ดวงใจปฐวิน

บทที่3. คืนร้ายหัวใจผูกพันอีกครั้ง…



บทที่3. คืนร้ายหัวใจผูกพันอีกครั้ง…

แสงแดดที่สาดส่องผ่านกระจกใสเข้ามาในห้องนอนกว้างนั้น ทำให้ร่างที่นอนซุกอยู่บนเตียงกว้างยับย่นราวกับเพิ่งถูกพายุพัด กระหน่ำก็บิดกายตื่นจากหลับใหลอย่างเกียจคร้าน แต่ความผิด ปกติของร่างกายทำให้เจ้าของร่างถึงกับครางโอดโอย และ หลับตาลงอีกครั้งพลางพยายามลืมตาและลุกขึ้นจากที่นอนด้วย ความสําบากยากเย็น…

“โอย…ปวดหัวชะมัด ปวดไปทั้งตัวเลย…

อังคณาครางกับตัวเองพลางกวาดตามองไปทั่วสถานที่เธอ ลืมตาขึ้นมาพบและยังไม่ทันที่เธอจะได้สำรวจถ้วนทั่วประตู ห้องน้ำซึ่งอยู่อีกฟากของห้องก็เปิดออกมาพร้อมกับบุรุษรูปงามที่ ร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้ามซึ่งพราวด้วยหยาดน้ำเล็กๆ ตาม ลำตัว และเรือนผมที่เปียกหมาดๆ ไม่เป็นทรงนั้นทำให้อังคณา ถึงกับอ้าปากค้างมองเขาตาโต…

ผู้ชายคนนี้คือใคร และเธออยู่ที่ไหน แล้วทำไม…

คำถามมากมายก้องกระหน่ำอยู่ในหัวของแม้อยากจะกรีดร้อง ด้วยความตื่นตกใจและหวาดกลัวแต่ก็ไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ เหมือนซาตานได้ฉุดกระชากเสียง ของเธอไป…

“คุ คุณ…” หญิงสาวอ้าปากพยายามจะพูดแต่ลำคอกับตีบ นมือไม้ก็สั่นด้วยความตระหนัก…

“ทำไมเมื่อคืนยังไม่พอเหรอ ถึงได้ยั่วกันแต่เช้า..” ชายหนุ่ม พูดยิ้มๆ แล้วเดินมาหาเธอช้าๆ พลางใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กที่เช็ด ผมอยู่เมื่อครู่พาดบ่าแกร่งก่อนจะมาหยุดยืนข้างเตียงก้าวขึ้นมา เท้าแขนคร่อมเหนือร่างงามของคนที่ยังนั่งตะลึงมองเขาอยู่

ดวงตาคมกวาดไปทั่วร่างงามนวลเนียนด้วยความพอใจ แสงแดดอ่อนยามเช้าที่ทอดแสงเข้ามาอาบไล้ไปทั่วร่างอรชร เรือนผมยาวสยายรุ่ยร่ายยุ่งเหยิงล้อมกรอบหน้าเรียวนวลปลั่ง ดวงตากลมโตสีน้ำตาลพราวนั้นไหวระริกด้วยความสับสน เธอไม่รู้หรือไรว่าทั้งร่างงามของตนนั้นเปิดเปลือยท้าทายสายตา เขาอยู่ ทรวงอกเต่งตึงกลมกลึงหนั่นแน่นที่เขาคลุกเคล้าอยู่ทั้งคืน อวดโฉมสล้างท่ามกลางแสงแดดยามเช้าช่างงดงามนัก… ปฐวิน มองความงดงามตรงหน้าของตนอย่างเริงรื่นและเริ่มร้อนรุ่มขึ้น มาอีกครา…

อังคณาลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นสายตาวาววามของชาย หนุ่มแปลกหน้าที่แสนหล่อเหลาที่กำลังกวาดตามองทั่วร่างของ ตน ทำให้อังศนาเริ่มรับรู้ถึงความผิดปกติของตัวเอง ดวงตากลมโตหลุบลงมอง สํารวจตัวเองอย่างหวั่นๆ แล้วก็ต้องกรีดร้องออกมาอย่างอับอาย รีบคว้าผ้าห่มที่หล่นไปกองอยู่หน้าตักขึ้นมาคลุมร่างเปล่าเปลือย ของตนทันที ใบหน้านวลแดงลุกลามไปถึงใบหูบางและคำคอ ก่อนความร้อนจะวิ่งพล่านไปทั้งกายสาว

“กรี๊ดดด คุณ นี่คุณทำอะไรฉัน…” หญิงสาวร้องถามอย่าง สุดเสียงและแทบจะหวีดร้องอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มก้าวขึ้นมานั่ง จ้องหน้าเธอ ในระยะที่แทบเรียกได้ว่าเกือบจะแนบเนื้อ

“นี่คุณถอยไปนะ…”

เมื่อตั้งสติได้เสียงใสก็แหวขึ้นทันทีพร้อมกระถดหนีร่างหนาที่ เข้ามาใกล้กว่าเดิมเหมือนจะกลั่นแกล้ง เพราะยิ่งเธอถอยหนีเขา ก็ยิ่งขยับเข้าไปใกล้จนร่างบางเสียหลักล้มลงกับที่นอนนุ่มเพราะ ความเทอะทะของผ้าห่มที่ตนใช้คลุมกายจนเหมือนดักแด้ เลย กลายเป็นว่าตอนนี้เขาได้กักขังเธอไว้ในอ้อมแขนแล้วเรียบร้อย

“ทีเมื่อคืนไม่เห็นพูดแบบนี้เลยทูนหัว เห็นแต่ครางทั้งคืน แถมเรียกร้องเอาอีกๆ จนฉันแทบหมดแรง….

“หยุดพูดนะคนเลว… คุณข่มขืนฉันแล้วยังจะมาพูดอย่างนี้อีก ฉันไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่ๆ” อังคณาร้องอย่าง ขัดเคืองและอับอาย ยิ่งเห็นสายตา ปิดความกระหายใครอยาก ไม่มิดของคนตรงหน้ายิ่งทำให้เธออยากจะร้องไห้เสียให้ได้ใน ตอนนี้…

“ไม่เหรอ อย่าลืม อังคณาว่าเมื่อคืนฉันพยายามจะไปส่งเธอ ที่บ้านแต่เธอก็ให้ท่าฉันด้วยทำเป็นแกล้งหลับ แต่พอมาถึงห้อง ฉันเธอก็ตื่น แถมยังชวนฉันร่วมหลับนอนด้วยหน้าตาเฉย เธอ เป็นฝ่ายปล้ำฉันเสียด้วยซ้ำ…”

ปฐวินเน้นชื่อของเธออย่างจงใจ อังคณาหน้าซีดขาวกับคำพูด ของเขาพลางหันมาจ้องหน้าเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขา พูด…

“ไม่จริงฉันไม่มีวันทำแบบนั้น” อังคณาด้วยความมั่นใจ ว่าเธอไม่มีทางจะทำตัวแบบนั้นแน่ๆ แต่เขากลับหัวเราะชอบใจ

“นี่แม่นาง ผมหอมที่รักจ๋า…. อย่าลืมว่าเมื่อคืนเธอเมามาก…. อังคณา…” เขาชื่อเธออีกรอบ

“คุณ… คุณรู้จักชื่อฉันด้วยเหรอ…

“รู้จักทั้งเนื้อทั้งตัวเลยจ้ะนางสาวอังคณา ใจงาม นางผม หอมขี้เมา…” ชายหนุ่มตอบกวนๆ และยื่นมือมาเกี่ยวปอยผมที่ ยุ่งเหยิงนั้นพันนิ้วยาวของคนเล่นอย่างยั่วเย้า

“ฉัน… ฉันอยากกลับบ้าน…

เมื่ออึ้งไปพักใหญ่และได้ทบทวนเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ อังคณา ถึงกับอึ้งและรู้สึกอับอายที่ความน้อยเนื้อต่ำใจความรู้สึกสูญเสีย สิ่งที่หวงแหน ศักดิ์ศรีที่มีน้อยนิดถูกเหยียบย่ำเพราะค าะความเขลา เมามาย ทำให้เธอทำเรื่องที่น่าละอายเหลือเกิน แล้วความผิด ปกติของร่างกายที่เกิดนี้อีก ยิ่งทำให้เธออยากแทรกแผ่นดินหนี ความรู้สึกและสิ่งที่คิดว่าตนเองหลงละเมอเมื่อคืนนี้มันไม่ใช่ ความฝัน แต่มันคือความจริงที่น่าละอายที่สุดในชีวิต…

“ก็ไปสิ ฉันไม่ได้ห้ามนี่” คนพูดก็พูดไปแต่ไม่ยอมละอ้อม แขนแกร่งที่เลื่อนมาโอบกอดเธอไว้อย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ

“คุณก็ถอยออกไปสิ…” เธออับอายเกินกว่าจะพูดถึงเรื่องที่ เกิดขึ้น และพยายามไม่มองอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเป็น ลอนสวยนั้น ยิ่งใบหน้าของเขายังไม่อยากมอง สิ่งที่เธอควรจะ ทำในตอนนี้คือไปให้พ้นจากที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด เพราะหากช้า แม้แต่วินาทีเดียวเธออาจจะไม่เหลือศักดิ์ศรีใดๆ ไว้ให้ภูมิใจ เลย…
“โอเค ไม่แกล้งแล้ว แต่ว่าเธอลุกขึ้นไหวเหรอเมื่อคืนเธอ ร้อนแรง ไซเล่นนะ ทำฉันเสียหมดแรง เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันบริการ อุ้มเธอไปส่งในห้องน้ำดีกว่า…” ว่าแล้วปฐวินก็อุ้มร่างบางซึ่งยัง คงมึนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนเองและคำพูดชวนให้อับอายจาก เขาขึ้นมาแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปหน้าตาเฉยโดยไม่สนใจร่างที่ดิน ขลุกขลักอยู่ในวงแขน

“นี่คุณ ปล่อยฉันนะคะ ฉันเดินเองได้

“เถอะน่า เธอบริการฉันอย่างเต็มที่แล้วเมื่อคืน ตอนนี้ฉันก็จะ ได้บริการเธอบ้าง…

แม้คนตัวบางจะคัดค้านแต่คนที่ตัวโตกว่าก็ยังติดใจร่างหอมๆ ตรงหน้าไม่หายก็ยังอยากจะยั่วเย้ายื้อเวลาได้มองแก้มแดงๆ ของเธอสักนิด ท่าทางเจ้างอดแก้มแดงเรื่อหลบหน้าเขาอย่าง เอียงอายมันช่างเร้าอารมณ์ให้เตลิดขึ้นมาอีกครั้ง เขาอยากจะ ใกล้ชิดอยากจะยั่วเย้าหยอกเงินเธออย่างไม่เคยอยากมองหรือ อยากหยอกเย้าหญิงสาวที่เขาหลับนอนด้วยมาก่อน เพราะเมื่อ ต่างเสร็จสิ้นความต้องการก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปด้วยเงิน และของกำนัลหรูหรา ซึ่งหญิงสาวพวกนั้นก็รู้กฎของเขาดี จึงไม่ อ้อยอิ่งเมื่อต้องจากอกเขาแล้วรับค่าตอบแทนกลับไปมากกว่าจะ ทำให้เขาหงุดหงิดแล้วจะไม่ได้อะไรเลย…

ที่สำคัญ เขาไม่เคยพาหญิงสาวคนไหนมาพักค้างคืนที่ห้องสูทสุดหรูชั้นบนสุดของโรงแรมดังริมหาดสวยแห่งนี้ ที่ ทั้ง นคืออาณาจักรของเขาและเนื้อที่ใช้สอยเปรียบเสมือนบ้าน ใหญ่ๆ หนึ่งหลังเลยทีเดียว…

“ชุดที่ฉันเตรียมมาให้ใส่ได้พอดีใช่ไหม” เสียงทุ้มที่เริ่มคุ้นหู ถามเหมือนจะอาทรไม่มีท่าทางแข็งกระด้างและคำพูดล้อเลียน เหยียดหยามทำให้คนตัวบางพยักหน้าทั้งๆ ที่ก้มหน้าจนคาง แทบจะ ดอกเพราะอับอายจนไม่กล้ามองหน้าเขาท่าทางของเธอ แตกต่างจากแม่สาวร้อนรักเมื่อคืนลิบลับ…

“เป็นอะไร ไม่พูดไม่จา หรือว่าเมื่อคืน ใช้พลังงานมากไปเลย หมดแรงพูด”

“คนหยาบคาย… เลิกพูดถึงเรื่องเมื่อคืนเสียทีจะได้มั้ย

ในที่สุดเสียงหวานๆ แม้ไม่รื่นหูนักก็ดังออกมาจากริมฝีปาก สวยที่ยังคงแดงเพราะจุมพิตแผดเผาของเขาเมื่อคืนนี้ ดูเอา เถิดแม้แม่คุณจะเอ่ยถ้อยคำฉุนเฉียวแต่น้ำเสียงนั้นกลับนุ่มนวล รื่นหู ฟังดูไม่เหมือนคำว่ากล่าวเลยสักนิด ดูเหมือนเธอจะเคยชิน และพูดแต่ถ้อยคำที่ไพเราะและได้รับการเลี้ยงดูที่ดีมาก แต่เหตุ ใดเมื่อคืนเธอจึงเมามายไร้สติและดูกร้านโลก กันเสียเหลือ เกิน ปฐวินตั้งข้อสังเกตในใจขณะขับรถไปตามทางที่เธอบอกว่าเป็นทางกลับบ้านของเธอ

ใช้สินะเมื่อคืนเธอพูดถึงใครบางคน พี่ก้อง…ใช่แล้วเขา นึกออกแล้ว แล้วไอ้พี่ก้องนี่มันเกี่ยวข้องอะไรกับ เมีย เขากันนะ ชายหนุ่มคิดในใจอย่างขัดเคืองและคิดจับจองเป็นเจ้าของคน ข้างๆ ทันทีอย่างเห็นแก่ตัว

“ไอ้ผู้ชายชื่อก้องมันเป็นใคร… เมื่อเกิดความหวงแหนเขาก็ ถามเธอเสียงห้วนจัด

“จอดปากซอยข้างหน้านะคะ ขอบคุณมากค่ะ” อังคณาไม่

ตอบคําถามนั้นแต่กลับบอกให้เขาจอดรถแทน “

“เธอยังไม่ตอบฉันว่าไอ้ก้องมันเป็นใคร ผู้ชายที่เธอละเมอหา มันทั้งๆ ที่นอนกับฉันอยู่เนี่ยมันเป็นอะไรกับเธอ บอกฉันมาเดี่ยว นี้นะ”

“ฉันไม่มีอะไรจะตอบ กรุณาจอดรถด้วยค่ะ” หญิงสาวยังคงดื้อ ดึงเชิดหน้าขึ้นอย่างดื้อรั้นทำให้คนที่เริ่มหวงของหงุดหงิดขึ้นมา บ้าง เขาไม่เคยต้องรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย เหมือนถูกฟันแล้วทิ้ง ไม่มีผิด…เธอจะทำกับเขาแบบนี้ไม่ได้นะ เพราะเขาไม่เคยถูก หญิงฟันแล้วทิ้ง ต้องเป็นเขาที่เป็นฝ่ายเลือกว่าจะทิ้งหรือไม่ทิ้ง ใครไม่ใช่แม่สาวตัวบางที่ดูแล้วจะเป็นคนดื้อเงียบคนนี้
“พอได้ฉันเป็นผัวแล้วจะเฉดหัวทิ้งเลยรึไงแม่คุณ

“นี่คุณอย่ามาพูดแบบนี้นะ ที่ฉันไม่คิดติดใจว่าคุณข่มเหง รังแกฉันก็ดีถมไปแล้ว…

เมื่อเจอคำพูดหน้าด้านๆ แบบนี้อังคณาแหวกลับอย่างเก็บ อารมณ์ไม่ไหว ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเธอมักจะเก็บอารมณ์ความรู้สึก เก่ง แต่คราวนี้เธอดูสติแตกและไม่เป็นตัวของตัวเองสักเท่าไหร่ เพราะเขาคนเดียว… หญิงสาวโทษเขาว่าเป็นต้นเหตุให้เธอต้อง เป็นแบบนี้

“อ้าวก็เมื่อคืนเธอเป็นคนลงมือปล้ำฉันเองเลยนะ หรือต้อง ให้ทบทวนความจำ

“คนบ้า ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว จอดรถเดี๋ยวนี้นะ

“ตอบฉันมาก่อน… โอเคไม่ตอบก็ได้ แต่ฉันจะพาเธอกลับไปที่ โรงแรม แล้วง้างปากเธอด้วยวิธีของฉันรับรองเลยว่าเธอจะได้ แต่ร้องครางอย่างเดียว ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร… เมื่อเห็นท่าทางดื้อ ดึงของเธอแล้วปฐวินก็ขู่เธอด้วยค่าพูดและยิ้มร้ายกาจซึ่งอังคณา รู้ดีว่าวิธีการของเขาคืออะไร…

“คนบ้ากาม คนทุเรศ”

“ไอ้ก้องนั่นมันเป็นใคร… ปฐวินถามด้วยน้ำเสียงเริงรื่นด้วยความมีชัยไม่สนใจแววตาเขียวปัดของคนที่ นั่งหน้างออยู่ข้างๆ ซึ่งค่าตอบที่ได้จากเธอทำให้เขารู้สึกพอใจ เป็นอย่างมาก…

“เป็นเพื่อนของนางหรือพ่อหนุ่ม ทำไมยายไม่เคยเห็นหน้า เลยล่ะ…”

คุณยายอังกาบ ถามชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาแต่งกาย ภูมิฐานอย่างสงสัยเพราะตั้งแต่เล็กจนโตอังคณาไม่เคยพาเพื่อน ผู้ชายมาเยี่ยมเยียน ยิ่งคนหน้าตาหล่อเหลาดิบผู้ดีอย่างชาย หนุ่มตรงหน้ายิ่งไม่เคยเห็น….

“เอ่อ.. ผมชื่อปฐวินครับ คุณยายอาจจะไม่เคยเห็นผมเพราะ ผมจะอยู่ต่างประเทศเสียส่วนใหญ่ครับ นี่ก็เพิ่งกลับมา บังเอิญว่า ผมเป็นเพื่อนสนิทกับแฟนของแจ็กเกอร์รีนอีกทีนะครับคุณยาย

ปฐวินตอบไหลลื่นไม่มีสะดุดและนึกชื่นชมหญิงชราที่ยังคงดู สดชื่นสดใสและแข็งแรงแม้จะประเมินจากสายตาแล้วนางคง อายุไม่น้อยกว่าเจ็ดสิบปีแน่นอน…

“อ๋อ… เพื่อนร็อบแฟนจีจี้นี่เอง ยายชื่ออังกาบนะจ๊ะ แหม… คนกันเองทั้งนั้น งั้นก็อยู่กินข้าวกลางวันด้วยกันก่อนสิคุณหาก ไม่มีธุระอะไร” คุณยายอังกาบเอ่ยชวนชายแปลกหน้าที่เดินตาม หลังหลานสาวซึ่งวิ่งเข้าบ้านไปด้วยรอยยิ้มละไมและชายหนุ่มก็ยกมือ ไหว้นางอย่างนอบน้อมสง่างาม…..

ยายอังกาบเพิ่งกลับมาจากจำศีลที่วัดและกำลังจะปิดประตูรั้ว บ้านหลังเล็กของตน ก็เห็นหลานสาวกลับบ้านมาพร้อมกับชาย หนุ่มรูปหล่อที่เดินตามอังคณาต้อยๆ แม้นางจะรู้ว่าเมื่อคืนนี้แจก เกอร์รีนมาชวนอังคณาไปเที่ยวและค้างคืนที่บ้านด้วยแต่ไม่คิดว่า ขากลับหญิงสาวจะมีคนตามมาส่งถึงบ้านเช่นนี้ แต่ดูท่าทางชาย หนุ่มก็ไม่ได้จะเป็นคนร้ายอะไรออกจะดูดีด้วยซ้ำและแววตา ท่าทางของเขาก็ทำให้ยายอังกาบรู้สึกแปลกๆ ทั้งโล่งอกและเป็น กังวลไปพร้อมๆ กัน…

“ขอบคุณครับคุณยาย…”

“นางเอ๊ย… ไม่สบายหรือลูก เอ… เด็กคนนี้วันนี้ทำไม แปลกๆ แล้ววันนี้จะไปทำงานรึเปล่า เดี๋ยวยายมานะพ่อหนุ่ม เออ แล้วมีชื่อเรียกสั้นๆ ไหมล่ะ” คุณยายเดินเข้าบ้าน โดยมีชายหนุ่ม อาสาถือตะกร้าหวายใบเก่าคร่ำคร่าทว่ายังใช้ได้ดีให้นางอย่าง เอาใจ

“เรียกผมว่า วิน ก็ได้ครับคุณยาย

“อ้อ คุณวิน เดี๋ยวยายขอตัวขึ้นไปดูนางเขาสักนิดนะ ดู ท่าทางจะไม่สบาย….
“นางเขาป่วยบ่อยหรือครับ” ชายหนุ่มทำทีชวนคุยทั้งที่รู้ดี ว่าอังคณารีบเข้าบ้านไปเพราะเหตุใด

“ไม่เลยจ้ะ นางเป็นเด็กแข็งแรงและขยันมาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่ทํางานห้างมาจะสามสี่ปีนี้ ก็เพิ่งมีวันนี้ล่ะที่นางไม่ไป ทํางาน…

ยายอังกาบตอบพลางขอตัวเดินเข้าไปในห้องนอนเล็กๆ ของ บ้านชั้นเดียวขนาดกะทัดรัดทว่าสะอาดสะอ้านน่าอยู่ และปฐวัน ก็ได้แต่ชะเง้อมองตามไปด้วยความเป็นห่วงหญิงสาวอย่างไม่ เคยเป็นมาก่อนพลางกวาดสายตาสำรวจบ้านหลังเล็กไปเรื่อยๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ