื้อเชิ้ตออก เขากวาดตามองแล้วก็สะดุดกับรอย บนปกคอเสื้อ หลังจากนั้นก็โยนเสื้อลงไปในตะกร้าผ้า
เสียงของหยดน้ำที่ดังมาจากห้องอาบน้ำ ทำให้มู่เฟยเอ๋อร์ใจชื้น
ขึ้นมา
“ต็ด” เสียงโทรศัพท์สั่นมาจากบนโต๊ะหัวเตียง มู่เฟยเอ๋อร์หยิบ โทรศัพท์ขึ้นมาปลดล็อค
“ฉิง คิดถึงร่างกายที่อบอุ่นของคุณจัง คืนวันนี้ฉันมีความสุขมาก เลยแหละ”
เธอมองข้อความที่ส่งมาบนหน้าจอโทรศัพท์ มู่เฟยเอ๋อร์ตกใจ เป็นอย่างมาก
เธอพึ่งมารู้ตัวทีหลังว่าหยิบโทรศัพท์มาผิดเครื่อง แต่เนื้อหาใน
ข้อความที่ส่งมายิ่งทำให้เธออยากรู้อยากเห็น
ผู้หญิงที่ไหนกัน ทำไมถึงได้เรียกเขาอย่างสนิทสนมว่า “ฉิง” กันล่ะ?
เครื่องบินดีเลย์ กลัวว่าจะดีเลย์อยู่กับเรือนร่างของผู้หญิงคนนั้น แล้วมั้ง…….
รสชาติของชีวิตที่พูดออกมาไม่ได้นั้น ทำให้มู่เฟยเอ๋อร์ได้แต่ ความรู้สึกไว้ในใจ
ไม่มีความสัมพันธ์ใดที่มั่นคง เธอรักเขาราวกับว่ากำลังเดินอยู่บน น้ำแข็งโดยไม่ไหวติงให้กับกระแสลมที่พัดผ่านเข้ามา
ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก ฟู่ฉิงเทียนนุ่งผ้าขนหนูเดินออกมาและ เห็นมู่เฟยเอ๋อร์กำลังนั่งเหม่ออยู่
“พรุ่งนี้ย้ายออกจากที่นี่ซะ ฉันจะหาคอนโดแถวสนามบินให้เธอ อยู่ เธอจะได้สะดวกสบายเวลาไปทำงาน
ฟู่ฉิงเทียนนอนลง เสียงที่ทุ้มต่ำในลำคอทำให้เธอรู้สึกว่าไม่
สามารถคัดค้านอะไรได้
มู่เฟยเอ๋อร์รู้สึกตัวอย่างช้าๆ และมองไปทางเขาด้วยความตกใจ “ทำไมหล่ะ?”
ฟู่ฉิงเทียนกวาดตามองไปที่เธอ หลังจากนั้นก็เขยิบเข้าไปใกล้ๆ และจับริมฝีปากของเธออย่างนุ่มนวล “ทรงทรงกลับมาแล้ว เธอ ไม่มีที่อยู่”
พูดยังไม่ทันจบ ใบหน้าของมู่เฟยเอ๋อร์ก็เปลี่ยนสีเป็นขาวซีด
“เพราะว่าเธอกลับมา ดังนั้น……..คุณเลยจะเลิกกับฉัน ใช่ไหม?” มู่เฟยเอ๋อร์รู้สึกยากที่จะเอ่ยปากถาม มือเธอสั่นและจิกผ้าห่มเอา ไว้แน่น
ฟู่ฉิงเทียนที่กำลังนอนหลับตาอยู่ก็ชืมตาขึ้นและหันไปจ้องเธอ “พวกเรามีความสัมพันธ์อะไรกันหรอ?”
มู่เฟยเอ๋อร์แข็งทื่อไปทั้งตัว
คนที่สนิทสนมกันมาตลอดสามปี แต่กลับไม่ได้เป็นอะไรกัน แม้แต่คำว่า “เลิกกัน” ก็ยังไม่สมควรที่จะใช้กับเธอ
ใช่ เป็นแค่เพียงคู่นอนที่จะมีหรือไม่มีก็ได้ เป็นแค่ของที่มา ทดแทนคนในใจที่จากไป เธอมีสิทธิ์จะไปเรียกร้องอะไรกับฟู่ฉิง เทียน?
แสงจันทร์นวลผ่องที่เป็นดั่งยอดดวงใจของฟูฉิงเทียนกลับมา แล้ว ตัวเธอเองก็ควรที่จะต้องออกมา ทําไมต้องไปเอาปัญหามา ใส่ตัวเองด้วย?
สุดท้ายก็ยังคงไม่ยอมรับใจว่าสามปีที่ทุ่มเทไปมันก็เท่านั้นเอง
“ฉวเทียน พวกเราอยู่ด้วยกัน……เราอยู่ด้วยกันมาตั้งสามปี เรื่อง ใหญ่แบบนี้คุณควรจะบอกฉันล่วงหน้า ให้ฉันได้เตรียมตัวเตรียม ใจก่อนไหม?” มู่เฟยเอ๋อร์พูดด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้าง
ฟู่ฉิงเทียนก้มดูโทรศัพท์ หางตามองอย่างยากที่จะพูดออกไป อย่างอ่อนโยน
พอฟัง เฟยเอ๋อ พูด เขาก็ไม่พอใจ “ฉันบอกเธอล่วงหน้าหนึ่ง คืน ก็ให้เธอได้เตรียมตัวแล้ว เธอยังจะมาโวยวายอะไรอีก?”
ดวงตาของมู่เฟยเอ๋อร์ก็แดงก่ำขึ้นมาทันที เธอสะบัดหน้าหันไป ทางอื่น เพราะไม่อยากให้ชายที่หยิ่งยโสและเย็นชาคนนั้นเห็น น้ำตาของเธอ
แต่ยิ่งเธออดทนมากเท่าไร เสียงสะอื้นของเธอก็ยิ่งชัดเจนมาก ขึ้นเท่านั้น
ฟู่ฉิงเทียนขมวดคิ้วแล้วเอามือยาวๆของเขาโอบมู่เฟยเอ๋อร์มาไว้ ที่อกของตัวเอง
“แค่นี้ก็น้อยใจแล้วหรอ? ฉันชอบผู้หญิงที่วางตัวเป็น ไม่ต้องแล้ว อืม?” พูดจบ มือที่ควบคุมความเป็นความตายของคนบนเครื่องบิน ก็ลูบไล้เข้าไปในชุดนอน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ