ซุปเปอร์เจ้าสําราญ

บทที่ 16 อุปสรรค



บทที่ 16 อุปสรรค

“ว้าว! นี่ยังนับเป็นของขวัญชิ้นเล็ก ๆ เหรอ? ฉันเห็นสร้อยคอ หยกเส้นเล็กกว่า จากร้านขายเครื่องประดับเมื่อไม่กี่วันก่อน มีมูลค่าหลายหมื่นหยวน เส้นนี้ดูคุณภาพดีกว่าอีก ผู้หญิง คนหนึ่งมองไปที่สร้อยหยกด้วยแววตาที่แวววาว

– ใจปล้ำนะเนี่ย พี่ฮุยสร้อยหยกนี้น่าจะมีราคาเริ่มที่ 100,000 หยวนใช่ไหม! ” ชายคนหนึ่งอุทานออกมา

“ๆ พี่ฮุยดูเหมือนว่านายกำลังขอโม่แต่งงานเลย? “สาว สวยอีกคนพูดแหย่เล่น

เมื่อเผชิญกับความทำดีด้วยของหลี่ฮุย สีหน้าของจางฉีโม่ ดูไม่ค่อยดีเล็กน้อย

“นีโม่ นี่เป็นเพียงของขวัญเล็กๆของฉัน ไม่ได้มีความ หมายอื่นใด” หลี่ฮุย กล่าวด้วยท่าทางที่สง่ามาก พูดพร้อม

ยิ้ม

“นีโม่ เธอดูสิว่าสามีแห่งชาติอย่างหลี่ฮุย พูดขนาดนี้แล้ว เธอก็รับของขวัญไว้เถอะ”

“ใช่ ฉันอิจฉาเธอมาก สามีแห่งชาติหลี่ฮุย ทำไมนายไม่ ให้สร้อยคอฉันบ้างล่ะ?”

“ใช่ ฉันนึกออกแล้ว ตอนมัธยมปลายพี่ฮุยเคยตามจีบไม่อย่างหนัก ?”

ผู้หญิงทั้งหลายเริ่มยกันแล้ว

รอยยิ้มแบบผู้ชนะก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของ หลี่ฮุย นี่คือ ผลที่เขาอยากได้

“หลี่ฮุย ขอบคุณสําหรับของขวัญของนายนะ แต่ฉันจะไม่ รับของขวัญของนาย” จางไม่กล่าวอย่างเคร่งขรึม

“อย่างเกรงใจกันเลย นีโม่ ผมใส่ให้คุณเอง อย่างน้อยก็ ลองดูก็ได้ คุณเป็นนักออกแบบเครื่องประดับ น่าจะชอบ สร้อยเส้นนี้ใช่ไหม? ” หลี่ฮุย ยิ้มและพูดว่า แล้วค่อยๆหยิบ สร้อยคอขึ้นมา เดินไปหาจางไม่

เขามองไปที่ผิวกายของเธอ และมีสายตาที่โลภมากออก

มา

ตั้งแต่ช่วงมัธยมปลาย เขากระตือรือร้นที่จะได้ร่างกาย ของสาวสวยประจำโรงเรียนจางโม่แล้ว

เขาจีบมาอยู่นานแต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ

ตราบใดที่ยังมีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะจีบจางไม่ เขาก็ จะไม่ปล่อยมันไป

สีหน้าของจางนีโม่เริ่มแย่ลง แต่เพราะคนที่อยู่ในงานมีแต่ เพื่อนสมัยมัธยม มันก็ไม่ดีถ้าเธอจะโกรธขึ้นมา
หลี่ฮุยเริ่มจะเข้าข่ายบังคับเธอแล้ว

“นีโม่ บอกว่าเธอไม่เอาของขวัญของนาย นายไม่เข้าใจเห

รอ?”

หลินยิ่งยืนขึ้น แล้วยื่นมือไปขวางหลี่ฮุยไว้ และมองไปที่ หลี่ฮุยด้วยสีหน้าที่เฉยชา

” ผู้ช่วยหลินนี่นายหมายความว่าอย่างไร” หลี่ฮุยขมวดคิ้ว เล็กน้อยและมองไปที่หลินยิ่งอย่างเย็นชา

“ฉันให้ของขวัญกับผู้อำนวยการของนาย แค่ผู้ช่วยตัว น้อยๆก็กล้าห้ามฉันหรือ?” หลี่ฮุยพูดอย่างหยิ่งผยอง เปลี่ยน หน้าทันทีทันใด “นายเป็นตัวอะไรกัน แค่ยอมให้นายเข้ามา ดื่มในห้องนี้ ก็ถือว่าให้หน้าคุณแล้ว ผมเป็นเพื่อนร่วมชั้น สมัยม. ปลายของนีโม่แล้วนายสถานะอะไร ยังกล้ามาตัดสิน ใจแทน ไม่อีก?”

เขาเป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัทก่อสร้าง หยางมีบริษัท ที่ มีทรัพย์สินหลายสิบล้านอยู่ในมือ พูดได้ว่าเป็นบุคคลที่มีตัว

ไม่ต้องพูดถึงพ่อของเขาเลยด้วยซ้ำ พ่อของเขาก็เป็นคน ใหญ่คนโตในแวดวงอุตสาหกรรมการเมืองชิงหยูนเป็นลูก คนรวยของแท้

เขาคิดไปเองว่า เขาร่ำรวยและหล่อเหลา คู่ควรกับลูกสาวของตระกูลจางในเมืองซึ่งหยุนอย่างแน่นอน

ขนาดตำแหน่งผู้อำนวยการของจางซื่อกรุ๊ป อย่างจางไม่ เขายังไม่เห็นหัวเลย

เป็นแค่ผู้ช่วยผู้อำนวยการไม่รู้ รู้สูงจริงๆ กล้ามาหักหน้า ตัวเองได้ยังไง

“ฉันเป็นสามีของนีโม่” หลินยิ่งพูดเบา ๆ “สร้อยคอของก็อ ปอันนี้คุณไว้ใช้เองเถอะ

“อะไรนะ! นายเป็นสามีของโม่หรือ?”

“ฉันได้ยินมาว่า ตอนนั้นครอบครัวของโม่ หาลูกเขย ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง ไม่น่าแปลกใจที่มาเป็นผู้ช่วยของไม่ เพื่อหาเงินกินข้าว ไม่น่าล่ะเขาถึงว่ากันว่าเป็นคนไม่เอาถ่าน

“ๆ ที่แท้เขาก็เป็นลูกเขยไม่เอาไหนที่มีชื่อเสียงของ ตระกูลจางนี่เอง ทำไมยังมีหน้ามาเป็นผู้ช่วยให้โม่อีกล่ะ

ทันใดนั้น ทุกคนในห้องต่างก็พูดซุกซิกนินทา หลินยิ่งขึ้น มา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเคยได้ยินเรื่องที่หลินยิ่ง ที่ย้ายเข้า ตระกูลจางกันแล้ว

ถึงยังไงแล้ว หลี่ฮุย เรียกได้ว่าเป็นคนที่ใช้ชีวิตได้ดีที่สุด ในแวดวงเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายแล้ว สำหรับพวกเขาแล้ว เขาเป็นวัยรุ่นอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จ ถ้าได้ประจบ ก็ คงได้ชื่อเสียงมาด้วยไม่น้อย
หลินนิ่งสายหัวและกล่าวว่า “สร้อยคอหยกนของนาย คราบเคมีที่ด้านนอก ที่อยู่ในคราบนั้นก็เป็นหยกเทียม อย่าง มากก็มีมูลค่าแค่สองถึงสามพันหยวน แต่นายกลับบอกว่า ซื้อมันมาในราคาหลายแสน น่าตลกลิ้น”

ทันทีที่หลี่ฮุยเปิดกล่องของขวัญออกมา เขาก็ดูออกแล้วว่า สร้อยคอหยกนี้เป็นของเทียมที่ด้อยคุณภาพ ซึ่งเคลือบอย่าง พิถีพิถันปกปิดไว้ด้านนอก ดูแล้วเหมือนเป็นหยกแก้วชั้นยอด แท้จริงแล้วก็เป็นสินค้าทั่วๆไปที่เจอได้ในท้องตลาด

เดิมทีเขาไม่อยากจะเปิดโปงเขา แต่คนอย่างหลี่ฮุย ไร้ ยางอายได้ถึงขั้นนี้

จีบไม่ต่อหน้าตัวเองไม่ว่า เพราะยังไงก็ตามตัวฉันเองก็ คงไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่หลี่ฮุยคิดอย่างจะแตะต้องตัวนี้ไม่ และยังถือของเทียมมาโชว์แถวนี้อีก เยาะเย้ยมาถึงหัวของ ตนแล้ว

“ไอ้คนไม่เอาไหน นายกำลังพูดถึงอะไร? นายบอกว่า สร้อยคอของฉันเป็นของเทียม” สายตาของหลี่ฮุยตื่น ตระหนกไปสักครู่ จากนั้นสีหน้าของเขาก็โกรธเกรี้ยวขึ้นมา และตอกว่าหลินยิ่งขึ้นมา

“จิตใจของนายนี่มันดำจริงๆ ฉันซื้อสร้อยคอหยกนี้ด้วย เงินทอง 130,000 หยวน นายไม่มีตังซื้อเอง แล้วนายก็เลย ใส่ร้ายฉัน”หลี่ยพูดอย่างโกรธเกรี้ยว แล้วมองไปที่จาง ไม่ด้วยสีหน้าที่เสียดาย “ไม่เธอแต่งงานกับคนไม่เอาไหนที่

เลวทรามแบบนี้ น่าเสียดายจริงๆ คนแบบนี้จะทำให้เธอขาย หน้า และทำให้เธอต้องลำบากไปทั้งชีวิต “ใช่สิ! พวกเธอฟังสิ่งที่หลินยิ่งพูด หัวใจของคนนี้มัน

จริงๆ ตัวเองไม่มีเงินพี่อยก็ใส่ร้ายพี่ฮุยแทน

“ค่าตัว ฮุยมูลค่าหลายล้าน เป็นได้หรือที่เขาจะเป็นคนที่ ไม่มีเงินซื้อสร้อยหยกระดับสูง ? ไอ้หลินยิ่งคนนี้ เดิมที่ฉันคิด ว่าเขาแค่ไม่เอาไหน ไม่คาดคิดว่าจะร้ายกาจขนาดนี้ มันน่า รังเกียจจริงๆ”

ผู้ชายทั้งสองกล่าวพร้อมชี้ไปที่หลินยิ่งพวกเขาดูเหมือนจะ เป็นหมารักที่ซื่อสัตย์ของหลี่ฮุย

“หลินยิ่งอย่าทำให้ไม่ต้องเสียหน้าอีกเลย ก็บอกนาย ไปแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าอย่าพูดมาก ตัวเองไม่มีความสามารถ แล้วยังทำตัวโง่ ๆ อีก !” หลีเสงี่ยนเอ๋อพูดด้วยสีหน้าโกรธ เคืองและกล่าวหาหลินยิ่งขึ้นมา

หลินอิ่ง มองไปที่ หลี่เสงี่ยนเอ๋อ ด้วยสายตาที่เย็นชา

เหมือนว่าหลีเสงี่ยนเอ๋อต้องการสั่งสอนอะไรบางอย่างเพิ่ม เดิม แต่พอเธอสบตาอันเฉียบคมของหลินยิ่งไป ก็ปิดปาก และรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยในใจ

หลินยิ่งในวันนี้ไม่ค่อยเหมือนปกติ …
พลั่ก!

ทันใดนั้นประตูของห้องก็ถูกเตะออก

ชายหนุ่มดูดุร้ายที่มีรอยสักที่แขนเป็นดอกไม้อุ้มผู้ชายตัว ผอมมา แล้วเดินเข้าไปอย่างโหดเหี้ยม

“นี่เพื่อนของใครกัน? แม่งเอ้ย เมาจนไม่รู้ว่าตัวเอง นามสกุลอะไร กล้าเอาเหล้ามาสาดหน้ากูได้ไง” ชายที่มี ใบหน้าโกรธเกรี้ยวพูดอย่างโหดเหี้ยม ” ใครพาเขามาที่นี่ ออกมาเดี๋ยวนี้เลย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ