บทที่ 15 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว
บทที่ 15 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว
ม่านตาของลู่ นสิงขยายเล็กลง รับพลิกตัวหลบไป รอให้สอง คนนั้นเดินผ่านไปสักพักแล้วค่อยกันหลังกลับไปดู
ผู้หญิงผมทองคนนั้นโอบเอวลู่หันเฉินไว้อย่างใกล้ชิด หัน เฉินก็ดูเหมือนแท็กแคร์เธอเป็นอย่างดี มือก็คอยลูบผมของเธอ ตลอด สีหน้ายิ้มแย้มคุยอะไรบางอย่าง ในมือยังจับเอกสารไว้
ลู่หันเฉินมาโรงพยาบาลกับผู้หญิงคนหนึ่ง ตอนกลับยังมีใบ เอกสารของทางโรงพยาบาลด้วย…
ลู่ซื่นสิงนึกอะไรบางอย่างได้ สีหน้าก็เข้มขรึมขึ้นมา
ถึงว่าทำไมลู่หันเฉินถึงไม่กล้ารับสายของเซิ่งหวั่นซิง เพราะเหตุ นี้นี่เอง!
“ท่านประธานครับ?” ผู้ช่วยสังที่อยู่ในสายถามขึ้น “ยังมีอะไรอีก ไหมครับท่าน?”
“ไม่ต้องไปหาลู่หันเฉินล่ะ” ลู่ซื่นสิงเดินไปทางห้องการเงิน พูด เสียงนิ่งว่า “รีบไปติดต่อนักสืบมาให้ฉัน
“ครับ”
เซิ่งหวั่นซิงตื่นมาพร้อมกับแสงแดดอากาศดียามเช้า
เธอขยี้หัวที่ปวดอยู่เบาๆ แล้วลุกขึ้นมานั่งที่เตียง เหม่อไป ประมาณ10วิ เพิ่งจะสังเกตว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องนอนของเธอ เธอ ตกใจกรี๊ดลั่น และรีบเปิดดูใต้ผ้าห่ม
พอเห็นว่าตัวเองยังใส่เสื้อผ้าอยู่ ก็โล่งอก
แต่ว่า ที่นี่ที่ไหนกัน?
เธอจําได้ว่าเมื่อคืนฝนตกหนัก โทรหาหันเฉินก็ไม่มีคนรับสาย แล้วก็เจอกับลู่ชื่นสิง ขึ้นรถของเขา แล้วก็เหมือนว่าจะหลับในรถ หลังจากนั้นก็…
หลังจากนั้นเพิ่งหวั่นซิงก็นึกไม่ออกแล้ว เธอลงจากเตียงแล้ว สวมรองเท้า ค่อยๆเปิดประตูห้องนอนอย่างหวาดระแวง
ด้านนอกเป็นห้องที่ถูกตกแต่งในสไตล์ยุโรป โคมไฟ ทีวีที่ แขวนบนผนัง โซฟาแบบผ้า ด้านข้างยังมีระเบียงใหญ่ๆอยู่ ดูแล้ว เหมือนคอนโดหรูระดับ5ดาว
ล่นลงยกอาหารเช้าออกมาจากครัว เห็นเพิ่งหวั่นซิงที่ยืนอยู่ ตรงประตู หน้าตาที่เหมือนกำลังตื่น สายตามองไปมองมา เหมือน กำลังคิดว่าที่นี่ที่ไหน เขารีบเอ่ยปากพูดขึ้น “มากินอาหารเช้า”
“อา อาชายสาม?” เหิ่งหวั่นซิงตกใจ ส่วนชื่นสิงก็ดูเหมือนไม่ พอใจจากชื่อที่เธอเรียก สีหน้าเย็นชาขึ้นมาทันที
เซิ่งหวั่นซิง : “
เอิ่ม ก็แค่ชื่อเรียกเขา อาชายสามของหันเฉิน ไม่ต้องจู่ๆก็วาง สีหน้าใส่ฉันได้ไหมเนี่ย ฉันกลัวน้า!
“มากินข้าว” ลู่ชื่นสิงพูดซ้ำอีกรอบ
เพิ่งหวั่นซิงเดินเข้าไปอย่างถูๆไถๆ นั่งลงไปที่เก้าอี้ข้างโต๊ะ อาหาร
“เอ่อ คือ อาคะ ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้หล่ะคะ?” เซิ่งหวั่นซิงม องหน้าสู่ชื่นสิงถามไปอย่างตั้งใจ
ลู่ซื่นสิงตักข้าวต้มถ้วยหนึ่งยื่นให้เธอ แล้วพูดว่า “เมื่อคืนคุณไข้ ขึ้นสูง หลังจากที่ให้น้ำเกลือที่โรงพยายาลเสร็จ ผมกะว่าจะไปส่ง คุณที่บ้าน แต่ถนนซอยบ้านคุณนั้นน้ำท่วมไปแล้วผมก็เลยพาคุณมานอนที่บ้านผม
พอเห็นสีหน้าของเพิ่งหวั่นซิงเปลี่ยนไป จ้องมองไปที่ร่างกาย ของตัวเธอเอง ลู่ นสิงแอบหัวเราะในใจ วางใจได้ เมื่อคนผม นอนที่โซฟา”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” เซิ่งหวั่นซิงอยากจะบอกว่าทิ้งฉันไว้ที่โรง พยาบาลก็ได้แล้ว ตัวเองก็จะได้ไม่ต้องเข้าใจผิดด้วย
ลู่ซื่นสิงตอบรับ “ไม่เป็นไร
เพิ่งหวั่นซิงไม่คุ้นชินกับเขาที่พูดมีมารยาทอย่างนี้เลย ก้มหน้า ดื่มโจ๊ก
เอ๋ นึกไม่ถึงว่าลู่ชื่นสิงจะมีฝีมือทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้ โจ๊กนี้ ทั้งหวานและกลมกล่อม…หรือว่าจะหิวเกินไป เพิ่งหวั่นซิงกินโจ๊ก ไปสามถ้วยและซาลาเปาไส้หมูสองลูก
“เอ็ก!” อาจเป็นเพราะว่ากินเยอะไป เพิ่งหวั่นซิงถึงกับสะอึก
ลู่ซื่นสิง : “………….
เพิ่งหวั่นซิงถึงกับหน้าแดง หันซ้ายหันขวา ทําเหมือนกับว่าเสียง สะอึกนั้นไม่ใช่เสียงของตัวเอง ในแววตาของลู่ชื่นสิงแอบแฝงรอยยิ้มไว้ เก็บช้อนถ้วยไปล้างที่ห้องครัว
หลังมื้ออาหารเช้า ทั้งสองคนก็ออกจากบ้านด้วยกัน
กลัวจะอึดอัด เซิ่งหวั่นซิงไม่อยากขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกันกับลู่ชื่นสิง ยิ่งไม่อยากให้เขาไปส่ง เธอหยุดนิ่งอยู่หน้าประตูลิฟต์ “อาชาย สามคะ อาไปก่อนเลยค่ะ! ฉันเพิ่งนึกได้ว่ามีธุระสำคัญที่จะต้องไป โทรศัพท์แป็ปหนึ่ง เดี๋ยวฉันค่อยขึ้นไปเอง ไม่รบกวนคุณดีกว่าค่ะ”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ